Share

ร้านขายยา

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-07 08:16:48

ซูเมี่ยวจินเลือกชุดชั้นในเพียงสองชุด เธอรอไปซื้อเพิ่มตอนเข้ามณฑลจะดีกว่า เพราะคุณภาพของในสหกรณ์คงสู้ห้างในมณฑลไม่ได้ เท่าที่เธอรู้ ปีนี้ประเทศเปิดการค้าเสรีแล้ว ร้านค้าที่มณฑลน่าจะมีให้เลือกมากกว่า

“20 หยวนค่ะคุณลูกค้า” พนักงานร้านนำชุดชั้นในใส่ถุงกระดาษให้และบอกราคา

“นี่ครับเงิน” ฉางเล่ยหยิบเงินในกระเป๋าซึ่งมีแต่แบงค์ร้อยหยวนให้พนักงาน

“เงินทอนค่ะคุณลูกค้า ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะคะ” พนักงานไม่คิดว่าคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าขาดสองคนนี้จะมีเงินหนึ่งร้อยหยวนติดตัว แต่ด้วยหน้าที่ของเธอ เธอจึงไม่เคยดูถูกลูกค้าที่เข้าร้านมาแม้สักครั้งเดียว

ฉางเล่ยรับเงินทอนมาแล้วชวนซูเมี่ยวจินไปยังร้านขายยาที่เขารู้จักเพียงแห่งเดียวในอำเภอนี้

“ชุดชั้นในแค่สองชุดทำไมราคาแพงจัง” ซูเมี่ยวจินบ่น คุณภาพของชุดก็ไม่ดี เธอจึงนึกเสียดายเงินขึ้นมา แต่ของพวกนี้เธอจำเป็นต้องใช้

“ผมก็ไม่รู้ราคาของพวกนี้เหมือนกัน คุณอย่าคิดมากเลยนะ พรุ่งนี้ผมจะพาไปดูที่ห้างในมณฑลดีไหม วันนี้ใกล้ค่ำแล้ว” ฉางเล่ยเอ่ยปลอบคนตัวเล็ก

“อืม… กลับบ้านเมื่อไหร่ คุณอย่าลืมบอกพ่อกับแม่ด้วยล่ะ เผื่อท่านจะให้เราซื้อของเตรียมงานแต่งงานด้วย ไม่อย่างนั้นคงไปเสียเที่ยว” ซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำเขา

“ตกลงครับ ผมนึกว่าคุณอยากรอให้พ่อกับแม่หาฤกษ์ดีแล้วค่อยแต่งเสียอีก”

“เรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอก คุณลืมไปแล้วเหรอว่าพวกคนในหมู่บ้านนินทาเราว่าอะไรน่ะ ฉันไม่อยากทำให้ครอบครัวคุณต้องลำบากหรอกนะ”

“ผมไม่สนใจเสียงนกเสียงกาหรอกนะครับ เป็นห่วงก็แต่ความรู้สึกของคุณ”

“ฉันก็ไม่อยากสนใจนักหรอก เพียงแต่พ่อกับแม่ดูจะไม่ค่อยสบายใจ ฉันเลยอยากรีบจัดการเรื่องแต่งงานของเราให้เสร็จเร็ว ๆ”

“ตกลงครับ ทำตามที่คุณว่าเถอะ ผมยังไงก็ได้” ฉางเล่ยดีใจที่ซูเมี่ยวจินคิดถึงความรู้สึกของพ่อกับแม่เขา เธอช่างดีจริง ๆ

ฉางเล่ยพาซูเมี่ยวจินมาถึงหน้าร้านขายยาตอนที่ร้านกำลังจะปิดพอดี เขารีบเรียกเจ้าของร้านเอาไว้ได้ทัน

