Beranda / โรแมนติก / ดวงใจข้า / ตอนที่5 หานเพ่ยจี

Share

ตอนที่5 หานเพ่ยจี

Penulis: LiHong
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-10 17:37:11

พระราชพิธีพระศพของไทเฮาผ่านพ้นไปแล้วจนสิ้น

หากแต่ลี่เหยาถิงยังคงเศร้าสลดไม่เจือจาง นางยังคงโหยหาท่านยายทุกวัน ครั้นนึกขึ้นได้ว่าชีวิตมิได้มีเพียงเท่านี้ นางจึงพาร่างของตนเองมายืนทอดอารมณ์คิดคำนึงถึงบุคคลสำคัญในชีวิตยังเชิงเขาชายป่านอกเมือง ที่ซึ่งนางมักจะแอบหนีมาเล่นซน จนท่านยายทนไม่ไหวต้องลอบเสด็จตามมาเที่ยวด้วยกัน

หลายปีมาแล้วที่เชิงเขาแห่งนี้ยังงดงามไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือตัวบุคคลที่โรยราตามวัย

ส่วนตัวนางที่เคยเป็นเพียงเด็กน้อย ก็เติบใหญ่เป็นสาวงามสะพรั่ง

ประโยคนี้ล้วนเป็นท่านยายที่พูดให้นางฟัง

ท่านยายบอกว่า ยามที่นางยังเป็นเด็ก นางมีส่วนคล้ายท่านพ่อ แต่เมื่อโตขึ้นจนอายุสิบห้านางกลับเหมือนท่านแม่

ความงดงามที่ล้ำเลิศนี้ ทำบุรุษมากหน้าต่างหมายปอง แต่ทว่าด้วยใจที่ยึดติดไม่ต่างจากผู้ให้กำเนิด จึงทำให้นางเฝ้ารอเหอหย่งหมิงมาโดยตลอด

ลี่เหยาถิงไม่เคยคิดว่าตนเองทำผิด ที่นางปักใจรักใคร่ชายผู้นี้

ตั้งแต่นางจำความได้และรับรู้เรื่องราวของลุงเหอผ่านท่านยายที่เล่าให้ฟัง นางก็ฝังใจมาโดยตลอดว่าเหอหย่งหมิงย่อมเหมือนกับลุงเหอผู้เป็นบิดาของเขา

แม้จะยังไม่เคยพบหน้าแต่ทว่านางก็ยังรอคอยที่จะได้มีโอกาสพบเจอเขาอย่างมีความหวัง

และยิ่งได้พบหน้ากันครานั้น นางก็มั่นใจแล้วหลายส่วนว่าต้องเป็นเขา

ทว่าหลายปีผันผ่าน เขาเติบใหญ่เป็นชายกล้ากลางสนามรบ นางเติบโตเป็นหญิงงามในห้องหอ

มีเพียงนางที่จำเขาได้ฝ่ายเดียว ในขณะที่เขาไม่เคยเหลียวหลังมามองนางเลยสักครา

กระทั่งเวลานี้ ที่เราสองได้แต่งงานกันแล้ว

ย้อนคิดกลับไปเมื่อยามที่พระราชพิธีเคลื่อนขบวนพระศพของไทเฮาจากวังหลวงไปยังสุสานหลวง เหอหย่งหมิงได้กลับมาจากค่ายทหารเพื่อยืนเคียงข้างนางในตำแหน่งสามี

แต่ทว่าความเฉยชาบนใบหน้าหล่อเหลาที่นางได้เห็น ช่างตอกย้ำชัดเจนเหลือเกินถึงความห่างเหินที่มีให้กัน

ทั้งๆ ที่นางชอบเขาถึงเพียงนี้

ชอบมานานปีตั้งแต่จำความได้

ลี่เหยาถิงยังคงยืนเดียวดายเงียบงันที่เชิงเขาแห่งนี้เนิ่นนาน สองสายตาเรียวสวยดั่งหงส์ ทอดมองไปยังทิวทัศน์งดงามสุดลูกหูลูกตา ทว่ากลับตกอยู่ในภวังค์มืดมน

