LOGIN“ไปเอาเหล้า คือไปโดนแท้” (ไปเอาเหล้า ทำไมไปนานจัง) ชนาวุฒิแซวออกมาทันที ที่คุณพัฒน์กลับมานั่งลงที่ของตัวเอง และมีมุกดารินทร์ก็เดินออกมาตามหลังด้วยอีกคน
“พวกคุณทานแบบพวกเราได้แน่นะคะ” ชญานุชจึงหันมาถามทางเจ้านายหนุ่ม เมื่อเห็นว่านั่งนั่งนิ่งมองอาหารที่พวกเธอทำอย่างพิจารณา
ธนภัทรไม่ได้ตอบอะไรเธอออกไป แต่กลับยื่นมือไปตักเอาอาหารแปลกตานั้นมาเข้าปากเสียดื้อ ๆ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถทานอาหารของพวกเธอได้
“ก็อร่อยดีนะ ตัวแสบลองดูไหม” เมื่อได้ชิมรสชาติ จึงดันไปทางมุกดารินทร์ดู เพื่อเป็นการเชื่อเชิญ
“อะไรหรือคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยทันที เมื่อพี่ชายดันอาหารจานนั้นมาให้เธอ พวกแมลงเธอยังพอรู้จัก แต่อาหารตัวแปลกประหลาดมีใบตองห่อนี้ เธอไม่รู้จักจริง ๆ
“หมกฮวก” ชนาวุฒิจึงเป็นฝ่ายตอบออกมา
เพราะอาหารเมนูอาหารพื้นบ้านนี้ ไม่ใช่ว่าจะหาทานกันได้ง่าย ๆ เพราะเป็นอาหารที่สามารถหาตามธรรมชาติ และจะมีตามฤดูกาลเท่านั่น หนึ่งปีถึงจะได้ทานครั้ง
มุกดารินทร์ จึงหันไปมองหน้ากับทุกคน เพราะมีความลังเล และไม่กล้าที่จะลอง ถึงแม้จะเคยได้ยินว่าอาหารพื้นบ้านแต่ละถิ่น จะมีรสชาติที่อร่อย และทานได้ยาก
และเธอก็หันมาทางคุณพัฒน์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา สายตามองไปที่เขาอย่างมีคำถาม คุณพัฒน์จึงพยักหน้าแทนคำตอบ ว่าทานได้ และเขาก็ยกแก้วเครื่องดื่มที่มีน้ำสีขาวขึ้นกระดกทันที
“อร่อยนะ ไม่เผ็ดหรอก พี่ชิมดูแล้ว” ธนภัทรเอ่ยยืนยันกับเธออีกที
“เอาดักแด้แทนไหมครับ” เมื่อเห็นท่าทีลำบากใจของหญิงสาว คุณพัฒน์จึงยื่นจานด่วนเมนูแมลงทอดมาให้เธอแทน
เธอจึงหยิบมันขึ้นมาลองดูเป็นชิ้นแรก และครั้งในชีวิตที่ทานอาหารแบบนี้ ทามกลางสายตาทุกคนที่มองมาที่เธออย่างเอาใจช่วยเธอ
“อร่อยคะ มัน ๆ” เธอชมขึ้นมาทันที และหยิบเข้าปากไปอีกชิ้นตามมา
“น้องมุก อายุเท่าไหร่หรือคะ ยังเรียนอยู่หรือเปล่า” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผ่อนครายลงแล้ว ชญานุชจึงถามขึ้นมาบ้าง
“มุกอายุ 20 คะ อยู่มหาลัยปีสอง เรียนบริหาร แล้วพี่นุชละคะ” เธอตอบออกไปตามตรง แล้วถามชญานุชกลับไปด้วย เพราะเอมั่นใจได้เลยว่าคนนี้แหละอนาคตพี่สะใภ้เออย่างแน่นอน
“พี่ 30 แล้ว ส่วนเกื้อกับวุฒิ 23 ปี” ชญานุชตอบเอออกไป แถมยังแนะนำไปยังสองหนุ่มให้เธอด้วย
“...ที่พวกพี่ดื่มนี้คืออะไรหรือคะ” เธอพยักหน้ารับ แล้วถามทั้งสองหนุ่มขึ้นมา เมื่อเห็นพวกเขามีแก้วเครื่องดื่มเป็นน้ำสีขาวขุ่นดื่ม แต่ทางพี่ชายเธอเป็นสีขาวใส
