Share

แยกย้าย

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-10-27 17:00:33

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะวนรถหาโรงแรมสักแห่งนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก

“ขอบคุณมากครับ” ทั้งสามที่อยู่หลังรถรีบเอ่ยขึ้นพร้อมกัน เขาไม่คิดว่าผู้หญิงเย็นชาคนนี้ที่จริงก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำอะไร ไม่แปลกใจที่สามีเธออย่างฉางเล่ยจะภูมิใจที่มีซูเมี่ยวจินเป็นภรรยา เพราะหลายครั้งที่คุยกัน ฉางเล่ยมักจะอวยความเก่งกาจของภรรยาเขาให้ทั้งสามฟังอย่างไม่อายเลยสักนิด

ซูเมี่ยวจินขับรถวนหาโรงแรมไม่นานก็พบกับโรงแรมเอกชนแห่งหนึ่ง เธอไม่รอช้าที่จะจอดรถด้านหน้าแล้วให้สามีไปสอบถามเรื่องการเปิดห้องพักสักหลายวันทันที ซูเมี่ยวจินคิดว่าจะอยู่ที่โรงแรมนี้จนกว่าการพนันหินเสร็จสิ้นลง ด้านโจวอู่หมิงกับลูกน้องก็สะพายกระเป๋าลงไปพร้อมฉางเล่ยด้วยเช่นกัน

ฉางเล่ยไปสอบถามไม่นานก็เดินกลับมาที่รถแล้วบอกรายละเอียดกับซูเมี่ยวจินเรื่องห้องพักของโรงแรมแห่งนี้

“ภรรยาครับ ราคาห้องพักธรรมดาคืนละ 30 หยวน ห้องพิเศษคืนละ 50 หยวน คุณจะให้ผมจองห้องพักแบบไหนดีครับ แล้วเราจะพักกันสักกี่วัน”

“เอาห้องพิเศษเลยค่ะจะได้ปลอดภัยหน่อย ฉันคิดว่าจะอยู่ที่นี่สักสี่วัน คุณเอาเงินนี่ไปจ่ายค่าห้องพักก่อนนะคะ ฉันจะเอารถเข้าไปจอดในโรงแรมก่อนแล้วจะตามไป”

“ได้ครับ ของในรถเราจะเอาลงไปด้วยหรือเปล่า ผมจะได้ไปช่วยคุณขนขึ้นห้อง”

“อ่า… ฉันลืมไปเลย ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอคุณที่ที่จอดรถตรงนั้นนะคะ คุณค่อยตามมาช่วยฉันขนกระเป๋าก็แล้วกันค่ะ ส่วนของที่ไม่จำเป็นเราก็ไม่ต้องเอาลง”

“ตกลงครับ ผมไปจองห้องก่อนนะครับ” ฉางเล่ยยิ้มบางตอบภรรยา

ซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำ จากนั้นจึงเคลื่อนรถไปยังที่จอดรถตามป้ายบอกทางที่โรงแรมเขียนเอาไว้ เธอคิดว่าโรงแรมนี้ดูทันสมัยและปลอดภัยกว่าโรงแรมของรัฐที่เคยไปมาก่อนหลายเท่านัก ภายในเมืองเถิงซงก็ดูเจริญกว่าเมืองอื่น ๆ ที่ผ่านมาเสียอีก คาดว่าที่นี่คงเป็นแหล่งที่คนร่ำรวยมักจะมาหาเงินกันเป็นแน่ ถึงแม้ในยุคนี้การพนันหินยังไม่ได้รับการยอมรับจากทางการ แต่ที่เมืองเถิงซงกลับสามารถพนันหินได้อย่างเสรี เธอคิดว่าทางการน่าจะยกเว้นเป็นกรณีพิเศษให้กับเมืองนี้เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ แถมที่นี่ยังมีค่ายทหารทางการด้วย

ฉางเล่ยจองห้องพักและรับกุญแจห้องมา ก่อนจะกล่าวลาทหารทั้งสามนายที่จองห้องพักเสร็จก่อนหน้าเขาไม่นาน