ชั่วจังหวะที่ลี่เหยาถิงกำลังจมดิ่งในห้วงคำนึงแห่งตน จู่ๆ นางก็รู้สึกเสียดหน้าท้องขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

หลายวันมาแล้วที่นางรู้สึกเจ็บท้องเช่นนี้ แต่ทว่าด้วยจิตใจที่ยังหมกมุ่นเกี่ยวกับท่านยาย นางจึงลืมว่าตนเองไม่สบาย

เรียวคิ้วโก่งดั่งใบหลิวพลันขมวดกันแน่นอีกครา เมื่อรู้สึกได้ว่าท้องน้อยของตนกำลังเจ็บยิ่งกว่าเดิม

ลี่เหยาถิงเพียงหลับตา รอเวลาที่จะรับรู้ได้ว่าความเจ็บนี้ค่อยๆ เจือจางไป

เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเพราะความเครียดสะสมที่มีมาอย่างต่อเนื่องช่วงหลายวันมานี้ นางกินอะไรก็ไม่รู้รสด้วยซ้ำจึงมิใช่เรื่องแปลกที่จะเจ็บท้อง

ชั่วจังหวะที่หญิงสาวกำลังจัดการกับความรู้สึกของตนเอง เสียงอ่อนหวานคุ้นหูพลันดังขึ้นทางด้านหลัง

“คิดเอาไว้แล้วเชียวว่าเจ้าต้องมาที่นี่”

สิ้นเสียงนั้น ลี่เหยาถิงก็หาได้นำพาอันใด ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมองผู้พูดเสียด้วยซ้ำ ทว่าผู้มาเยือนก็ยังคงพร่ำไม่หยุด

“มีความสุขหรือไม่? ที่ได้แต่งงานกับชายที่รัก แล้วมีความสุขหรือไม่ ที่มายืนอยู่ตรงนี้อย่างเดียวดาย”

ดวงเนตรงามล้ำพลันหรี่เล็กลง ความเศร้าซึมและความเจ็บปวดบนหน้ามลายหายไปจนสิ้น คงเหลือเพียงความเกลียดชังที่เข้ามาแทนที่ ไม่บอกก็รู้ว่า บุคคลที่เดินเข้ามาพร้อมประโยคเช่นนี้เป็นใคร

ลี่เหยาถิงหันหน้าไปแล้วยกมือสะบัดขึ้นตบหน้าผู้พูดพร่ำฉาดใหญ่

เพี๊ยะ

เสียงฝ่ามือกระทบผิวแก้มดังเสียจนสาวใช้ของลี่เหยาถิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลจำต้องถอยล่นไปอีกหลายก้าว

ผู้ถูกตบถึงกับถลึงตาจ้องมองอย่างเดือดดาล ยกฝ่ามือขึ้นกุมแก้มนวลที่แดงก่ำเป็นรูปฝ่ามืออย่างแค้นเคือง

ทั้งสองยืนนิ่งจ้องหน้ากันเนิ่นนาน

ชั่วครู่ต่อมา ผู้ถูกตบเพียงลูบแก้มตนเบาๆ ก่อนจะแสยะยิ้มตรงมุมปาก แล้วเอ่ยเสียงหวานอีกครา

“หย่งหมิงไม่กลับไปหาที่จวนก็เลยมาพาลเอากับคนรักของเขาหรือไร?”

ลี่เหยาถิงแค่นเสียงเย็นชาต่อปากว่า “คนรักจอมปลอมเช่นเจ้า เขาก็มิได้ติดต่อเจ้ามิใช่หรือไร?”

ประโยคนั้นทำดวงตากลมใสของเพ่ยจีพลันไหวระริกราวกับมีเพลิงโหมรุนแรงขึ้นมาวูบหนึ่ง

ทว่าเพียงพริบตาก็กลับมาเป็นปกติ นางสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดียิ่งกว่ามากนัก

เพราะนางรู้ดีถึงนิสัยใจร้อนของอีกฝ่าย นอกจากจะดื้อรั้นเอาแต่ใจแล้วยังอารมณ์ร้อนคิดน้อยมาแต่ไหนแต่ไร

อย่างนี้ล่ะ! สนุกยิ่ง!

