Share

บทที่ 10

last update Last Updated: 2025-11-08 23:35:06

“นี่แค่ข้างหลังยังดูดีขนาดนี้เลย เห็นเขาพูดกันว่าเทียบโอนย้ายมาที่นี่ แต่ไม่รู้ว่าเข้าคณะอะไร”

“พอได้แล้วน่า ไปเหอะฉันต้องเขียนรายงานต่อ” มะปราง ละสายตาจากรูปร่างที่งดงามปริศนาแล้วหันมาหยิบสมุดกับหนังสือเรียนแล้วลุกออกจากโต๊ะที่ใช้พักผ่อนหย่อนใจใต้ต้นไม้

รณภพพยายามหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูบ่อย ๆ เกรงว่าจะมีสายเข้าเพราะเป็นห่วงคนที่เขาขังไว้ในบ้านหลังเล็ก

“ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเลิกดื้อได้หรือยัง ” เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะจัดการกับเอกสารการเทียบโอนมาเรียน ดีนะที่เขาสอบใบประกอบวิชาทางการแพทย์ขั้นที่หนึ่งไปแล้ว การย้ายมาเรียนแพทย์ปีสี่ที่นี่ก็ถือว่าหนักสำหรับเขาเอาเรื่องเพราะต้องเริ่มเข้าวอร์ด ดูแลคนไข้ ตามหลักสูตรที่วางไว้ ที่กังวลคือ เวลา ยิ่งภัสสรเป็นแบบนี้เขายิ่งกังวล ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมีความรู้สึกนี้ได้ ยิ่งนึกถึงตอนที่เรียน คุณหนูจอมแสบมีเรื่องทีไร เขาเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวด้วยแทบทุกเรื่อง รอยยิ้มผุดขึ้นในวงหน้าหล่อเหลาเมื่อนึกถึงวีรกรรมที่หล่อนเคยทำไว้

“ มิก มิกจริง ๆ ด้วย ” ร่างสูงโปร่งหันมามองตามเสียงที่เรียกชื่อของเขาแล้วก็ต้องชะงัก เพราะคนตรงหน้าคือคนที่เขาไม่ได้ติดต่อมานาน

“ มะปราง ”

“ มิกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ”

“ เอ่อ พอดีว่ามาทำเรื่องเทียบโอนน่ะ ”

“ จริงหรอ มิกเรียนคณะอะไร ”

“ แพทยศาสตร์ ว่าแต่ปรางเถอะเรียนที่นี่ด้วยหรอ ”

“ อืม ปรางเรียนสหเวช ไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอมิกอีก ดีใจที่สุดอ่ะ ” หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้มหวาน รอยยิ้มที่เขาจดจำได้ดี ปราง ปรางวลัย สุริวงศ์ รักแรกของเขาเมื่อตอนมัธยมต้นจนถึงมัธยมปลายไม่คิดว่าโลกจะกลมจนให้เขาได้พบกับเธออีกหลังจากเหตุการณ์เมื่อสามปีที่แล้ว

“ ไปหาที่นั่งคุยกันสักหน่อยไหม ”

“ อืม ได้สิ ” หนุ่มหล่อและสาวสวยที่เดินเคียงคู่กันเป็นที่จับตามองของหลาย ๆ คน เพราะดูเขาสองคนเหมาะสมกัน มีเพียงรณภพเท่านั้นที่เข้าใจดีทุกอย่าง

ในห้องเล็ก ๆ ที่ภัสสรโดนกักตัวไว้ เธอรู้สึกโมโหและโกรธรณภพเป็นอย่างมาก การกลับมาของเขาในคราวนี้ถึงแม้เธอจะดีใจอยู่ลึก ๆ ก็ตาม แต่เสียใจที่ไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าของเขา ไม่รู้ว่าหน้าตาของเขาจะเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด

“ วาว ” เสียงเรียกที่คล้ายกับตะโกนทำให้ภัสสรสะดุ้งตกใจ เรียกรอยยิ้มกว้างจากทีปกรได้เป็นอย่างดี

“ ทำบ้าอะไรของนาย ทำไมต้องทำเสียงดังด้วย ”

“ ก็เห็นคุณเหม่อ ๆ คิดอะไรอยู่เหรอ แล้วทำไมถึงมาอยู่ในห้องนี้ได้ ” ทีปกรยืนกอดอกมองไปรอบ ๆ ห้อง

