แชร์

10 โลกของนิยาย

ผู้เขียน: รอรีวัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-13 21:35:33

 

นับตั้งแต่วันที่นางได้เข้ามาอยู่ในโลกของนิยาย ฟู่เหยาเหยาก็ตั้งใจจะปฏิวัติเนื้อเรื่องใหม่ นางจะไม่เป็นนางเอกที่ถูกนางร้ายเช่น ฟู่ลี่อิ๋งรังแกทำร้ายเด็ดขาดไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อีกไม่นานตัวละครที่สำคัญก็จะทยอยโผล่หน้าออกมาให้นางเห็น

น่าเสียดาย!!

ตามเส้นเรื่องของนิยายเรื่องนี้ นางจะเป็นผู้ไปพบกับอ๋องน้อยบุตรชายที่เป็นแก้วตาดวงใจของเว่ยอ๋อง แต่กลายเป็นว่าสตรีนิสัยเสียผู้นั้นเป็นผู้ไปพบเขาเข้าเสียก่อน ร้อยวันพันปีนางไม่เคยได้ย่างก้าวออกจากบ้าน แต่ไฉนเลยวันนี้นางถึงได้ออกไป

“คุณหนูเจ้าคะ” หญิงรับใช้ของฟู่เหยาเหยาเข้ามารายงานในสิ่งที่ตนเองทราบ

“ได้ความว่าอย่างไรบ้าง”

“จริงอย่างที่คุณหนูคาดเดาเอาไว้ไม่ผิด คุณหนูใหญ่ได้ไปพบกับเว่ยอ๋องมาจริง ๆ บุรุษที่พูดคุยกับท่านโหวเมื่อตอนก่อนฟ้ามืดก็เป็นองครักษ์ของเขาเจ้าค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนเล่า

“ถึงว่า ข้าถึงไม่เห็นเว่ยอ๋อง” ฟู่เหยาเหยารู้สึกอารมณ์เสีย นี่เป็นครั้งแรกที่การคาดเดาของนางผิดพลาด

อุตส่าห์ตั้งใจจะออกไปพบกับเว่ยเจิ้งหยาง ตั้งใจจะทำให้เขาประทับใจ แต่กลายเป็นว่าบุรุษผู้นั้นได้ไปพบกับสตรีเช่นนาง น่าหงุดหงิดเป็นที่สุด

“บ่าวยังได้ยินมาอีกว่า คุณหนูใหญ่เกือบถูกจับไปขายที่หอนางโลม โชคดีที่เว่ยอ๋องไปช่วยเอาไว้ทัน”

“หอนางโลม พวกหอโคมเขียวที่เอาสตรีไปค้ากามอะไรพวกนั้นนะหรือ” ฟู่เหยาเหยาถามให้แน่ชัด

“ใช่เจ้าค่ะ สตรีที่อยู่ที่นั่นต่อให้ลงไปล้างตัวในแม่น้ำฮวงโหก็ยากจะได้กลับคืนฐานะเดิม น่าเสียดายชะมัดที่ นางผู้หญิงใจร้ายเช่นคุณหนูใหญ่ไม่ได้ไปลงเอยที่นั่น” เสี่ยวเชี่ยนนึกเสียดาย

ก่อนหน้านี้นางถูกสตรีผู้นั้นทุบตี เพียงแค่เพราะทำน้ำชาหกใส่ชุดผ้าไหมราคาแพง โชคดีที่ได้คุณหนูรองมาช่วยเหลือไม่เช่นนั้นนางคงตายคากระบองลงโทษ

ที่ฟู่เหยาเหยาช่วยเหลือบ่าวรับใช้ผู้นี้ไม่ใช่เพราะสงสาร แต่เพราะต้องการใช้บุญคุณของตนเอง สั่งให้นางทำงานทุกอย่างที่นางลงมือเองไม่ได้ ขอแค่เพียงนามยอมทำงานถวายหัวให้กับตน โยนเศษเนื้อให้นิดหน่อยพวกสุนัขก็จำไม่ลืม