เพ่ยจีปรับสีหน้าให้อ่อนหวานเช่นเดิม กิริยาอ่อนโยนเช่นเดิม แล้วโปรยยิ้มงดงามส่งให้ลี่เหยาถิง ก่อนเอ่ยอีกครั้งอย่างตั้งใจยั่วโทสะ

“ในเมื่อเจ้ารักหย่งหมิงถึงเพียงนี้ ลงทุนใช้ตัวเองปกป้องเขาถึงเพียงนี้...คนยึดติดในรักเช่นเจ้า ข้าจะแกล้งอันใดให้สาสมกับความโง่งมดี อืม...” หญิงสาวทำท่าคิดหนักยามเอ่ยด้วยถ้อยวาจานุ่มละมุนน่าฟัง

ลี่เหยาถิงพลันหรี่ตา นางรู้ดีถึงบุคลิกน่ารักน่าเอ็นดูของอีกฝ่าย ซึ่งสวนทางกับประโยคที่เอื้อนเอ่ยโดยสิ้นเชิง หญิงสาวจึงเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ดวงตาลุกโชนด้วยไฟแห่งโทสะ

“ใช่! ข้ารักเขา และข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้าใช้เขาเป็นสะพานในการแก้แค้น เพื่อสนองต่อความพ่ายแพ้ของตัวเจ้าเอง”

เพ่ยจีได้ฟังก็แค่นยิ้มเย้ยหยันใส่หน้าลี่เหยาถิง

“อ้อ...เช่นนั้นหรือ แล้วเหตุใดเขาถึงไม่เชื่อเจ้าเล่า!”

คำพูดนี้ทำลี่เหยาถิงพลันชะงักนิ่งไป

เป็นความจริงที่ว่า นางเคยบอกกล่าวแก่เหอหย่งหมิงแล้ว ว่าเพ่ยจีร้ายกาจปานใด เป็นนางปีศาจที่ชั่วช้าแค่ไหน

แต่ทว่า นอกจากเหอหย่งหมิงไม่เชื่อนางแล้ว ยังคิดว่านางทำไปด้วยหลงใหลในตัวเขาจนเห็นผิดเป็นชอบจึงทำทุกทางอย่างเอาแต่ใจเหมือนคุณหนูคนอื่นๆ ที่พยายามเข้าหาเขา

ให้ตายเถิด! เป็นชายแกร่งรูปงามแล้วอย่างไร ไยไม่ฟังคนงามเช่นนางบ้างเลย…

สตรีทั้งสองจึงยืนจ้องหน้ากันอีกครา

เนิ่นนานยิ่งกว่าเดิม…

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดวงใจข้า   ตอนที่32 กลับบ้าน1

    หลังจากผ่านค่ำคืนร่ำลาด้วยสุราหลายไหยามเช้าย่ำรุ่งผ่านเข้ามาจึงถึงเวลาเอ่ยคำลาที่แท้จริงท่านหมอซุนยังคงเอ่ยสำทับอีก หากว่ามาเยี่ยมเยือนกันคราวหน้า ให้มีลูกเล็กมาด้วยจึงจะดีลี่เหยาถิงได้ฟังก็หน้าแดงหูแดงก้มหน้ารับคำพึมพำ ในขณะที่เหอหย่งหมิงสบประสานสายตากับท่านหมอแน่วนิ่งด้วยความหมายที่รู้กันเฉพาะพวกเขาว่าท่านหมอบำรุงนางอยู่สองปีเพื่อการนี้…เนื่องจากลี่เหยาถิงเคยตกเลือดจนอวัยวะภายในช้ำหนัก การมีลูกอีกคราเกรงว่าจะยากนัก ท่านหมอจึงปรุงยาบำรุงให้นางมาโดยตลอด และยังมอบให้เหอหย่งหมิงทั้งหมด จากนี้ความสามารถเรื่องทายาทก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นสามีแล้วเหอหย่งหมิงพาลี่เหยาถิงเดินทางออกมาจากหมู่บ้านซื่อเจี้ยนจวงมาถึงเมืองหลวงในหลายวันถัดมาชายหนุ่มตัดสินใจพาหญิงสาวเข้าเฝ้าฮ่องเต้ซึ่งนับได้ว่าเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่เจี้ยนหยางฉีฮ่องเต้ทรงแปลกพระทัยเป็นอย่างมาก ที่เหอหย่งหมิงยังไม่ตายยิ่งกว่านั้น หลานสาวของพระองค์ก็ยังมีชีวิตอยู่สวรรค์!แล้วศพเหล่านั้นคืออันใด?ดวงพระเนตรหรี่มองตลอดเวลาอย่างไม่อยากเชื่อถือว่าจะเป็นไปได้ “โชคดีเหลือเกินที่เรายังมิได้เรียกคืนจวนแม่ทัพแล้วส่งต่อ