“ถ้าพวกคุณเกิดเรื่องอะไรที่นี่ คุณโทรหาผมที่เบอร์นี้ได้เลยนะครับ ผมจะมาช่วยจัดการเรื่องราวให้ทันที” โจวอู่หมิงยื่นเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยใหม่เขาส่งให้กับฉางเล่ย

“ขอบคุณมากครับ พวกคุณขึ้นห้องไปพักผ่อนก่อนเถอะนะครับ ผมยังต้องไปช่วยภรรยายกกระเป๋าอีก” ฉางเล่ยกล่าว

“ตกลงครับ เอาไว้พบกันใหม่เมื่อมีโอกาส ฝากขอบคุณภรรยาคุณด้วยนะครับ”

“ไม่มีปัญหาครับ พวกคุณดูแลตัวเองด้วยนะครับ” ฉางเล่ยพูดจบก็เดินไปด้านนอกเพื่อไปยังที่จอดรถซึ่งซูเมี่ยวจินชี้บอกก่อนหน้านี้

โจวอู่หมิงมองส่งฉางเล่ยแล้วชวนฟู่จือหยางกับซ่งเซียวไปห้องพักที่จองเอาไว้ก่อนหน้านี้ทันที เขาจองห้องเพียงห้องเดียว เพราะพวกเขาแค่อยากพักผ่อนก่อนเข้าค่ายทหารในวันพรุ่งนี้เท่านั้น

ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินช่วยกันยกกระเป๋าเสื้อผ้าและกระเป๋าเงินใบใหญ่ รวมถึงหน้าไม้ของพวกเขาเดินกลับเข้าไปในโรงแรมเพื่อเข้าห้องพัก หน้าไม้ทั้งสองอันนั้นพวกเขายัดใส่กระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อไม่ให้พนักงานโรงแรมสังเกตเห็น

ห้องพิเศษที่ฉางเล่ยจองเอาไว้นั้นอยู่ที่ชั้นสามห้องในสุด ซึ่งเป็นห้องที่กว้างกว่าห้องอื่น ๆ ในชั้นเดียวกัน ห้องพิเศษของโรงแรมนี้มีเพียงสามห้องเท่านั้น อีกสองห้องมีแขกเข้าพักอยู่ก่อนแล้ว พนักงานโรงแรมจึงมอบห้องที่เหลือนี้ให้กับสองสามีภรรยาหน้าตาดีที่เขาเห็น ถึงแม้ทั้งสองจะแต่งกายไม่เหมือนคนรวย แต่ในเมื่อลูกค้ามีเงินจองห้องพักนานถึงสี่วัน เขาก็ไม่คิดจะดูถูกสองสามีภรรยาที่เดินผ่านเข้ามาในโรงแรมแม้แต่น้อย

คืนนั้นหลังจากเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้เสร็จ ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินที่อาบน้ำเรียบร้อยก็เข้านอนทันที ตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบตีสองแล้ว พวกเขาที่เดินทางมานานและยุ่งอยู่กับการเก็บของจึงนอนดึกกว่าที่ผ่านมา

โจวอู่หมิงกับพวกก็นอนพักหลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน พรุ่งนี้เช้าพวกเขายังต้องขอยืมโทรศัพท์ทางโรงแรมเพื่อให้คนนำรถมารับพวกเขาที่โรงแรมแห่งนี้ด้วย สำหรับบาดแผลเล็กน้อยจากการถูกยิงนั้น พวกเขาไม่ได้สนใจมันแต่แรกแล้ว เสื้อผ้าของพวกเขาที่มีรอยขาดจากการต่อสู้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ซึ่งพวกเขาเตรียมมาอีกคนละสองชุดสำหรับการทำงานที่ค่ายชายแดนตามคำสั่ง

เช้าวันต่อมา กลุ่มของโจวอู่หมิงตื่นแต่เช้าและลงไปโทรศัพท์ให้คนในหน่วยนำรถมารับพวกเขา ถึงแม้จะได้นอนเพียงน้อยนิด แต่ทั้งสามซึ่งเคยผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักก็ไม่มีสีหน้าอิดโรยเลยสักคน

