Share

4. ความเจ็บปวดจากครอบครัว

last update Last Updated: 2025-12-05 05:25:20

เวลานี้บรรยากาศในกองถ่ายเต็มไปด้วยความคึกคัก เจียงลี่มี่มองดูคนอื่นกำลังเข้าฉากด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอรู้สึกอิ่มตัวกับงานแสดง บทบาทที่ได้รับล้วนสร้างความกดดันให้เธอมากมาย

ฉากหน้าเธอทำได้เพียงยิ้มแย้ม แต่ในใจกำลังร้องไห้ มีเพียงสิ่งเดียวที่ปลอบใจเธอคือนิยายเรื่อง 'ผลอิงเถาของเหมยฮวา' เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้นักเขียนจะปล่อยตอนพิเศษ เจียงลี่มี่จึงหยิบไอแพดมาเปิดดู แต่ขณะที่กำลังโหลดอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน หยิบขึ้นมาดูแล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อเห็นว่าใครโทรมา เธอรีบปลีกตัวเดินไปอีกทางที่ไกลจากทุกคนในกองถ่าย

“ฮัลโหล ฉันเช็คตารางคิวงานของแกแล้ว ทำไมแกถึงได้ขี้เกียจขนาดนี้ ไหนจะเลือกรับงานอีก นี่แกบ้าไปแล้วรึไง นังลูกไม่รักดี!"

เสียงนั้นดังมาก จนเจียงลี่มี่ต้องยกโทรศัพท์ออกห่างจากใบหูและแอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงไม่สามารถออกจากวงการได้

"แม่คะ หนูบอกไปแล้วนี่คะว่าหนูเหนื่อย ที่ผ่านมาหนูทำงานหนักมาก แม่ก็เห็น หนูอยากพักบ้าง หนูไม่ใช่หุ่นยนต์นะคะที่จะได้ทำงานโดยไม่ต้องพัก"

แม้จะพูดแบบนี้มาแล้วไม่รู้กี่หนต่อกี่หน แต่แม่ของเธอก็ไม่เคยสนใจ

"เดี๋ยวนี้แกกล้าเถียงฉันเหรอ! ใช่สิ! เดี๋ยวนี้แกดังแล้วนี่ เลยไม่เห็นหัวฉัน แต่แกอย่าลืมสิ ใครให้ชีวิตแกมา ไม่ใช่ฉันเหรอ อย่ามาปากดีกับฉัน แล้วเรื่องงาน ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยให้รับงานเยอะ ๆ อย่ามาทำสำออย"

เจียงลี่มี่น้ำตาคลอ ทุกคำที่แม่ของเธอพูดช่างใจร้ายนัก จนเธออยากรู้ว่าแม่รักเธอบ้างหรือไม่

"แม่เคยรักหนูบ้างมั้ย เคยเห็นหนูเป็นลูกบ้างมั้ย"

"ทำไมแกถามฉันแบบนี้ ฉันเป็นแม่แกนะ อุ้มท้องแกมาเก้าเดือนสิบเดือน ต่อให้ฉันจะรักหรือไม่รัก แกก็ต้องตอบแทนฉัน!"

"หนูก็ทำมาตลอด เงินที่แม่ใช้ก็มาจากหนู ทำไมแม่ไม่ให้น้องไปทำงานบ้าง วัน ๆ เอาแต่นอนเล่นเกมอยู่บ้าน"

แม่ของเธอที่ได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งโมโห สำหรับเธอแล้ว ลูกชายคือสิ่งมีค่าที่สุด ไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้อง

"แกอย่ามาว่าน้องนะ! แกเป็นพี่ก็ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และถ้าแกไม่มีเงิน แกก็ไม่ต่างจากหมาตัวหนึ่งหรอก! ฉันไม่เคยอยากได้ลูกผู้หญิง ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่เอาแกออกตั้งแต่แรก สำนึกในบุญคุณของฉันเสีย!"