ในโลกอดีตนางคือดาราสาวเจ้าของรางวัลนักแสดงนำหญิง เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้คน แต่เพราะเกิดอุบัติเหตุในกองถ่ายทำให้วิญญาณของนางทะลุมิติเข้ามาในบทละครที่ตัวเองเล่นเป็นนางเอก นางจะไม่เป็นฟู่เหยาเหยา ๆ ที่เป็นดั่งดอกบัวขาวรอพระเอกมาพบเจอ

สำหรับนางเอกอันดับหนึ่งเช่นนาง ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องยาก เพราะก่อนหน้านี้ฟู่เหยาเหยาศึกษาเนื้อหาบทละครเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี

นางจะไม่ยอมเป็นฝ่ายถูกรังแกอยู่ผู้เดียวแน่นอน เป้าหมายหลักของนางในเวลานี้คือการเอาคืน ฟู่ลี่อิ๋งให้สาสมที่สุด สตรีชั่วช้าผู้นั้นคือต้นกำเนิดเรื่องราวร้ายกาจที่ผ่านมาทั้งหมด

อันดับแรกนั่นก็คือทำให้ความน่าเชื่อถือของสตรีผู้นั้นลดลงไปเรื่อย ๆ ทำให้ผู้คนล้วนแล้วแต่เอือมระอาเมินหน้าหนี ทำให้นางกลายเป็นสตรีที่ถูกผู้คนรังเกียจที่สุดในแผ่นดิน

“เสี่ยวเชี่ยน เมื่อครู่เจ้าบอกว่านางเกือบจะถูกจับไปขายที่หอนางโลมนางโลมใช่หรือไม่” ฟู่เหยาเหยาถามสาวใช้

“ใช่เจ้าค่ะ”

ร่างเล็กแบบบางในชุดโปร่งบางกำลังครุ่นคิด

“แล้วเจ้ายังรังเกียจนางอยู่อีกหรือไม่”

“แน่นอนเจ้าค่ะ บ่าวรังเกียจสตรีผู้นั้น”

ฟู่เหยาเหยายิ้มมุมปากร้ายกาจ ก่อนจะกระซิบเบา ๆ กับบ่าวรับใช้คนสนิท

------------------------

ในปีที่ฟู่เหยาเหยาอายุ 6 ขวบ

ร่างเล็กลืมตาตื่นขึ้นมาในกระท่อมหลังเล็ก ๆ อากาศหนาวเหน็บหลังคาเป็นรูโหว่ แทบจะปกปิดคุ้มกันอะไรไม่ได้ ความสับสน ความไม่เข้าใจแผ่ซ่านอยู่เต็มอุรา

“เหยาเหยาลูกแม่ เจ้ายังไม่ตาย” ผู้เป็นมารดากอดประคองร่างเล็กของบุตรสาวเอาไว้แน่น

“แม่!!” สตรีผู้นี้เรียกนางว่าลูก

“ใช่แล้ว แม่เองลูก” นางกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้นคาดหวังให้ร่างกายของตนช่วยสร้างความอบอุ่นให้แก่นาง

นั่นเป็นวันแรกที่ฟู่เหยาเหยาทะลุมิติเข้ามาในโลกนี้ กว่าจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็ใช้เวลาเป็นปี กว่าจะตัดสินใจเปลี่ยนชะตาชีวิตก็ใช้เวลาทำความเข้าใจเรื่องราวอยู่นานพอดู

เมื่อเข้าใจเรื่องทุกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง นางจึงขอให้มารดาพากลับจวนโหว นางให้มารดาเล่าความจริงทุกอย่างให้ท่านโหวฟัง เพราะความผิดพลาดในวัยหนุ่มสาวทำให้มีนางกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ นางเป็นคุณหนูสูงศักดิ์เหตุใดจะต้องจมปลักอยู่ในสถานที่แห่งนี้ด้วย