“ โดนจับมาขังน่ะสิ ฮึ่ย เจ็บใจชะมัด ” หญิงสาวทำเสียงฟึดฟัดอารมณ์ขุ่นยังมีให้เห็น ทีปกรเดินไปมองซ้าย มองขวา สังเกตุห้องโดยรวมก่อนจะเดินตรงไปนั่งยังเก้าอี้เยื้อง ๆ จากเตียงนอนที่หญิงสาวนั่งอยู่

“ คุณมีอะไรให้ผมช่วยไหม ”

“ นายจะช่วยอะไรฉันได้ ”

“ ก็ไม่แน่ ” ชายหนุ่มมองที่นิ้วมือของตัวเอง สีหน้าที่ดูมีเลศนัยนั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกอยากสนุกแต่อยู่ ๆ ภัสสรก็มีอาการแน่นหน้าอกกระทันหัน

“ อึก ฮึก ”

“ วาว คุณเป็นอะไร ”

“ ฉะ ฉันหายใจไม่ออก ” ร่างบอบบางหายใจฝืดขัดอาการแน่นหน้าอกที่จุกขึ้นมากระทันหันทำให้ทีปกรกุลีกุจอตรงไปหาภัสสรอย่างร้อนรน

“ เกิดอะไรขึ้นน่ะ ยาของคุณล่ะ อยู่ไหน ” เขารู้เพราะภัสสรเคยบอกว่าเธอเป็นโรคหอบหืด

“.........” หญิงสาวส่ายหน้าแทนคำตอบ อาการจุกอกหายใจไม่ออกแบบนี้ สีหน้าที่ซีดเผือดของหญิงสาวทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุข ตะโกนให้ใครช่วยก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือ…

ทีปกรหายตัวเข้าไปอยู่ในตัวบ้านหลังใหญ่ มองสาวใช้ทั้งหลายที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เขามองยังโต๊ะ ข้าง ๆ ที่มีขวดน้ำพลาสติกอยู่แล้วปัดมันล่วงจากโต๊ะ

“ แกร๊ง ” ขวดน้ำที่หล่นโดยที่ไม่มีลมพัดแถมในขวดยังมีน้ำอยู่เกือบเต็มทำให้สาวใช้มองหน้ากันด้วยความฉงน แต่ก็เดินมาเก็บขวดน้ำตั้งขึ้นเช่นเดิม แล้วหันไปคุยกันอย่างไม่สนใจ

“ จึ้ ” เขาจึ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์ที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ ทีปกรเริ่มตีรวนสิ่งของทุกอย่างบริเวณห้องครัวให้ดังระนาวจนสาวใช้พากันแตกตื่นกับเสียงที่ดังขึ้นโดยที่ไม่มีสาเหตุ

“ แกร๊ง ๆ ๆ เพล้ง ๆ ” บรรดาสาวใช้วิ่งออกจากห้องครัวแทนที่จะวิ่งไปทางหลังบ้านแต่กลับวิ่งไปหน้าบ้านซะอย่างนั้น

“ กรี๊ด ผีหลอก ผีหลอก ” สาวใช้ทั้งหลายกรีดร้องโวยวายเสียงดัง ทีปกรถอนหายใจก่อนจะหายตัวไปดักหน้าของสาวใช้ทั้งหลาย แต่พละกำลังที่จะแสดงให้คนอื่นเห็นกลับหายไปเมื่อมีชายหนุ่มอีกคนเดินก้าวเข้ามา

“ เสียงดังเอะ อะ อะไรกันครับ”

“ ผะ ผีหลอกค่ะคุณมิก ผีหลอก ” สาวใช้วิ่งมาเกาะแขนของชายหนุ่ม รณภพยิ้มหวานแล้วส่ายศีรษะเบา ๆ

“ ผีมีที่ไหนกันครับ ไม่มีหรอก แล้วนี่คุณหนูของพวกพี่เขากินข้าวบ้างหรือยัง ”

“ อะ เอ่อ ยะ ยังค่ะ ” เสียงสาวใช้ที่ยังคงตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบอกตะขลุกตะขลัก

