ครูสาวเดินนำลูกศิษย์ลงจากเวทีไปหาเจต ซึ่งยืนรอด้วยรอยยิ้มกว้างอยู่ด้านล่าง
“เก่งมากครับ ทุกคนทำได้ดีมากเลยรู้ไหม”
“ขอบคุณครับ, ขอบคุณค่ะ”
คำชื่นชมจากผู้อำนวยการทำให้นักศึกษาหายเหนื่อยในพริบตา ปลาบปลื้มที่เจ้าของสถาบันให้ความสำคัญอย่างนี้
“ขอบคุณแทนพวกเขาด้วยนะคะ” แพรวพรรณมองตามหลังนักศึกษากำลังแยกตัวกันออกไปทางประตูด้านข้าง
“พี่ถึงบอกไง ว่างานนี้เด็ก ๆ จะได้รับโอกาสเยอะมาก”
“งั้นแพรวขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”
“ครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับแพรว! พี่ลืมเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอก”
“เรื่องอะไรเหรอคะพี่เจต”
“คือ...ตอนที่เจ้าของบริษัทขึ้นไปกล่าวเปิดงาน แพรวช่วยเอาดอกไม้ขึ้นไปมอบให้เขาหน่อยนะครับ”
“ดอกไม้! ทำไมถึงเป็นแพรวล่ะคะ”
“เมื่อกี้ตอนที่แพรวกำลังแสดงอยู่เขาบอกว่าชอบมาก ๆ ก็เลยอยากให้แพรวเป็นคนถือดอกไม้ขึ้นไปแล้วจะขอบคุณแพรวเองด้วยครับ”
เจตประดิษฐ์ถ้อยคำเพื่อให้ครูสาวเข้าใจ นั่นก็เพราะเจ้าเพื่อนบ้าดันมาบอกเอาวินาทีสุดท้าย แล้วยังขู่อีกด้วยถ้าไม่ยอมเงินก็ไม่ต้องเอา ถึงจะรู้ว่าณภัทรพูดเล่นก็ตาม
“.....”
“นะครับพี่ขอร้องอีกสักครั้ง” แววตาเว้าวอนส่งให้ครูสาว
ต่อมา...
“งานแสดงอัญมณี Gems of beauty for you that are precious ของบริษัทเอ็นเจดับบิลในวันนี้เป็นงานเปิดตัวสินค้าชิ้นใหม่ของท่านประธานซึ่งเป็นรายแรกที่คิดแบบงานลายนี้ออกมา ทั้งเป็นครั้งแรกที่มีการร่วมมือกับบริษัทออกแบบจากประเทศอังกฤษเพื่อหาอัญมณีที่หายากมาในครั้งนี้ ขอเสียงปรบมือให้กับคุณณภัทรประธานของเราด้วยค่ะ....”
“คุณณภัทรงั้นเหรอ! เก่งจังอายุยังน้อยอยู่เลย นึกว่าจะรุ่น ๆ เดียวกับพ่อเสียอีก”
หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จ แพรวพรรณก็เดินมารออยู่ด้านหลังเวที คอยเวลาขึ้นไปมอบดอกไม้ให้กับเจ้าของงาน เพื่อเป็นการขอบคุณที่เขาได้ช่วยมอบทุนให้กับทางมหา’ ลัย จึงได้รู้ประวัติของเจ้าของงานในครั้งนี้ไปในตัว
จนกระทั่งพิธีกรกล่าวมาถึงช่วงเวลาต้องขึ้นมอบดอกไม้ สาวสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีครีมเข้ารูป ก็ได้ก้าวขึ้นไปบนเวที
แม้จะมองจากด้านหลังก็ยังคิดว่านักธุรกิจหนุ่มมีบุคลิกของชายในฝันสำหรับเหล่าหญิงสาวมากมายในงานนี้แน่นอน
‘แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอกัน’
อมยิ้มกับตัวเองเมื่อมีความคิดอย่างนั้นขึ้นมา
แพรวพรรณเดินเข้าไปใกล้หน้าเวทีมากขึ้น พิธีกรสาวเห็นก็หลบให้ไปยืนข้าง ๆ ประธานของงาน ในจังหวะยื่นช่อดอกไม้ส่งให้ผู้บริหารหนุ่ม เป็นเวลาเดียวกับเขาหันมาพอดี แพรวพรรณเนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยความตื่นตระหนก
‘เขาคือผู้ชายในคืนนั้น’