เพราะรังเกียจความยากแค้น นางจึงบังคับให้มารดาแบกหน้าไปร้องของความเห็นใจจากบิดา เขาจะต้องรู้ว่ามีนางอยู่บนโลกใบนี้ ชะตากรรมของนางเอกผู้เป็นดั่งบัวขาวจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

วันที่ก้าวขาเข้าไปอยู่ในจวนโหว นางเห็นสายตาของฟู่ลี่อิ๋งเต็มความรังเกียจเดียดฉันท์ อุตส่าห์ตั้งใจจะเข้าไปอยู่กันแบบพี่น้อง แต่กลายเป็นว่าสตรีผู้นั้นเปิดศึกตั้งแต่วันแรกที่นางเหยียบเข้าบ้าน

“ข้าไม่ยอม ท่านพ่อแค่ต้องเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านเท่านั้น” ฟู่ลี่อิ๋งวัยเด็กกระทืบเท้าเสียใจ นางหันไปมองหน้ามารดา แต่กระนั้นฮูหยินใหญ่ของบ้านกลับนิ่งเฉยไม่เอ่ยอะไรกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น

“อิ๋งอิ๋งเจ้าเข้าใจพ่อหน่อยเถิด อย่างไรนางก็เป็นน้องสาวเจ้า” ฟู่ซิ่งพยายามอธิบายให้บุตรสาวเข้าใจ

“ท่านพ่อต้องมีแค่ข้ากับพี่ใหญ่เป็นลูกแค่นั้น คนอื่นข้าไม่นับ ข้าไม่นับ พี่น้องของข้าต้องมาจากท่านแม่ของข้าเท่านั้น” เด็กหญิงร้องไห้ปาดน้ำตา

ฟู่เหยาเหยาและมารดายืนมองเหตุการณ์ทุกอย่างแบบเงียบ ๆ ไม่ได้เอ่ยอะไร

“อิ๋งอิ๋ง ทำตัวมีเหตุผลหน่อยได้ไหม” ฟู่ซิ่งขึ้นเสียงดังใส่นาง

“ท่านพ่อขึ้นเสียงใส่ข้า ท่านพ่อพาอนุภรรยาเข้าบ้าน นอกใจท่านแม่ ไปมีนางเด็กน่ารังเกียจนั่น ข้าเกลียดท่าน ท่านพ่อ ข้าเกลียดท่าน” ไม่รอให้ใครได้ตั้งตัวฟู่ลี่อิ๋งน้อยก็วิ่งเข้าไปผลักสองแม่ลูกจนล้มคว่ำ

ฟู่เหยาเหยาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวล้มหัวกระแทกกับกระถางต้นไม้เป็นแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่

“อิ๋งอิ๋งมันจะมากเกินไปแล้วนะ” ด้วยอารมณ์แห่งความโกรธผู้เป็นบิดาจึงพลั้งมือตบหน้านางไปหนึ่งที

“ท่านโหว ท่านตบหน้าอิ๋งอิ๋ง” ฮูหยินใหญ่เข้ามากอดบุตรสาวเอาไว้

“ท่านพ่อตบข้า” เด็กหญิงยกมือขึ้นสัมผัสพวกแก้มข้างที่ถูกบิดาตบหยาดน้ำตาไหลพราก “ข้าจะจำวันนี้เอาไว้ ข้าเกลียดพวกนางสองแม่ลูก ข้าจะเกลียดพวกนางไปตลอดชีวิตหากข้าตายกลายไปเป็นผีก็จะตามไปรังควานนางในปรโลก”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   73 เรื่องราวอันเป็นมงคล

