ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวัน
เพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว
‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’
หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้น
ณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา
“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”
“.....”
จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่
“ลงมา”
“.....”
การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ
“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง
“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว
“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”
“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”
ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเรื่องที่ยาก
เพราะฉะนั้น...การอุ้มจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ชายหนุ่มฉุดกระชากแขนเรียวอย่างแรง จนเธอเซล้มใส่ตัวเขา สอดแขนลงใต้เข่าแล้วโอบเอวช้อนร่างบอบบางเข้าสู่อ้อมแขน
การทุบตีรอบที่สามจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง แพรวพรรณทั้งเหนื่อยและโมโหเมื่อไม่สามารถหยุดยั้งหรือทำอะไรเขาได้
ณภัทรอุ้มหญิงสาวจนมาถึงขั้นที่สูงขึ้น แต่คนในอ้อมแขนก็ยังไม่เลิกพยศ จึงคิดหาวิธีทำให้เธอหยุดดิ้นและทุบตีตนเองสักที เพราะเขาเองก็เริ่มเหนื่อยและหนักขึ้นมาแล้ว ชายหนุ่มหมุนตัวกลับไปทางด้านหลัง ซึ่งมองจากตรงนี้ระยะความสูงก็น่ากลัวไม่น้อย
“นี้ถ้ายังไม่หยุดดิ้นไม่หยุดตี ผมจะโยนคุณลงไปเดี๋ยว”
“.....”
แพรวพรรณสงบลงทันตาเห็น แล้วยังกำชายเสื้อของเขาไว้แน่น ณภัทรหัวเราะผ่านลำคอเมื่อสยบความพยศของหญิงสาวได้
ภายในห้องนอนกว้าง ร่างบอบบางถูกโยนลงจากอ้อมแขนสู่เตียงใหญ่ ไม่สนใจว่าอีกคนจะลงไปในท่าไหน
“ไอ้คนป่าเถื่อน” เมื่อตั้งตัวได้ คำบริภาษก็พ่นใส่เขาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“ผมป่าเถื่อนได้มากกว่านี้” พูดจบมือใหญ่ก็คว้าเข้าที่แขนของอีกฝ่าย
แพรวพรรณดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดจากมือใหญ่ ภาพความทรงจำเมื่อครั้งก่อนหลั่งไหลเข้ามาในหัว เธอจะไม่ยอมให้เขาทำอะไรอย่างวันนั้นได้อีก ทั้งถีบและดึงตัวออกห่างแต่ก็ไม่สามารถหลุดไปจากการเกาะกุมอันเหนียวแน่นราวกับมือปลาหมึกนั้นได้
จนกระทั่งคิดว่าตนเองหมดหนทางสู้แล้ว จึงกระทำเรื่องที่ไม่คาดคิด
เพี้ยะ!
ใบหน้าของณภัทรหันไปตามแรงของฝ่ามือแพรวพรรณ เธอเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหน เพียงแต่คิดว่าถ้าไม่สู้ก็มีแต่จะเจ็บตัวเหมือนคราวก่อน จึงได้ตบเขาไป
ชายหนุ่มดุนกระพุ้งแก้ม รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดของตนเอง นัยน์ตาคมดุดันแข็งกร้าวจนดูน่ากลัวจ้องเขม็งไปที่ดวงหน้าหวาน สิ่งที่เธอกระทำไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเขามาก่อน
“กล้ามากนะยัยตัวดี” เขาสบถออกมาเสียงเหี้ยม
“ฉัน!” ร่างบอบบางถดถอยอย่างลนลานเมื่อเขาปล่อยมือ ปากคอสั่นจนพูดอะไรไม่ออก หวาดกลัวต่อสายตาวาวโรจน์
อารมณ์ของณภัทรพลุ่งพล่านด้วยความโกรธขึ้ง เขาโถมตัวเข้าหาคนบนเตียง สองมือใหญ่ตรึงร่างใต้อาณัติไว้ด้วยแรงอันมหาศาลกับที่นอนหนานุ่ม ไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้เอ่ยคำใดอีก
ด้วยการทาบริมฝีปากหนาบดจูบอย่างดุดัน เขี้ยวคมขบกัดเรียวปากนุ่มอย่างคนไร้สติสร้างความเจ็บแสบให้กับแพรวพรรณมากเหลือเกิน
ไม่เพียงเท่านั้น ยังบังคับให้เปิดปากเพื่อเข้าไปสำรวจภายใน เมื่อทำได้สำเร็จปลายลิ้นสากก็ตวัดซอกซอนอย่างจาบจ้วง
“อื้อ” เสียงประท้วงอื้ออึงผ่านลำคอสวย
“อ๊ะ ซี้ด...” ปากหยักหนาผละออกห่างจากใบหน้าแดงก่ำ เมื่อถูกเธอกัดเข้าอย่างแรง
“พยศจริงนะ”
ยังไม่ทันหายใจหายคอได้สะดวก
แควก!