  • ดวงใจข้า   ตอนที่31 จากลาเพื่อพบพาน 2

    ผ่านไปอีกสองวันสองคืน ในที่สุดการแข่งขันก็รู้ผลผู้ชนะสูงสุดของการประลองคือเหอหย่งหมิงที่สามารถกำชัยคว้าตำแหน่งเจ้าสำนักเหอเสียงคนใหม่เอาไว้ได้ตามประสงค์หลังงานเลี้ยงแต่งตั้งเจ้าสำนักจบลง เหอหย่งหมิงที่ใช้นามว่าฉางยวนก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน ในการจัดการสำนักให้อยู่ในที่ในทางเหอหย่งหมิงที่เป็นถึงแม่ทัพดูแลทหารในอาณัติแห่งราชสำนักนับสิบหมื่น จึงมิใช่เรื่องยากหากฉางยวนจะดูแลสมุนในอาณัติของเหอเสียง เปลี่ยนรูปแบบของเหอเสียงแห่งโจรป่าเป็นสำนักคุ้มภัยในใต้หล้าเรื่องนี้ชายหนุ่มได้รับวาจาเห็นชอบจากเจ้าแห่งยุทธภพที่ควบคุมเหนือพิภพด้วยตนเอง จึงง่ายดายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือยามบ่ายฟ้าใสไร้เมฆบดบังแสงตะวันพาให้สายลมอุ่นร้อนโชยผ่านผืนป่าเขียวขจีระลอกแล้วระลอกเล่าจากเดือนหนึ่งล่วงเลยไปอีกเดือนหนึ่งเดือนแล้วเดือนเล่า ในที่สุดท่านหมอเทวดาก็เดินทางกลับมาจากหาสมุนไพรในป่าใหญ่เหนือหุบเขายอดเมฆาท่านหมอผู้นี้มีนามว่า ซุนผินเขาเป็นชายวัยกลางคน รักสันโดษแต่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ด้วยวิชาแพทย์ที่มีเหนือสามัญหากเปรียบเป็นนักพรต เขาย่อมเป็นนักพรตที่ตบะสูง หากเปรียบเป็นชาวยุทธ์ คงไม่แคล้วเป็นรองเพียงเจ้ายุทธภพ