“ แล้วกุญแจที่ผมให้ไว้ล่ะครับ ” เขาแบมือขอกุญแจที่เขาให้ไว้ก่อนที่จะไปทำธุระ

ทีปกรที่ยืนมองสถานการณ์เมื่อเห็นทีท่าว่าทุกคนไม่รีบร้อนที่จะไปบ้านหลังเล็กเขาจึงผลักกระถางต้นไม้ ที่อยู่ตรงชั้นประดับที่วางติดระตูหลังของห้องครัวให้ล่วงลงพื้นทำให้ทุกคนในบ้านหันมองกัน รณภพไม่รอช้าที่จะวิ่งออกไปดู กระถางต้นไม้ที่หล่นลงมา มันทำให้ทุกคนฉงนเพราะไม่มีลมแรงพอที่จะพัดให้มันหล่นลงมาได้เลยแม้แต่น้อย

“ ตุ๊บๆ ตุ๊บ ” เสียงคล้ายคนทุบประตูที่ดังมาจากบ้านหลังเล็กมีคุณหนูคนเล็กของบ้านอยู่ยิ่งทำให้รณภพคว้ากุญแจห้องเปิด ภาพของภัสสรที่นอนสลบอยู่ตรงพื้นทำให้เขาตกใจ

“ วาว วาว ” ร่างสูงโปร่งรีบมาคว้าตัวหญิงสาวอุ้มเธอให้อยู่ในอ้อมกอดแล้วรีบตรงไปที่รถของตัวเอง

ทีปกรก็ตามเขาไปด้วย เพราะเขาไม่สามารถอุ้มเธอได้อย่างที่รณภพกำลังทำดังนั้นสิ่งที่ทีปกรทำได้ก็คือทำให้เกิดเสียง ทีปกรได้แค่ยืนมองจากนอกรถเท่านั้น เขาไม่สามารถขึ้นไปบนรถของชายร่างสูงคนนี้ได้ เพราะบนรถมีแม่ย่านางที่สวยงามมองเขาอยู่ แต่ทำไมเขาถึงเข้าบ้านของหญิงสาวคนนี้ได้กันล่ะ เขาหันไปมองศาลพระภูมิที่อยู่หน้าคฤหาสน์หลังงามแห่งนี้ โลกที่เขาอยู่มันคือโลกของวิญญาณ เขายังไม่เข้าใจสาเหตุที่เขาได้มาเจอกับเธอเลย ทีปกรมองรถคันงามวิ่งแล่นออกจากตัวบ้านด้วยความเร็วเขาเป็นห่วงผู้หญิงในรถเหลือเกิน

รถคันงามของรณภพขับมาด้วยความเร็ว ทันทีที่ถึงโรงพยาบาลรณภพก็ก้าวลงจากรถรีบเปิดประตูฝั่งที่ภัสสรนั่ง อุ้มร่างบอบบางใส่เตียงลากส่งให้บุรุษพยาบาลเข็นเข้าห้องฉุกเฉินทันที ระหว่างทางเขาโทรมาประสานงานกับโรงพยาบาลก่อนแล้ว เมื่อเตียงผู้ป่วยถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน รณภพนั่งรอหน้าห้อง เขากุมมือเข้าหากัน เม้มปากแน่น เพราะไม่รู้ว่าหญิงสาวหมดสติไปนานแค่ไหน หากว่าเธอไม่มีโรคประจำตัวเขาคงไม่กังวลแบบนี้ อาการหอบหืดของเธอกำเริบหรือเปล่า ในสมองคิดไปร้อยแปด ชั่ววูบหนึ่ง เขาสัมผัสได้ถึงรูปร่างของใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินจนทำให้เขาต้องเงยหน้าเพื่อมอง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบเพียงความว่างเปล่า เขาตาฝาดอย่างนั้นเหรอ ทำไมรู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่กลับมาพบกับภัสสรคราวนี้ เขารู้สึกว่ามีอย่างที่ไม่เหมือนเดิมแต่ก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร

“ ครืดๆ ” เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เขาต้องหยุดความคิดของตัวเอง

“ สัวสดีครับ พี่ฐา ”

‘ มิก วาวอาการเป็นยังไง ’

“ อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ ”

‘ พี่กำลังขับรถไม่น่าเกินสิบนาทีพี่คงถึง ไว้ค่อยคุยกัน ’

‘ ครับ ’

รณภพนั่งจมในความคิดของตัวเอง สร้อยข้อมือของหญิงสาวเขาหยิบออกจากกระเป๋ากางเกง เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องพกของสิ่งนี้ติดตัวตลอดเวลา อาจเป็นเพราะว่าตลอดเวลาสามปีที่เขาไปเรียนต่างประเทศของสิ่งนี้ติดตัวเขาตลอดเวลา มันคงเป็นความเคยชินละมั้ง

