Home / รักโบราณ / ตื๊อรักวาณิช / หัวขโมยตัวน้อย 1

Share

หัวขโมยตัวน้อย 1

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-05-24 07:21:58

"อย่ามัวชักช้า ส่งห่อผ้าออกมาให้พวกข้าตรวจเร็วๆ ฝนก็ตก หนาวจะตายอยู่แล้ว!"

ทหารหนุ่มรูปร่างสูงกำยำในชุดเกราะพร้อมตราประจำหน่วยทหารทำให้คนทั่วไปพอจะดูออกว่าพวกเขาเป็นทหารรักษาเมือง คืนนี้เป็นคืนที่มีงานเลี้ยงเปิดตัวอนุภรรยาคนใหม่ของนายอำเภอ เลยมีผู้คนเดินเข้าออกหนาตา อันที่จริงแล้วเวรยามไม่เข้มงวดเพียงนี้ แต่สามวันก่อนเกิดเหตุการณ์ปล้นขบวนสินค้าของคหบดีคนสำคัญของเมืองหลวง เวรยามเลยหนาแน่นเป็นพิเศษ มีการตรวจค้นคนที่เข้าออกอย่างเข้มงวด

เมื่อมีงานเลี้ยง ย่อมต้องมีอาหาร สุรา และสาวงาม ในด้านอาหารนั้น นายอำเภอว่าจ้างภัตตาคารเทียนหมินอันเป็นเหลาสุรานามกระเดื่องของซีหนิงมาให้จัดงานนี้ และเมื่อคนของร้านไม่เพียงพอกับการใช้งาน ร้านเทียนหมินจึงต้องหยิบยืมสาวใช้จากร้านอื่นมาช่วย หมิงเสวี่ยก็มาด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน

โอกาสดีงามเช่นนี้ จะหลุดรอดน้ำมือแมวขโมยตัวน้อยไปได้อย่างไร

เมื่อครึ่งชั่วยามก่อนนางก็สบโอกาสเล็ดรอดเข้าไปในห้องหนังสือที่ผู้มีอันจะกินทั้งหลายชอบซุกซ่อนของมีค่าเอาไว้ หลังจากรื้อๆค้นๆอยู่ครึ่งก้านธูปนางก็เจอห่อผ้าแพรซ่อนอยู่ในหีบไม้เล็กๆใต้ตู้หนังสือ แต่ไม่ทันได้แกะออกดูว่าเป็นของล้ำค่าประเภทใดก็มีเสียงคนเปิดประตูเข้ามา

"ทำอะไรอยู่น่ะ นังหนู?" เป็นเสียงชายชราคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา เขาหรี่ตามองด้วยความไม่พอใจนักที่นางถือวิสาสะเข้ามา

หมิงเสวี่ยรีบเก็บงำความรู้สึกหวาดกลัวและตกใจเอาไว้ใต้ใบหน้าจิ้มลิ้มทันที และเพียงพริบตาเดียวงิ้วนางหนึ่งก็พร้อมจะออกโรง

น้ำตาหยดโตร่วงหล่นบนแก้ม เข่าทั้งสองกดลงบนพื้นอย่างแรง มือทั้งสองกุมอยู่ตรงหน้าท้องและเริ่มโขกศีรษะ

"นายท่าน ข้า...ข้าน้อยผิดไปแล้ว อภัยให้ข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ!"

"นี่เจ้าตั้งใจมาขโมยของสินะ นางแมวขโมย!!" อีกฝ่ายเดินเข้ามาหา มือข้างหนึ่งจับแขนเล็กไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างเงื้อขึ้นสูงหมายตบตีร่างเล็กนั้น "เป็นคนของที่ไหนกัน ถึงได้สันดานเสียแบบนี้!"

"ข้า...ข้าน้อยเปล่านะเจ้าคะ! ข้าน้อยเปล่าขโมยเจ้าค่ะ!!" หมิงเสวี่ยรีบตอบ มือข้างที่ถือของไว้รีบปัดไว้ด้านหลัง "นายท่านได้โปรดเมตตาข้าน้อย อย่าตีข้าน้อยเลยเจ้าค่ะ!"

"หึ ข้าไม่ตีเจ้าก็ได้ แต่ข้าจะจับเจ้าส่งทางการ!" ชายชราบีบมือน้อยไว้แน่น ดวงตากลมเบิกกว้าง เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตะโกน "มีใครอยู่ไหม มาช่วยข้าจับนางขโมยนี่...อั่ก!"