ขณะตกอยู่ในห้วงความคิดอันเลวร้าย สีหน้าหวั่นวิตกล้วนตกอยู่ในสายตาของผู้คนมากมาย โดยที่เธอไม่อาจควบคุมเอาไว้ได้ โชคดีพิธีกรสาวเข้ามากระซิบเตือนให้มอบดอกไม้กับท่านประธาน แพรวพรรณจึงดึงสติเตลิดไปไกลกลับคืนมาได้ ดอกไม้ส่งให้กับณภัทรและเขาจงใจกุมเธอไว้ ด้วยความตกใจจึงก้าวถอยหลัง ทว่าก็ถูกรวบเอวไว้จนได้
“ทำอะไรของคุณ”
ณภัทรรั้งสะโพกกลมกลึงเข้ามาใกล้ โน้มไปกระซิบให้หญิงสาวอยู่นิ่ง ๆ หากไม่อยากเป็นเป้าสายตา พอเขาดึงตัวออกห่างแล้วหันกลับมายิ้มให้กับผู้ที่มาร่วมงาน เสียงปรบมือก็ดังตามมา เป็นอันจบพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการของบริษัทเอ็นเจดับบิล
เมื่อลงมาจากเวทีแล้วแพรวพรรณก็ต้องเดินเคียงคู่ไปกับณภัทร ทั้งสองทำราวกับเป็นคู่รักกันเสียอย่างนั้น เสียงซุบซิบแตกออกเป็นสองทาง
บ้างก็ว่าทั้งคู่เหมาะสมในเรื่องรูปร่างหน้าตา ทว่าอีกทางไม่เห็นด้วย นักธุรกิจหนุ่มระดับนี้จะมาควงแค่นักแสดงธรรมดาอย่างออกหน้าออกตา
งานนี้แพรวพรรณจึงกลายเป็นแค่ ‘นักแสดงที่มีเกียรติ’ ของณภัทรเท่านั้น
‘ถ้าอยากได้เงินทุนทั้งหมด ก็ทำตามที่ผมบอก’
เขายื่นคำขาดตอนอยู่บนเวที ด้วยเหตุผลนี้เธอจึงปฏิเสธไม่ได้ และภาพเหล่านั้นก็ตกอยู่ในสายตาของเจตตลอด พอทั้งสองเลี่ยงออกมาจากกลุ่มนักธุรกิจเขาจึงเดินเข้าไปหา
“จะกลับตอนไหนเดี๋ยวพี่ไปส่ง” ผู้อำนวยการหนุ่มบอกกับครูสาวเสียงทุ้ม
แพรวพรรณได้ยินคำนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เพราะคิดว่าตนเองคงหลุดพ้นไปจากสถานการณ์อึดอัดนี้แล้ว
“เดี๋ยวกูไปส่งเธอเอง”
ความหวังกลับพังทลายลง เมื่อสรรพนามที่ณภัทรใช้แทนตนเองกับ ผู้อำนวยการหนุ่ม
‘พวกเขาเป็นเพื่อนกัน’
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูไปส่งแพรวเอง จะกลับบอกพี่นะครับ”
เจตยังยืนกรานคำเดิม ทั้งสีหน้าของครูสาวก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน ไม่สู้ดีกับสถานการณ์ในตอนนี้ เขาเมินสายตาของณภัทร ซึ่งมองมาอย่างไม่สบอารมณ์ จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบของทั้งสามตกอยู่ในสภาวะความตึงเครียด
ห่างออกไปมีสายตาประเมินสถานการณ์จากธาดาและทิว ลุ้นว่าตกลงใครจะได้ไปส่งครูสาวคนสวยกันแน่! ไม่ต้องรอนานผลก็ออกว่าเป็นใคร
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เจต แพรวกลับเองดีกว่าค่ะ” แรงบีบบริเวณสะโพกทำให้แพรวพรรณต้องบอกอย่างนั้น และคิดว่าเจตคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องในวันนี้แน่
หญิงสาวไม่ใช่คนที่จะเข้าไปสุงสิงกับใครง่าย ๆ แล้วยังเป็นณภัทรอีกด้วย ดูยังไงทั้งสองก็ไม่น่าจะรู้จักกันมาก่อน แต่ด้วยเหตุผลอะไรเพื่อนถึงปฏิบัติกับครูสาวอย่างนี้
เจตหวนกลับไปนึกถึงเรื่องราวทั้งหมด ทั้งการเข้าหาตนเอง เจาะจงลงที่แพรวพรรณ เสนอมอบทุนมากเกินความจำเป็น ทั้งที่ไปจ้างนักแสดงมืออาชีพน่าจะดีกว่า แล้วยังให้ขึ้นไปมอบดอกไม้โดยที่ไม่ใช่งานในส่วนของเธอเลย ทุกเหตุการณ์ล้วนเกี่ยวข้องกับแพรวพรรณ!
ณภัทรเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ซึ่งนั่งอยู่มุมประจำ หลังจากไม่ได้เข้ามาหาท่านเสียหลายวัน ทางด้านอารยาเมื่อเห็นดังนั้นก็ยิ้มตอบรับบุตรชายด้วยใบหน้าแช่มชื่น วงแขนเล็กยื่นออกไปหาร่างสูงของเขาในทันที“กลับบ้านถูกแล้วสินะลูกคนนี้”“ทางยังเหมือนเดิมอยู่นะครับแม่”“เดี๋ยวนี้รู้จักโต้ตอบแม่แล้วนะ”เขายิ้มให้กับถ้อยคำของท่านเพียงเท่านั้นก็นั่งลงข้าง ๆ กัน“ขนมขายดีไหมครับ”“ได้เรื่อย ๆ นั่นแหละ”ณภัทรก้มหน้ามองมือนุ่มเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น หลายวันมานี้เขาคิดมาตลอดว่าจะเริ่มต้นบอกเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เป็นแม่ได้เข้าใจอย่างไรดี“มีอะไรหรือเปล่า” สายตาของลูกชายทำให้อารยาต้องเอ่ยถาม“ผมมีเรื่องจะคุยกับแม่ครับ”“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจอย่างนั้นเหรอ หรือเพราะไม่ได้งานใหญ่นั้น”“ไม่ใช่ครับ แต่ถึงไม่ได้งานแม่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ บริษัทยังมีสินค้าตัวอื่นอยู่ ที่ผมจะบอก คือ...ผมรักผู้หญิงคนหนึ่งครับ” หลังจากที่พูดจบณภัทรก็เริ่มมองปฏิกิริยาของผู้เป็นแม่ว่าจะแสดงออกมาอย่างไร“จริงเหรอลูก จริงจังหรือเปล่า เธอเป็นใคร พาเข้ามาหาแม่หน่อยสิ” ความตื่นเต้นทำให้อารยาตั้งคำถามมากมาย เป็
ธาดาเดินขึ้นมายังชั้นบนของบ้านหลังใหญ่ด้วยความเหนื่อยอ่อน คำพูดของชาทำให้นึกเป็นห่วงเขมจิรา เธอไม่ยอมทานข้าวอีกแล้วเขาหมุนลูกบิดประตูเปิดเข้าไปในห้องของเธอนัยน์ตาราบเรียบทอดมองเรือนร่างใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งข้างเจ้าของเตียงกว้างใบหน้าเหนื่อยล้าก้มต่ำ ต้องการพลังจากริมฝีปากหยักสวยของคนตรงหน้าเหลือเกินแต่ทว่ายังไม่ทันได้สัมผัสเรียวปากนุ่ม เขมจิราก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเสียก่อน“ชู่ว์...ผมเอง” เสียงแผ่วเบากระซิบบอก“คุณ...มาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงสั่นเอ่ยถามหลังจากเรียกขวัญตนเองกลับมา คิดว่าโดนผีหลอกเข้าให้แล้ว“สักพักนี่เอง ชาบอกว่าคุณไม่กินข้าวทำไมดื้ออีกแล้วล่ะ” ธาดาล้มตัวลงนอนเคียงข้างเธอ“ชาไม่ได้บอกเหรอว่าฉันยังกินนม”“แค่นมมันจะไปอิ่มท้องอะไร ที่รัก” ธาดาขยับตัวแนบชิดเรือนร่างนุ่มนิ่ม‘ที่รัก’คำนี้ทำให้หัวใจเต้นแรงเมื่อก่อนไม่เห็นเคยเป็นอย่างนี้นี่น่า“เอ่อ...ฉันไม่หิว คุณพึ่งกลับมาเหนื่อย ๆ กลับไปนอนห้องคุณดีกว่าไหม” พูดออกไปแล้วก็อยากจะตีตัวเองแรงสักที“คุณไล่ผม?” ธาดาขยับตัวออกห่างแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“เปล่า แค่เห็นว่าคุณมาน่าจะเหนื่อยมากนอนห้องใหญ่น่าจะดีกว่
