เสียงฉีกขาดของเดรสแสนสวยก็ดังขึ้น กลายเป็นเศษผ้าขาดวิ่นไปตามแรงกระชากของมือใหญ่ เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มล้นออกมา
“ทำอะไรของคุณ!” แพรวพรรณปัดป้องมือใหญ่พัลวัน
“ทำให้คุณเห็นไงว่าคนที่กล้าตบผมจุดจบมันจะเป็นยังไง”
ณภัทรไม่สนใจว่าแพรวพรรณจะเจ็บหรือหวาดกลัวแค่ไหนกับการกระทำของตน ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้มาก่อน
ความเกรี้ยวกราดจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาฝังเนินเนื้ออวบอิ่ม ปากหยักหนาดูดดึงขบเม้มบริเวณนั้นอย่างแรง จนผิวเนียนขึ้นรอยช้ำเป็นสีม่วง
“ฮึก เจ็บ อย่า พอแล้วฉันเจ็บ” น้ำตาร่วงเผาะลงข้างแก้มใส เมื่อถูกซาตานร้ายกระทำอย่างป่าเถื่อน
เสียงสะอื้นทำให้ณภัทรผละออกห่างจากผิวนวลเนียน ไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนที่เคยพยศจะเป็นเช่นไร
ดวงตากลมโตสั่นระริกสองแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างชอบใจ
“ลองเจ็บดูบ้างไหมแพรวพรรณ ถ้าคุณยังกล้าทำผมเลือดออกอีกครั้ง รอยพวกนี้มันจะไม่อยู่แค่ตรงนี้ มันจะไปอยู่ทั่วเรือนร่างของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาตะคอกใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่คิดสงสาร
แพรวพรรณเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตากับดวงตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น
“ถอดชุดออก” คำสั่งเสียงแข็งเปล่งออกมา เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่นอนนิ่ง
ขวับ!
สายตาเพ่งอยู่แค่ผนังห้องหันกลับมาที่ร่างสูง
“ไม่ได้ยินที่ผมพูดเหรอ ลุกขึ้นมา”
แพรวพรรณสะดุ้งกับเสียงกราดเกรี้ยว ดันตัวขึ้นหย่อนขาลงข้างเตียงก่อนจะหยัดยืนเต็มความสูง เธอหันหลังให้อีกคน
ปลดชุดไม่สมบูรณ์ของตนเองด้วยมือสั่นเทา แพขนตางอนยาวปิดลงไล่หยาดน้ำสีใสกำลังร่วงหล่นอย่างกล้ำกลืน
โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรถึงได้นำพาให้มาเจอะเจอกับผู้ชายเลวคนนี้อีก
ณภัทรมองแผ่นหลังขาวเนียนเผยอยู่ตรงหน้า ผิวขาวผุดผ่องของเรือนร่างสวยมีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างลงตัว เขายอมรับว่าเธอตรงสเปคทุกอย่าง
ติดเพียงแค่เป็นลูกสาวของผู้ชายคนนั้น
“ถอดให้ผมด้วย”
“มีมือทำไมไม่ถอดเอง” แพรวพรรณยกแขนขึ้นโอบกอดตัวเองในขณะที่ยังหันหลังให้เขาอยู่
ทั้งที่รู้ว่าตกเป็นรองแทนที่จะรู้จักเอาอกเอาใจกลับแข็งข้อทำให้โมโหอยู่เรื่อย
ณภัทรเอื้อมมือไปบีบแขนเรียวอย่างแรง
“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ”
“ไม่อยากเจ็บตัวเวลาบอกให้ทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องยอกย้อนจะได้ไหม”
แพรวพรรณใบหน้าแดงก่ำ เมื่อหันมาเผชิญหน้ากับณภัทร
“เร็วสิก่อนที่ความอดทนของผมจะหมดลงนะ แพรวพรรณ”
เมื่อเลี่ยงไม่ได้ มือเล็กปลดชุดของเขาออกเชื่องช้าจากกระดุมเม็ดบนไล่ลงไปล่างสุด แผงหน้าอกขาวบึกบึนมีกล้ามเนื้อสวยงาม ขนอ่อนรำไรทั่วหน้าท้องเป็นลอนแข็งแกร่งสายตาเธอหยุดอยู่แค่ตรงนั้น
แพรวพรรณเบนสายตาไปทางอื่นเมื่อต้องจัดการส่วนที่อยู่ด้านล่างต่อจากนั้น มือเล็กแกะหัวเข็มขัดของเขาออกแล้วรูดซิปดึงกางเกงราคาแพงลง
“จะเหลือไว้ทำไมถอดให้หมดสิ”
“.....”
