Share

บทที่ 11 ชินวุฒิ

last update Last Updated: 2025-06-11 22:54:23

ณิชชาพลิกโทรศัพท์ไปมาอยู่ในมือ อยากจะพูดคุยกับใครสักคน

เดือนหน้า เธอจะไปทำงานกับชินวุฒิแล้ว

          ‘ผมมีแผนอยากให้คุณณิชมาช่วยเยอะเลยครับ ทุกคนที่โรงแรมผมชื่นชมประวัติการทำงานของคุณณิชมาก ผมมีโปรเจกต์ที่จะขยายจากของเดิมไปอีกหลายอย่าง คุณณิชมาก็ดีเลย เราจะได้ทำงานด้วยกัน’

...พี่อัคคะ ณิชอยากเล่าเรื่องนี้ให้พี่อัคฟังจัง ณิชจะไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้วนะคะ...

 ณิชชาคิดแล้วก็เปิดแอปพลิเคชันไลน์ ข้อความการสนทนาสั้น ๆ  ที่เธอแทบจะจำได้ทั้งหมดปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง นิ้วเรียวค่อยสไลด์หน้าจอมือถือไปเรื่อย ๆ ความคิดถึงเพิ่มขึ้นตามเวลาที่ได้อยู่เงียบ ๆ นั้น การมีข้อความเหล่านี้อยู่แม้จะไม่ปรากฏว่า เขาเปิดอ่านข้อความที่เธอส่งไปหลายข้อความจากครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกัน แต่ก็ยังคงเหมือนมีเขามาอยู่

ใกล้ ๆ

แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เธอก็ยิ่งคิดถึง คิดถึงเหลือเกิน

รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนหน้าเมื่อเปิดข้อความที่เป็นคำสอน    บางครั้งก็เป็นคำตำหนิบ้างเล็กน้อยตามประสาคนที่ดูแลเธอแบบทุกเรื่อง ทุกส่วนของชีวิต เรียกว่า ณิชชาจะมีชีวิตมาแบบนี้ไม่ได้เลย หากไม่ได้มีอัครชัยคอยดูแล แต่ถึงจะดุบ้างเป็นบางครั้ง แต่คนใจดีอย่างอัครชัยก็จะมีความเอ็นดูเจือปนออกมาด้วย ณิชชาอ่านข้อความเหล่านั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา 

กริยาเหล่านั้นอยู่ในสายตาของคนที่เพิ่งเปิดห้องทำงานออกมาด้วย คนที่เอาแต่มองเขาด้วยแววตาดื้อรั้นกำลังยิ้มอย่างมีความสุขกับบางสิ่งบางอย่างในโทรศัพท์ กำลังคุยกับใครอยู่นะ

รอยยิ้มนั้นทำให้เขาอดยกมุมปากไปด้วยไม่ได้

ณิชชาเงยหน้าขึ้นทั้งที่ยังยิ้มจนสายตาปะทะเข้ากับชลาสินธุ์ที่ยืนอยู่ตรงนั้น รอยยิ้มที่เคยกว้างขวางก็ค่อยๆ จางลง

“ต้องการอะไรหรือเปล่า” หญิงสาวใช้เวลานานกว่าจะตั้งสติได้เมื่อครู่นี้เธอเห็นชลาสินธุ์เป็นอัครชัยอีกแล้ว ทุกครั้งที่เจ้านายไม่ดุ ไม่โหด และไม่ทำตัวเลวร้าย ณิชชายอมรับว่า ชลาสินธุ์เหมือนอัครชัยราวกับคน ๆเดียวกันเลยทีเดียว

 “เปล่า ไม่มีอะไร”  ชลาสินธุ์ตอบเหมือนไม่ใส่ใจก่อนจะเดินจากไป

ณิชชามองตามจนแผ่นหลังลับหาย เสียงโทรศัพท์ในมือดังขึ้น

 “สวัสดีค่ะ คุณชิน”

“อาหารร้านนี้อร่อยมากเลยค่ะคุณชิน ณิชไม่รู้เลยว่าแถวนี้มีร้านนี้ด้วย ปกติกินแต่ในแคนทีนของบริษัท” ณิชชาพูดพลางตักต้มข่าไก่กะทิแตกฟองเข้าปากไปด้วย อาหารที่นี่หน้าตาดีทุกอย่าง จนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงความละลานตากับกับข้าวสี่ห้าอย่างบนโต๊ะ ซึ่งบางอย่างยังไม่ได้ถูกตักกินเลยด้วยซ้ำ “แต่คุณชินก็สั่งมาเยอะเกินไปสำหรับสองคนนะคะ”