เหนือน่านฟ้าภายในห้องผู้โดยสารธาดาและดิวกำลังปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด เวลานี้มีเพียงบุคคลเดียวที่สามารถเรียกคืนอำนาจกลับมาให้พวกเขาได้“พวกมันรู้เห็นกันหมดเลยสินะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นลูกน้องของดิวส่งข่าวมาบอกตอนนี้อีกฝ่ายได้ดึงผู้ร่วมลงทุนไปได้เกินครึ่งแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้มีผลต่อหุ้นมากนักแต่หากเสียงเอนเอียงไปมากขนาดนี้ก็มีสิทธิ์ที่อีกฝ่ายจะเอาข้อนี้ มาทวงตำแหน่งคืนจากเขาได้“กูถึงบอกมึงไงว่าพวกนั้นมันเขี้ยวลากดินกันทั้งนั้น” ที่ผ่านมาเขาคอยสอดส่องพฤติกรรมของเจ้าของกาสิโนคนเก่าอยู่เสมอ เพราะไม่เคยไว้ใจพวกจิ้งจอกนี้เลยแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเพลี่ยงพล้ำจนได้“มันลงมือได้เร็วแบบนี้แสดงว่าได้วางแผนกันไว้แล้วตั้งแต่แรก”“ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ที่มันยอมเซ็นให้เราเพราะคิดไว้อยู่แล้วถ้าเป็นมัน คนอื่นต้องยอมแน่”“แล้วลูกน้องมึงว่าไงบ้าง”“ไม่ต้องห่วงพวกนั้น กูผิดเองที่ไม่จัดการขั้นเด็ดขาดกับมันไปซะ” นึกมาถึงจุดนี้ ดิวถึงกับขบกรามแน่น ตัวเองตีงูแค่พอหลังหักผลสุดท้ายมันก็แว้งกลับมาทำร้ายธาดาละจากเครื่องมือสื่อสารหันไปมองเพื่อนด้วยสีหน้าอ่อนลง“มึงไม่ได้ผิด พวกมันแค่ไม่ยอมรับความจริงต่างหาก บริหาร
ณภัทรขยับตัวเมื่อรู้สึกถึงความเมื่อยล้าของท่อนแขน สายตาคมเหลือบมองด้านข้างจากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นเมื่อเห็นใบหน้านวลเนียนเป็นเพราะมีหัวเล็กหนุนอยู่นี่เองถึงได้รู้สึกชาอย่างนี้ เขาดันตัวขึ้นนั่งดึงแขนออกมาโดยไม่ให้รบกวนอีกคน อยากตื่นขึ้นมาแล้วเห็นแพรวพรรณนอนเคียงข้างแบบนี้ทุกวันเหลือเกิน“คงเหนื่อยมากเลยสินะ พี่ไปอาบน้ำก่อนนะครับ” เสียงทุ้มบอกกับคนที่ยังหลับสนิท หย่อนขาลงจากเตียง หยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป“อืม...” เสียงแผ่วเบาครางผ่านลำคอเมื่อเริ่มรู้สึกตัว เธอมองหาอีกคนว่าหายไปไหน ได้คำตอบเมื่อเขาเปลือยท่อนบนเดินออกมาจากห้องน้ำ“ตื่นแล้วเหรอครับ”“ค่ะ พี่ตื่นนานแล้วเหรอ”“สักพักนี่เอง ทำไมตื่นเร็วนักล่ะ” ณภัทรหย่อนตัวลงนั่งข้างเจ้าของใบหน้าหวาน เขาก้มไปหอมแพรวพรรณฟอดใหญ่“จะนอนต่อหรือลุกไปอาบน้ำ” เมื่อยังเห็นร่องรอยความอ่อนเพลียเขาจึงเอ่ยถามด้วยสุ้มเสียงนุ่มนวล“อาบน้ำ บ่ายนัดกับเขมไว้จะไปคุยเรื่องงานกันค่ะ”“ทำงานต่อเลยเหรอ ไหวหรือเปล่า”พอได้ยินอย่างนั้นแพรวพรรณก็ขยับตัว ผุดลุกนั่งเคียงคู่กับณภัทรก็ถูกลำแขนใหญ่โอบกอดทันทีเช่นกัน“ดื่มได้ก็ต้องทำงานได้สิ หรือพี่ไม่เชื่อ?” เธอ