ยังไม่ทันได้ลากนางออกไป หญิงสาวกลับดึงชายกางเกงเขาเอาไว้จนสะดุดล้ม อารามตกใจและกราดเกรี้ยว ชายชราก็หันมาชี้หน้านาง

"นังตัวดี! กล้าทำร้ายข้าเชียวรึ!"

"ข้าไม่ได้ตั้งใจเจ้าค่ะ นายท่านได้โปรดใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ" หมิงเสวี่ยร้องไห้โฮพร้อมยื่นสองมือออกมาดึงขากางเกงชายชราไว้อีกโดยที่มือก็ยังถือของบางอย่างเอาไว้อยู่

ชายชราขณะนี้เต็มไปด้วยโทสะ ตัดสินใจเอาขาอีกข้างที่ไม่ถูกดึงถีบเข้าที่มือน้อยๆ คู่นั้น และของในมือก็กระเด็นหวือมาตกลงตรงหน้าชายชรา

"ของที่เจ้าขโมยสินะ!...เอ๊ะ?..."

ในห่อกระดาษสีขาวที่กระเด็นมาอยู่ตรงหน้าเขากลับไม่ใช่ของหรูหราแสนสำคัญใด แต่มันคือ...น่องไก่ที่มีรอยถูกกัด

"เจ้า...เจ้า...น่องไก่นี่..." ชายชราเพ่งมองใบหน้าหวานกระจุ๋มกระจิ๋มนั้นสลับกับน่องไก่เบื้องหน้า

รอบปากเล็กๆ นั้นมีคราบน้ำมันเกาะอยู่พราว แม้แต่ในซอกฟันก็ยังมีเนื้อไก่ติดอยู่...

"ข้าไม่ได้เข้ามาขโมยของเจ้าค่ะนายท่าน ข้า เอ่อ...ข้าเพียงอยากกินน่องไก่เท่านั้น..." นางว่าพลางทำน้ำตาร่วงต่ออีกหลายหยด "...ข้าเป็นเพียงสาวใช้เจ้าค่ะ วันนี้มีอาหารมากมาย เห็นมีน่องไก่เหลือทิ้งอยู่หลายอัน ข้า ข้าไม่เคยกิน จึงแอบเก็บมากินที่นี่เจ้าค่ะ"

ชายชราใจหล่นวูบ เขาเกือบทำร้ายเด็กสาวตัวเล็กๆ เข้าแล้ว "ทำไมไม่ไปกินที่อื่นเล่า นังหนูเอ๊ย!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตื๊อรักวาณิช   ชีวิตใหม่อันสดใส 4

    "ท่านบอกว่าข้าเป็นคนของท่าน ท่านจะปกป้องข้า ท่านยังไม่ลืมใช่หรือไม่?!" หมิงเสวี่ยดึงเสื้อเขาจากด้านหลังไว้แน่น"ข้าไม่ลืม และไม่มีวันลืมว่าข้าได้ให้สัญญากับเจ้าไว้" เขาค่อยหมุนตัว หันหลังไปเผชิญหน้านางมืออุ่นเชยคางนางขึ้นจนเห็นดวงตานั้นเจิ่งด้วยน้ำตา หัวใจปวดแปลบจนเกินทน"ข้าปกป้องร่างกายของเจ้าได้ แต่ข้าไม่อาจปกป้องหัวใจ หากเจ้าไม่ยินยอม..." นิ้วอุ่นค่อยๆ ปาดน้ำตาออกจากเรือนหน้านาง "...เจ้าเข้าใจหรือไม่?"นางพยักหน้า ก้อนสะอื้นจุกอยู่ในลำคอจนพูดไม่ออกทั้งซาบซึ้งในความห่วงใยลึกซึ้งของเขา แต่นางยังไม่กล้าเปิดใจให้ใคร ความทรงจำในคืนนั้นยังคงตามหลอกหลอนนางอยู่"เจ้ายังรักเขาใช่หรือไม่" เสียงทุ้มห้าวนั้นแฝงไปด้วยความเจ็บร้าวจนหมิงเสวี่ยรู้สึกได้"ข้าไม่รู้" นางว่า สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับนางเป็นความรักหรือเป็นเพียงความผูกพัน...มันบิดพันกันเป็นเกลียวดั่งฟั่นเชือกจนแยกไม่ออก"ข้ารู้แต่...ข้ารักคนที่ทำร้ายข้าไม่ได้..."ร่างสูงค่อยๆ ยกมือปัดปอยผมของนาง "เช่นนั้นก็ไปพบเขาเถอะ ไปดูให้แน่ใจว่าหัวใจเจ้ายังมีเขาอยู่หรือไม่""แต่ข้า...กลัว" นางใช้มือที่เย็นเฉียบจับมือเขาแน่นเพื่อยืนยันคำพูดนั้