“อันนี้เรียกสาโท ส่วนที่พี่ภัทรดื่มเรียกว่าเหล้าครับ น้องมุกอยากลองไหม” เป็นชนาวุฒิที่อธิบายบอกอีกเช่นเคย เพราะหนุ่มข้าง ๆ เอไม่ยอมปริปากพูดเลย
“บักวุฒิ!” (ไอ้วุฒิ) คุณพัฒน์ตวาดเสียงใส่เพื่อน พร้อมกับจ้องมองอย่างคาดโทษทันที ที่เพื่อนยื่นแก้วเครื่องดื่มให้แก่หญิงสาว
“...กูแค่หยอกเล่น อย่าหวงหลาย กูบ่จีบของหมู่ดอก” (...กูแค่หยอกเล่น อย่าหวงนักเลย กูไม่จีบของเพื่อนหรอก) ชนาวุฒิรีบแก้ตัวทันที เมื่อเห็นสายตาที่เพื่อนมองเขาแบบนั้น
“จะ จีบอีหยัง” (จะ จีบอะไร)
“ใครจะจีบใครเหรอ เกื้อวุฒิ?” ธนภัทรแทรกขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินในสิ่งที่สองหนุ่มพุดหยอกล้อกัน ถึงแม้ว่าบางคำจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่บางคำที่ฟังออกนั่นแปลว่า สองนี้มีใครคนหนึ่งที่ต้องคิดซื่อแน่ แต่ไม่รุ้จะไปใคร เขาจึงถามออกไปตามตรง
“ไอ้เกื้อมันอยากจีบน้องมุกครับ” เป็นชนาวุฒิอีกเช่นเคยที่เป็นฝ่ายตอบออกมา
“บักวุฒิ!” (ไอ้วุฒิ!) คุณพัฒน์ได้แต่ตวาดเสียงเข้มปรามเพื่อน เมื่อเพื่อนพูดออกมาโต้ง ๆ แบบนี้
“ว่ายังไงเกื้อ จะจีบน้องพี่เหรอ” ธนภัทรจึงหันมาถามทางคุณพัฒน์ทันที เพราะต้องการคำตอบยืนยันอีกที ว่าใช่เรื่องจริงหรือเปล่า
“เอ่อ คือว่า...”
“มุกขอเบอร์พี่เกื้อหน่อยสิคะ” เมื่อเห็นว่าคุณพัฒน์ลำบากใจ มุกดารินทร์จึงเป็นฝ่ายขัดขึ้นมา โดยเป็นคนที่เริ่มจู่โจมเขาทันที
“ตัวแสบ นี่เราเป็นผู้หญิงน่ะ” ธนภัทรได้แต่ดุเธอออกมา เมื่อเธอเป็นที่ขอเบอร์ชายหนุ่มก่อน และไม่คิดด้วยว่าน้องสาวจะกล้าบ้าบิ่นได้ขนาดนี้ เพราะทุกทีที่มีหนุ่ม ๆ มาสนใจหรือขอเบอร์เธอ หญิงสาวมักจะหาข้ออ้างต่าง ๆ นา ๆ มาอ้าง และบิดเบือนทันที แต่ครั้งนี้กลับเป็นฝ่ายรุกเสียเอง
“ได้ไหมคะพี่เกื้อ” เธอจึงถามเขาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นเขายังคงนั่งนิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ โต้ตอบเธอออกมา
“ครับ”
“บุกแน่บักเกื้อเอ้ย...” (รุกหน่อยสิไอ้เกื้อเอ้ย...) ชนาวุฒิได้แต่สะกิดเพื่อน
คุณพัฒน์ยื่นโทรศัพท์มือถือเครื่องของเขาให้กับเธอ เพราะไม่ได้ล็อคเครื่องไว้ และยังนั่งเงียบอยู่นาน จนหญิงสาวส่งโทรศัพท์มือถือคืน
“ออกไปขี่รถเล่นกันดีไหมครับ” เขาจึงเอ่ยขึ้นบอกกับเธอ
“ได้คะ” มุกดารินทร์ตอบรับทันที
“ตัวแสบไม่คิดจะเล่นตัวหน่อยเลยหรือไงเรา” ธนภัทรที่ได้ยินน้องสาวตอบรับชายหนุ่มแบบไม่คิดไตร่ตรองว่าจะเล่นตัวเลย ก็ได้แต่ตำหนิเธอออกไป ก่อนที่จะหันมาพูดกับทางคุณพัฒน์ “อย่าพาน้องกลับมาดึกละเกื้อ”
“ครับ...”