“ แกร๊ก ” ทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก รณภพก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว

“ อ้าว รณภพ ”

“ อาจารย์ ”

“ เธอเป็นญาติของผู้ป่วยเองหรอ ”

“ ครับอาจารย์ อาการเธอเป็นยังไงบ้างครับ ”

“ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่าห่วง ”

“ ว่าแต่ทำไมถึงหมดสติได้ ”

“ เรื่องนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ”

“ เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้คงต้องให้หมอฐาปกรณ์มาเป็นคนอธิบายเอง อะ นั่น พูดจบก็มาเลย ” หมอสูงวัยที่มีคุณวุฒิเป็นถึงอาจารย์ที่ให้วิชาความรู้ของเขา พยักเพยิดหน้าไปทางด้านหลังจนรณภพต้องหันตามไปมอง จึงเห็นว่าฐาปกรณ์กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางเขา

“ สวัสดีครับคุณอา ”

“ อืม ถ้ายังไงอยากรู้อะไรก็ถามหมอฐาปกรณ์ละกันนะ อาจารย์ต้องขอตัวก่อน ”

“ ขอบพระคุณมากครับอาจารย์ ” รณภพยกมือขึ้นไหว้ก่อนจะหันมาทางฐาปกรณ์

“ ผมขอคุยกับพี่หน่อย ”

“ อืม ปะ ไปที่ห้องทำงานของพี่ดีกว่า ” ฐาปกรณ์ยกมือตบเบา ๆ ที่หัวไหล่แล้วเดินนำหน้ารณภพไปยังห้องทำงานของตัวเองที่อยู่อีกชั้น

ฐาปกรณ์เปิดประตูห้องทำงานแล้วเดินตรงไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเอง หันมองหน้าคนที่เป็นน้องชายของคนที่เขาแอบรัก ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอกำลังจะตั้งท้องลูกคนที่สองอยู่ก็ตาม

“ ไหน มิกมีอะไรจะถามพี่ ”

“ พี่ฐาวัดค่าปอดของวาวเป็นยังไงบ้าง ”

“ค่าปอดของวาวตอนนี้ยังคงที่ ยังไม่ถึงขั้นร้ายแรงแต่ที่พี่ห่วงมากที่สุดตอนนี้คือ ภาวะแทรกซ้อนเพราะวาวมีโรคหัวใจด้วย ถ้าสภาวะปอดแย่ลงกว่าเดิมอาจจะอันตรายถึงชีวิต การผ่าตัดหัวใจในอนาคตก็จะเป็นเรื่องที่ยาก ” ฐาปกรณ์อธิบายให้ชายหนุ่มตรงหน้าฟังอย่างละเอียด สีหน้าของรณภพมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ ว่าแต่ทำไมวาวถึงหมดสติได้ ”

“ ดื้อครับ ไม่ยอมกินข้าว สงสัยคงเป็นกรดไหลย้อน ถ้ายังดื้ออย่างนี้อีกอาการคงน่าเป็นห่วงกว่านี้ ”

“ อืม พี่ก็คิดว่าอย่างนั้น ถ้ายังไงพี่ฝากมิกดูแลวาวอย่างใกล้ชิดด้วยนะ แล้วนี่เราจะมีเวลาหรอ ไหนจะต้องเรียนด้วยนี่ ปีสี่ก็ต้องเข้าวอร์ด เริ่มสังเกตเช็คอาการของคนไข้ อีกหน่อยก็คงได้เข้าเวร แล้วอย่างนี้เรื่องของวาวล่ะจะทำยังไง ”

“ เฮ้อ ผมคิดว่าผมมีเวลาจัดการเรื่องนี้ได้ ”

“ อีกเรื่องหนึ่งมิก วาวหยุดยาที่ใช้กินนะ ”

“ เพราะอะไรครับ ”

“ เขาบอกว่าอาการตอนนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงเลยขอหยุด แต่พี่ก็ให้ยาเขาไปไม่รู้ว่าเจ้าตัวเขาจะกินหรือเปล่านี่สิ ”