  • ตื๊อรักวาณิช   ชีวิตใหม่อันสดใส 3

    "เสร็จแล้ว!" หมิงเสวี่ยชูกระดาษที่เขียนเสร็จขึ้นสูงอย่างนึกชื่นชม "นายท่าน ข้าเขียนเสร็จแล้ว!"นางยิ้มแล้วหันไปมองจิ้งเหอ เขาหลับไปแล้วโดยที่หนังสือวางอยู่ข้างๆ"หลับแล้วรึ?" หมิงเสวี่ยเปรย นางวางกระดาษบนโต๊ะแล้วเดินไปที่เตียงเล็กที่อีกฝ่ายนอนอยู่ เอานิ้วจิ้มจมูกจะตื่นไหมนะ?นิ้วเรียวแตะที่ปลายจมูกของเขาเบาๆ หัวใจเต้นระรัวที่ตัวเองหาญกล้าทำอะไรแบบนี้เมื่อก่อนนางกลัวเขาจะตาย ทั้งเจ้าเล่ห์ ชอบกลั่นแกล้งนาง บางครั้งก็ดูโหดเหี้ยมเย็นชา...แต่ตอนนี้เขากลับเป็นผู้ชายอ่อนโยนและมีเสน่ห์ชวนให้หลงไหลอย่างประหลาด...อ้ะ...นี่นางกำลังคิดว่าเจ้าจิ้งจอกนี่น่าหลงใหลหรือนี่?แก้มปรางพลันร้อนวูบวาบ ความรู้สึกนี้...มันอะไรกันนะ?ตอนอยู่กับหงเช่อ ไม่เห็นจะรู้สึกแบบนี้เลย"จิ้มจมูกข้าเล่น...สนุกมากหรือไม่?" เขาเอ่ยทั้งที้ยังหลับตา ก่อนพลิกกายหันมามองที่เด็กสาวมือซน"สนุกเจ้าค่ะ" นางยิ้มทะเล้น "ตั้งใจว่าหากท่านยังไม่ตื่น คราวนี้จะเอาพู่กันวาดหน้าเลยเจ้าค่ะ""ก่อนจะวาดหน้าใคร ดูหน้าตัวเองก่อนดีหรือไม่?" เขาชี้ไปที่คันฉ่องทองเหลืองที่วางอยู่บนโต๊ะมอมแมมอย่างกับลูกแมว!หมิงเสวี่ยยกสองจับหน้าจับตาและยกมือตั

  • ตื๊อรักวาณิช   ชีวิตใหม่อันสดใส 2

    "อ้อ อย่างนั้นรึ" เขานั่งเอามือเท้าโต๊ะมองนางอย่างสบายใจที่ได้แกล้ง ใบหน้ายังเรียบเฉย แต่ประกายตานั้นไม่ธรรมดาเลย"เจ้าอยากเป็นคนตีข้าล่ะสิ หากจะตีก้นข้ายอมให้เจ้าตีก็ได้นะ"เสวี่ยหมิงแยกเขี้ยวใส่เขา แค่คิดก็อยากจะอาเจียนแล้ว!!! ใครจะอยากตีก้นคนผีทะเลเช่นนี้กันเล่า!?เห็นสีหน้าปฏิเสธเช่นนั้น ไป๋จิ้งเหอก็ลุกขึ้นยืนทำท่าดุขึ้นมา"ถ้าเช่นนั้นก็เขียนใหม่ ถ้ายังเขียนแบบขอไปทีแบบนี้อีก ข้าจะทำให้เจ้านั่งไม่ได้ไปหลายวันทีเดียว" มือใหญ่ตบลงบนกระดาษเสียงดังหมิงเสวี่ยบุ้ยปากงอน แต่ก็กลับมาตั้งสติ ไม่ทำเป็นเล่นอีกแล้วด้วยความพยายามของนาง ในที่สุดนางก็ทำได้ แม้ว่ากว่าจะเขียนได้สวยงามตามที่เขาต้องการก็หมดกระดาษไปหลายใบ นางปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก แค่จุดจุดเดียว นางยังใช้เวลาครึ่งชั่วยาม!! กว่าจะคัดทั้งหมดนี่จบ วันนี้นางคงไม่ต้องทำอันใดแล้ว"พักดื่มน้ำชาสักหน่อยไหม?" ถึงแม้ได้แค่จุดๆ เดียว แต่เห็นแก่ความอุตสาหะ เขาจะอนุโลมให้นางได้พักแล้วกัน"ไม่เจ้าค่ะ ข้าขอตัวต่อไปเลยเจ้าค่ะ" แม้จะยากลำบาก แต่นางก็รู้สึกสนุก นางมองว่าหากยอมลำบากในวันนี้ ยอมอดทนเขียนจนกลายเป็นความเคยชินแล้วล่ะก็ สักวันนางจะเขียนหน