เขารับปากธนภัทร แล้วลุกขึ้น เดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขาที่จอดอยู่ทันที โดยมีมุกดารินทร์เดินออกไปตามหลังติด ๆ
“ส่วนผมก็เป็นส่วนเกิน ขอตัวไปเซเว่นก่อนดีกว่า...” ชนาวุฒิลุกขึ้น แล้วพูดออกมาทันที เมื่อคุณพัฒน์ออกไปแล้ว และอยากเปิดโอกาสให้ธนภัทรอยู่กับพี่สาวตนด้วย
คุณพัฒน์พาหญิงสาวมาที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน เขาจอดรถอยู่ริมฟุตบาท แต่ยังไม่ได้ลงจากรถ โดยที่ยังมีหญิงสาวนั่งซ้อนท้ายอยู่
“พี่เกื้อ”
“ครับ”
“จริงหรือเปล่าที่พี่วุฒิพูด ว่าพี่อยากจีบมุก” เธอถามเขาขึ้นมาทันที ที่อยู่กันตามลำพัง เพราะเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่เพื่อนของเขาพูดมานั้นจะจริงหรือเปล่า
“ถ้าใช่ แล้วมุกจะยอมให้ผมจีบหรือเปล่าล่ะ” เขาพูดออกมา แต่ก็ยังไม่ได้หันสบตาเธออยู่ดี เพราะแค่พูดออกไปตอนนี้ก็ถือว่าเขามีความกล้ามากพอแล้ว
“ถึงพี่ไม่ขอ มุกนี่แหละคะจะเป็นฝ่ายขอจีบพี่เอง”
“คุณมุก”
คุณพัฒน์อุทานออกมาทันที ที่เธอพูดออกมาแบบนี้ เพราะเขาก็นึกไม่ถึงว่าหญิงสาว จะมาสนใจคนบ้านนอกอย่างเขา และรุกเขาหนักเช่นนี้
“มุกพูดจริง ๆ คะ มุกอยากทำความรู้จักกับพี่เกื้อ” เธอจึงย้ำขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยท่าทีที่มุ่งมั่นพร้อมกับคำพูดที่จริงจัง
“...” คุณพัฒน์หันหน้าหนีไปทางอื่นทันที เพราะรู้สึกประหม่าทำตัวไม่ถูก และไม่รู้จะเริ่มตอบเธออย่างไรดี
เขาไม่ปฏิเสธหรอก ว่าเขาก็รู้สึกดีกับเธอเช่นกัน แต่เขาไม่กล้ามากพอที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาเธอ จนกระทั่งตอนนี้ที่เธอเป็นฝ่ายเข้าหาเขาเสียเอง ทำเอาใบหูเปลี่ยนสีระเรื่อขึ้นมาทันที
“เขินเหรอคะ” เธอจึงแกล้งถามเขาขึ้นมาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม เพราะรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยที่สามารถทำให้เขาเขินเธอได้
“ขะ ขอจับมือได้หรือเปล่า...” เขาถามขอเธอขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ติดขัด
“เอาสิคะ คิก...” แต่หญิงสาวกลับเป็นฝ่ายเอื้อมมือไปหามือของเขา และเป็นฝ่ายจับมือของเธอมากุมไว้เสียเอง ด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม
