เขามีคนที่คู่ควรอยู่ข้างกาย แล้วเธอจะไปแทรกกลางได้อย่างไร จำยอมถอยห่างออกมาพร้อมเลือดเนื้อเชื้อไขของคนใจร้าย...โดยที่เขาไม่รู้สักนิด
Lihat lebih banyakบทนำ
บรรยากาศภายในห้องนอนที่เคยเป็นดั่งที่พักของคู่สามีภรรยา บัดนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้นอีกต่อไป บนเตียงกว้างที่เคยนอนกอดกัน หมอนที่เคยหนุน ผ้าห่มสีขาวที่เคยคลุมตัวยามหลับนอนดูไร้ค่าทันที
ดวงตากลมโตมีน้ำใสคลอก่อนจะไหลลงมาช้าๆ แม้จะพยายามอดกลั้นไว้ก็ตาม ความเสียใจครั้งนี้มันยิ่งกว่ามีมีดมาแทงนับร้อยเล่ม มือเล็กกำเข้าหากันแน่น มองตรงไปยังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า ‘สามี’
ร่างสูงยืนนิ่งไม่ต่างกัน จากที่เคยเปิดใจให้ผู้หญิงคนนี้ต้องกลับมาทบทวนใหม่ว่าจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ลุ่มๆ ดอนๆ และกำลังจะพังทลายลง บ้านหลังเล็กที่เคยอบอุ่น มีเสียงทะเลาะ เสียงหยอกล้อหรือรอยยิ้มพลันหายไปเหลือเพียงร่องรอยน้ำตา
“ฉันต้องการหย่า” หลังจากเงียบมานานร่างบางจึงเอ่ยขึ้นเสียงสั่น หัวใจถูกบีบรัดทุกครั้งเมื่อคิดว่าจะต้องห่างจากผู้ชายคนนี้ ทั้งที่เคยเกลียด ทว่าเวลาผ่านไปเขากลับเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอทั้งดวง
และตอนนี้เขาก็ทำลายมันลงด้วยมือคู่นั้น
“นัดวันมาได้เลย ฉันพร้อมเสมอ”
ภาพอดีตผุดขึ้นมาตอกย้ำให้หวนนึกถึงเรื่องราววันเก่า ครั้งแรกที่เจอกัน เหตุการณ์กดดันที่ต้องเผชิญร่วมกัน วันที่เขาทำหน้าบึ้งตึงไปสู่ขอเธอกับมารดาด้วยความไม่เต็มใจ คืนเข้าหอวันแรก วันที่ทะเลาะกัน คืนวันเหล่านั้นไหลเวียนจนหญิงสาวรู้สึกสะท้านในอกเมื่อเขาตอบตกลงอย่างง่ายดาย
..รั้งหน่อยไม่ได้หรือ..แค่เดินเข้ามาจับมือ โอบกอดเธอเอาไว้เหมือนเคย ช่วยทำว่ายังสำคัญสักนิดเถอะนะ
คิดในใจก่อนจะมองเขาด้วยแววตาเสียใจ
“นายเคยรักฉันบ้างไหม”
คนที่เคยเข้มแข็งวันนี้กลับอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง สาเหตุก็เป็นเพราะผู้ชายตรงหน้าทำให้ความเข้มแข็งของเธอหายไปจนหมดสิ้น
“เธอจะถามหาความรักทั้งที่ตัวเองคิดจะจับผู้ชายเพราะเงินอย่างนั้นเหรอ”
การตอกกลับสมเป็นสัตวแพทย์ปากมอมไม่มีผิด..
หญิงสาวแค่นยิ้มพยักหน้าราวต้องการย้ำเตือนใจว่าที่เขาพูดมาไม่ผิดสักนิด เธอคิดจะจับคนมีเงินหวังรวยทางลัด แต่กลับได้ผู้ชายที่ดูไร้อนาคตมาแทน แล้วใครจะคิดว่าจากที่เคยเกลียดจนไม่อยากมองหน้า ความรู้สึกก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็น..รัก รักจนหมดหัวใจอย่างไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน
“นั่นสินะ”
บุลลาก้มมองพื้นไม่อาจทนเห็นสายตาดูแคลนจากร่างสูงได้
“พรุ่งนี้สิบโมงเช้าเจอกันที่อำเภอ” สิ้นสุดคำนั้นร่างสูงก็หันหลังออกจากห้องทันที
ปล่อยผู้หญิงอีกคนทรุดตัวลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงก่อนจะปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาโดยไม่คิดจะเก็บไว้อีกต่อไป ความเสียใจวันนี้มันยิ่งกว่าครั้งที่ผ่านมาเพราะเธอทุ่มให้เขาหมดตัวและใจ เดิมพันรักครั้งนี้ด้วยความรู้สึกไม่ใช่เงินตรา มีทะเบียนสมรสเป็นตัวประกันว่าจะไม่มีทางทำให้ชีวิตรักครั้งนี้ต้องพังลง
แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่หวัง เธอทำมันพังอีกครั้งด้วยทิฐิของตนเอง มือเล็กยกขึ้นลูบท้องยิ้มทั้งน้ำตา หากเธอบอกเขาให้เร็วกว่านี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปไหม หากเขารู้ว่ามีหนึ่งชีวิตกำลังจะเกิดขึ้นมา จะอ้อนวอนให้เธออยู่ต่อหรือเปล่า..