“ผมอยากให้คุณณิชกินเยอะขึ้นอีกสักนิดน่ะครับ ตอนนี้คุณณิช ออกจะตัวเล็กเกินไปหน่อย”

ชินวุฒิโทร.หาณิชชาเมื่อครู่เพื่อชวนให้เธอออกมารับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน เพราะตัวเขาเองมาดูงานที่โรงแรมของตัวเองซึ่งตั้งอยู่บนถนนใจกลางกรุงเทพฯ เส้นนี้พอดี นอกจากถนนนี้จะเป็นถนนสายเศรษฐกิจรแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมามากมายด้วย เพราะเป็นถนนที่มีสถานทูตอยู่เยอะที่สุดเส้นหนึ่ง

ร้านอาหารที่เขาพาเธอเป็นอยู่ในซอยค่อนข้างแยกออกมาจากถนนไม่ไกลมาก หากไม่รู้มาก่อนว่าที่นี่คือร้านอาหาร จะคิดว่าเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังหนึ่งที่ยังคงรักษาความงดงามของตัวเองท่ามกลางความเจริญที่ผุดขึ้นรอบด้าน แต่เมื่อพิจารณาดีๆ จะเห็นว่า ภายในสวนด้านของของบ้านนั้น มีโต๊ะรับประทานอาหารอยู่หกโต๊ะ ทุกโต๊ะถูกจับจองจนเต็ม ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่มาทำงานแถวนี้

อาหารของที่นี่จึงเป็นอาหารไทยที่คนต่างชาติรู้จัก และรสชาติก็ไม่จัดจ้านจนเกินไปนัก ซึ่งนั่นก็ถูกใจณิชชามากทีเดียว

“คุณณิชทานนี่นะครับ” ชินวุฒิบอก พร้อมตักชิ้นปูเนื้อแน่นจากจานปูผัดผงกะหรี่มาวางบนจานข้าวของเธอ

“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ”

“ผมสั่งมา เพราะผงกะหรี่มีประโยชน์ เราสั่งอาหารกันมาเยอะ ก็ให้เจ้าผงกะหรี่นี้ช่วยเราย่อยด้วย”

ณิชชายิ้มกับการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเขา

“คุณณิชยิ้มน่ารักจังครับ”

อา...จู่โจมกันแบบนี้เลยเหรอ

ณิชชานั้นก้มหน้างุด เพื่อหลบซ่อนใบหน้าแดงๆ ที่ตอนนี้เจ้าตัวรู้ดีว่ามันน่าจะแดงมาจนถึงใบหูแล้ว

“ผมขอถามได้ไหมครับ” เขาเอ่ยขึ้น ดูเหมือนเสียงจะเบากว่าปกติ

“คะ? เอ่อ...ถามได้ค่ะ คุณชินมีอะไรคะ”

“คุณณิชไม่มีแฟนใช่ไหม”

ใบหน้าของหญิงสาวเจื่อนลงเมื่อได้ยินคำถาม แววความเขินอายเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นรัศมีความเศร้า

ชินวุฒิเห็นแล้วอยากจะโอบกอดและปลอบโยนเหลือเกิน

ณิชชาเพิ่งจะได้คิดพิจารณาถึงสถานะของตัวเองในตอนนี้ อัครชัยหายไปจากการติดต่อร่วมปีแล้ว นี่ยังเรียกว่าเป็นแฟนกันได้อยู่ไหม

“ไม่มีหรอกค่ะ ไม่มีมาสักพักแล้ว” หญิงสาวบอก รอยยิ้มจาง ๆ นั้นไม่ได้ขึ้นไปถึงดวงตาที่โศกเศร้า เมื่อคำถามของชินวุฒิเหมือนพาความจริงวิ่งเขาชนเธอว่า เธอเพ้อฝันอยู่กับอากาศและข้อความเก่าๆ ของอัครชัยมานานเกินไปแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นให้ผมเป็นคนดูแลคุณณิชได้ไหมครับ”

“คะ?” อา...เร็วไปหน่อยแล้ว เธอยังไม่หายคิดถึงพี่อัคเลย

          “ผมเองก็โสดมาสักพักแล้วเหมือนกัน” ยิ่งอีกฝ่ายเงียบไป เขาก็ยิ่งรุกหนักเข้าไปใหญ่

          “คือ...”