“หัวหน้า เราจะรอบอกลาคุณฉางก่อนไหมครับ” ฟู่จือหยางถาม

“ไม่ต้องหรอก ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะนอนกันอีกนานกว่าจะตื่น เรายังต้องเข้าไปรายงานตัวที่หน่วยก่อน อย่าทำให้เสียเวลาไปมากกว่านี้เลย พวกคุณก็ได้ยินแล้วว่าพวกเขาสองคนจะอยู่ที่นี่อีกหลายวัน”

“ทราบแล้วครับ” ฟู่จือหยางกับซ่งเซียวรับคำพร้อมกัน พวกเขาประทับใจในตัวฉางเล่ยหลังจากอยู่ด้วยกันมาตลอดการเดินทาง ทั้งสองจึงอยากบอกลาสหายสักหน่อย

ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยไม่รู้ว่าสหายทหารเดินทางกลับไปกันแล้วหลังจากที่คนในหน่วยส่งรถมารับพวกเขาที่โรงแรม กว่าที่ทั้งสองคนจะตื่นก็เป็นเวลาสิบโมงเลยทีเดียว เพราะซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยเหนื่อยจากการเดินทางไกล พวกเขาจึงนอนต่อให้เต็มที่ก่อนจะออกไปสำรวจเมืองเถิงซง

“สามี เดี๋ยวเราลงไปกินข้าวในโรงแรมก่อนค่อยขับรถวนหาตลาดค้าหินกันดีไหม”

“ได้ครับ วันนี้เราจะแต่งตัวยังไงดี” ฉางเล่ยไม่แน่ใจว่ายังต้องใส่ชุดเหมือนเมื่อวานหรือไม่ เพราะจะได้นำอาวุธติดตัวไปด้วย

“ใส่ชุดปกติดีกว่าค่ะ วันนี้คงยังไม่มีใครสนใจเรามากนัก พกมีดไปแค่สองเล่มก็พอ”

“ตกลงครับ คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะ” ฉางเล่ยบอกเมื่อเห็นว่าภรรยาตื่นเต็มตาแล้ว

ซูเมี่ยวจินพยักหน้าตอบแล้วลุกขึ้นจากที่นอนไปหาชุดในตู้เสื้อผ้าที่พวกเขาจัดเก็บเอาไว้เมื่อคืนนี้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

ฉางเล่ยลุกขึ้นมาทีหลังแล้วพับผ้าห่มเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ เขาเดินไปเลือกเสื้อผ้าที่เก็บเอาไว้เช่นกัน วันนี้เขาเลือกที่จะใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นและกางเกงสแล็คสีดำที่ซูเมี่ยวจินซื้อให้ รองเท้าที่ใส่ยังเป็นรองเท้าหนังที่ซูเมี่ยวจินนำมาให้เขาด้วยเพื่อจะได้ดูภูมิฐานสักหน่อย เขาจำได้ว่าภรรยาไม่อยากให้มีคนดูถูกพวกเขาเมื่อเข้าไปทำการพนันหิน และไม่อยากมีเรื่องเพราะพวกเขาเป็นคนแปลกหน้าที่นี่

ซูเมี่ยวจินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็นั่งรอฉางเล่ย วันนี้เธอสวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยแจ็คเกตหนังสีดำและกางเกงหนังตัวเก่งของเธอ ซูเมี่ยวจินนำมีดพกขนาดเล็กซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตและกางเกงอย่างละเล่ม เธอนำเงินจากกระเป๋าใบใหญ่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายหนึ่งหมื่นหยวนเผื่อเอาไว้ อย่างไรวันแรกนี้เธอก็ยังไม่คิดจะซื้อหินมากเกินไปนัก เธอต้องลองใช้ทักษะที่ได้รับมาจากระบบดูเสียก่อน หากว่าทักษะนี้ใช้งานได้ดี เธอจึงจะลงทุนก้อนใหญ่ซื้อหินจำนวนมากแล้วผ่าให้เสร็จก่อนจะเดินทางกลับไปที่เมืองเจิ้งไห่