 เจียงลี่มี่น้ำตาร่วง ตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ แม่บังคับให้เธอหาเงินมาตลอด จนกระทั่งเธอได้เป็นดารา ครอบครัวของเธอก็มีเงินมากขึ้น และแม่ก็ยิ่งกดดันเธอ ขณะที่แม่และน้องชายใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เธอต้องแบกภาระทั้งหมด เธอเป็นคนเดียวที่ทำงานหาเลี้ยงทั้งครอบครัว เจียงลี่มี่รู้สึกท้อแท้เหลือเกิน

"ถ้าหนูเลือกเกิดได้ ชีวิตหนูคงดีกว่านี้ ที่ผ่านมาหนูพยายามทำทุกอย่างที่แม่ต้องการ แต่ตอนนี้หนูเหนื่อยมาก หนูอยากพัก ถึงแม่จะไม่เคยคิดว่าหนูเป็นลูก แต่ช่วยเห็นใจหนูในฐานะมนุษย์คนหนึ่งก็ได้ค่ะ"

"แกอย่ามาปากดี! รู้อย่างนี้ฉันไม่น่าให้แกเกิดมาเลย นังลูกเนรคุณ! แกมีทุกวันนี้ได้เพราะฉันทั้งนั้น ถ้าแกไม่ได้หน้าตาคล้ายฉัน แกจะได้เป็นดาราดังอย่างทุกวันนี้เหรอ"

"แล้วทำไมตอนนั้นคุณแม่ไม่ได้เป็นดาราล่ะ และก็มีแต่คนชมว่าหนูหน้าตาเหมือนพ่อ"

"นัง...นังสารเลว! แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ! คอยดูเถอะ กลับมาฉันจะตีแกให้น่วมเลย!"

ยิ่งฟังเจียงลี่มี่ก็ยิ่งร้องไห้ แม้จะได้ยินแบบนี้จนเหมือนจะชาชิน แต่ไม่มีสักครั้งที่เธอไม่รู้สึกเจ็บปวด ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์เก่า ๆ คำพูดที่ทำร้ายจิตใจมาตลอด เธอยิ่งปวดศีรษะมากขึ้นและมากขึ้น ราวกับว่าศีรษะจะระเบิดเสียเดี๋ยวนี้ มือที่ถือโทรศัพท์เริ่มสั่น ร่างกายเริ่มเกร็ง อาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

"ถ้าจะโทรมาเพื่อพูดแบบนี้ ต่อไปหนูจะไม่คุยด้วยแล้วนะคะ หนูปวดหัว" หากแม่ของเธอไม่ยอมหยุด

"แค่นี้ทำเป็นอ่อนไหว รับไม่ได้ งั้นก็ตาย ๆ ไปเสียสิ! น่ารำคาญ! อยากพักงั้นเหรอ ตายไปก็ได้พักแล้ว ส่วนเรื่องงานฉันจะรับเอง ฉันหักเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม  แค่นี้แหละคุยกับแกแล้วอารมณ์เสีย คนอย่างแกมันน่าตาย ๆ ไปเสีย ไม่มีอะไรดีสักอย่าง สู้น้องชายแกก็ไม่ได้ เป็นเด็กดีไม่เคยทำฉันปวดหัวเหมือนแก"

หลังจากวางสายเจียงลี่มี่ก็ยิ่งปวดศีรษะ คำพูดที่แม่ของเธอพูดมาตลอดวนเวียนอยู่ในสมอง เรื่องราวในอดีตค่อย ๆ ย้อนกลับมาในความทรงจำ

นังลูกสารเลว! ทำไมแกไม่นอนกับผู้กำกับ แล้วชาติไหนแกจะดัง!

ฉันบอกให้แกหาเงินเยอะ ๆ ไง! น้องชายแกอยากได้มือถือที่ออกใหม่ ไปหาเงินมาเดี๋ยวนี้!