“พวกคุณมาซื้อยาเหรอครับ” เจ้าของร้านมองสองคนที่แต่งตัวมอซอตรงหน้า

“เปล่าค่ะ เราเอาสมุนไพรมาขาย ไม่ทราบเจ้าของร้านรับซื้อหรือเปล่า” ซูเมี่ยวจินเห็นสายตาดูถูกของเจ้าของร้าน เธอจึงเอ่ยสวนขึ้นมา แทนที่จะรอให้ฉางเล่ยพูด

“ร้านผมรับซื้อสมุนไพรดี ๆ เท่านั้น คุณบอกมาก่อนว่ามีอะไรมาขาย”

“โสม 200 ปี คุณจะให้ราคาเท่าไหร่” ซูเมี่ยวจินเห็นเจ้าของร้านไร้มารยาท เธอจึงไม่ต้องทำตัวมีมารยาทกับเขาเช่นกัน

“ฮะ! คุณพูดเล่นหรือเปล่า โสม 200 ปีไม่ใช่หัวผักกาดนะจะได้หาง่าย ๆ”

“ถ้าคุณไม่ซื้อฉันจะได้กลับบ้าน ไปกันเถอะฉางเล่ย รอไปขายในมณฑลดีกว่า”

ซูเมี่ยวจินจับมือฉางเล่ยหันหลังเตรียมเดินออกจากร้านอย่างไม่สนใจเจ้าของร้านที่ตอนนี้อ้าปากหวออย่างคาดไม่ถึง ผู้หญิงคนนั้นบอกจะไปก็ไปเสียอย่างนั้น ถ้าเธอมีโสมจริง เขาต้องขาดทุนกำไรเป็นแน่

“เดี๋ยว ๆ คุณผู้หญิง เชิญเข้ามาคุยกันข้างในก่อนครับ ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่ซื้อ!”

ซูเมี่ยวจินหันมองหน้าฉางเล่ย เธอเห็นเขาพยักหน้าว่าให้เข้าไปคุย ทั้งที่จริงแล้วซูเมี่ยวจินไม่อยากขายให้เจ้าของร้านคนนี้แล้วแท้ ๆ แต่เพราะไม่อยากทำให้ฉางเล่ยลำบากใจ เธอจึงยอมหันหลังกลับและเดินดุ่ม ๆ เข้าไปในร้านโดยไม่พูดอะไร

“เอ่อ… ผมขอดูโสมที่คุณบอกก่อนได้ไหมครับ จะได้ตีราคาได้” เจ้าของร้านไม่กล้าดูถูกผู้หญิงสวยดุตรงหน้าอีก เขากลัวว่าจะไม่มีโสมดี ๆ ขายให้พวกคนรวย

ซูเมี่ยวจินยังคงเงียบอยู่ เพียงแต่เธอวางตะกร้าสะพายหลังลงและหยิบห่อใบไม้ส่งให้กับเจ้าของร้านด้วยสีหน้าบึ้งตึง

เจ้าของร้านรู้ว่าเธอไม่พอใจเขานัก หากว่าโสมนี่เป็นของจริง เขาต้องให้ราคาดี ๆ กับเธอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยอมขายให้เขาแน่ เจ้าของร้านหยิบใบไม้ขึ้นมาแกะดูจนกระทั่งเห็นโสมขนาดสองนิ้ว และยังเป็นโสมป่าธรรมชาติที่หายากด้วย อายุของโสมนี้ไม่ต่างจากที่เธอบอกจริง ๆ เขายิ้มกว้างอย่างดีใจ

“ไม่ทราบคุณผู้หญิงอยากขายราคาเท่าไหร่ครับ” เขาถามขึ้นมาก่อนเพื่อต่อรองราคา

“คุณคิดว่าโสม 200 ปี ราคาเท่าไหร่ล่ะ ถ้าราคาที่คุณบอกเหมาะสม ฉันจะขายให้”

“เอ่อ… สองพันหยวนได้หรือเปล่าครับ” เจ้าของร้านถามอย่างหวาด ๆ นี่เป็นราคาที่เขาให้ได้สูงสุดแล้ว