“ไปกันเถอะเอิร์ธ”
คงไม่..เพราะเขามีผู้หญิงที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยแล้ว ผู้หญิงที่งดงามเพียบพร้อมกับเขาทุกอย่าง ไม่เหมือนเธอที่ไม่มีอะไรดีเลย
ร่างบางปิดปากกลั้นสะอื้น หลับตาลงไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น กลิ่นกายของชายหนุ่มยังอบอวลไปทั่วห้อง ใบทะเบียนสมรสที่ไม่เคยอยากได้ วันนี้กลับไม่อยากจากมันไป ไม่น่าไปท้าหย่าเลย นึกว่าเขาจะปฏิเสธ ทุกอย่างกลับตาลปัตร
..แม่ขอโทษนะลูกที่มีครอบครัวสมบูรณ์ให้หนูไม่ได้
ตอนพิเศษ...พี่ตะวันกับน้องกระต่าย กำหนดการงานแต่งของลูกสาวเจ้าของไร่มีขึ้นสองเดือนข้างหน้า หล่อนตื่นเต้นยกใหญ่เตรียมงานแต่เนิ่นโดยมีมารดาคอยให้คำแนะนำ ต่างจากบิดาที่มักพูดว่าถ้ามันยากมากก็ไม่ต้องแต่งหรอกลูก พ่อไม่ได้อับอายสักนิดถ้าจะยกเลิก ทำเอาทั้งลูกทั้งแม่ต้องเล่นงานคนเป็นพ่อจนแทบไม่สามารถเข้าบ้านได้ ภูตะวันออกมาทำงานแต่เช้า เห็นว่าวันนี้มีกองละครมาถ่ายทำที่ไร่ ระยะเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ จึงได้จองทั้งไร่รุ่งอรุณและรีสอร์ทของไร่ที่สร้างมาสิบกว่าปี เป็นบ้านหลังเล็กอยู่ได้ประมาณสี่ถึงห้าคน ยาวเรียงกันกว่าสิบหลังทำให้เพียงพอต่อความต้องการ ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อม่อฮ่อมและกางเกงขาดเข่า หมวกสานปีกกว้างป้องกันใบหน้าคมจากแดดทำเอาคนมองแทบไม่รู้ว่าเป็นลูกชายเจ้าของไร่ที่จะมารับกิจการต่อจากบิดา การต้อนรับคนจากข้างนอกไม่ใช่งานของตนเองอยู่แล้วจึงไม่ได้ใส่ใจคนที่มาจากกองละครมากนัก ช่วงนี้ส้มกำลังออกผลเต็มต้นต้องเร่งตัดส่ง ส่วนมากจะวางขายในห้างสรรพสินค้าและส่งออกต่างประเทศ มีขายหน้าไร่บ้างและก็นำไปแปรรูป จะไม่มีผลไม้ตกค้างในสวนให้เน่าทิ้งหรือเสียเปล่า
ตอนพิเศษ...ตะวันและหนูจันทร์เสริมทัพด้วยคีรินทร์ เอกสารขออนุญาตถ่ายละครที่ไร่รุ่งอรุณถูกยื่นให้ร่างสูงซึ่งก้าวเข้ามาในสำนักงาน มือหนาคว้าไปอ่านอย่างละเอียดค่อยจรดปลายปากกาลงไปแล้วส่งกลับพร้อมรอยยิ้ม ทำเอาสาวเจ้าเขินม้วนไม่ชินกับความอบอุ่นที่ลูกชายเจ้าของไร่มอบให้สักที ซึ่งเขาก็ทำแบบนี้กับทุกคน ช่างแตกต่างจากคนเป็นพ่อเหลือเกิน ราวกับว่าได้ลุงธีมาเต็มๆ เสียแต่ว่าการแต่งตัวที่ออกจะมอซอไปสักเล็กน้อย หากเป็นคนนอกก็คงคิดว่าชายหนุ่มคือคนงานทั่วไป ไม่ใช่ทายาทเจ้าของไร่แสนใหญ่โตแห่งนี้ เดินไปหยิบเอกสารสำหรับจัดงานฉลองประจำปีของไร่ เขาต้องไปพูดคุยกับนายอำเภอ ทั้งไปหาเกษตรอำเภอสอบถามเกี่ยวกับการปลูกผลไม้เมืองหนาวทั้งที่อากาศจังหวัดนี้ร้อนแทบทั้งปี “พี่ตะวัน!” สะดุ้งเมื่อมีมือมาจับที่ไหล่พร้อมตะโกนเสียงดังข้างหู พอหันไปก็พบน้องชายตัวแสบที่ยิ้มหน้าแป้นแล้น ภูตะวัน วิจิตรประภา ชายหนุ่มรูปงามแห่งไร่รุ่งอรุณ ใบหน้าคมคายได้พ่อมาเต็มๆ ส่วนนิสัยนั้นอ่อนโยนจนคนงานผู้หญิงพากันทอดสะพานให้เต็มที่ หวังเป็นนายหญิงของไร่แห่งนี้ โดนขายขนมจีบไม่เว้นวันก