นี่แกปฏิเสธงานอีกแล้วเหรอ! อยากพักมากนักก็ตายไว ๆ สิ ไม่รู้จะเกิดมาทำไม ฉันน่าจะเอาแกออกตั้งแต่แรก!

แกมันตัวซวย ตั้งแต่แกเกิดมา ชีวิตฉันก็มีแต่เรื่องซวย ๆ แกต้องชดใช้ หาเงินมาให้ฉันเยอะ ๆ ชดใช้ความผิดของแก!

เมื่อไหร่แกจะตายสักที! ดื้อด้าน! ต่อต้านฉันมากใช่ไหม ไสหัวไปนอนนอกบ้านเลย! นู่นที่นอนหมา ฉันเตรียมไว้ให้แก นังสารเลว!'

ทุกสิ่งที่ผ่านมา เจียงลี่มี่เจ็บช้ำ สิ่งที่เธอทำได้คือ แม้ชีวิตนี้จะเลือกเกิดไม่ได้ แต่หลังจากตายไป เธอได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้มูลนิธิต่าง ๆ โดยเหลือให้แม่กับน้องชายเพียงแค่ 5%

ตอนนี้เธอทนกับอาการปวดศีรษะไม่ไหวแล้ว แค่จะยืนทรงตัว เธอก็ทำไม่ได้ ร่างกายมันเกร็งแน่น เหงื่อผุดเต็มใบหน้าที่ขาวซีด สีหน้าเหยเก ทุกอย่างในสายตาพร่ามัวลงอย่างรวดเร็ว เธอคล้ายได้เสียงใครสักคนดังอยู่ใกล้ ๆ ก่อนที่สติของเธอจะดับไป

"น้องคะ น้องเป็นอะไร ใครก็ได้ช่วยด้วย กรี๊ดดด!!!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตัวประกอบหนีตายจากนิยายไม่ตรงปก   22. ซุ่มอย่างไรให้มองเห็น

    คล้อยหลังหมอหลวงได้ครู่เดียว เสี่ยวจูก็เข้ามา นางยกมือขึ้นลูบคลำเจียงลี่มี่ทั้งตัว เดินวนรอบตัวไปมา จนแน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก“ข้าตกใจเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ แต่ติดตรงที่ไม่ใช่เสียงคุณหนูใหญ่ ข้าจึงรออยู่ด้านนอก” เสี่ยวจูบอก“ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่เล่นสนุกนิดหน่อย” เสี่ยวจูมองหน้าคุณหนูของนางอย่างประหลาดใจ คุณหนูของนางรู้จักเล่นสนุกตั้งแต่เมื่อใด“เสี่ยวจู เจ้าออกไปก่อน” ฮูหยินเอกว่านลู่เหมยสั่ง“เจ้าค่ะ”“มี่เอ๋อร์ เจ้ามานั่งคุยกับแม่สักหน่อย” ว่านลู่เหมยบอกบุตรสาวที่ยังคงยืนอยู่ข้างโต๊ะที่เคยวางกาน้ำชาเจียงลี่มี่ค่อยๆ เดินไปนั่งที่ตั่งคนงามข้างคุณแม่ของเธอในนิยายแต่โดยดี นึกรู้ได้ว่าคุณแม่ต้องจับความผิดปกติได้ และเธอกำลังจะถูกซักฟอก“เจ้ามีอะไรจะบอกแม่หรือไม่”เจียงลี่มี่นิ่งอึ้ง กับคนอื่นเธอเสแสร้งแสดงละครได้ แต่กับว่านลู่เหมย เธอไม่คิดจะเสแสร้ง เพราะคุณแม่คนนี้รักเธอสุดหัวใจเห็นบุตรสาวนิ่งเงียบ ท่าทีคล้ายไม่ทราบว่าจะบอกกล่าวเช่นไร ว่านลู่เหมยต้องยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู“ถ้าเจ้านึกไม่ออกว่าควรเริ่มต้นที่เรื่องใด แม่ว่าเจ้าเริ่มที่เจ้าแสร้งทำเป็นเจ็บปวดเมื่อเหม