ฉางเล่ยอาบน้ำแต่งตัวในเวลาไม่นานก็ออกมา ซูเมี่ยวจินช่วยจัดปกคอเสื้อให้เขาก่อนจะชวนกันออกไปกินอาหารในโรงแรมแห่งนี้

“ไม่รู้ว่าป่านนี้ที่บ้านจะเป็นยังไงบ้างนะครับ” ฉางเล่ยเอ่ยอย่างคิดถึงครอบครัว เขาไม่เคยจากครอบครัวไปไหนมาก่อน

“ถ้าคุณเป็นห่วงก็ใช้โทรศัพท์ของโรงแรมโทรกลับไปที่บ้านได้นี่คะ” ซูเมี่ยวจินจำหมายเลขโทรศัพท์ที่ร้านได้เป็นอย่างดี เธอจึงบอกเขา

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เราค่อยโทรทีหลังก็แล้วกัน ตอนนี้พ่อกับแม่น่าจะยุ่งกับการเฝ้าร้านกันอยู่” ฉางเล่ยคาดเดาจากเวลาในนาฬิกาที่ตอนนี้เกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้ว

“ตกลงค่ะ รีบไปกินข้าวกันดีกว่า” ซูเมี่ยวจินยื่นมือไปจับมือฉางเล่ยแล้วเดินไปที่ห้องอาหารของโรงแรมซึ่งมีป้ายเขียนบอกเอาไว้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซูเมี่ยวจิน   ถูกจับตา

    “หยกของคุณทั้งหมดผมรับซื้อในราคาห้าแสนหยวน ไม่ทราบพวกคุณคิดยังไงครับ”ผู้จัดการเถาปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมา เขาไม่รู้ว่าลูกค้าทั้งสองจะทราบไหมว่าหยกแก้วทั้งสองก้อนใหญ่นั้นหากนำไปประมูลแล้วมูลค่าของมันจะสูงเสียดฟ้าเลยทีเดียวเชียวนะซูเมี่ยวจินคิดอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากเธอไม่ทราบราคาในการประมูลหยกล้ำค่าแต่แรก เมื่อหันไปมองสามีที่ตอนนี้อ้าปากค้างไปเสียแล้ว ซูเมี่ยวจินจึงได้แต่ต้องพยักหน้ารับคำผู้จัดการเถาว่าเธอรับราคานี้ได้“รบกวนพวกคุณรอที่นี่สักครู่นะครับ ผมจะไปจัดการนำเงินเข้าไว้ในบัตรให้คุณ”“ตกลงค่ะ” ซูเมี่ยวจินกล่าวด้วยใบหน้านิ่งเรียบเหมือนปกติ เธอไม่ได้สนใจว่าร้านจะจ่ายเงินให้พวกเธอยังไงแต่แรก เมื่อได้ยินว่าผู้จัดการสามารถนำเงินเข้าบัตรกดเงินได้ก็ทำให้เธอโล่งใจไม่น้อย นับว่าเมืองเถิงซงนี้ก้าวหน้ามากกว่าเมืองเจิ้งไห่ที่สามารถนำเงินโอนเข้าในบัตรกดเงินได้ฉางเล่ยหลังจากตกตะลึงอยู่พักใหญ่ เมื

