공유

บทที่ 6 ธารากานต์

last update 최신 업데이트: 2025-06-11 22:49:24

ณิชชาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ แล้ว แม้จะยังไม่หายจากอาการปวดและเวียนหัว กับร่องรอยความเจ็บและปวดเมื่อยไปทั่วร่าง แต่ก็ต้องนับว่าดีขึ้นมากแล้ว พอที่จะมีเวลาทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ได้บ้าง

ทำไมพี่อัคถึงให้เธอมาทำงานที่นี่ รู้หรือเปล่าว่าที่นี่มีปิศาจในร่างมนุษย์รออยู่ หญิงสาวนอนทอดถอนใจ ปล่อยให้น้ำตาไหลลงสู่หมอนจนชื้น ในใจมีทั้งเสียใจและคั่งแค้น

หญิงสาวสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีวันปล่อยให้ไอ้สารเลวนี่อยู่สุขสบาย จะต้องเสียใจและได้รับผลติบแทนจากสิ่งที่มันทำ

พี่อัคอยู่ที่ไหน มาช่วยณิชด้วย

ณิชชาปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ บนเตียงกว้าง ๆ ที่แนบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเธอเอาไว้ ความมึนหัวที่ยังคงหลงเหลือทำให้เธอไม่อยากจะขยับเนื้อขยับตัว

 เสียงย่ำเท้าแทรกผ่านอากาศมาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง

“เดี๋ยวฉันกลับมา นอนอยู่ตรงนี้ไปก่อน”

ณิชชาสะดุ้งตัว เบิกตามองคนที่เธอคิดว่าไม่อยู่ในห้อง อาจจะไปข้างนอก ไปทำงานเพราะนี่ก็บ่ายแล้ว แต่เขากลับมาอยู่ตรงนี้

“ยาอยู่หัวเตียง ข้าวต้มอยู่บนเตา หิวก็ไปอุ่นเอา”

หญิงสาวปิดตาลงราวกับไม่ได้ยินเสียงพูดที่เหมือนออกคำสั่งนั้น ไม่ได้ตอบรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ทันทีที่ได้ยินเสียงประตูคอนโดปิดสนิท เธอก็ลุกจากเตียง ทำเป็นไม่สนใจอาการมึนหัวนิดๆ กับปวดเมื่อยหน่อยๆ ของตัวเอง แล้วรีบไปที่ครัว ตอนนี้เธอหิวมาก ต่อให้กินช้างทั้งตัวไม่ได้ แต่การกินก็ทำให้มีชีวิตรอด

ใช่...เธอต้องมีชีวิตรอด เพื่อที่จะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะกลับมา

ใครจะไปรอมัน...

เมื่อกินข้าวเสร็จก็เข้าไปในห้องน้ำตั้งใจจะจัดการอาบน้ำแบบรวบรัด หญิงสาวเกลียดที่เห็นตัวเองในกระจก มันมีริ้วรอยแปลกปลอมเกิดขึ้นกับผิวหนังบางๆ ของเธอเต็มไปหมด น้ำตาขึ้นริ้วอีกครั้งเมื่อคิดได้ว่า รอยพวกนั้นมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ณิชชาค่อย ๆ ไล้มือเบา ๆ  ไปที่ร่องรอยเหล่านั้นบางรอยเป็นสีม่วง บางรอยเป็นสีแดง มือบางลูบริมฝีปากที่ตอนนี้ช้ำบวมเจ่อ

ความจริงอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาในใจ นั่นทำให้หญิงสาวทรุดลงไปกองกับพื้น แล้วคร่ำครวญอย่างหนัก

เธอสกปรกแล้ว สกปรกเกินกว่าที่จะกลับไปเป็นของพี่อัค สกปรกเพราะไอ้สารเลวคนนั้น!

ณิชชาปล่อยตัวเองให้ร้องไห้อยู่ตรงนั้นอีกร่วมครึ่งชั่วโมง  กว่าจะพยุงร่างตัวเองขึ้นมาอาบน้ำ พยายามขัดทุกซอกทุกมุมที่คิดว่ามันสกปรกจนเนื้อตัวแดงไปหมด

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกว่า ตัวเองไม่สะอาดอยู่ดี

แต่ก็ช่างเถอะ หญิงสาวตัดใจ เธอจะไปรักษาเนื้อรักษาตัวที่อื่น อยู่ที่นี่ต่อไป กลิ่นไคลความสกปรกจะยิ่งเกาะตัวเธอมากขึ้น เมื่อคิดดังนั้นก็แต่งเนื้อแต่งตัว แล้วรีบออกจากคอนโดทันที