  • ตัวประกอบหนีตายจากนิยายไม่ตรงปก   21. เสแสร้ง

    “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าเผลอบีบแรงไป เจ็บมากมั้ยเจ้าคะ ขอข้าดูสักหน่อย” เหมยฮวายื่นมือมาอีกครั้ง แต่เจียงลี่มี่เอามือไปแอบด้านหลัง น้ำตาคลอ สีหน้าเจ็บปวด“ไม่เป็นไร ข้าเกรงว่าร่างกายที่อ่อนแอของข้าจะทนไม่ไหว แค่แตะเบาๆ ข้าก็เจ็บมากแล้ว” เหมยฮวาชะงักไป มองเจียงลี่มี่อย่างอึ้งๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้า“เช่นนั้นข้าจะระวัง ไม่แตะโดนตัวท่านเจ้าค่ะ ท่านจะได้ไม่เจ็บ” เจียงลี่มี่ลอบยิ้มเหมยฮวายื่นมือไปจับมืออีกฝ่าย แต่ทันทีที่สัมผัส เจียงลี่มี่ก็ชักมือกลับพร้อมกับร้องด้วยความเจ็บปวด“โอ๊ย..เจ็บ ! มือของเจ้า ยิ่งเย็นข้ายิ่งรู้สึกเจ็บ”เหมยฮวาต้องตกใจ นางไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ไม่คิดว่าเพียงมือของนางที่เย็นเพราะอากาศ จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดได้เช่นนี้“ข้า...ข้า...ข้าจะทำเช่นไรดี ข้าไม่รู้แล้วเจ้าค่ะ”เจียงลี่มี่มองท่าทางของเหมยฮวาด้วยสายตาอ่อนโยน หากในใจต้องยิ้มเยาะ เธอกำลังวางแผนบางอย่าง“เจ้าอย่าเพิ่งโดนตัวข้าเลย ข้าเกรงว่าจะรู้สึกเจ็บ...โอ๊ย...” เสียงร้องโอดครวญของเจียงลี่มี่พลันดังขึ้นเหมยฮวาสะดุ้งตกใจ นางยังไม่ได้โดนตัวของอีกฝ่ายเลย เหตุใดจึงเจ็บได้ เกรงว่าหากอยู่ที่นี่ต่อไป อาจเกิดปัญหากับตัวน

  • ตัวประกอบหนีตายจากนิยายไม่ตรงปก   20. บทนางเอกของเจ้า ข้าขอแล้วกัน

    เจียงลี่มี่ร้องไห้แทบขาดใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ สุดท้ายเธอก็ล้มเลิกความฝัน และเดินหน้าต่อด้วยการเป็นดารา แม้อาอี้จะคอยบอกให้เธอเปิดร้าน แต่สุดท้ายเธอก็ถูกแม่บงการชีวิตอยู่ดีทั้งชีวิตเธอทำเพื่อคนอื่นมาตลอด แต่สิ่งที่เธอได้รับคือความเจ็บปวด แม้แต่ตอนที่ใกล้จะตาย คนที่ทำร้ายเธอก็คือคนที่เธอรัก ภาพทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเธอ เป็นความทรงจำที่เธอไม่เคยลืม“อาหลงรักเจเจ้ที่สุดเลย” เสียงเด็กชายตัวน้อยเอ่ยด้วยความดีใจ มองของเล่นในมือตาเป็นประกาย“เจเจ้ก็รักอาหลงที่สุดเหมือนกัน” เธอกอดน้องชายด้วยความรักและเอ็นดู เธอตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อของเล่นที่น้องชายอยากได้ มอบให้เป็นของขวัญวันเกิด“อาหลงรักเจเจ้ที่สุด โตขึ้นอาหลงจะดูแลเจเจ้เอง จะหาเงินซื้อของเล่นให้เจเจ้บ้าง” เด็กสาวยิ้มกว้าง หอมแก้มน้องชายซ้ายขวา“ไม่เป็นไร เจเจ้ไม่อยากได้ แค่อาหลงมีความสุข เจเจ้ก็มีความสุขมากแล้ว” เด็กชายตัวน้อยพยักหน้า“อาหลงจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อกับเจเจ้ จะไม่ทำให้เจเจ้เสียใจ”เจียงลี่มี่น้ำตาคลอเมื่อนึกถึงเรื่องในตอนนั้น ความทรงจำที่มีความสุข เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ปี อาหลงก็ไม่สนใจเธออีกเลย มองเธอด้วยสายตาเ