ท่ามกลางความมืดมิดของถนนหนทาง รถยนต์หรูคันหนึ่งกำลังขับเคลื่อนทะยานมุ่งหน้าไปสู่ถนนสายเล็ก แสงไฟจากสองฟากฝั่งสะท้อนเข้ามาภายใน เห็นเรือนร่างชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอิงแอบกันอยู่ด้านหลังแพขนตางอนยาวปิดลงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์สร้างความมึนเมาจนร่างกายเอนเอียงยังดีมีลำแขนแข็งแกร่งโอบกอดพยุงไม่ให้ล้มไปกองที่เบาะแม้ว่าสติจะเลือนรางทว่าก็พอจำเส้นทางนี้ได้เป็นอย่างดี ณภัทรไม่ได้จะพาเธอกลับไปส่งบ้านนั่นเพราะได้มุ่งหน้าไปยังบ้านพักส่วนตัวของเขาต่างหากตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอซ่อนความรู้สึกถวิลหาณภัทรเอาไว้จนลึกสุดใจ ต่อให้รักเขามากแค่ไหนก็ไม่อาจทรยศพ่อผู้ล่วงลับไปได้แล้วยังมีแม่และอาสาวยังคงเจ็บปวด ใครเลยจะล่วงรู้ทุกค่ำคืนในความทรงจำมันย้อนกลับมาทำร้ายเธอเจ็บปวดมากแค่ไหนหรือแม้แต่การพบเห็นณภัทรผ่านสื่องานสังคมซึ่งเลี่ยงไม่ได้ยิ่งก่อให้เกิดความโหยหาเขามากขึ้นแพรวพรรณขยับร่างกายเมื่อความรู้สึกเหล่านั้นสะท้อนเข้ามาเกาะกุมหัวใจอีกครั้ง“เมื่อยหรือเปล่า” โทนเสียงอบอุ่นเอ่ยถาม สายตาพิสมัยมองใบหน้าหวาน“ไม่”“ไม่โกรธใช่ไหมที่พี่ไม่พากลับบ้าน พาแพรวมาที่นี่”“แล้วถ้าแพรวบอกว่าโกรธพี่จะพาแพรวกลับไหม”“ไม่อย
คล้อยหลังพ่อเลี้ยงเมธาไป เขมจิราก็หันมามองค้อนคนที่ยืนอยู่ด้านข้างวงแขนกว้างยังโอบกอดเธอไว้ไม่ห่าง เข้าใจอยู่หรอกว่าหวงมากแต่เมื่อครู่ไม่เกินไปหน่อยเหรอน่าจะรู้หากเกี่ยวกับงานตนเองจริงจังมากแค่ไหน ทำไมถึงไม่อะลุ่มอล่วยให้กันบ้าง พ่อเลี้ยงเมธาก็ไม่ได้มีท่าทีหยาบคายกับพวกเธอสักหน่อย พอคิดมาถึงจุดนี้ดวงตากลมโตก็ยิ่งทอแสงวาวโรจน์มากขึ้นไปอีกทว่าเพียงไม่นานเขมจิราก็สะบัดหน้าหลบสายตาเรียวคมไปอีกทาง ในแววตาคู่นั้นพอจ้องนานทำหัวใจหวั่นไหวอย่างไม่น่าให้อภัยเลยจริง ๆ!และดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่ตนเองหรอกที่ถูกคุมเข้มแพรวพรรณก็ไม่ต่างกัน ชายหนุ่มข้างกายทั้งตีหน้าเคร่งขรึม แล้วยังเอ่ยพึมพำอยู่เนือง ๆ อีกด้วยครั้นจะเข้าไปช่วยแก้ต่างให้แค่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ดังนั้นเขมจิราจึงเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งอยู่ตำแหน่งเดิมโดยมีธาดาเดินตามมาหย่อนสะโพกนั่งตรงขอบพนักโซฟาด้านข้างครึ่งชั่วโมงให้หลัง“จะกลับหรือยังคุณเมาแล้วนะเขม”“คุณอยากกลับก็กลับไปก่อนสิฉันกลับกับชาก็ได้”“ไม่เอาน่าที่รัก” เขาก้มลงไปกระซิบข้างใบหูสวยสายตาเรียวคมกวาดมองไปโดยรอบเวลานี้ผู้คนเริ่มบางตาไปมากจนกระทั่งมาหยุดที่ณภัทร มาเฟียหนุ่