“คุณคิดว่ายังไงฉางเล่ย ราคานี้ถูกไปหรือเปล่า” ซูเมี่ยวจินหันไปถาม

“ผมคิดว่าราคานี้ก็เหมาะสมแล้วนะคุณ” ฉางเล่ยพอจะรู้บ้างว่าโสมราคาแพงแค่ไหน

“ตกลง สองพันก็สองพัน ฉันจะขายให้คุณ” ซูเมี่ยวจินขี้เกียจเรื่องมาก

“พวกคุณรอสักครู่นะครับ ผมจะไปหยิบเงินให้” เจ้าของร้านกุลีกุจอนำโสมใส่กล่องผ้าอย่างดีและวางเอาไว้บนโต๊ะต่อหน้าพวกเขา ก่อนจะเดินกลับเข้าหลังร้านไปนำเงินออกมา

“คุณไปเจอโสมนี่ได้ยังไงกันครับ” ฉางเล่ยหันไปกระซิบถามซูเมี่ยวจิน

“ฉันเจอมันก่อนจะพบเสือตัวนั้นน่ะค่ะ ถือว่าฉันโชคดีก็แล้วกัน” ซูเมี่ยวจินบอกไม่ได้ว่าระบบเป็นคนบอกเธอ อีกทั้งตอนนี้เจ้าระบบนั่นยังกำลังพูดอวดโอ่ว่าตัวเองมีความสามารถมากแค่ไหนในการช่วยเธอหาเงิน ทำเอาซูเมี่ยวจินรำคาญไม่น้อย

“คุณโชคดีมากจริง ๆ นะครับ ผมขึ้นเขามาหลายปียังไม่เคยพบเลยสักต้น”

ก่อนที่ซูเมี่ยวจินจะคุยกับเขาต่อ เจ้าของร้านก็ออกมาพร้อมเงินในถุงกระดาษสีทึบใบหนึ่ง เขายื่นถุงกระดาษให้ซูเมี่ยวจินนับเงินว่าครบหรือไม่

“อืม… เงินครบถ้วน ขอบคุณเจ้าของร้านมากที่รับซื้อ” ซูเมี่ยวจินยังคงสีหน้าเรียบนิ่ง

“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณผู้หญิงที่นำโสมดี ๆ มาขายให้ ครั้งหน้าถ้ามีสมุนไพรดี ๆ อีกก็มาขายที่ร้านผมได้ตลอดนะครับ รับรองว่าผมจะให้ราคายุติธรรม”

“ตกลง พวกเราขอตัวก่อน” ซูเมี่ยวจินพยักหน้าให้เจ้าของร้านก่อนจะหันหลังเดินจูงมือฉางเล่ยออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พระอาทิตย์คล้อยต่ำจนฟ้าจะมืดแล้ว พวกเขายังไม่ออกจากอำเภอเลย เธอกลัวว่าคนที่บ้านจะเป็นห่วง

ฉางเล่ยอมยิ้มที่สาวสวยอย่างซูเมี่ยวจินเป็นคนจูงมือเขาเอง ถ้าให้เขาเป็นคนเริ่มความใกล้ชิดก่อน ฉางเล่ยคงไม่กล้าแม้แต่จะคิด

ระหว่างทางกลับบ้าน ซูเมี่ยวจินเอ่ยถามฉางเล่ยเป็นระยะ ๆ ว่าที่เมืองมณฑลเป็นอย่างไรบ้าง เธอเคยรู้ประวัติศาสตร์มาบ้างเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าความจริงในปีนี้นั้นบ้านเมืองเป็นอย่างไร