  • ตัวประกอบหนีตายจากนิยายไม่ตรงปก   19. นางร้ายมากกว่ามั้ง

    “เหตุใดพี่ลี่มี่จึงคิดว่าเป็นข้า ข้าเป็นน้องสาวท่าน ไม่เคยคิดทำร้ายท่าน” เจียงลี่มี่กุมท้องด้วยความเจ็บปวด เธอรู้สึกราวกับถูกเข็มนับพันหมื่นเล่มทิ่มแทงภายในร่าง“เลิกแสดงละครได้แล้ว ! หากไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร ทันทีที่ข้าดื่มชาที่เจ้ามอบให้ ข้าก็เป็นเช่นนี้” เธอตวาดเสียงกร้าวก่อนจะพ่นโลหิตออกมา ยิ่งเธอโมโห พิษยิ่งทำร้ายเธอมากกว่าเดิมเหมยฮวามองภาพตรงหน้า ก่อนจะหัวเราะออกมาในที่สุด“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่คิดว่าพี่ลี่มี่จะรู้ตัวเร็วเช่นนี้ ใช่ ข้าเอง”เหมยฮวาเชยคางเธอขึ้นมา สบตาอย่างท้าทาย เจียงลี่มี่สะบัดหน้าหนีจากมือนั้น“ข้าดีกับเจ้า ไม่เคยทำร้ายเจ้า เพราะเหตุใด”เหมยฮวาลูบผมของเจียงลี่มี่ มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยโลหิตของเจียงลี่มี่อย่างมีความสุข“เจ้าดีกับข้า แล้วข้าต้องดีกับเจ้า? โง่เง่า ! ชีวิตนี้ข้าไม่มีทางดีกับเจ้า ข้าเป็นบุตรที่เกิดจากอนุ จะไปเทียบชั้นเจ้าได้อย่างไร ทุกสิ่งล้วนถูกเจ้าแย่งชิง แม้แต่บุรุษที่ข้าชมชอบก็ถูกเจ้าแย่งไป หากข้าไม่กำจัดเจ้า ข้าไม่มีวันมีความสุข”ใบหน้าสวยประดับด้วยรอยยิ้มเยียบเย็น เจียงลี่มี่มองอย่างชิงชัง เธอแค้นใจยิ่งนักเมื่อเห็นรอยยิ้มของเหมยฮวา สตรีที่เธอคิดว่

  • ตัวประกอบหนีตายจากนิยายไม่ตรงปก   18. นางเอก?