    จนถึงตอนนี้ฟู่ลี่อิ๋งก็ยังไม่ได้ยินข่าวคราวของฟู่เหยาเหยาคล้ายกับว่านางหายไปจากโลกนี้อย่างไรอย่างนั้น อากาศในเมืองหลวงเริ่มหนาวขึ้นทุกวัน ๆ รวมไปถึงท้องของนางที่โตขึ้นเรื่อย ๆ การยืนเดินนั่งนอนของนางล้วนลำบากไปเสียหมด หลายครั้งที่ฟู่ลี่อิ๋งลุกขึ้นมานั่งร้องห่มร้องไห้กลางดึกเพียงเพราะอยากกินบะหมี่เนื้อรสเผ็ดทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านางไม่คอยชอบความเผ็ดของมัน ฟู่ลี่อิ๋งคิดถึงวันที่ที่พระสวามีเคยพาไปกิน คิดถึงเมื่อตอนที่แต่งงานกันใหม่ ๆ ส่วนเว่ยจงหมิงเองก็ตามใจและเข้าใจได้ไท่จื่อเฟยตั้งครรภ์ท้องแรกอีกทั้งยังไม่มีประสบการณ์ไม่มีผู้ใดสอนนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางจะกลัว กังวลและหวั่นใจไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นหน้าที่ของเขาที่เป็นสามีที่จะคอยให้ความอุ่นใจ อยู่เคียงข้างนางให้นางอบอุ่นใจในบางวันที่เว่ยจงหมิงต้องไปทำงานไกล ๆ ก็จะได้ไคไคน้อยมาอยู่เป็นเพื่อนคอยเล่านู่นเล่านี้ให้นางฟังไม่มีเบื่อถึงตอนนี้ฟู่ลี่อิ๋งถึงเพิ่งสังเกตว่าไคไคน้อยสูงขึ้นมาก จากที่เคยสูงกว่าเอวนางนิดหนึ่งตอนนี้หัวของเขาอยู่ในระดับไหล่นางเสี

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   72 อย่างไรก็เป็นน้อง

    หลังจากได้ยินเรื่องที่ฟู่เหยาเหยาหย่ากับเว่ยเจิ้งหยาง ฟู่ลี่อิ๋งก็ไม่สบายใจนัก นางไปถามกับพี่ชายว่าสาเหตุที่เขามาที่เมืองหลวง ใช่เรื่องเพราะเรื่องนี้หรือไม่ คราแรกเขาอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดจนสุดท้ายนางก็คาดคั้นเอาคำตอบออกมาจากปากเขาได้ในที่สุดเมื่อได้ยินทุกอย่างที่นางอยากจะฟัง ฟู่ลี่อิ๋งจึงลากพี่ชายไปสืบความที่จวนเว่ยอ๋องด้วยกัน เนื่องด้วยไม่อยากไปเหยียบที่นั่นเพียงลำพังเว่ยเจิ้งหยางเมื่อได้ยินว่าไท่จื่อเฟยมาถึงที่นี่ก็ละทิ้งทุกอย่างรีบมาหานาง แต่เมื่อออกมาถึงกลับพบว่านางไม่ได้มาตามลำพัง เรื่องราวที่เคยคิดเข้าข้างตัวเองก็สลายหายไป นางมาที่นี่พร้อมกับฟู่หมิงจือ สีหน้าท่าทางของโหวน้อยดูกังวล ส่วนฟู่ลี่อิ๋งดูเย็นชาเห็นหน้าของเว่ยเจิ้งหยาง หญิงสาวก็เริ่มพูดคุยเขาเรื่องทันทีโดยไม่อ้อมค้อม“ข้าได้ยินจากไท่จื่อบอกว่าท่าหย่ากับน้องสาวของข้าแล้ว”เว่ยเจิ้งหยางเลิกคิ้วเล็กน้อย “ใช่แล้ว ข้าหย่ากับนางไปตั้งแต่วันที่กลับมาจากจวนเสนาบดีสี”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ ไม่เห็