ฉางเล่ยตอบตามที่เขารู้มาเช่นกัน เขาเองยังไม่เคยเข้าไปในมณฑลมาก่อน เพราะความยากจนและไม่กล้าสวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ไปให้คนอื่นดูถูก เขาจึงไม่เคยไป ที่เขารู้ว่าที่นั่นเจริญมากกว่าอำเภอเจิ้งไห่ เรื่องพวกนี้เป็นผู้ใหญ่บ้านเคยเล่าให้ฟังทั้งนั้น ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเดินไปคุยไปจนฟ้ามืด ดีที่ทั้งสองสายตาดีจึงไม่มีปัญหาในการเดินทางกลับหมู่บ้านเติ้งในเวลาค่ำมืดเช่นนี้ อีกทั้งพวกเขายังเห็นมีคนในหมู่บ้านที่เข้าไปทำงานในอำเภอเดินอยู่ประปราย จึงไม่นับว่าถนนที่ไปยังหมู่บ้านจะเงียบเหงาเกินไปนัก

พวกเขาเดินทางถึงบ้านตระกูลฉางตอนหนึ่งทุ่มเกือบครึ่ง พ่อ แม่และเซียงจูต่างพากันนั่งรอพวกเขาที่แคร่ไม้หน้าบ้านอย่างเป็นห่วง พอเห็นสองคนเดินจูงมือกันเข้ามาในรั้วบ้าน ทุกคนค่อยพรูลมหายใจอย่างโล่งอกได้เสียที

“ทำไมกลับค่ำกันจังลูก พวกเราเป็นห่วงแย่แล้ว” หลิวเอ้อหลิงพูดขึ้น

“เราเข้าไปขายสัตว์ป่าในอำเภอมาครับแม่ ขอโทษที่ไม่ได้แวะบอกก่อนนะครับ”

“ไม่เป็นไร ๆ เข้าบ้านไปกินข้าวกันก่อนเถอะ” ฉางชิงหยูลุกขึ้นบอกทุกคนเข้าบ้าน เขาไม่อยากให้ชาวบ้านจอมสอดรู้สอดเห็นได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน

ฉางเซียงจูรีบพุ่งเข้าไปแย่งแขนอีกข้างของซูเมี่ยวจินมาเกาะเอาไว้พร้อมรอยยิ้มล้อเลียนส่งให้พี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ พวกเขาสองคนลืมที่จะปล่อยมือออกจากกันจนกระทั่งเห็นสีหน้าน้องสาว ต่างคนจึงต่างรีบปล่อยมือออกด้วยความขัดเขิน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ซูเมี่ยวจิน   เจ้าสาวสวยมาก

    “โอ้! เจ้าสาวของฉางเล่ยสวยมากจริง ๆ” เสียงลุงใหญ่บ้านฉางที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกอดจะชมเสียงดังไม่ได้“ใช่ ๆ เจ้าสามได้ลูกสะใภ้สวยจริง ๆ” พี่ชายหลิวเอ้อหลิงที่เห็นหลานสะใภ้เอ่ยเสริมขึ้นมาเสียงดังเช่นเดียวกัน“พวกลุงอย่าแกล้งภรรยาผมสิครับ ดูสิ เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว” ฉางเล่ยยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับคนสวยตรงหน้า เขารู้ดีว่าสีหน้าของซูเมี่ยวจินตอนนี้คงกำลังเขินอายอยู่ ไม่อย่างนั้นแก้มของเธอคงไม่แดงก่ำขึ้นมาจนลามไปถึงคออย่างที่เขากำลังเห็นเป็นแน่“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะคุณลุง” ซูเมี่ยวจินได้ยินฉางเล่ยพูดขึ้น เธอจึงสงบจิตใจตอบกลับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม สายตาคมดุของเธอมองเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อมากในสายตาเธอก็อดที่จะมองเขาสักหลายทีไม่ได้เช่นกันเหล่าผู้อาวุโสเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแอบมองกันไปมาก็รีบผลักพวกเขาให้ไปรอต้อนรับแขกที่ลานหน้าบ้าน ฉางเล่ยที่ตั้งตัวได้ก่อนจึงจับมือซูเมี่ยวจินเดินออกไปตามคำสั่งของผู้ใ