    "คุณหนูใหญ่...นี่ข้าเอง เสี่ยวจูไงเจ้าคะ ท่านเป็นอะไรไป หรือ...หรือข้าทำให้ท่านเจ็บตรงไหน ให้ข้าช่วย...หะ..ให้ข้าไปตามคนมาช่วยนะเจ้าคะ"เสี่ยวจูมีท่าทางหวาดกลัว นางกำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยู่ ๆ คุณหนูใหญ่ก็บ่นว่ารู้สึกอ่อนล้า หายใจไม่ออก จากนั้นก็ล้มตัวลงนอน แล้วไม่ฟื้นอีกเลย ไม่ว่านางจะพยายามปลุกอย่างไร จึงตัดสินใจจะไปตามคนมาช่วย แต่คุณหนูใหญ่ก็ขยับตัวเสียก่อน"เธอเป็นใคร แล้วทำไมฉันมาอยู่ที่นี่"เจียงลี่มี่ถามด้วยความสงสัย รอบตัวของเธอตอนนี้มีแต่สิ่งที่เธอไม่คุ้นเคย"ที่นี่คือจวนเสนาบดีฝ่ายซ้ายเจ้าค่ะ ข้าคือเสี่ยวจู ข้าเป็นสาวใช้ของคุณหนูอย่างไรเจ้าคะ...”เจียงลี่มี่ตกตะลึง อะไรคือจวนเสนาบดีฝ่ายซ้าย เสี่ยวจูตรงหน้านี่คือใคร“...หรืออาการของคุณหนูกำเริบ จึงสูญเสียความทรงจำ ข้า...ข้า..ข้าจะไปตามนายท่านกับฮูหยินเอกมา..คะ..คุณ..คุณหนูรอข้าก่อนนะเจ้าคะ"เด็กน้อยเสี่ยวจูกำลังจะวิ่งออกไป แต่เธอมือไวคว้าไว้ได้เสียก่อน แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเธอสวมใส่เสื้อผ้าแบบโบราณ"อย่า..อย่าเพิ่งไป เอากระจกให้ฉัน" เจียงลี่มี่กระสับกระส่าย หวาดกลัว เสี่ยวจูยื่นกระจกให้ เธอรีบคว้ามา แล้วส่องดูหน้

  • ตัวประกอบหนีตายจากนิยายไม่ตรงปก   17. ความทรงจำตอนสิบขวบ

    “ไม่ใช่…แต่จะตัดทั้งพวงให้ขาด แล้วเอาไปทำกับข้าวให้นังเมียน้อยกิน อยากได้นักก็จะยกให้เลย ยิ่งรักกันปานจะกลืนกินยิ่งดี จะได้สมปรารถนาทั้งกิน ทั้งกลืน ฮ่าฮ่าฮ่า”เจียงลี่มี่อึ้ง ไม่คิดว่าคนใจเย็นอย่างอาอี้จะพูดแบบนี้ น่ากลัวกว่าที่คิด“อาอี้ทำฉันอึ้งนะเนี่ย แอบร้ายด้วย อีกอย่างนะเรื่องนี้มีบางอย่างพิเศษสำหรับฉันด้วย”“อะไร?” อาอี้สงสัย“พี่สาวของนางเอกเรื่องนี้นะสิ ชื่อเดียวกับฉันเลย เจียงลี่มี่ ชีวิตเธอก็อาภัพไม่ต่างกับฉันเลย”“โห..บังเอิญจริง ๆ แล้วเจียงลี่มี่ในเรื่องเด่นมากไหม เป็นถึงพี่สาวนางเอก บทต้องไม่น้อยแน่ ๆ”“เยอะมาก เด่นมากเลยล่ะ” เจียงลี่มี่พูดไปขำไปกับน้ำเสียงของอาอี้ที่เหมือนจะตื่นเต้นราวกับเป็นชื่อของตัวเอง“มีกี่บทที่พูดถึง หรือมีบทตลอดทั้งเรื่อง”“มีตั้งสามบรรทัด เยอะมากเลยใช่มั้ยล่ะ” เจียงลี่มี่อยากรู้ว่าอาอี้จะพูดอะไร เพราะที่เธออ่านนั้น บทเจียงลี่มี่ในนิยายมีแค่สามบรรทัด เรียกว่าเปิดตัวมาก็ตายเลย“หาาาาา! สามบรรทัด จะบ้าเรอะ นี่มันน้อยยิ่งกว่าบทนำเสียอีก คงไม่ใช่ว่าเปิดตัวมาปุ๊บก็ตายปั๊บอะไรแบบนี้นะ”อาอี้ค่อนขอด คนเขียนใจร้ายจริง ๆ เขียนมาได้ไงยะ สามบรรทัด น้อยเกิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status