“ไม่เป็นไรครับ ยังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้”

“คือณิชไม่ได้รังเกียจคุณหรอกค่ะ เพียงแต่มันเร็วไป เราเพิ่งรู้จักกัน และเดือนหน้า ณิชก็กำลังจะทำงานกับคุณ มันจะเกิดข้อครหาได้

นะคะ”

“อืม นั่นน่ะสิ ผมเองก็ลืมคิดไป แต่อย่างที่บอกแหละครับ ผมไม่รีบ ยังไงขอแค่คุณณิชให้โอกาสผมบ้างก็พอ อย่างเช่นวันนี้ ผมขอบคุณมากที่ยอมมาทานข้าวกลางวันกับผม ไว้วันหลังผมจะนัดใหม่นะครับ”

ณิชชายิ้มให้ เป็นยิ้มที่สว่างมากที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา

“ณิชเองก็ต้องขอบคุณคุณชินมากนะคะที่เข้าใจ”

“อ้อ...”

“คะ?”

“ผมชอบที่คุณณิชเรียกตัวเองว่าณิชแบบนี้นะครับ ตอนที่เราเจอกันวันแรก ดูห่างเหินสักหน่อย

อา...หน้าของเธอแดงเรื่อไปจนถึงใบหูอีกแล้ว

          มื้อเที่ยงดำเนินไปอย่างราบรื่น กรุ่นกลิ่นหวานนิด ๆ ชินวุฒิเป็นคนพูดจาน่าฟัง แม้ว่าเรื่องที่ถูกยกขึ้นมาจะเป็นปัญหาที่เคร่งเครียด แต่เขากลับทำให้มันฟังดูง่าย ๆ สบาย ๆ ได้ ณิชชาหัวเราะเบา ๆ ระหว่างพูดคุยกันอยู่ตลอด ดูเหมือนว่า หลังจากอัครชัยไม่อยู่ ก็อาจจะเรียกได้ว่ามื้อนี้เป็นมื้ออาหารที่เธอมีความสุขจริง ๆ

บรรยากาศการทำงานในช่วงบ่ายช่างเงียบสงบดีเหลือเกินสำหรับแผนกเลขท่านประธาน พวกเธอจัดเตรียมงานต่างๆ ไว้เรียบร้อยเพราะเตรียมรอประธานเข้ามาจัดการมันเมื่อเขากลับมาในช่วงบ่ายแก่ ๆ เธอดูไม่ออกว่า เจ้านายอยู่ในอารมณ์ไหน เขาไม่อาละวาด แต่ก็ไม่ได้ให้ความเป็นมิตรกับใคร ดูเหมือนมีรังสีอำมหิตบางอย่าง แต่นั่นก็เป็นปกติไม่ใช่เหรอ

หญิงสาวไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด พอเหลืออีกห้านาทีจะหมดเวลางาน เธอก็ไปจัดการตัวเองในห้องน้ำให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นครั้งที่สามแล้วสำหรับบ่ายนี้

“ไปไหนมา” เสียงเย็นๆ ถามขึ้น เมื่อออกมาจากห้องทำงานแล้วเห็นว่าโต๊ะเลขาตัวเองว่างเปล่า

“ไปเข้าห้องน้ำมา”

“?” รอยยิ้มกับเสียงหวาน ๆ นั่นคงได้มีไว้เผื่อเขาสินะ แม้แต่ลงท้าย คะ ขา ก็ไม่มี

“คุณจะเอาอะไรหรือเปล่า”

“ท้องเสียหรือไง?”

“ก็...อืม พอดีเมื่อกลางวันกินเยอะไปหน่อย” 

ชลาสินธุ์หัวเราะหึเมื่อได้ยินคำตอบ

 “แล้วหายดีหรือยัง”

 “ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว” ณิชชาตอบตามความจริง เพราะเธอเอาสิ่งที่อยู่ในร่างกายออกมาหลายรอบแล้ว และตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นมาก

เฮ้อ...ไม่น่ากินเยอะขนาดนั้นเลย ถ้าได้กินอาหารกับคุณชินบ่อยๆ ต้องอ้วนเป็นหมูแน่ หญิงสาวคิดอย่างมีความสุข แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่ออีกคนจ้องมองมาที่เธออย่างจับผิด

“เอ่อ...แล้วตกลง คุณมีอะไรหรือเปล่า”

“เย็นนี้ลูกค้าจะมา เลยว่าจะชวนเธอไปเลี้ยงรับรองลูกค้าด้วยกันหน่อย”

“ฉัน...ฉันไม่อยากกลับบ้านดึกน่ะ”

“ฉันก็เหมือนกัน ถึงได้เอาเธอไปด้วยไง ฉันจะเอาเธอเป็นข้ออ้างว่าต้องรีบกลับ”

“อ้อ...”