“ ดื้ออะไรไม่เข้าเรื่อง ” รณภพตำหนิหญิงสาวที่เอาแต่ใจในเรื่องนี้ รณภพรู้เรื่องที่ภัสสรป่วยทุกอย่างและรู้ด้วยว่าภัสสรไม่ต้องการให้บอกพี่ชายของตนเพราะกลัวว่าพี่ชายจะยิ่งเป็นห่วง เรื่องนี้เห็นทีปล่อยไว้นานคงต้องสายเกินแก้

“ ผมขอตัวไปดูวาวก่อนนะพี่ฐา ถ้าผมมีเรื่องที่อยากรู้ ผมจะโทรหาพี่อีกทีนะ ”

“ อืม ”

รณภพเดินก้าวเข้าไปยังห้องพักฟื้น ร่างบอบบางที่นอนอยู่บนเตียง เขาไม่ชอบเห็นเธอนอนอยู่แบบนี้เลย มือแกร่งเอื้อมไปลูบหัวเบา ๆ ผิดที่เขาขังเธอไว้แล้วปล่อยให้เธอห่างสายตา การเรียนหมอเป็นเรื่องที่หนัก แต่การดูแลคนที่มีโรคประจำตัวไม่ให้เกิดอะไรขึ้นยิ่งหนักกว่า ต่อไปนี้เขาจะทำยังไงดี ไหนจะต้องเรียนอีก มือแกร่งเลื่อนลงสัมผัสมือร่างบอบบางหยิบสร้อยข้อมือในกระเป๋าขึ้นมาใส่กลับเข้าไปให้เธออย่างที่เธอเคยใส่

ข้อมือที่ขยับพร้อมกับเปลือกตาที่ค่อย ๆ ลืมขึ้น เธอสัมผัสถึงมือบางคนที่สัมผัสที่ข้อมือของเธอ

“ ตื่นละหรอจะหายดื้อได้หรือยัง ”

“ ทำอะไรของนาย ”

“ ก็ใส่คืนให้ไง ถามได้ ” เขาใส่สร้อยข้อมือให้กับภัสสรหน้าตาเฉย

“ จึ้ ” ร่างบอบบางจึ้เสียงขึ้นจมูกแล้วกระตุกแขนเข้าหาตัว คล้ายกับสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดพ้นจากเขา รณภพยิ้มมุมปากกับท่าทางรำคาญของเธอ

“ เอาอะไรมาใส่ที่มือของฉัน ”

“ สร้อยข้อมือของเธอไง ”

“ อ่อ ที่แท้อยู่กับนายนี่เองมิน่าล่ะ ฉันถึงหาไม่เจอ” ภัสสรทำน้ำเสียงตำหนิคนที่หยิบของ ๆ เธอไป สร้อยข้อมือเธอใส่มาตั้งหลายปีเพราะมีคนเคยให้ เธอเห็นว่ามันน่ารักเลยใส่ไว้ไม่เคยถอดสักครั้ง เธอตามหาสร้อยข้อมือเส้นนี้ตั้งนานแต่หายังไงก็ไม่เจอแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าหล่นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่

“ ถ้ายังดื้อแบบนี้ คงได้ตายจริง ๆ สักวัน ”

“ ตายก็ดีสิจะได้ไม่ต้องทรมานอย่างที่เป็นอยู่แบบนี้ ” คำตอบของหญิงสาวทำให้รณภพถอนหายใจออกมาดัง ๆ เขาส่ายหัวกับความคิดของเธอ จะผ่านไปกี่ปีผู้หญิงตรงหน้าก็ยังคงมีความคิดเป็นเด็กอยู่เสมอ

“ ตาเธอบอด แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีทางรักษา ถ้าเธอยังมัวแต่คิดลบแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ชีวิตมันจะดีขึ้น ทำไมไม่ทำตัวแบบเมื่อก่อนที่เคยเป็น เธอไม่คิดถึงตัวเองก็คิดถึงคนอื่นที่เขาคอยห่วงเธอบ้าง ”

“ นายไม่ใช่ฉันนี่ นายไม่มีวันเข้าใจหรอก ”

“ ฟึ่บ โอ๊ย ทำบ้าอะไรของนาย ”เสียงทะเลาะของคนสองคนดังขึ้น รณภพกระชากข้อมือภัสสรให้ลุกขึ้นนั่งจนเจ้าหล่อนร้องโอดครวญ