  • ซูเมี่ยวจิน   วันแต่งงาน

    หลังกินข้าวเสร็จ ฉางชิงหยูอาสาไปเชิญเพื่อนบ้านที่สนิทกันและยืมโต๊ะเก้าอี้มาไว้ใช้ในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้ หลิวเอ้อหลิงบอกให้ฉางเล่ยไปขอซื้อไก่จากเพื่อนบ้านพวกนั้นมาสักหลายตัวเพื่อทำอาหารขึ้นโต๊ะในงานแต่งงาน หลังจากดูแล้วว่ายังขาดเมนูไก่ไปหนึ่งอย่าง สองพ่อลูกจึงออกจากบ้านไปด้วยกันหลิวเอ้อหลิงกับซูเมี่ยวจินจึงช่วยกันตกแต่งบ้านต่อ เหลืออีกเพียงนิดหน่อยก็ตกแต่งเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้บ้านฉางเต็มไปด้วยกระดาษและผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในห้องนอนของฉางเล่ยเองก็ถูกติดกระดาษเอาไว้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูเป็นสีแดงมงคล หลิวเอ้อหลิงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะเข้าไปเปลี่ยนให้ลูก ๆ“แม่คะ ฉันติดเสร็จหมดแล้วค่ะ จะให้ทำอะไรต่อคะ” ซูเมี่ยวจินถามขึ้น“ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ เราไปปั้นแป้งเตรียมทำบัวลอยวันพรุ่งนี้กันดีไหม” หลิวเอ้อหลิงนึกถึงขนมบัวลอยที่บ่าวสาวต้องกินในวันแต่งงานขึ้นมาได้ เธอไม่อยากเสียเวลาเตรียมของพรุ่งนี้จึงคิดจะทำเอาไว้ก่อน“ได้ค่ะแม่&r

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายเขากวาง

    “เชิญคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายด้านในเลยครับ” เจ้าของร้านผายมือเชิญอย่างนอบน้อม ต่างจากครั้งก่อนที่พวกเขามาขายโสมราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ“ขอบคุณครับ/ค่ะ” ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเห็นเถ้าแก่ทำแบบนี้เลยไม่อยากเสียมารยาท“พวกคุณนั่งก่อนครับ วันนี้จะมาขายเขากวางในมือนั่นหรือเปล่าครับ” เถ้าแก่ถามด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เพราะเขากำลังจะได้ของดีมาขายอีกแล้ว“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณรับซื้อยังไงคะเถ้าแก่” ซูเมี่ยวจินถามตรง ๆ เธอไม่เคยขายเขากวางมาก่อนจึงไม่รู้ว่าราคาตลาดเป็นอย่างไร“เขากวางสดขายราคาเป็นขีดครับคุณผู้หญิง เขากวางของคุณใหญ่ขนาดนี้น่าจะได้ราคาสูงมากทีเดียว หลายปีแล้วที่ร้านขายยาไม่มีเขากวางขายครับ” เถ้าแก่บอกตรง ๆ เพื่อที่เขาจะได้รับซื้อเขากวางและนำไปขายทำกำไรต่อเหมือนเคย“ขีดละเท่าไหร่หรือคะเถ้าแก่ ถ้าราคาต่ำไป ฉันจะได้เก็บเอาไว้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่คิดว่า

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายกวาง

    ฉางเล่ยถึงกับทึ่งในฝีมือการใช้หน้าไม้ของซูเมี่ยวจิน แต่เขาไม่มีเวลาสงสัยมากนักเมื่อเธอบอกให้เขารีบเข้าไปกลบเลือดกวางที่ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือสัตว์ดุร้ายตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมาซูเมี่ยวจินมองหาไม้ใหญ่และเถาวัลย์เพื่อใช้มัดกวาง ดีที่ป่าตรงนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ซูเมี่ยวจินใช้เวลาไม่นานก็นำของทั้งหมดไปจัดการมัดกวางเอาไว้“ช่วยฉันแบกมันลงจากเขากันเถอะค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ซูเมี่ยวจินยังคงกลัวว่าจะกลับบ้านค่ำมืดเกินไป“สี่โมงเย็นพอดีครับ” ฉางเล่ยยกไม้ที่มีกวางถูกมัดอยู่ขึ้นพาดไหล่อย่างไม่หนักแรง“เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอามันไปขายในอำเภอนะคะ”“ตกลงครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะใช้จักรยานหรือรถยนต์ไปในอำเภอดีครับ”“ฉันว่าเอาสามล้อของพ่อไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นรถยนต์เราเร็วนัก ยังไงวันแต่งงานก็ต้องเอารถออกไปจอดหน้าบ้านอย