  • ดวงใจข้า   ตอนที่31 จากลาเพื่อพบพาน 1

    ท้องฟ้าแจ่มใสหมู่เมฆเคลื่อนหายเหล่านกกาบินขับขาน ยามใดที่มีเทศกาลในหมู่บ้าน ทั้งสี่คนก็มักจะจับจูงมือกันเป็นคู่ๆ ไปเที่ยวชมงานวันนี้ก็เช่นกัน หมู่บ้านซื่อเจี้ยนจวง กำลังมีงานครื้นเครงเป็นอย่างมาก เนื่องจากสำนักเหอเสียงแห่งยุทธภพกำลังขาดผู้นำสูงสุด เพราะเจ้าสำนักคนเก่าหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย เจ้าสำนักคนใหม่นามว่าเฉิงอู่ก็ครองตำแหน่งได้เพียงสามวันพลันจบชีวิตลงอย่างปริศนา อีกทั้งสำนักเหอเสียงแห่งเดิมก็โดนถล่มจนพินาศย่อยยับไม่เหลือซาก ต่อมาเจ้ายุทธภพที่ควบคุมทุกสำนักในใต้หล้าจึงได้ก่อตั้งสำนักเหอเสียงขึ้นมาใหม่ให้อยู่ในอาณาเขตหมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อเป็นเกียรติอดีตจอมกระบี่อันดับหนึ่งของแคว้นและจัดงานประชันผู้กล้าขึ้นมา เพื่อคัดเลือกนายเหนือหัวแห่งเหอเสียงคนใหม่ เพื่อเป็นหลักให้ลูกสมุนที่ไร้หัวเหลือแต่หางงานนี้เซียนเซียนจึงส่งเหวินเต๋อร์เข้าประลอง เผื่อว่าจะได้นั่งในตำแหน่งนายหญิงของเจ้าสำนักเหอเสียงแต่ทว่า...หญิงสาวได้หลงลืมไป ว่าสามีตนมิใช่ยอดฝีมือ งานนี้จึงได้เห็นสามีพ่ายแพ้ยับเยิน เซียนเซียนจึงได้แต่ปลอบใจ ว่าไม่เป็นไร ที่บ้านใกล้หมอและมียา หากเหวินเต๋อร์ตายไปก็จะหาสามีใหม่เ

  • ดวงใจข้า   ตอนที่30 ชีวิตคู่3

    นางกล่าวเสียงเข้มแม้พวงแก้มจะแดงก่ำไปทั่วถึงลำคอเหอหย่งหมิงได้แต่เหม่อมองริมฝีปากนาง ด้วยดวงตาทอประกายร้อนแรงแห่งเพลิงปรารถนากระทั่งถูกฝ่ามือเล็กเอื้อมมาปิดตานั่นล่ะ เขาถึงได้สติกลับมาจากการถูกปีศาจราคะครอบงำ เห็นคนงามส่งค้อนวงใหญ่ใบหน้างอง้ำ จึงตีท่าทางเคร่งขรึมนั่งนิ่งให้นางทายากว่าจะได้กินข้าว ก็หยอกเย้ากันในห้องครัวจนไฟแทบลุกเผาไหม้เครื่องเรือนอยู่เป็นนานหลังมื้ออาหารตามด้วยดื่มยาจนหมดเทียบตามคำสั่งเฉียบขาดของภรรยา เหอหย่งหมิงจึงได้เอ่ยคำอีกครั้ง“เราควรกลับบ้านกันได้แล้ว ข้าจะพาเจ้าเข้าเฝ้าฝ่าบาท”ลี่เหยาถิงพยักหน้าเห็นด้วย ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นางไม่คิดจะกลับไป แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน นางมีสามีพากลับบ้าน ย่อมแตกต่างจากการที่นางรอนแรมกลับไปเพียงลำพัง“รอท่านหมอกลับมาจากหาสมุนไพรก่อนเถิด แล้วเราค่อยลาท่านจากไปพร้อมกัน”หญิงสาวกล่าวเสียงนุ่ม ชายหนุ่มยกยิ้มตอบรับ“ย่อมเป็นเช่นนั้น ท่านหมอเป็นผู้มีพระคุณต่อเราสอง ท่านช่วยชีวิตเจ้าและข้าเอาไว้”เหอหย่งหมิงพอจะจำได้เลือนราง ว่ายามที่เขาตกหน้าผาลงมา มีท่านหมอวัยกลางคนผู้หนึ่งช่วยต่อลมหายใจให้เขาย่างเข้าเดือนสี่ อากาศร้อนกำลังดีเซียนเ