“ หัดฟังที่คนอื่นเขาบอกบ้าง เลิกโหวกเหวกโวยวาย แล้วเรียนรู้การใช้ชีวิตของตัวเองได้แล้วอย่าเก่งแค่คำพูด ”

“ นี่นาย!! ” ภัสสรข่มเสียงต่ำ ฟังคนตรงหน้าพูดแล้วมันจี้ใจดำเข้า เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเป็นแบบที่เขากำลังพูดอยู่

“ เรื่องที่ป่วยถ้าอยากปิดบังไม่อยากให้ฉันพูด ก็มาตกลงกัน ”

“ นายรู้ได้ยังไง ” เธอตกใจเมื่อรณภพรู้เรื่องอาการป่วยของเธอ

“ รู้มากกว่านี้อีก ว่าไง มาตกลงกันหน่อยไหม? ” เขายื่นข้อเสนอให้หญิงสาวตรงหน้าที่มีท่าทีอ่อนลง คนอย่างคุณหนูจอมแสบไม่มีทางให้ใครมาเป็นต่อเธอได้หรอก

“ อยากบอกก็บอกไปสิ ”

“ เธอแน่ใจนะว่าอยากให้เป็นอย่างนั้น...ก็ได้ ” รณภพหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์ของภวิช เขาเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อให้หญิงสาวตรงหน้าได้ยินสายตาชำเลืองมองคนที่นั่งอยู่บนเตียงที่ตอนนี้ดูไม่สงบเอาเสียเลย

“ ตี๊ด ตี๊ด ฮัลโหล / เดี๋ยว ฉันตกลง ” เสียงในช่วงจังหวะสุดท้ายก่อนภวิชจะรับสาย ภัสสรก็พูดแทรกขึ้นมาทำให้รณภพยิ้มกว้าง

‘ ฮัลโหลมิก ว่ายังไง ’ เสียงภวิชที่เรียกชื่อปลายสายอีกครั้งเพราะไม่มีเสียงตอบกลับทำให้รณภพต้องคุยแก้เก้อเพื่อเบี่ยงประเด็นก่อนหน้านี้

“ คือผมแค่จะถามว่าพี่วิชพามินไปฝากครรภ์หรือยัง พอดีผมมีรุ่นพี่ที่เขาอยู่แผนกสูตินรีจะได้ให้เขาดูแลให้ ” คำนำหน้าเปลี่ยนจากคุณเป็นคำว่าพี่เพื่อให้ดูสนิทสนม

‘ อ่อ พี่จัดการเรียบร้อยแล้ว ’

“ ครับ แค่นี้นะครับ ” รณภพกดตัดวางสายจากภวิชเพราะได้คำตอบที่พอใจ ไม่ใช่คำตอบของปลายสายหรอกนะแต่เป็นคำตอบของหญิงสาวตรงหน้ามากกว่า

“ โอเค ถ้างั้นมาตกลงกัน ” เขาหันมามองหญิงสาวที่ทำหน้าครุ่นคิด รณภพเก็บมือถือลงกระเป๋าแล้วยืนกอดอกมองหล่อน

“ ก็พูดมาสิ ”

“ ง่ายนิดเดียว ทำตามที่ฉันบอกแล้วรับรองว่าเธอจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง ”

“ นายพูดจริงหรือเปล่า ”

“ ฉ้นไม่เคยพูดให้ความหวังใครฟรี ๆ อยู่แล้ว ”

ทีปกรได้ยินทุกคำพูดที่ชายหนุ่มตรงหน้าพูดคุยกับหญิงสาวเพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวที่ปกติจะเห็นเขาแต่ตอนนี้เธอกลับไม่เห็น ผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลกับใจเธออย่างนั้นหรือเปล่าพลังของเขาจึงไม่พอที่จะให้เธอเห็นได้
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดั่งฝันตะวันฉาย ( ภาคต่อพิศวาสรักมาเฟียร้ายดวงใจมาเฟีย )   บทที่ 61

    ร้านอาหารไทยชื่อดังที่วันนี้ภวัตต์เป็นสารถีขับรถให้สองสาวนั่งมาด้วยกัน ตลอดการเดินทางรฏาป้อนขนมใส่ปากให้ภวัตต์ ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างหลังน่ะ อกแทบแตกตาย เหงื่อผุดซึมที่ใบหน้าของชายหนุ่มแต่รฏากลับยิ้มกว้างชอบใจ สองสาวกับหนึ่งหนุ่มเดินตรงเข้าไปยังร้านอาหาร โดยที่นุสราไม่ยอมแพ้ที่จะเดินควงขนาบข้างชายหนุ