การยื้ออีกคนไว้ด้วยเครื่องช่วยหายใจเป็นการรั้งแสนเจ็บปวดที่สุด เธออยากให้เขาไปอย่างสงบถึงแม้จะจากกันไกลแสนไกลไม่อาจหวนกลับมาพบกันได้อีก ทว่าความรักและผูกพันก็ยังคงอยู่เสมอ“ฮึก ฮือออ พ่อ⁓ พ่อ ฮือ...”แพรวพรรณยอมรับในการตัดสินใจของผู้เป็นแม่ก็จริงแต่ก็ยากจะหักห้ามความเสียใจอย่างอาดูรนี้ได้ เสียงร่ำร้องปานจะขาดใจเรียกพ่อซ้ำ ๆ อย่างน่าเวทนา!เช่นเดียวกับเกวรินไม่อาจทนเห็นการจากไปของพี่ชายได้ หญิงสาวกุมมือสั่นเทาไว้อีกชั้นต่อจากนั้นแพรวพราวก็พยักหน้าให้กับหมอหนุ่ม ให้เขาหยุดการทำงานของเครื่องมือซึ่งกำลังยื้อไพศาลเอาไว้ชานเดินไปยังเครื่องสีขาวอยู่ข้างเตียง ทันทีที่นิ้วยาวกดลงปุ่มสีแดง เส้นกราฟเลื่อนสลับขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอก็ค่อย ๆ บางเบาไปเรื่อยจนกระทั่งเหลือเพียงเส้นตรงเป็นแนวยาวตี๊ดดดดดด.....‘สิ้นสุดการยื้อชีวิตของ นายไพศาล วีรกุล นักธุรกิจผู้มากความสามารถในเวลา 09:17 นาฬิกา’ไม่มีร่มโพธิ์ร่มไทรให้คอยพักพิง ไม่มีเสียงขับกล่อมปลอบโยนยามลูกสาวร้องไห้จ้า ไม่มีอ้อมกอดแสนอบอุ่นจากวงแขนกว้างของผู้เป็นพ่ออีกต่อไป แพรวพรรณทรุดลงข้างเตียงไร้เรี่ยวแรงจะพยุงให้ยืนหยัดอีกต่อไป!!หนึ่งเดือนต่
ICUภายในห้องสีขาวสะอาดตาบนเตียงขนาดกว้างมีชายวัยกลางคนนอนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดรอบตัวเต็มไปด้วยสายระโยงระยาง ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอก็ล้วนมาจากเครื่องช่วยหายใจเท่านั้นแพรวพราว เกวรินและแพรวพรรณยืนมองผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวด้วยความเศร้าโศกเสียใจน้ำตาไม่มีโอกาสได้หายไปจากดวงตาของพวกเธอเลย นับตั้งแต่ไพศาลเข้ารับการรักษามาตลอดหลายคืน“ผมช่วยอย่างเต็มที่แล้วครับแต่พี่ไพศาลไม่สู้ไปพร้อมกับเราแล้ว” หมอหนุ่มบอกกับญาติของคนไข้ด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกช่วงที่ผ่านมาชานรู้ว่าคนป่วยสู้กับโรคร้ายนี้มากแค่ไหน ทว่าแค่จิตใจอย่างเดียวยากเกินกว่าจะยับยั้งเมื่อความเครียดเข้ามามีบทบาทอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ก็เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย จึงเป็นเหตุให้เขาทรุดลงอย่างรวดเร็ว“อย่างที่ผมบอกไปครับ พี่ไพศาลอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ อวัยวะส่วนอื่นไม่ตอบสนองในการรักษา อยู่ที่การตัดสินใจของพี่พราวแล้วก็แพรวแล้วล่ะครับ” ในช่วงท้ายหมอหนุ่มได้หันไปหาเพื่อนสาว“ผมขอโทษที่ต้องบอกตรง ๆ ถ้าอยากจะทำใจก่อน ผมก็จะยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจนี้ออก แต่ถ้าหากว่าต้องการให้พี่ไพศาลไปอย่างสงบ ผมก็จะหยุดการทำงานเครื่องนี้ทันทีครับ”ว