แพรวพรรณชักสีหน้าไม่พอใจ เพราะณภัทรออกคำสั่งให้ถอดชิ้นที่ยังเหลืออยู่บนเอว หากสายตาของเธอเป็นดังไฟ ป่านนี้เขาก็คงจะมอดไหม้ไปแล้ว
“ไม่ได้เรื่อง”
ณภัทรดันไหล่บอบบางนั่งลงที่ขอบเตียง ใช้ร่างกายสูงใหญ่กักกันเธอไว้ไม่ให้หลบไปไหนได้ เขาคว้ามือของแพรวพรรณขึ้นมาเกี่ยวชิ้นที่เหลือออก แท่งร้อนขนาดใหญ่จึงผงาดออกมาต่อหน้าหญิงสาว
เธอเบือนหน้าหนีแต่ก็ถูกมือใหญ่จับให้หันกลับมาที่เดิม แววตาเย้ยหยันจ้องเข้าไปในดวงตาสั่นระริก
‘ทำอย่างกับไม่เคยเห็น’
“ทำให้ผมพอใจแล้วผมจะปล่อยคุณกลับไป”
‘พอใจ’
ช่างเป็นคำที่กว้างเหลือเกิน
“ฉันทำไม่เป็นคุณอยากจะ...”
“ยกมือขึ้น” อีกคนยังไม่ทันจะพูดจบ ณภัทรก็ตัดบทเสียก่อน
“เร็วสิ ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจทำอะไรที่คุณไม่อยากเจอแน่แพรวพรรณ” เป็นครั้งแรกเขาใจเย็นต้องมาสอนใครในเรื่องแบบนี้ ปกติมีแต่คนรู้งานเท่านั้นที่ขึ้นเตียงด้วย พอเป็นผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงได้อยากสอน!
ข้อมือเล็กชักรูดแท่งร้อนขนาดใหญ่ขึ้นลงอย่างไม่ประสา น้ำสีใสไหลซึมออกมาจากร่องรูบนหัวหยัก เปื้อนมือหญิงสาวโดยมีมือใหญ่กอบกุมทับอีกที
ณภัทรกระตุกยิ้มเลียริมฝีปากแห้งผากอย่างกระหาย เขาปล่อยให้แพรวพรรณทำเองแม้จะไม่ประสาแต่กลับรู้สึกชอบ เสียงต่ำครางในลำคอ มือใหญ่สอดท้ายทอยของแพรวพรรณดันใบหน้าหวานให้เข้ามาใกล้บริเวณหน้าท้อง
“อ้าปาก” เสียงทุ้มสั่งอย่างเอาแต่ใจ
แพรวพรรณทำตามอย่างขัดไม่ได้ ปากอวบอิ่มอ้าออกโดยที่ไม่รู้ว่าอีกคนให้ทำเพื่ออะไร ยังไม่ทันได้เอ่ยคำไหนก็ถูกแท่งร้อนดันเข้ามาเสียก่อน
“อ๊อก!”
“ซี้ด... เสียวฉิบ” แท่งร้อนเมื่อได้เข้าไปอยู่ในโพรงปากนุ่ม ความเสียวซ่านก็ทะยานขึ้นมา
อ๊อก อ๊อก...
หญิงสาวน้ำตาเล็ดเมื่อคนที่ยืนโยกขยับอย่างต่อเนื่อง
“เร็วหน่อยแพรวพรรณ”
หัวเล็กสั่นคลอนไปตามแรงขยับ อมแทงร้อนผ่าวขยายใหญ่จนคับแน่นเต็มปาก ส่วนปลายก็กระทุ้งเข้าลึกอย่างไม่ลดละ โดนทั้งผนังแก้มทั้งลำคอจนเจ็บระบบ หยาดน้ำตาไหลรินออกมาอย่างน่าเวทนา
“อ่า ซี้ด ปากนิ่มฉิบ ซี้ด อ่า” ถ้อยคำหยาบโลนสบถเสียงแหบพร่า ไม่อาจกักเก็บความพึงพอใจที่ปากสวยปรนเปรอความใคร่ให้กับตนเองได้ จากนั้นจึงค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นคุมจังหวะเสียเอง
“อ๊อก อ๊อก อ๊อก ...”