บทส่งท้าย(จบ)“เรามีลูกอีกคน สร้างครอบครัวไปด้วยกันนะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยบอกคนในอ้อมกอด ขณะที่ทั้งคู่กอดก่ายกันอยู่บนที่นอน หลังจากบทเพลงรักรอบล่าสุดจบลง“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่กลับมาหามุกกับลูก” เธอช้อนสายตาขึ้นมองเขา และเอ่ยขอบคุณเขาจากใจจริง“ขอบคุณเช่นกันครับ ที่ยังรอพี่ ต่อไปนี้เราจะไม่แยกจากกันไปไหนอีกแล้ว พี่จะดูแลมุกดูแลลูกเป็นอย่างดี จะรัก ทะนุถนอมเทิดทูลดอกฟ้าดอกนี้เป็นอย่างดีเลยครับ พี่สัญญา” เขามองสบตาเธอ ก่อนที่จะเอ่ยให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าเธอ แล้วก้มลงหอมขมับเธออย่างอ่อนโยน พร้อมกับอ้อมกอดที่กระชับแน่นขึ้นกว่าเดิม“ช่างรู้จักเปรียบเทียบนะคะ มุกไม่เคยมองพี่ด้อยไปกว่ามุกเลยนะ”“อาบน้ำกันดีกว่าครับ เดินไหวไหม” เขาจึงตัดบทขึ้น แล้วถามเธอออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะจัดหนักเธอไปตั้งหลายยกหลังจากที่ไม่ได้หลอมรวมกันมานาน“...อุ้มหน่อย” เธอมองเขาก่อนที่จะส่ายหน้าเบา ๆ แล้วอ้อนเขาขึ้นมาเหมือนเด็กที่ยังไม่โตทันที“อ้อนเก่งแบบนี้ ไม่รู้ว่านุกูลจะขี้อ้อนเหมือนแม่หรือเปล่า” เขาช้อนเธอขึ้นแนบอกในท่าเจ้าสาว แล้วเอ่ยแซวเธอออกมาอย่างไม่จริงจังนัก“นุกูลเหมือนพี่ไปเสียทุกอย่างเลยค่ะ มุกอุตส่าห์อุ้ม
ไปรำลึกความหลัง NC“ทีนี้เข้าใจคำว่าทองแผ่นเดียวกันหรือยัง” ปราโมทย์เอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่สองหนุ่มสาวที่นั่งอยู่อีกฝั่ง“เข้าใจแล้วค่ะ แล้วทำไมคุณพ่อไม่บอกละคะ ว่าลูกชายเพื่อนพ่อคือพี่เกื้อ” มุกดารินทร์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แต่ก็ยังโกรธและงอนผู้เป็นพ่ออยู่ดีที่ไม่ได้บอกความจริงและเหตุผลตั้งแต่แรก“ตอนแรกพ่อก็ไม่รู้ พ่อพึ่งจะมาทราบก็ตอนที่เขาบอกว่ารับทุกอย่างที่เป็นลูกได้ ถึงแม้ว่าลูกจะมีลูกแล้ว พ่อเลยเอะใจสืบให้คนประวัติดู แต่ไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ไง ใครจะไปคิดว่าเกื้อกูลเป็นลูกชายของพงษ์พัฒน์เขา น้องชายแท้ ๆ ของคุณพงษ์พิพัฒน์ที่ไปรักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศ” ปราโมทย์จึงอธิบายบอกลูกสาว เพราะตัวเขาเองก็พึ่งมารับรู้ความจริงเมื่อไม่นานมานี้เหมือนกัน“เป็นโชคชะตาฟ้าลิขิตมากกว่าน่ะผมว่า ไปทำผู้หญิงท้องแล้วไม่ยอมกลับไปรับผิดชอบ แถมยังไม่ส่งข่าวอีก เก็บความลับเอาไว้จนมิดเชียว” พงษ์พิพัฒน์จึงเอ่ยเสริม แต่ก็ไม่วายตำหนิน้องชายของตัวเอง“ก็ใครจะไปรู้ ว่าคำหล้าจะท้อง แต่ผมก็กลับไปหาคำหล้าตามสัญญานะพี่ แต่แค่ไปไม่ถึงเกิดอุบัติเหตุเสียก่อนอย่างที่เห็นนั้นแหล่ะเดินไม่ได้อยู่หลายปี แล้วแบบน