  • ดวงใจข้า   ตอนที่30 ชีวิตคู่2

    เสียงหายใจหอบกระชั้นสั่นระรัวดังผสานกรุ่นกลิ่นอายวสันต์ เร่าร้อนตลบอบอวลกายแนบกาย ใจชิดใกล้ไม่คิดห่างหายแม้เสี้ยวเวลาเดียว…ถึงแม้เหอหย่งหมิงยังคงนึกหวาดหวั่นว่านางจะจำได้ขึ้นมา ว่าเขาได้ทำพลาดมากมายปานใดแต่ทว่า...ขอเพียงแค่ได้นางคืนมา ได้ยื้อเวลาเพื่อให้นางไม่จากไปไหน จะให้เขาทำอะไร เขายอมทั้งนั้นหวังเพียงอยากเป็นอยู่อย่างนี้ ที่มีนางให้รักต่อไป ยืดเวลาให้เขาได้พิสูจน์หัวใจต่อนางได้อีกครา ก่อนที่วันหนึ่งความทรงจำนางจักกลับมา แล้วเกลียดเขาวันนั้นอาจจะเป็นวันที่สองเราเชื่อมกายใจผูกพันลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณ ยากถอนคืนเขาหวังแค่เท่านั้น มีนางเป็นดวงใจตลอดกาล...ยามรุ่งเช้าเข้าวันใหม่ แสงแดดสาดส่องทอประกายไปทั่วใต้นภาในครัวหลังน้อยมีกลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยวนไปทั่วในอากาศผสมผสานกลิ่นยาขมฝาดแสบจมูก ที่ตั่งตรงโต๊ะในครัวมีสามีภรรยาดูแลเอาใจใส่กันและกันไม่ห่าง“สามีข้า นอกจากงามสง่า ยังกร้าวแกร่งยิ่งนัก”เสียงกังวานของลี่เหยาถิงที่ดังออกมาแฝงไปด้วยแววหยอกเย้าและติติงประชดประชัน ยามนั่งดูบาดแผลให้ชายผู้เป็นสามีที่บัดนี้ปริแตกไปทั่วเนื้อตัว จนนางต้องจัดยาสมุนไพรห้ามเลือดและสมานแผลมาพันให้“เป็

  • ดวงใจข้า   ตอนที่30 ชีวิตคู่1

    ย่ำรุ่งที่เท่าไหร่มิอาจนับยามต้องนั่งเหม่อมองอย่างไร้ตัวตน ย่ำพลบค่ำที่เท่าไหร่แล้วที่เดียวดายหลั่งน้ำตาถามตนเองซ้ำๆ ว่านางเป็นใครในห้องหับอันโดดเดี่ยวอ้างว้าง นางเฝ้าครุ่นคิดอย่างเศร้าสร้อย เฝ้ารอคอยใครบางคนด้วยความทุกข์ระทมไร้ขอบเขตไร้เหตุผลนานเท่าไหร่แล้วที่คาดหวังว่าใครบางคนจักมองมากี่คราแล้วที่หัวใจดวงนี้เพรียกหาเพียงเขาให้เห็นนางด้วยหัวใจอย่างแท้จริงเหอหย่งหมิง...นั่นคือถ้อยประโยควาจาที่ดังสะท้อนกึกก้องอยู่ในห้วงนิทราลี่เหยาถิงสะดุ้งตื่นอย่างตกใจจนร่างอรชรสั่นเทามิอาจควบคุม“เป็นอะไร?”เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามทันใดเมื่อสัมผัสได้ถึงร่างระหงในอ้อมกอดที่สั่นไหว นางคล้ายกับตกใจในบางสิ่งหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ จ้องมองฝ่าความมืดสลัวในห้องนอน ที่ยามนี้เปลี่ยนจากทิวาเป็นราตรีมานานแล้ว“หย่งหมิง” ลี่เหยาถิงตะเบ็งเรียกนามเจ้าของอ้อมแขน พร้อมผงกศีรษะขึ้นมาแล้วเอื้อมมือกุมสันกรามเขา“อันใด?” ชายหนุ่มนึกฉงนระคนหวาดหวั่นพลันระแวง“เป็นท่าน” หญิงสาวกล่าวเสียงดังเหอหย่งหมิงตั้งใจฟังด้วยอาการตัวเกร็ง“อะไร? จำอะไรได้หรือไร?” เกรงกลัวเหลือเกินว่านางจะจำเรื่องราวเลวร้ายได้ แล้วเกลียดเขาเสียงแหล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status