“จะไปไหน” เสียงทุ้มต่ำถามเมื่อเขาอยู่ตรงหน้าประตูตอนที่ณิชชาเปิดประตูเตรียมเผ่นออกไปพอดี

“เอ่อ…”

 “ฉันถามว่าจะไปไหน” เสียงนั้นเข้มขึ้นอีกนิด

 “ฉันกำลังจะกลับบ้าน”

 “ฉันสั่งว่ายังไง”

“ที่นี่ไม่ใช่ที่ทำงานนะ ฉันไม่ฟังคำสั่งคุณ ฉันจะกลับบ้าน หนีไป”หญิงสาวบอก แต่คนที่ยืนขวางประตูไว้ไม่ขยับเลยสักนิด

“คิดจะลองดีกับฉันเหรอ อย่าลืมนะว่าเธอรับตำแหน่งใหม่แล้ว และฝ่ายบุคคลกับบัญชีก็ทำเรื่องขึ้นเงินเดือนให้เธอสมกับตำแหน่งแล้วด้วย”

ดวงตาของหญิงสาวเบิกโพลง ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

“นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอ ฉันไม่รับงานอื่นนอกจากเลขา ฉันไม่เล่นอะไรบ้า ๆ นี้กับคุณหรอก บอกไว้ก่อนเลยนะว่า ฉันจะลาออก” หญิงสาวพูด พร้อมออกแรงเต็มที่ผลักกำแพงหนา ๆ ที่บังประตูไว้ให้หลบไปสักที แต่ก็ไร้ผล สิ่งเดียวที่ได้รับกลับมาคือ อาการปวดที่แขน และเขากอดเธอเอาไว้

“ชอบถึงเนื้อถึงตัวก็ไม่บอก”

“ฉันไม่ชอบ ปล่อย!” หญิงสาวขู่ฟ่อ และพยายามผลักตัวเองออกจากเรียวแขนแกร่ง แต่ก็เหมือนเดิม มันไม่เป็นผล เธอไม่มีแรงพอจะสู้กับเขาเลย      

“อย่าให้ฉันต้องทำอะไรเธออีกนะ ฉันไม่รับประกันความรุนแรงอะไรทั้งนั้น”  เสียงเฉียบขาดที่ได้ยินเบา ๆ ที่ใบหูนั้น ทำให้ณิชชาสงบลงได้ “ไปนอนซะ แล้วเดี๋ยวตอนเย็นจะพาไปส่ง”

ในเมื่อใช้แรงสู้ไม่ได้ ก็ไม่สู้ดีกว่า หญิงสาวคิดแบบนั้นแล้วจึงไม่ดื้อดึงอีก แต่กลับพาตัวเองขึ้นเตียง แล้วห่มผ้าจนปิดทั้งตัว

ชลาสินธุ์ถอนหายใจเฮือก เขาคิดถูกที่กลับมาดูคนในคอนโด อาการของณิชชาไม่สู้ดีนัก อันที่จริง เขารู้สึกผิดนิดหน่อยที่เป็นคนทำให้หญิงสาวต้องเป็นแบบนี้

จากประสบการณ์ครั้งแรกด้วยกัน ดูเหมือนเลขาที่เขาเพิ่งเพิ่มตำแหน่งนางบำเรอให้นั้นจะไม่ประสีประสาเรื่องนี้เลย อาจจะเป็นครั้งแรกของเธอก็ได้ แต่อาการขัดขืนเหมือนไม่ได้อยากจะทำอะไรกับเขานั่นอีกล่ะ ชายหนุ่มได้แต่คิด แล้วยังอาการป่วยไข้ คอยแต่จะเป็นลมล้มพับหลังจากผ่านกิจกรรมหฤหรรษ์นั่นอีก

การพาเธอมานอนพักที่นี่ก็เพื่อให้ได้พักสบาย ๆ และให้อยู่ในสายตาเขา ถ้าไม่ต้องออกไปทำธุระด่วน เขาก็จะอยู่กินข้าวด้วยนี่แหละ

ชลาสินธุ์คิดพร้อมทั้งเดินไปดูที่เตียงว่าร่างเล็กนอนลงไปเรียบร้อยดีแล้วจึงเดินออกมาทำงานต่อที่ห้องทำงาน ส่ายหัวเมื่อคิดไม่ออกว่า แล้วมันเพราะอะไรกันที่หญิงสาวต้องมองเขา ด้วยสายตาแปลกประหลาด ราวกับรักเขาหนักหนา

มันคืออะไร? ถ้าไม่ได้อยากได้เขา? อยากรวยทางลัด? แล้วคืออะไร?