เกวรินกล้ำกลืนกลั้นก้อนสะอื้นที่มันอัดแน่นจุกอยู่ข้างในเอาไว้อย่างสุดฤทธิ์แล้วความเงียบก็เกิดขึ้นชั่วขณะแพรวพรรณยืนนิ่งค้างไม่ไหวติงราวกับเป็นหุ่นยนต์ ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยอาการช็อก แม้จะมีอุ้งมือใหญ่บีบกระชับก็ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกถึงความห่วงใยที่เขาส่งมาให้เลยหยาดน้ำตาค่อย ๆ หลั่งไหลยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนราวกับเปิดก๊อก สายตาพร่ามัวหันไปยังประตูบานใหญ่ด้วยความรู้สึกปวดร้าวเกินจะบรรยายตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้เป็นพ่อมักจะบอกว่าเอางานกลับมาทำเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศของการทำงานและเห็นว่าท่านก็มีความสุขเมื่อได้ทำอยู่ที่นั่น“ฮึก ๆ พ่อ ฮึก เป็นมะเร็งอย่างนั้นเหรอคะ” เสียงสะอื้นร้องไห้ขาดห้วงเป็นระยะเอ่ยถามออกมาปานจะขาดใจเป็นภาพน่าเวทนาเหลือเกินตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยเลยสักครั้งที่แพรวพรรณ ผู้ถูกฟูมฟักเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีจะร้องไห้ฟูมฟายได้มากมายขนาดนี้“ใช่ พ่อเป็นมะเร็งมาระยะหนึ่งแล้ว ที่ไม่ได้บอกลูกก็เพราะว่าท่านขอไว้” แพรวพราวบอกความจริงกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกลัวว่าหากพูดดังจะทำให้อีกคนแตกสลายไปมากกว่านี้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจจนไม่สามารถยืนด้วยขาของตนเองได้ร่างบอบบางซวนเซเข้าหา
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งแพรวพรรณสับขาเร่งจังหวะการเดินให้ถี่ขึ้น จากลานจอดมายังห้องฉุกเฉินด้วยความเร่งรีบเพื่อให้ถึงที่หมายโดยเร็วก่อนหน้านี้ก็ไม่แม้จะเช็กความเรียบร้อยในการแต่งกายหยิบเสื้อตัวไหนได้ก็สวมใส่ลวก ๆ ก่อนจะออกมา ยังเป็นแฟนหนุ่มที่คอยเตือนสติว่าควรสวมเสื้อคลุมทับมาด้วยจนกระทั่งมาถึงหน้าห้องฉุกเฉินก้อนสะอื้นกักเก็บเอาไว้ก็ตีขึ้นมาอีกครั้ง เธอคลายมือออกจากณภัทรแล้วเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่และอาสาวด้วยความร้อนใจ“แม่ อาเกศ พ่อเป็นอะไรคะ” เสียงสั่นเครือเอ่ยถามบุคคลทั้งสอง ดวงตากลมโตผ่านการร้องไห้มาก่อนแดงช้ำจนแลดูน่าสงสารมองใบหน้าอิดโรยของผู้ใหญ่ทั้งสองแพรวพราวเดินเข้ามาใกล้ด้วยหัวใจอันบอบช้ำไม่แพ้กัน ร่างสั่นไหวโผล่เข้าหาบุตรสาวโอบกอดแก้วตาดวงใจไว้แนบอก“พ่อล้ม...แล้วหัวใจก็หยุดเต้นไปตอนสี่ทุ่ม” เสียงสั่นตอบลูกสาวแผ่วเบาคำตอบของผู้เป็นแม่ทำหัวสมองขาวโพลนและอื้ออึง เนื้อตัวสั่นเทาอยู่ภายใต้อ้อมกอดรัดแน่น“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้คะ” เสียงแผ่วเบาไร้น้ำหนักเอ่ยถาม ดวงตาสั่นระริกมองไปยังผู้เป็นอาซึ่งไม่ได้หันมาในทิศทางของตนเองกับแม่“อาเกศ”เกวรินเลื่อนสายตากลับมาหาสองแม่ลู