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   71 องค์หญิงเออร์น่า

    แสงอาทิตย์ลอดเข้ามาในห้องนับแล้วเท่ากับแปดครั้ง สีฮูหยินกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างดีใจ นางหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างสะใจ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง จากนี้ไปจะไม่มีเว่ยจงหมิงอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้วในขณะที่นางกำลังดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แสงไฟในคุกก็สว่างไสวประดุจกลางวัน สีฮูหยินที่อยู่ในความมืดมานานนับสัปดาห์ต้องหลับตาและใช้แขนเสื้อของตนเองปกป้องดวงตาของตัวเอง ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้นนางจึงจะสามารถลืมตาขึ้นได้สิ่งที่สตรีวัยกลางคนเห็นเมื่อลืมตาขึ้นพบกับบุรุษที่นางเกลียดที่สุดผู้หนึ่งในชีวิต เว่ยจงหมิงนั่งอยู่บนคานหาม แบบสี่คนแบก ชายหนุ่มนั่งอยู่บนนั้นเส้นผมดำขลับถูกปล่อยสยายยาวสอดรับกับใบหน้าหล่อเหลา เขาสวมเสื้อผ้าสีขาวสบาย ๆ ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับสิ่งใด และดูไม่เจ็บไม่ป่วย“ทำไมเจ้ายังมีชีวิตอยู่” สีฮูหยินได้เห็นหน้าของเว่ยจงหมิงก็เริ่มมีปฏิกิริยาแห่งโทสะ“องค์หญิงเออร์น่าคงตกใจมาก ที่เห็นว่าข้ายังมีชีวิตอยู่” เว่ยจงหมิงหยิบองุ่นขึ้นมากินในขณะที่สนทนากับนาง“ไม่!!!

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   70 หลงใหลซึ่งกันและกัน

    อากาศยามเช้าหลังจากฝนหยุดตกสดชื่นปลอดโปร่ง เสียงวิหคบินวนขับขานดังกังวานไปทั่วทั้งพื้นที่ เช้าวันนี้นางรู้สึกว่าตัวเองสดชื่นกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะยาบำรุงของท่านซุน ที่ช่วยให้นางผ่อนคลายและหลับสบายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ที่พระสวามีป่วยฟู่ลี่อิ๋งก็ย้ายออกไปนอนห้องนอนเล็กที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันเพราะนางไม่อยากรบกวนคนป่วยเกรงว่าตนเองจะนอนดิ้นและทำให้เขาลำบาก รอให้เว่ยจงหมิงฟื้นและหายดีก่อนค่อยกลับมาร่วมห้องทีหลังก็ได้ทุก ๆ วันฟู่ลี่อิ๋งจะมานั่งเฝ้าพระสวามีในห้อง นี่ก็ผ่านมา 7 วันนับตั้งแต่เขาถูกพิษ เว่ยจงหมิงก็ไม่ฟื้นสักที วันนี้ก็เช่นกันนางมานั่งข้างเตียงพูดคุยกับเขาดังเช่นเคยมือเรียวเล็กจับมือของเขามาสัมผัสที่หน้าท้องแบนราบของตนเอง“ท่านพี่ เมื่อไหร่ท่านจะฟื้นกันนะ” ร่างเล็กพึมพำ “ท่านรู้หรือไม่ว่าไคไคน้อยกำลังจะมีน้องชายน้องสาวแล้วนะ” ฟู่ลี่อิ๋งกระซิบแผ่วเบาสีหน้าของเว่ยจงหมิงดูดีกว่าหลายวันที่ผ่านมา วิธีการของท่านซุนออกจะประหลาดไปบ้างแต่ก็ได้ผล หนำซ้ำยังได้ยาบำร