ความจริงคือ...“พี่เกื้อ!”ทุกคนต่างหันหน้าไปทางประตูเข้าบ้านตามเสียงของคนที่มานั่น กลับพบร่างสูงที่คุ้นเคย แต่ครั้งนี้กลับแต่งตัวดูมีพื้นฐาน พร้อมกับชายสูงวัยอีกคนที่มาพร้อมกันร่างสูงเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ยืนอ้าปากค้างมองหน้าเขาอย่างงุนงงขณะที่เจอหน้ากันอีกครั้ง ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยถามย้ำคนตรงหน้าขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ายังไงครับ ใครจะไม่ยอมแต่งงานกับพี่เหรอ”“...” มุกดารินทร์ยังคงนิ่งเงียบ เพราะยังทำตัวไม่ถูกและตกใจที่เจอเขาหลังจากที่เขาและเธอแยกจากกันไปนานเกือบสามปี“มุกยินดีที่จะแต่งงานกับพี่หรือเปล่าครับ” เขาถามเธอขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังคงเงียบไม่ตอบในสิ่งที่เขาถามไปเมื่อสักครู่ดวงตากลมโตไหวระริกมีน้ำตาเอ่อคลอ มือปัดเช็ดออกแบบลวก ๆ แต่น้ำตามากมายยังคงไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างไม่อาจห้ามอยู่“ฮึก...ตะ แต่งค่ะ มุกจะแต่งงานกับพี่เกื้อ” เสียงสั่นตอบรับคนตรงหน้าแบบไม่ลังเลก่อนที่จะสวมกอดเขาแน่นด้วยความคิดถึงและโหยหา“พอเป็นพ่อของลูกนี่ตอบแบบไม่คิดอะไรเลยน่ะ แทบจะเป็นฝ่ายขอเขาแต่งเสียเองแล้ว” ปราโมทย์อดที่จะแซวลูกสาวออกมาไม่ได้ เพราะก่อนหน้านั้นยังเถียงเขาหลังชนฝา เอาแต่ปฏิเ
แต่งงานกับคนที่เหมาะสมหนึ่งสัปดาห์ต่อมา“มุกไม่แต่งค่ะ มุกจะรอพี่เกื้อ พ่อของนุกูลคนเดียวเท่านั้น” มุกดารินทร์ปฏิเสธ ค้านขึ้นมาทันที เมื่อบิดาของเธอบอกว่าจะให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศจริง ๆ ซึ่งเป็นใครนั้นเธอก็ไม่เคยรู้ เพราะเธอไม่เคยที่จะสนใจผู้ชายคนอื่นอยู่แล้วแต่เธอแค่คาดไม่ถึง ว่าสิ่งที่บิดาเปรยเอาไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นจะเป็นเรื่องจริง ที่จะให้เธอแต่งงานกับลูกชายเพื่อนของท่าน หากว่าคุณพัฒน์ยังไม่กลับมา เพราะนี่ก็ล่วงเลยมาใกล้จะถึงสามปีแล้ว ที่คุณพัฒน์หายเงียบขาดการติดต่อตั้งแต่ที่ไปเรียนต่างประเทศ“แต่คนนี้ลูกชายเพื่อนสนิทพ่อเลยน่ะ กำลังกลับมาจากต่างประเทศด้วย”“จะเป็นใครมาจากไหน มุกก็ไม่สนทั้งนั้นแหล่ะคะ และจะไม่แต่งงานด้วยทั้งนั้น มุกจะมีแค่ผัวเดียวเมียเดียว ก็คือพี่เกื้อเท่านั้น ถึงแม้ว่าพี่เกื้อจะไม่รักมุกกับลูกแล้วก็ตาม” เธอยังคงปฏิเสธเช่นเดิม ถึงแม้ว่าบิดาเธอจะเอ่ยอย่างไรเพราะเธอสัญญากับตัวเองไว้แล้ว ว่าจะไม่รักใครอีกนอกจากพ่อของลูกเท่านั้น ถึงแม้ว่าอนาคตข้างหน้าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม เธอจะซื่อสัตย์กับใจตัวเอง“ไหนล่ะ? ไอ้คนที่ลูกรักนัก