ณิชชาตื่นขึ้นมาอีกหนในช่วงเย็น เมื่อรู้สึกว่าเตียงที่ตัวเองนอนอยู่มันอ่อนยวบลงไป เมื่อลืมตาขึ้นจึงพบว่า ชลาสินธุ์มานั่งอยู่ข้าง ๆ บนเตียงแล้ว

“เป็นไงบ้าง” เขาถามพร้อมทำท่าจะยกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผาก แต่ร่างเล็กก็สะบัดหัวตัวเองออกเสียก่อน

 “เป็นอะไร” เขาพูดเสียงแข็ง เริ่มหงุดหงิดที่หญิงสาวทำเป็นไม่สนใจ

“ฉันจะกลับบ้านแล้ว” ร่างเล็กไม่สนใจความรู้สึกของคนข้างๆ นี่หรอก  เธอลองลุกขึ้นนั่ง และใจดีขึ้นเมื่อพบว่า อาการแย่ๆ หลงเหลืออยู่น้อยมาก

“แล้วฉันบอกให้กลับแล้ว?”

 “คุณชลาสินธุ์คะ ฉันจะกลับบ้าน นี่เป็นประโยคบอกเล่า ไม่ได้เป็นคำขออนุญาต” เธอพูดพร้อมกับพยุงตัวเองลงจากเตียง แต่กลับถูกเขากระชากแขนจนร่างซวนเซ แล้วลากไปยังห้องแต่งตัวซึ่งอยู่ระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ ตรงนั้นมีกระจกบานใหญ่ที่สามารถส่องได้ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วใช้มือล็อกตัวร่างเล็กเอาไว้แน่น จนไม่สามารถขยับได้ก่อนจะถอดเสื้อของหญิงสาวออกเผยให้เห็นร่องรอยน่ารังเกียจนั่นอีกครั้ง

ชลาสินธุ์บีบปลายคางที่กำลังหันหน้าหนีอย่างแรงเพื่อบังคับให้หันหน้าไปทางกระจกที่กำลังสะท้อนเงาของทั้งคู่

ชายหนุ่มชะงักไปนิด แม้จะมีแววเสียอกเสียใจ แต่แววตาที่ส่งออกมาของณิชชากลับมีความเกลียดชังมากยิ่งกว่า

“อะไรกัน ทำไมทำหน้าแบบนั้น เมื่อคืนก่อน เธอยังทำหน้าที่นางบำเรอได้อย่างงดงามอยู่เลย” ชลาสินธุ์ถามเสียงเยาะ อยากหาเหตุผลที่สายตาของหญิงสาวเปลี่ยนไป ซึ่งมันได้ผลเพราะณิชชาน้ำตาคลอเบ้าทันที

“ฉันเกลียดคุณ มันจะไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นอีก ที่ผ่านมา ก็แค่ให้ทานหมามัน”

“ณิช!!!”

เขาเตรียมจะลากเจ้าของคำพูดสุดแสบนั้นไปทุ่มบนเตียงอีกครั้ง หากไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน 

“อะไร เรศเป็นอะไรนะ?!”

ที่โรงพยาบาลเอกชนใหญ่กลางใจเมืองซึ่งตระกูลจิรารักษนนท์มีหุ้นส่วนอยู่ด้วย กำลังรอรับคนป่วยที่ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินส่วนตัวตกในทุ่งนาของจังหวัดที่ห่างไกล ไฟลุกท่วมทั้งลำ ดีแต่ว่า คนขับดีดตัวออกมาได้ทัน แต่นั่นก็ไม่ต่างอะไรจากการตกจากตึกสูง

“พี่สินธุ์ ธารกลัว ทำไมไอ้พี่เรศจะต้องคลั่งไคล้เครื่องบินขนาดนี้ก็ไม่รู้” น้องคนสุดท้องของบ้านจิรารักษนนท์เอ่ยพูดน้ำตาคลอ พี่ชายได้แต่ปลอบใจด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดของบ้าน ขณะที่สายตาของเขาก็ส่อแววกังวลไม่ต่างกัน

ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ส่งคนป่วยมาถึง การช่วยชีวิตผู้ป่วยแบบเต็มรูปแบบก็เริ่มขึ้นทันที

ค่ำคืนอันยาวนานผ่านไป กว่าที่คุณหมอจะยืนยันว่าคนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วก็เป็นช่วงสายของอีกวัน สองพี่น้องไม่มีใครก้าวออกจากโรงพยาบาลเพราะอยากจะเห็นให้ชัดเจนตลอดเวลาว่า สาคเรศปลอดภัย

คนที่คอยส่งเสบียงจึงเป็นคนที่มาใหม่เพราะได้ยินข่าวจากชลาธาร

“กาแฟกับขนมค่ะ พี่สินธุ์ น้องธาร”

ธารากานต์วางถุงกาแฟจากร้านชื่อดังพร้อมขนมลงบนโต๊ะที่อยู่ข้างเตียงคนป่วยซึ่งจนป่านนี้ก็ยังไม่ฟื้น เห็นสภาพของพี่ชายกับน้องสาวแล้ว หญิงสาวก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเป็นกังวล

“พี่สินธุ์กับน้องธารกลับบ้านไปอาบน้ำก่อนไหม ไปนอนพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวทางนี้กานต์ดูแลให้”

“ไม่เป็นไร พี่ไม่เป็นไร”

“ธารอยากอยู่ที่นี่ค่ะ”

สองเสียง เสียงหนึ่งเข้ม เสียงหนึ่งหวานบอกปฏิเสธ หญิงสาวที่ดูจะเป็นนักจัดการที่สุดในจำนวนสามคนจึงยกหูให้คนที่บ้านเราเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมาให้เจ้านายของพวกเขา

นั่นทำให้ชลาสินธุ์คิดอะไรได้ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หาเลขา พร้อมสั่งงานมากมายเช่นกัน แต่คุยไปคุยมากลับบอกให้เลขาพาตัวเองมาหาเขาที่โรงพยาบาล เพราะดูเหมือนว่า บางอย่างสั่งงานทางโทรศัพท์จะได้ความละเอียดที่ไม่มากพอ

ณิชชามาถึงที่ห้องพักผู้ป่วยของสาคเรศเร็วกว่าคนที่บ้านนั้นเสียอีก หญิงสาวมาพร้อมแฟ้มเป็นตั้ง กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์การทำงานอีกมากมาย เมื่อมาถึงหญิงสาวก็จัดการให้มุมหนึ่งของห้อง กลายเป็นห้องทำงานของเจ้านายตนเอง

“เอ่อ...”

“คะ? คุณธารอยากให้ดิฉันทำอะไรให้หรือเปล่าคะ” ณิชชาหันมาถามเมื่ออีกคนส่งเสียงและมองมาทางเธอ

“เปล่าคะ แค่คิดว่า มองคนละที คุณณิชกับพี่กานต์ก็เหมือนกันมากแล้ว แต่พอมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ คุณณิชกับพี่กานต์เหมือนฝาแฝดกันเลยค่ะ” เจ้านายคนสุดท้องเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้มน่ารัก

คนที่ถูกบอกว่าเหมือนกันราวกับฝาแฝดมองหน้ากันแล้วยิ้ม ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า เหมือนกันจริง ๆ แต่ตอนนี้ณิชชาดูออกจากซูบไปหน่อยเพราะถูกแกล้งจนป่วยไปหลายวัน

“ต้องบำรุงคุณณิชสักหน่อยนะน้องธาร คุณณิชผอมไปหน่อย”

“แหม พี่กานต์เอะอะก็จะบำรุงคนนั้นคนนี้ตลอดเลย” เสียงหัวเราะของสามสาวดังขึ้น ทำให้อีกคนที่นั่งก้มหน้าอยู่กับกองงานต้องเงยขึ้นมอง แล้วก็เห็น

เหมือนมากจริงๆ เพียงแต่อยู่ในใจของเขาแค่คนเดียวเท่านั้น

สองวันผ่านไปสาคเรศก็ลืมตาขึ้น พอผ่านไปสัปดาห์หนึ่งชายหนุ่มที่นอนแบบอยู่บนเตียงก็มีสติพูดคุยได้ ณิชชายิ้มให้เขาขณะคอยดูแลเขาไปด้วย ดูเหมือนว่า ณิชชาจะกลายเป็นเลขาของทุกคนไปแล้ว