  • ดั่งฝันตะวันฉาย ( ภาคต่อพิศวาสรักมาเฟียร้ายดวงใจมาเฟีย )   บทที่ 60

    ร่างสองร่างที่ตระกองกอดกัน อกเปลือยเปล่าของภวัตต์ที่กอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง ต่างคนต่างใช้ความคิดของตัวเองในหัวภวัตต์คิดเรื่องที่หญิงสาวไปพัวพันกับเอกสารของสินค้าการส่งออกของเขา มันหมายความว่ายังไง? หรือเธอรู้เห็นในส่วนที่พ่อของเธอกำลังทำ ดูเหมือนว่าความรักของเขาและเธออาจไม่ราบรื่นเหมือนตอนแรกที่คบ

  • ดั่งฝันตะวันฉาย ( ภาคต่อพิศวาสรักมาเฟียร้ายดวงใจมาเฟีย )   บทที่ 59

    ภวัตต์เอนหลังพิงกับโต๊ะทำงานด้วยความอ่อนล้า เอกสารซองสีน้ำตาลที่เขาให้คนแอบไปขโมยออกมาจากบ้านชายหนุ่มต่างชาติคนนั้นได้ ยิ่งทำให้เขาเครียดกว่าเดิม“ ก๊อก ๆ ๆ ”“ เชิญ ”“ เจ้านายครับ การขนส่งสินค้า ถูกระงับไว้ชั่วคราวตามที่เจ้านายบอกแล้วครับ ”“ ดี แล้วทางนั้นมีความเคลื่อนไหวยังไงบ้าง ”“ คิดว่าไม่นา

  • ดั่งฝันตะวันฉาย ( ภาคต่อพิศวาสรักมาเฟียร้ายดวงใจมาเฟีย )   บทที่ 58

    “ มึงก็ชอบยุ ” หัสดินพูดก่อนเดินตามหลังเอกราชไปทัดเทพก็เดินตามหัสดินไปติด ๆ“ ก็แม่งชอบเก๊ก จะโดนคาบไปแดกแล้วเนี่ย! ” เขาตะโกนตามหลัง คำเปรียบเปรยประดุจว่าเธอเป็นเนื้อหวานแสนอร่อย ที่กำลังจะโดนคนอื่นแย่งไป สายตาของอดิศรหันไปมองคู่หนุ่มสาวที่กำลังเล่นดนตรีร้องเพลงอย่างสนุกสนาน ราวกับคู่รัก เห็นแบบนี้

  • ดั่งฝันตะวันฉาย ( ภาคต่อพิศวาสรักมาเฟียร้ายดวงใจมาเฟีย )   บทที่ 57

    “ ม่าย ฉันไม่ให้นายแล้ว ” เธอพูดพร้อมกับหยิบถุงซาลาเปาหลบด้านหลัง เขาจะแย่งเอา เธอก็เบี่ยงถุงหลบไปอีกทาง“ ซาลาเปามันเป็นแป้งนะ คุณไม่กลัวอ้วนหรอ ” คนอยากกินหาเรื่องอ้างยกเหตุผลส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงกลัวมาขู่“ ช่างสิ ฉันอยากกิน ถ้าอ้วนเดี๋ยวค่อยลดก็ได้ ”“ ฮ่า ๆ ” เขาหัวเราะเมื่อผิดคาดจากสิ่งที่เขาคิด

  • ดั่งฝันตะวันฉาย ( ภาคต่อพิศวาสรักมาเฟียร้ายดวงใจมาเฟีย )   บทที่ 56

    บ้านตระกูลเพชรธานิน การพูดคุยกันระหว่างสองแม่ลูกที่กำลังนั่งทานอาหารเช้า คุณหญิงศศิชักอยากจะรู้จักสาวน้อยที่ลูกชายของเขาตามหามานานหลายปีแล้วสิ“ กร ไหนลูกบอกว่าเจอหญิงสาวคนที่ลูกเฝ้าตามหาแล้วยังไง ” “ เจอแล้วครับแม่ ” เขาตอบมารดาเสียงนุ่ม คิดถึงใบหน้าหวาน ๆ ของเธอ“ ลูกเจอเธอแล้วจริง ๆ เหรอ ตั้งแต่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status