วันเวลาเปลี่ยนสองปีผ่านไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่ารวดเร็ว แต่กลับช้าเสียเหลือเกินสำหรับมุกดารินทร์ เพราะกว่าจะผ่านไปได้แต่ละวันเธอต้องอดทนมากขนาดไหน และตอนนี้เองมุกดารินทร์จบการศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามคาดเอาไว้ภายในสองปี และเธอก็ทำได้และเธอเองก็ได้เข้ามาทำงานในบริษัทของบิดาเธอแล้ว ในตำแหน่งรองประธานและผู้บริหารบริษัทที่บิดาเธอกับวิศรุตอีกคน เพราะบิดาของเธอส่วนใหญ่จะอยู่เลี้ยงหลานที่บ้าน นาน ๆ ทีจะเข้ามาบริษัท...“แม่จ๋าครับ” เสียงเล็กของนุกูล ลูกชายวัยสองขวบครึ่งเอ่ยเรียกเธอขึ้นมาแต่ไกล พร้อมกับวิ่งเข้ามาหาเมื่อผู้เป็นลุงอย่างวิศรุตพาเดินลงมาจากบันไดบ้านชั้นสอง เพราะเมื่อคืนนี้ทั้งคู่นอนด้วยกัน“ครับ” มุกดารินทร์ย่อตัวลงขานรับลูกชาย และสวมกอดทันทีอย่างแสนคิดถึงแสนรักเสียเหลือเกินกุลพัฒน์ หรือ นุกูล ลูกชายวัยสองขวบเศษของเธอกับคุณพัฒน์ นับวันยิ่งแต่ถอดแบบของคนเป็นพ่อไปทุกที ไม่ใช่แค่เพียงเพศและหน้าตาที่เหมือนไปทางผู้เป็นพ่ออย่างเดียว แต่นิสัยก็เริ่มออกไปทางผู้เป็นพ่อด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอจะรู้ดีมากที่สุด และมีลูกชายคนนี้แหล่ะ ที่คิดถึงพ่อของลูกเมื่อไหร่ เธอมักจะมองหน้าของลูกชาย คนที่เป็
การจากลารุ่งเช้าผ้าม่านพัดปลิวไหวไปตามแรงลมที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างของห้องนอน มุกดารินทร์ลืมตาขึ้นมาอย่างแสนอ่อนล้าเอื้อมมือควานหาร่างแกร่งที่นอนกอดมาทั้งคืน กลับพบเพียงแค่ความว่างเปล่า เพราะเขาคงจะลุกออกไปตั้งนานแล้วสัมผัสจากที่นอนที่เย็นเฉียบสายตากวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง ก็ต้องก้มหน้าลงอย่างแสนเศร้า แถมทั้งห้องนอนยังไร้ร่างเล็กและเสียงของลูกน้อย เพราะไม่ได้อยู่ที่ห้องนี้แล้ว เขาน่าจะอุ้มนุกูลออกไปหรือผู้เป็นตาอาจเข้ามาอุ้มออกไป เพราะเวลานี้ก็สายมากแล้ว เป็นอีกวันที่เธอนอนตื่นสายกว่าทุกวัน และอาจเป็นเพราะเมื่อคืนที่เธอแทบจะไม่ได้นอนเลยเพราะบทรักที่เขามอบให้...“ทำไมพี่ไม่ปลุกมุกเลยพี่เกื้อ ใจร้ายจัง”น้ำตาไหลอาบสองข้างแก้มทันที เมื่อนึกน้อยใจที่คุณพัฒน์ลุกออกไปไม่ยอมปลุกเธอขึ้นมา ร่ำลากันบ้างเลย และสายตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งวางไว้อยู่บนโต๊ะของฝั่งที่เขานอน-ขอโทษนะครับ หากมุกได้อ่านจดหมายฉบับนี้พี่คงขึ้นเครื่องแล้ว ขอโทษอีกครั้งที่พี่ไม่ได้ปลุกมุก พี่คงทำใจจากมุกมาไม่ได้ พี่ไม่อยากให้มุกเห็นความอ่อนแอของพี่ พี่เลยตัดสินใจเลือกออกมาแบบนี้ดีกว่า นุกูลอยู่ที่ห้องคุณพ่อ พี่อยากใ