พิเศษ...ไปรยา ชนาธิปความรักสำหรับคนอื่นคือใครเขาไม่รู้ แต่สำหรับผู้ชายที่ไม่เคยมีใครมองจนได้เพียงแค่หวังว่าวันหนึ่งจะมีผู้หญิงมองเห็นตัวเองบ้าง และวันที่เข้ากิจกรรมของคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ครั้งแรกหัวใจที่เคยสงบนิ่งกลับเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นร่างบางเดินผ่านวินาทีนั้นเหมือนมีแสงสว่างส่องไปทั่วร่างของเธอจนสายตาเขาพร่าไปหมด ออร่าที่แสบตาจนไม่อาจมองได้ต้องหันหน้าไปทางอื่น พลันหล่อนกลับเดินมานั่งข้างเขาแล้วยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง“สวัสดี อืม ชื่อฟลุ๊คเหรอ เราหนึ่งนะ” ใบหน้าหวานก้มมองป้ายชื่อของเขาแล้วส่งยิ้มทักทาย“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” หลังจากนั้นเธอก็หันไปคุยกับเพื่อนคนอื่นปล่อยเขาแอบมองอยู่ฝ่ายเดียว และสังเกตเห็นว่าดวงตากลมโตมักจะชอบวนเวียนอยู่ที่ผู้ชายมาใหม่คนหนึ่งคนที่นั่งอยู่ข้างหลังเธอและเป็นชายซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ เป็นที่หมายปองของหญิงสาวคนอื่นพณณกร วิจิตรประภาทายาทตระกูลดัง นอกจากจะหน้าตาดียังฐานะร่ำรวยอีกต่างหาก เขาได้แต่เก็บความอิจฉาไว้ภายในใจเฝ้ามองไปรยาที่แอบรักข้างเดียวด้วยความเสียใจ อยากจะเข้าไปปลอบยามหญิงสาวร้องไห้ก็ไม่กล้าจนกระทั่งฟ้าเป็นใจงานเลี้ยงสายรหัส
๗หลังจากที่ผ่านค่ำคืนแสนหวานคู่สามีภรรยาก็นอนกอดกันอยู่ภายในมุ้ง แขนแกร่งกระชับเอวบางจนแผ่นหลังเธอชิดอกเขา ดมความหอมจากกลุ่มผมนุ่มสลวยก่อนที่บุลลาจะพลิกตัวมาเพื่อซบใบหน้าที่แผงอกหนาพร้อมพรมจูบไปทั่วและนั่นทำให้สัญชาตญาณเสือร้ายผุดออกมาทันที เขาขึ้นคร่อมเธอเอาไว้จับกดพร้อมกับพระอาทิตย์ที่โผล่พ้นผืนน้ำ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แต่ชายหญิงคู่นี้กลับผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างไม่ยอมแพ้กันและกันไม่บ่อยนักที่จะได้ทำอะไรตามใจตัวเอง ปลดปล่อยอารมณ์โดยไม่ต้องกลัวลูกได้ยินหรือตื่นตอนดึก พวกเขาทำตามใจปรารถนาไม่สนว่าใครจะได้ยินหรือไม่ทั้งที่บ้านก็ไม่ได้เก็บเสียง ยิ่งเมื่อคืนที่พณณกรโยกตัวจนเตียงเกือบหัก บ้านแทบพังทำเอาบุลลาต้องตีเขาไปหลายรอบในความบ้าระห่ำ จนชายหนุ่มถามกลับว่าใครเล่าที่เรียกร้องหล่อนจึงปิดปากเงียบก็เธอเป็นคนร้องขอให้เขาเพิ่มแรงขึ้นอีกแท้ๆ จะว่าได้อย่างไรเล่า“อือ พอแล้วค่ะ” ลุกขึ้นมาทำอาหารยามสายไว้รับประทานกันสองคนโดยมีร่างสูงคลอเคลียอยู่ด้านหลังไม่ห่าง เสื้อยืดตัวเล็กและกางเกงขาสั้นที่เตรียมมาถูกสวมบนร่างกายทว่าไม่มีชั้นในปกปิดเลยสักชิ้นและตอนนี้มือหนาก็กำลังเลื้อยเข้าไปภายใต