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากขึ้นเขา

    ทั้งสองกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงนิดหน่อย หลังจากเก็บเนื้อและผักแช่ไว้ในบ่อน้ำหลังบ้านแล้ว ซูเมี่ยวจินก็ไปอุ่นอาหารรอฉางเล่ยที่กำลังเอาสามล้อไปคืนพ่อที่ไร่ เธอคิดว่าช่วงบ่ายไม่มีอะไรทำ จึงอยากชวนฉางเล่ยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ หาสมุนไพรดูสักหน่อย เผื่อว่าจะโชคดีได้เงินอีกสักก้อนฉางเล่ยกลับมากินข้าวพร้อมซูเมี่ยวจินในเวลาไม่นานนัก ระหว่างที่กำลังกินมื้อเที่ยงกันอยู่ ซูเมี่ยวจินก็ชวนฉางเล่ยขึ้นเขา“คุณแน่ใจเหรอว่าจะขึ้นเขาบ่ายนี้” ฉางเล่ยเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง“ใช่ค่ะ ยังไงบ่ายนี้พวกเราก็ไม่มีอะไรทำ คุณไม่ได้ไปดูกับดักสัตว์หลายวันแล้ว เผื่อว่าจะได้สัตว์ไปขายในอำเภอพรุ่งนี้สักตัวสองตัวก็ยังดีนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นกินข้าวเสร็จ ผมจะเอากุญแจบ้านไปให้พ่อก่อน คุณรอผมที่บ้านนะครับ ผมไปไม่นาน” ฉางเล่ยพยักหน้าตอบรับ เขาลืมไปเลยว่าวางกับดักสัตว์เอาไว้หลายวันแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานแต่งงานจึงไม่ได้ขึ้นไปดู

  • ซูเมี่ยวจิน   เตรียมงาน

    ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงไปถึงบ้านหลิวในเวลาไม่นาน สองเฒ่าชราที่อายุน้อยกว่าพ่อเฒ่าฉางหลายปีออกมาต้อนรับลูกเขยกับลูกสาวด้วยความดีใจ พอรู้ว่าหลานชายกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองก็ดีใจมาก“พวกเราจะไปแน่นอนเอ้อหลิง พ่อกับแม่จะให้พี่ใหญ่เธอพาไปเอง ตั้งแต่หลาน ๆ ไปทำงานในอำเภอ พวกเราก็สบายขึ้นมาก จักรยานที่บ้านก็มีถึงสองคัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืดเลย” แม่หลิวรีบบอกพร้อมรอยยิ้มชรา“ใช่ ๆ นานแล้วที่บ้านเราไม่มีงานมงคล” พ่อหลิวเองก็ดีใจไม่น้อยที่หลานชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว“ถ้าพ่อแม่ไม่อยากตื่นเช้านัก พวกเราปั่นจักรยานมารับพวกคุณได้นะคะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อยากทำให้พ่อแม่ลำบาก เธอจึงหันไปมองสามี“ใช่ครับ ผมปั่นสามล้อมารับดีไหมครับ พ่อกับแม่จะได้นั่งกันสบายหน่อย”“ไฮ้! ไม่เป็นไร ๆ พวกเราชอบนั่งพ่วงหลังจักรยานของเสี่ยวเค่อมากกว่า” พ่อเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status