เมื่อออกจากห้องน้ำ ชลาสินธุ์รู้สึกคันที่ใจเล็กน้อยที่เห็นณิชชาทำความสะอาดปากให้สาคเรศหลังจากที่เขาเพิ่งจะกินนมเสร็จ แต่แล้วประตูที่เปิดออกก็เรียกร้องความสนใจของเขาไปหมด

“กลับมาแล้วค่ะ อาหารของพวกเรา ถึงแม้จะไม่อร่อยเท่าที่พี่กานต์ทำ แต่ทั้งหมดนี้พี่กานต์ก็เป็นคนเลือกนะคะ” ชลาธารเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริงแจ่มใส

ณิชชาอาสาจะนำอาหารเหล่านั้นไปจัดจานให้ แต่สองพี่น้องสาวปฏิเสธ อยากให้เธอดูแลสาคเรศต่อมากกว่า ดูเหมือนว่าณิชชาจะมือเบากว่าพยาบาลที่นี่เสียอีก

เข้าวันนั้นตลอดจนช่วงบ่ายผ่านไปด้วยดี ทั้งห้องมีแต่เสียงหัวเราะ หลายครั้งที่หัวเราะกันจนคนป่วยเจ็บชายโครงที่หักหลายท่อน แต่บรรยากาศดีๆ เหล่านั้นก็ถูกพี่คนโตทำลายลง

“แล้วกานต์จะกลับมาทำงานเมื่อไร” เขาเอ่ยเสียงต่ำเข้ม ขณะที่ทุกคนผ่อนคลายอยู่ในห้อง

“เอ่อ...พี่สินธุ์ กานต์ลาออกนะคะ ไม่ใช่ลาพักร้อน” ธารากานต์บอกเสียงเบา แต่ในความเบานั้นก็มีความหนักแน่นอยู่ด้วย

“แต่พี่จำได้ว่า พี่ไม่เคยอนุญาตนะ”

“ได้โปรดเถอะค่ะพี่สินธุ์ กานต์ชอบที่นั่นแล้ว”

“ไปเป็นแม่บ้านของไอ้หมอบ้านนอกนั่นน่ะนะ มันดีกว่าการเป็นผู้จัดการโรงแรมตรงไหนฮะกานต์”

“ได้โปรดเถอะค่ะ กานต์ขอ พี่สินธุ์อย่าบังคับกานต์เลย”

ณิชชาและชลาธารมองหน้ากันอย่างเป็นกังวล ดูเหมือนว่า

ชลาสินธุ์จะไม่เหลือที่ว่างให้น้องสาวได้ปฏิเสธเลย

“กลับมากานต์ กลับมาอยู่บ้านเรา”

“กานต์ขอเวลา” เวลาดื้อ ธารากานต์ก็คือคนดื้อที่สุด เหมือนเวลาใจดีก็เป็นคนใจดีที่สุดในบ้านเช่นกัน

“เท่าไร เมื่อไร”

“สามปีครับ”

“สามเดือนกานต์ สามเดือนเท่านั้น”

“อื้อ...” คนป่วยที่คงจะได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดังส่งเสียงออกมาด้วยความรำคาญ

“ค่ะ ได้ งั้นกานต์กลับก่อนนะคะ นายเรศคงอาการดีขึ้นแล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว”

“กานต์?”

“พี่กานต์ไปเถอะค่ะ คุณณิชไปส่งพี่กานต์หน่อยนะคะ” ชลาธารเอ่ยขัด เมื่อเห็นว่าพี่ชายคนโตของเธอไม่จบเรื่องจบราวนี้สักที ซ้ำยังดูเหมือนไฟโกรธจะมากขึ้นด้วย

นั่นไง...ดูสายตาที่มองเธอ และมองสองคนที่กำลังออกนอกประตูไปสิ

สมองของชลาสินธุ์ปวดตุบ ๆ ที่ผ่านมาแม้จะพยายามทำตัวเป็นพี่ชายที่ดีมาตลอด แต่ไม่มีใครรู้เลยสักนิดว่า เขาไม่อยากถือสถานะพี่ชายอีกต่อไปแล้ว  

เพียงแต่ตอนนี้ เมื่ออกหกจากคนเลวๆ คนหนึ่ง ธารากานต์ก็เลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไป ทิ้งบ้าน ทิ้งเขา เขาซึ่งรักและห่วงใยเธอมาตั้งแต่เด็ก ทันทีที่คฤหาสน์ของเขามีต้อนรับเด็กหญิงธารากานต์เข้ามาเป็นลูกอีกคน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status