ความอุ่นชื้นในโพรงปากนิ่มทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มพลุ่งพล่านจนต้องเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ลิ้นอุ่นแตะโดนหัวหยักณภัทรกระตุกเกร็งด้วยความกระสัน
“อ๊อก อ๊อก”
“ซี้ด อ่า ผมจะเสร็จ อ๊ะ อ๊า”
“อ๊อก อ๊อก”
“ซี้ด อ่า กลืนมันลงไป อื้มมม” เขาหลั่งน้ำเหนียวหนืดใส่โพรงปากของเธอ
กลิ่นคาวคละคลุ้งจนอยากขย้อนแต่ก็ทำไม่ได้เมื่อเขากดหัวเธอไว้
“แค่ก ๆ ๆ”
“แค่นี้ก็สำลัก!”
ณภัทรเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ซึ่งนั่งอยู่มุมประจำ หลังจากไม่ได้เข้ามาหาท่านเสียหลายวัน ทางด้านอารยาเมื่อเห็นดังนั้นก็ยิ้มตอบรับบุตรชายด้วยใบหน้าแช่มชื่น วงแขนเล็กยื่นออกไปหาร่างสูงของเขาในทันที“กลับบ้านถูกแล้วสินะลูกคนนี้”“ทางยังเหมือนเดิมอยู่นะครับแม่”“เดี๋ยวนี้รู้จักโต้ตอบแม่แล้วนะ”เขายิ้มให้กับถ้อยคำของท่านเพียงเท่านั้นก็นั่งลงข้าง ๆ กัน“ขนมขายดีไหมครับ”“ได้เรื่อย ๆ นั่นแหละ”ณภัทรก้มหน้ามองมือนุ่มเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น หลายวันมานี้เขาคิดมาตลอดว่าจะเริ่มต้นบอกเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เป็นแม่ได้เข้าใจอย่างไรดี“มีอะไรหรือเปล่า” สายตาของลูกชายทำให้อารยาต้องเอ่ยถาม“ผมมีเรื่องจะคุยกับแม่ครับ”“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจอย่างนั้นเหรอ หรือเพราะไม่ได้งานใหญ่นั้น”“ไม่ใช่ครับ แต่ถึงไม่ได้งานแม่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ บริษัทยังมีสินค้าตัวอื่นอยู่ ที่ผมจะบอก คือ...ผมรักผู้หญิงคนหนึ่งครับ” หลังจากที่พูดจบณภัทรก็เริ่มมองปฏิกิริยาของผู้เป็นแม่ว่าจะแสดงออกมาอย่างไร“จริงเหรอลูก จริงจังหรือเปล่า เธอเป็นใคร พาเข้ามาหาแม่หน่อยสิ” ความตื่นเต้นทำให้อารยาตั้งคำถามมากมาย เป็
ธาดาเดินขึ้นมายังชั้นบนของบ้านหลังใหญ่ด้วยความเหนื่อยอ่อน คำพูดของชาทำให้นึกเป็นห่วงเขมจิรา เธอไม่ยอมทานข้าวอีกแล้วเขาหมุนลูกบิดประตูเปิดเข้าไปในห้องของเธอนัยน์ตาราบเรียบทอดมองเรือนร่างใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งข้างเจ้าของเตียงกว้างใบหน้าเหนื่อยล้าก้มต่ำ ต้องการพลังจากริมฝีปากหยักสวยของคนตรงหน้าเหลือเกินแต่ทว่ายังไม่ทันได้สัมผัสเรียวปากนุ่ม เขมจิราก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเสียก่อน“ชู่ว์...ผมเอง” เสียงแผ่วเบากระซิบบอก“คุณ...มาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงสั่นเอ่ยถามหลังจากเรียกขวัญตนเองกลับมา คิดว่าโดนผีหลอกเข้าให้แล้ว“สักพักนี่เอง ชาบอกว่าคุณไม่กินข้าวทำไมดื้ออีกแล้วล่ะ” ธาดาล้มตัวลงนอนเคียงข้างเธอ“ชาไม่ได้บอกเหรอว่าฉันยังกินนม”“แค่นมมันจะไปอิ่มท้องอะไร ที่รัก” ธาดาขยับตัวแนบชิดเรือนร่างนุ่มนิ่ม‘ที่รัก’คำนี้ทำให้หัวใจเต้นแรงเมื่อก่อนไม่เห็นเคยเป็นอย่างนี้นี่น่า“เอ่อ...ฉันไม่หิว คุณพึ่งกลับมาเหนื่อย ๆ กลับไปนอนห้องคุณดีกว่าไหม” พูดออกไปแล้วก็อยากจะตีตัวเองแรงสักที“คุณไล่ผม?” ธาดาขยับตัวออกห่างแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“เปล่า แค่เห็นว่าคุณมาน่าจะเหนื่อยมากนอนห้องใหญ่น่าจะดีกว่