“งั้นก็ตามนั้นนะ สักทุ่มนึงค่อยออกจากที่นี่ก็แล้วกัน ตอนนี้เธอมีอะไรก็ทำไปเถอะ”

ชลาสินธุ์มองใบหน้าที่ถูกตกแต่งใหม่ไม่วางตา เขารู้สึกทั้งพอใจและไม่พอใจไปพร้อม ๆ กัน และดูเหมือนว่า ความไม่พอใจจะมีเพิ่มขึ้นมากเมื่อลูกค้าที่กำลังจะเซ็นสัญญาก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ให้เช่ากว่าสี่พันห้องมองเลขาของเขาไม่วางตา

เขาหาคนที่พอจะมาเบี่ยงเบนความสนใจของลูกค้าได้ จากนั้นก็ขอตัวพาณิชชากลับ แต่แทนที่จะไปส่งเธอที่คอนโดของเธอ เขากลับเลี้ยวรถไปทางคอนโดของเขาแทน

“นี่คุณ?” หญิงสาวโวยวายเมื่อเส้นทางมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

“มีงานนิดหน่อยให้ทำน่ะ”

“นี่มันเวลาเลิกงานแล้ว คุณอย่ามามั่วนะ คนอย่างคุณน่ะ อ้าปากก็เห็นถึงลำไส้แล้ว”

“อ่ะ ถ้าเห็นขนาดนั้นแล้ว ไหนเธอบอกฉันมาซิว่า ฉันกำลังจะทำอะไร”

“ก็ทำเรื่องเลว ๆ น่ะสิ หยุดรถเลยนะ” หญิงสาวตวาด แล้วพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ทำไม่ได้ เพราะเขาล็อกประตูไว้ทุกด้าน

“อย่าพยายามเลย นั่งเฉยๆ เถอะ แค่อยากคุยด้วยนิดหน่อย ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจคำสั่งของฉัน”

“เรื่องงานไว้ค่อยคุยพรุ่งนี้ก็ได้นี่ คุณจอดรถเลย ฉันกลับบ้านเองได้”

“เธอมันก็เป็นคนแบบนี้แหละ เจ้านายสั่งอะไรไม่ค่อยจะฟัง”

“อะไร? คุณหมายความว่าไง” หญิงสาวยังคงไม่ลดเสียง ไม่มีซะหรอก ที่เธอจะผิดพลาดเรื่องงาน หญิงสาวมั่นใจมาก

เขาเอาแต่นิ่งเงียบ

ทันทีที่เปิดประตูคอนโดเขาก็ค่อย ๆ ดึงแขนของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แล้วจูบเธออย่างนุ่มนวล

“อื้อ...”

เขาไม่สนใจที่เธอปฏิเสธ และแม้จะไม่ได้ทำอะไรรุนแรงแต่หญิงสาวก็ไม่อาจจะหลุดออกไปจากอ้อมแขนของเขาได้ แถมปากของเขาก็เลื่อนเลี้อยไปเรื่อยจากริมฝีปาก ไปยังแก้มเปล่งปลั่งเพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ที่โดนบังคับดื่มไปเมื่อครู่นิดหน่อย ไปจนถึงใบหูนิ่ม

“เรามีอะไรกันมานานเท่าไรแล้ว”

“...” ดวงตาหญิงสาวเบิกโต ไม่คิดว่าเขาจะถามคำถามนี้ ความโกรธแล่นลิ้วออกมาเมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาทำกับเธอ

“หืม?”

“ปล่อย ฉันไม่ได้นับหรอก มันควรค่าแก่การนับนักเหรอ” เธอดิ้นอีกครั้ง คราวนี้รุนแรงจนอีกฝ่ายต้องออกแรงรัดร่างเธอเอาไว้

“วันนี้ฉันจะไม่ทำอะไรเธอ”

“ที่ทำอยู่นี่ก็เรียกว่าทำแล้ว” เธอยังดื้อดึง

“งั้นก็ได้ เธอไม่ทำตามคำสั่งฉัน ฉันจะทำโทษเธอ”

“อะไร ฉันทำอะไร นี่!!!” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อเขาใช้เวลาเพียงชั่วพริบตา เสื้อผ้าของเธอก็หลุดพ้นร่างจนหมด

บ้าเอ๊ย! ฉันเป็นตุ๊กตาเสียกบาลหรือไงนะ ช่วยตัวเองไม่ได้เลย

“เฮ้ย! อะไรเนี่ย!!!” เธอร้องถามเสียงลั่นเมื่อร่างของตัวเองถูกบังคับให้นอนคว่ำลงกับโซฟากลางห้องรับแขกในคอนโด แล้วมือทั้งสองก็ถูกมัดรวมกันไพล่หลังไว้

“นี่คือบทลงโทษที่ไม่ยอมเชื่อฟังฉัน ขัดคำสั่งฉันอย่างตั้งใจ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status