  • ซูเมี่ยวจิน   ดวงดี

    ซูเมี่ยวจินชี้บอกหินที่เธอต้องการให้สามีหยิบให้ หินในกองนี้ราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันหยวน เธอจึงให้เขาหยิบมาเพียงสามก้อน เพราะกลัวว่าเงินที่นำมาจะไม่พอ“ภรรยา พอแล้วเหรอครับ” ฉางเล่ยที่หยิบหินใส่รถเข็นถามขึ้น“พอก่อนดีกว่าค่ะ ให้ร้านคิดเงินแล้วผ่าหินดูกันเถอะ” ซูเมี่ยวจินทั้งที่รู้ว่าหินก้อนใหญ่ทั้งสามนั้นเป็นหยกคุณภาพดีทั้งหมดบอกสามี“ตกลงครับ พี่ชาย ช่วยคิดเงินแล้วเอาหินไปผ่าให้ด้วยครับ” ฉางเล่ยหันไปบอกพนักงานที่ยืนรออยู่ห่างออกไปนิดหน่อย“เชิญมาคิดเงินกับผมทางนี้เลยครับ” พนักงานผายมือเชิญพวกเขาไปยังโต๊ะคิดเงินที่อยู่ไม่ไกลนักซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยที่เข็นรถอยู่ตามไปติด ๆ ดีที่ร้านนี้ไม่มีคนเข้ามาอีก พวกเขาจึงไม่ต้องรอคิวให้เสียเวลา“หินก้อนเล็กทั้งหมดห้าก้อน ราคา 800 หยวนครับ ส่วนก้อนใหญ่สามก้อนนั้นราคา 4,000 หยวนครับ” พนักงานคิดเงินตามขนาดข

  • ซูเมี่ยวจิน   ตลาดพนันหิน

    “ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกคุณโจวจะเป็นยังไงบ้างนะครับ” ฉางเล่ยพูดระหว่างที่กำลังกินอาหารที่สั่งไปก่อนหน้านี้ พวกเขาตื่นสายจนไม่ได้ออกมาส่งทหารพวกนั้น“พวกเขาคงกลับไปทำหน้าที่แล้วล่ะค่ะ คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก”“ผมเห็นพวกเขาแล้วก็อยากเป็นทหารอย่างพวกเขาบ้าง สวัสดิการทหารดีมากจริง ๆ ผมจะได้ปกป้องคุณกับครอบครัวได้ด้วย” ฉางเล่ยเอ่ย“แต่ฉันไม่อยากให้คุณลำบากนะคะ เราไม่มีเส้นสาย ถ้าคุณสมัครเป็นทหาร กว่าตำแหน่งของคุณจะก้าวหน้าก็คงอีกหลายสิบปีเลยล่ะ” ซูเมี่ยวจินส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย เธอไม่คิดว่าอาชีพทหารจะเหมาะกับสามีเธอ แล้วเธอก็ไม่อยากให้เขาต้องไปเสี่ยงอันตรายในหน้าที่การงานแบบนี้“คุณคิดอย่างนั้นเหรอครับ” ฉางเล่ยเอ่ยอย่างเสียดายที่ภรรยาไม่อยากให้เขาเป็นทหาร“หรือคุณอยากทิ้งฉันกับครอบครัวไปล่ะคะ” ซูเมี่ยวจินตัดสินใจพูดเรื่องสำคัญ หากเขาสมัครทหารก็จะต้องไปพักอยู่ที่ค

  • ซูเมี่ยวจิน   แยกย้าย

    “ถ้าอย่างนั้นฉันจะวนรถหาโรงแรมสักแห่งนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ขอบคุณมากครับ” ทั้งสามที่อยู่หลังรถรีบเอ่ยขึ้นพร้อมกัน เขาไม่คิดว่าผู้หญิงเย็นชาคนนี้ที่จริงก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำอะไร ไม่แปลกใจที่สามีเธออย่างฉางเล่ยจะภูมิใจที่มีซูเมี่ยวจินเป็นภรรยา เพราะหลายครั้งที่คุยกัน ฉางเล่ยมักจะอวยความเก่งกาจของภรรยาเขาให้ทั้งสามฟังอย่างไม่อายเลยสักนิดซูเมี่ยวจินขับรถวนหาโรงแรมไม่นานก็พบกับโรงแรมเอกชนแห่งหนึ่ง เธอไม่รอช้าที่จะจอดรถด้านหน้าแล้วให้สามีไปสอบถามเรื่องการเปิดห้องพักสักหลายวันทันที ซูเมี่ยวจินคิดว่าจะอยู่ที่โรงแรมนี้จนกว่าการพนันหินเสร็จสิ้นลง ด้านโจวอู่หมิงกับลูกน้องก็สะพายกระเป๋าลงไปพร้อมฉางเล่ยด้วยเช่นกันฉางเล่ยไปสอบถามไม่นานก็เดินกลับมาที่รถแล้วบอกรายละเอียดกับซูเมี่ยวจินเรื่องห้องพักของโรงแรมแห่งนี้“ภรรยาครับ ราคาห้องพักธรรมดาคืนละ 30 หยวน ห้องพิเศษคืนละ 50 หยวน คุณจะให้ผมจองห้องพักแบบไหนดีครับ แล้วเราจะพักกันสักกี่วัน”