เหนือน่านฟ้าภายในห้องผู้โดยสารธาดาและดิวกำลังปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด เวลานี้มีเพียงบุคคลเดียวที่สามารถเรียกคืนอำนาจกลับมาให้พวกเขาได้“พวกมันรู้เห็นกันหมดเลยสินะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นลูกน้องของดิวส่งข่าวมาบอกตอนนี้อีกฝ่ายได้ดึงผู้ร่วมลงทุนไปได้เกินครึ่งแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้มีผลต่อหุ้นมากนักแต่หากเสียงเอนเอียงไปมากขนาดนี้ก็มีสิทธิ์ที่อีกฝ่ายจะเอาข้อนี้ มาทวงตำแหน่งคืนจากเขาได้“กูถึงบอกมึงไงว่าพวกนั้นมันเขี้ยวลากดินกันทั้งนั้น” ที่ผ่านมาเขาคอยสอดส่องพฤติกรรมของเจ้าของกาสิโนคนเก่าอยู่เสมอ เพราะไม่เคยไว้ใจพวกจิ้งจอกนี้เลยแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเพลี่ยงพล้ำจนได้“มันลงมือได้เร็วแบบนี้แสดงว่าได้วางแผนกันไว้แล้วตั้งแต่แรก”“ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ที่มันยอมเซ็นให้เราเพราะคิดไว้อยู่แล้วถ้าเป็นมัน คนอื่นต้องยอมแน่”“แล้วลูกน้องมึงว่าไงบ้าง”“ไม่ต้องห่วงพวกนั้น กูผิดเองที่ไม่จัดการขั้นเด็ดขาดกับมันไปซะ” นึกมาถึงจุดนี้ ดิวถึงกับขบกรามแน่น ตัวเองตีงูแค่พอหลังหักผลสุดท้ายมันก็แว้งกลับมาทำร้ายธาดาละจากเครื่องมือสื่อสารหันไปมองเพื่อนด้วยสีหน้าอ่อนลง“มึงไม่ได้ผิด พวกมันแค่ไม่ยอมรับความจริงต่างหาก บริหาร
ณภัทรขยับตัวเมื่อรู้สึกถึงความเมื่อยล้าของท่อนแขน สายตาคมเหลือบมองด้านข้างจากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นเมื่อเห็นใบหน้านวลเนียนเป็นเพราะมีหัวเล็กหนุนอยู่นี่เองถึงได้รู้สึกชาอย่างนี้ เขาดันตัวขึ้นนั่งดึงแขนออกมาโดยไม่ให้รบกวนอีกคน อยากตื่นขึ้นมาแล้วเห็นแพรวพรรณนอนเคียงข้างแบบนี้ทุกวันเหลือเกิน“คงเหนื่อยมากเลยสินะ พี่ไปอาบน้ำก่อนนะครับ” เสียงทุ้มบอกกับคนที่ยังหลับสนิท หย่อนขาลงจากเตียง หยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป“อืม...” เสียงแผ่วเบาครางผ่านลำคอเมื่อเริ่มรู้สึกตัว เธอมองหาอีกคนว่าหายไปไหน ได้คำตอบเมื่อเขาเปลือยท่อนบนเดินออกมาจากห้องน้ำ“ตื่นแล้วเหรอครับ”“ค่ะ พี่ตื่นนานแล้วเหรอ”“สักพักนี่เอง ทำไมตื่นเร็วนักล่ะ” ณภัทรหย่อนตัวลงนั่งข้างเจ้าของใบหน้าหวาน เขาก้มไปหอมแพรวพรรณฟอดใหญ่“จะนอนต่อหรือลุกไปอาบน้ำ” เมื่อยังเห็นร่องรอยความอ่อนเพลียเขาจึงเอ่ยถามด้วยสุ้มเสียงนุ่มนวล“อาบน้ำ บ่ายนัดกับเขมไว้จะไปคุยเรื่องงานกันค่ะ”“ทำงานต่อเลยเหรอ ไหวหรือเปล่า”พอได้ยินอย่างนั้นแพรวพรรณก็ขยับตัว ผุดลุกนั่งเคียงคู่กับณภัทรก็ถูกลำแขนใหญ่โอบกอดทันทีเช่นกัน“ดื่มได้ก็ต้องทำงานได้สิ หรือพี่ไม่เชื่อ?” เธอ