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   69 รายล้อมไปด้วยรัก

    เสี่ยวหลงติดตามท่านเหลียงออกเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อติดตามเรียนรู้วิชาการตัดเย็บเสื้อผ้าจากเหลียงเหลียนฮ่าวและฝากตัวเป็นลูกศิษย์ แต่เมื่อหลายวันก่อนตอนเดินทาง ในวันที่พายุฝนโหมกระหน่ำ คณะเดินทางของท่านเหลียงผ่านไปพบกับสตรีผู้หนึ่ง นางนอนกลายเป็นซากคล้ายกับศพอยู่ในเส้นทางที่พวกเขาผ่านสภาพของนางไม่ต่างอะไรจากซากศพบาดแผลบนใบหน้าฉกรรจ์น่ารังเกียจ สัตว์และแมลงตอมไต่จนบาดแผลเน่าเฟะเหม็นคลุ้งเหลียงเหลียนฮ่าวใช้ไม้เขี่ย ๆ เห็นว่านางยังมีชีวิตอยู่จึงพาตัวไปด้วยกันถือว่าเอาบุญ ตอนที่ช่วยเหลือเสี่ยวหลงเห็นตราหยกสีชมพูคล้าย ๆ กับชิ้นที่ไท่จื่อเฟยมี ก็เดา ๆ เอาไว้ว่าสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้น่าจะเป็นผู้ใด แต่ก็ไม่ได้บอกเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ใดฟังกระดูกบนร่างกายของสตรีอัปลักษณ์หักอยู่หลายส่วน ท่านหมอที่ติดตามมากับคณะของเหลียงเหลียนฮ่าวใช้วิธีการเอาไม้ไผ่มาดามนางเอาไว้ทั้งร่าง ฟู่เหยาเหยาตื่นขึ้นมาอีกทีพบว่าร่างกายของตนเองกำลังถูกวางเอาไว้บนเกวียนบรรทุกสิ่งของ แขนขาถูกมัดเอาไว้กับไม้ไผ่ขยับไปไหนไม่ได้

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   68 พิษล้างพิษ

    เจ้างูสีขาวตัวเล็ก ๆ ดูเหมือนจะหงุดหงิดเล็กน้อยที่มันถูกผู้เป็นนายปลุกให้ตื่น มันสะบัดหัวไปมาและค่อย ๆ ยืดตัวชูคอขึ้นทำท่าทางคล้ายกับบิดขี้เกียจ แต่เมื่อเห็นหน้าผู้เป็นนายมันก็รีบกระโดดออกจากกระปุกสีขาวขึ้นไปหยอกล้อคลอเคลียท่าทางเหมือนกับลูกสุนัขตัวเล็ก ๆฟู่ลี่อิ๋งเห็นแล้วก็พูดสิ่งใดไม่ออก สัตว์มีเกล็ดลิ้นยาวพวกนั้นสามารถมองให้น่ารักได้ด้วยหรือ นางรู้สึกขนลุก แต่ก็ไม่ได้ปริปากพูดสิ่งใดออกมา ปล่อยให้ท่านซุนรักษาไปตามวิธีการของเขา แม้จะทำให้คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกคล้ายจะเป็นลมอยู่ตลอดเวลาก็ตามงูเทพหิมะเมื่อเห็นแมงป่องสีรุ้งมันก็คล้ายกับทำตาโตด้วยความดีใจ ซุนจงปล่อยมันลงกับพื้นพร้อม ๆ กับแมงป่องสีรุ้ง ทั้งงูและแมงป่องลงต่อสู้กัน เจ้าแม่งป่องพยายามใช้หางพิษของตนเองต่อสู้กับเจ้างูเทพหิมะแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้ต่อความปราดเปรียวของเจ้าตัวเล็กสีขาวทันทีที่แมงป่องสีรุ้งสิ้นท่า เจ้าตัวเล็กสีขาวก็เขมือบเจ้าแมงป่องตัวสีรุ้งที่นอนหมดแรง เข้าไปทั้งร่างอย่างเชื่องช้า เจ้าของร่างเล็กแบบบางต้องหลับตาขยับไปหลบอยู่เบื้องหลังของ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status