  • ซูเมี่ยวจิน   10 ชั่วโมง

    ระหว่างเดินทาง ฉางเล่ยหันไปคุยกับทหารที่อยู่หลังรถจนรู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันทั้งหมด ซูเมี่ยวจินปกติไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า เธอจึงฟังสิ่งที่สามีคุยกับพวกเขาเท่านั้น“พวกคุณย้ายที่ประจำการกันหรอกเหรอครับ แล้วทำไมถึงได้ถูกดักทำร้ายล่ะครับ”“คนพวกนั้นน่าจะเป็นโจรที่ประจำอยู่เส้นทางนี้น่ะครับ พวกเราก็ไม่คิดว่าจะถูกปล้นทั้งที่ยังสวมเครื่องแบบอยู่” ฟู่จือหยางตอบ“น่ากลัวมากเลยนะครับ ดีที่ผมกับภรรยาไม่ได้พบพวกมันก่อน ไม่อย่างนั้นคงลำบากกว่าพวกคุณมากแน่” ฉางเล่ยพูดคุยอย่างเป็นกันเอง“สามี ข้างหน้าน่าจะเป็นเมืองเหยียนซานแล้ว เราจะได้แวะหาอะไรกินกันก่อน”“ครับ คุณขับหาร้านอาหารก่อนเลย ตอนนี้ยังไม่สายมากนัก โชคดีที่เรามาถึงเร็ว”“ตกลงค่ะ” ซูเมี่ยวจินรับคำแล้วสอดส่ายสายตามองหาร้านอาหารในเมืองไม่ถึง 15 นาที ซูเม

  • ซูเมี่ยวจิน   เพื่อนร่วมทาง

    โจวอู่หมิงหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องทั้งสองคนออกไปจากที่ซ่อนเพื่อดูว่าผู้หญิงที่มาช่วยพวกเขาไว้นั้นหน้าตาเป็นยังไง“คุณช่วยพวกเราได้ยังไงครับ” โจวอู่หมิงที่เดินออกมาถามหญิงสาวร่างสูงโปร่งแต่สายตาของเธอช่างเย็นชาเสียเหลือเกิน“ใช่ ๆ ทำไมพวกเราไม่ได้ยินเสียงการต่อสู้เลยล่ะครับ” ฟู่จือหยางรีบถามต่อ“พวกคุณมีรถกันหรือเปล่า?” ซูเมี่ยวจินไม่สนใจตอบกลับคนแปลกหน้า เรื่องการต่อสู้ของเธอ เธอไม่อยากให้พวกเขารู้มากนัก“รถพวกเราถูกยิงพังหมดแล้วครับ แต่สัมภาระยังอยู่ในรถห่างจากตรงนี้ประมาณห้ากิโลเมตรครับ” ซ่งเซียวตอบ“ถ้าอย่างนั้นไปพักที่รถฉันก่อน ตามมา” น้ำเสียงเย็นชาของซูเมี่ยวจิน ทำให้ทั้งสามไม่กล้าถามเรื่องก่อนหน้านี้อีกระหว่างเดินออกจากป่า ทั้งสามคนมองเห็นศพคนร้ายนอนคว่ำหน้าอยู่คนหนึ่ง ที่ด้านหลังมีรูเจาะทะลุเข้าไปตรงตำแหน่งหัวใจ พวกเขาเพิ่งเห็นว่าใน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status