ท่ามกลางความมืดมิดของถนนหนทาง รถยนต์หรูคันหนึ่งกำลังขับเคลื่อนทะยานมุ่งหน้าไปสู่ถนนสายเล็ก แสงไฟจากสองฟากฝั่งสะท้อนเข้ามาภายใน เห็นเรือนร่างชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอิงแอบกันอยู่ด้านหลังแพขนตางอนยาวปิดลงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์สร้างความมึนเมาจนร่างกายเอนเอียงยังดีมีลำแขนแข็งแกร่งโอบกอดพยุงไม่ให้ล้มไปกองที่เบาะแม้ว่าสติจะเลือนรางทว่าก็พอจำเส้นทางนี้ได้เป็นอย่างดี ณภัทรไม่ได้จะพาเธอกลับไปส่งบ้านนั่นเพราะได้มุ่งหน้าไปยังบ้านพักส่วนตัวของเขาต่างหากตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอซ่อนความรู้สึกถวิลหาณภัทรเอาไว้จนลึกสุดใจ ต่อให้รักเขามากแค่ไหนก็ไม่อาจทรยศพ่อผู้ล่วงลับไปได้แล้วยังมีแม่และอาสาวยังคงเจ็บปวด ใครเลยจะล่วงรู้ทุกค่ำคืนในความทรงจำมันย้อนกลับมาทำร้ายเธอเจ็บปวดมากแค่ไหนหรือแม้แต่การพบเห็นณภัทรผ่านสื่องานสังคมซึ่งเลี่ยงไม่ได้ยิ่งก่อให้เกิดความโหยหาเขามากขึ้นแพรวพรรณขยับร่างกายเมื่อความรู้สึกเหล่านั้นสะท้อนเข้ามาเกาะกุมหัวใจอีกครั้ง“เมื่อยหรือเปล่า” โทนเสียงอบอุ่นเอ่ยถาม สายตาพิสมัยมองใบหน้าหวาน“ไม่”“ไม่โกรธใช่ไหมที่พี่ไม่พากลับบ้าน พาแพรวมาที่นี่”“แล้วถ้าแพรวบอกว่าโกรธพี่จะพาแพรวกลับไหม”“ไม่อย
คล้อยหลังพ่อเลี้ยงเมธาไป เขมจิราก็หันมามองค้อนคนที่ยืนอยู่ด้านข้างวงแขนกว้างยังโอบกอดเธอไว้ไม่ห่าง เข้าใจอยู่หรอกว่าหวงมากแต่เมื่อครู่ไม่เกินไปหน่อยเหรอน่าจะรู้หากเกี่ยวกับงานตนเองจริงจังมากแค่ไหน ทำไมถึงไม่อะลุ่มอล่วยให้กันบ้าง พ่อเลี้ยงเมธาก็ไม่ได้มีท่าทีหยาบคายกับพวกเธอสักหน่อย พอคิดมาถึงจุดนี้ดวงตากลมโตก็ยิ่งทอแสงวาวโรจน์มากขึ้นไปอีกทว่าเพียงไม่นานเขมจิราก็สะบัดหน้าหลบสายตาเรียวคมไปอีกทาง ในแววตาคู่นั้นพอจ้องนานทำหัวใจหวั่นไหวอย่างไม่น่าให้อภัยเลยจริง ๆ!และดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่ตนเองหรอกที่ถูกคุมเข้มแพรวพรรณก็ไม่ต่างกัน ชายหนุ่มข้างกายทั้งตีหน้าเคร่งขรึม แล้วยังเอ่ยพึมพำอยู่เนือง ๆ อีกด้วยครั้นจะเข้าไปช่วยแก้ต่างให้แค่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ดังนั้นเขมจิราจึงเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งอยู่ตำแหน่งเดิมโดยมีธาดาเดินตามมาหย่อนสะโพกนั่งตรงขอบพนักโซฟาด้านข้างครึ่งชั่วโมงให้หลัง“จะกลับหรือยังคุณเมาแล้วนะเขม”“คุณอยากกลับก็กลับไปก่อนสิฉันกลับกับชาก็ได้”“ไม่เอาน่าที่รัก” เขาก้มลงไปกระซิบข้างใบหูสวยสายตาเรียวคมกวาดมองไปโดยรอบเวลานี้ผู้คนเริ่มบางตาไปมากจนกระทั่งมาหยุดที่ณภัทร มาเฟียหนุ่