๖การไปพักผ่อนครั้งนี้แม้แต่ตัวหญิงสาวเองก็ยังไม่รู้จนกระทั่งรถยนต์จอดเทียบท่าเรือก่อนคุณลุงคนขับรถจะลงไปยกกระเป๋าด้านหลังออกมา ดวงตากลมโตมองเรือที่เทียบท่าก็ตาลุกวาวเพราะเคยเห็นจากในละครเท่านั้นไม่เคยนึกเลยว่าชีวิตนี้จะได้เห็นเรือเฟอร์รี่ลำใหญ่ด้วยตาของตนเอง แถมที่หัวเรือยังเขียนชื่อของบริษัทใหญ่ ตระกูลดังเอาไว้อีกด้วย พณณกรถือกระเป๋าเดินมาคว้ามือภรรยาเอาไว้แล้วบังคับให้เดินตามมาไม่บอกกล่าวอะไรสักนิด“มีแต่เรือหรูๆ ทั้งนั้นเลย” พึมพำเสียงเบาขณะที่คิดได้ว่าสามีของตัวเองก็เป็นคนในตระกูลดังเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีเรือของบ้านเขาจอดไว้น่ะสิคิดพลางยิ้มกริ่มเมื่อวาดภาพว่าตัวเองจะต้องได้นั่งจิบไวน์อยู่บนเรือหรู มองท้องฟ้าสีคราม ผืนน้ำสีน้ำเงินด้วยความสุขแน่นอุรา ยอมเดินตามแรงดึงจนกระทั่งผ่านพ้นเรือหรูมาลำแล้วลำเล่าก็เหมือนจะไม่ถึงสักที ใบหน้าหวานเริ่มบูดบึ้งตามอารมณ์“จะเดินไปถึงมาเลเซียเลยไหมคะ” อดประชดไม่ได้จนคนนำหน้าหันมายิ้มที่ภรรยาเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะตั้งเมื่อคืนหล่อนเอาแต่กอดเขาแน่นทั้งยังตอนเช้าที่มองตามตาละห้อย ต้องอยู่ในสายตาตลอดเวลากลายเป็นคนว่านอนสอนง่ายอย่างไม่
๕บุลลากำลังเล่นกับฝาแฝดทั้งสองโดยมีเหล่าแม่บ้านคอยช่วยเหลือเนื่องจากหลงเสน่ห์ของเด็กน้อย อันที่จริงคุณดาริกาก็ชวนให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เมืองกรุงแต่เพราะงานรัดตัวที่ไร่ ทั้งยังเป็นห่วงมารดาที่เริ่มแก่ตัวลงทุกวันจำต้องปฏิเสธไป ตอนนี้เธอติดไร่มากกว่าแสงสีในเมืองหลวงเสียแล้วแต่ถ้าพณณกรจะกลับมาอยู่ที่นี่หล่อนก็คงตามมาด้วยเพราะไม่สามารถแยกจากสามีได้อีกแล้ว ในขณะที่กำลังมองดูบุตรสาวสิ่งไล่กับพี่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน เบอร์แปลกที่โชว์หราทำให้คิ้วสวยขมวดเข้าหากันทันที หลังจากที่ลาออกจากงานก็ไม่ค่อยมีใครโทรมาทำให้เกิดความสงสัยขึ้นว่าปลายสายคือใครร่างบางแยกตัวออกไปรับโทรศัพท์ "สวัสดีค่ะ"'ว่าไงบัว ไม่เจอกันนานสบายดีไหม' เสียงเข้มที่เอ่ยทักทายทำเอาหล่อนยิ่งสงสัยมากกว่าเดิมเพราะจำน้ำเสียงไม่ได้"เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครคะ" ไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็จำไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร หรือจะเป็นลูกน้องเก่าที่โรงแรม ไม่อย่างนั้นก็น่าจะเป็นคุณรวี ทว่าฝ่ายนั้นแทบไม่ได้ติดต่อมาเลยตอนนี้เห็นว่าโดนทางบ้านจับแต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย'อะไรกัน จำเสียงแฟนเก่าไม่ได้หรือไง' เอ่ยเพียงเท่านั้นใบหน้าคมก็ชัดวาบ
Komen