อกอวบใหญ่ถูกครอบครอง ลิ้นสากดุนยอดดอกบัวแสนสวยอย่างเมามัน“อื้อ พี่ภัทร อ๊า”เสียงหวานครวญครางด้วยความวาบหวิว ดวงตาหลับพริ้มรับสัมผัสแสนรัญจวนใจอย่างมีความสุข มือเล็กโอบกอดแฟนหนุ่มลูบไล้ครูดปลายนิ้วบนแผ่นหลังกว้าง“อื้ม” ณภัทรครางรับในลำคอแหบห้าวไฟสวาทลุกโชนแผดเผาร่างกายกำลังเสียดสีกันอย่างร้อนแรง ชายหนุ่มจับขาเรียวยกขึ้นสูงกดเอวสอบเข้าชิดดอกไม้เบ่งบานสะพรั่ง“พี่เข้าไปตอนนี้เลยได้ไหม พี่ต้องการแพรวเหลือเกิน” ณภัทรกระซิบเสียงสั่นพร่า“แพรวก็ต้องการพี่ค่ะ”ไม่รอช้าเมื่อแฟนสาวเองก็เรียกร้อง ณภัทรกดแท่งเนื้อเข้าไปในปากทางรักฉ่ำแฉะเนิบนาบลำท่อนแข็งแกร่งสอดสวมเข้าลึกจนสุดโคน บดเอวเน้นจุดอ่อนไหวสร้างความเสียดเสียวซาบซ่านให้คนใต้อาณัติ“อ่า พี่ภัทร แพรวเสียว พี่เข้าลึกไปแล้ว” ปากบอกอย่างห้ามปราม ทว่าสะโพกบางกลับขยับส่ายเร่าด้วยความรัญจวนใจเมื่อเพลิงอารมณ์แห่งแรงราคะแล่นปราดทั่วร่างกาย“แพรวตอดพี่ถี่ยิบเลย ซี้ดดด”เอวสอบขยับแท่งเนื้อเข้าออกโพรงนุ่มเร็วขึ้น ณภัทรกอดรัดคนรักแนบเข้าลำตัว ป้อนจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม“อ๊ะ พี่ภัทร อ๊ะ อ๊า”“ซี้ด แพรว ซี้ดด”บทรักแสนบ้าคลั่งดังขึ้นถี่ยิบเสียงเนื้
แพรวพรรณเดินตรงไปยังอ่างใบใหญ่ หมุนเปิดน้ำไหลลงสู่พื้นสีขาว หย่อนตัวลงนั่งบริเวณขอบแข็งมือเล็กจุ่มลงแกว่งเล่นไปมาภายในหัวก็หวนกลับไปนึกถึงเรื่องที่เพื่อนสาวกล่าวมาทั้งหมดดวงตากลมโตทิ้งอยู่กับระดับน้ำค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อย อุณหภูมิกำลังพอดีทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากทีเดียว ริมฝีปากอวบอิ่มจึงยกยิ้มพอนึกไปถึงคนอยู่ด้านนอกความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขารุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานณภัทรกลายเป็นคนรู้ทุกความเคลื่อนไหวของตนเองเป็นอย่างดีไปเสียแล้วในระหว่างกำลังตกอยู่ในห้วงของความคิด พลันร่างบอบบางก็สะดุ้งตกใจ จากวงแขนกว้างเข้ามาโอบอยู่รอบเอว จูบนุ่มนวลก็สัมผัสแก้มนุ่มแพรวพรรณเอียงหน้าหันไปมองค้อนแฟนหนุ่มที่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง“ตกใจหมดเลย”“นั่งเหม่อคิดถึงใครอยู่เหรอ หื้ม” เสียงทุ้มกระซิบถามข้างซอกคอขาวแพรวพรรณส่ายสายตามองคนเปลี่ยนชุดมาแล้วเรียบร้อย ร่างสูงมีเพียงผ้าขนหนูพันเอวสอบจากนั้นก็เลื่อนขึ้นมาสบตากับนัยน์ตาคม ส่งยิ้มมาให้อย่างออดอ้อนแฟนหนุ่มค่อนข้างติดสกินชิพเมื่ออยู่กันตามลำพัง ประเดี๋ยวกอด เดี๋ยวจูบคลอเคลียข้างกายอย่างเช่นตอนนี้“คิดอะไรไปเรื่อยค่ะ น้ำเต็มพอดีลงไปแช่เลย