  • ตื๊อรักวาณิช   ชีวิตใหม่อันสดใส 1

    "เจ้าเฉลียวฉลาดปานนี้ ถ้าเช่นนั้นเราก็เริ่มกันเลยเถอะ"หรือว่าเมื่อครู่แค่เริ่มต้น?เขา...เขาจะจับนางกินแล้วใช่ไหม?!ไป๋จิ้งเหอหรี่ตามองปากเล็กๆ ที่อ้าราวกับปลาทอง แล้วดีดหน้าผากนางเบาๆ คราหนึ่ง "คิดเองเออเองอีกแล้ว""ก็คำพูดท่านชวนให้คิด" เด็กสาวลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ "เชื่อสิ ถ้าใครมาได้ยินก็คิดเหมือนข้าทั้งนั้น""คิดว่าอย่างไร?" เขาเอียงหูมาใกล้ราวกับจะให้นางกระซิบบอกสิ่งที่นางคิดเมื่อครู่"คิด...คิดว่า" สวรรค์ เขามาอยู่ใกล้แบบนี้ นางเขินจนหูอื้อตาลายหมดแล้ว"ช่างเถอะ...ข้าหมายถึงเริ่มเรียนต่างหาก" ไป๋จิ้งเหอลุกไปยืนรอข้างเตียง "เจ้าพร้อมหรือไม่?""หืม? เรียน?" นางพยายามรวบรวมสติกลับมา เขาหมายถึงเรื่องเรียน เรื่องเรียน... "เจ้าค่ะ ข้าพร้อมทุกเมื่อ""เปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย แล้วไปพบข้าที่ห้องหนังสือ เราจะเริ่มจากการคัดอักษร""เจ้าค่ะ!" นางลุกจากเตียงมาคารวะเขาอีกครั้ง "กรุณารอสักครู่นะเจ้าคะ"เขาเดินออกไป นางรีบวิ่งไปปิดประตูและเลือกเสื้อผ้ามาเปลี่ยนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หมิงเสวี่ยใช้เวลาไม่นานนักในการแต่งตัว นางกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องหนังสืออย่างไม่ต้องการให้เขาเสียเวลา ไปถึงก

  • ตื๊อรักวาณิช   ฟ้าหมาดฝน ภาคปลาย 5

    "ท่านอย่าเสียใจเลย ความรักเป็นเรื่องที่ฝืนไม่ได้" นางเอ่ยขึ้นอย่างให้กำลังใจ "แล้วท่านไม่คิดจะมองใครใหม่หรือ?" ระดับเขาน่าจะมีคนมาให้ดูตัวหัวกระไดไม่แห้ง"มี แต่ข้ายังไม่ต้องใจใคร""ไม่ต้องห่วง นายท่านเป็นคนหน้าตาหล่อเหลา ชาติตระกูลรึก็ดี ฐานะก็มั่งคั่งรับรองว่าท่านจะต้องเจอหญิงสาวที่เหมาะสมกับท่านแน่นอนเจ้าค่ะ" นางอวยพรให้เขาอย่างจริงใจ นางเชื่อว่าเขาจะต้องมีคู่ครองที่ดี ดีขนาดที่ทำให้คนที่ทิ้งเขาไปต้องนึกเสียดายที่ทำเช่นนั้นเลยทีเดียวไป๋จิ้งเหอกลับแค่นหัวเราะ "ตระกูลที่ถูกสาปแช่งเช่นตระกูลไป๋ ไม่มีคนอยากยุ่งเกี่ยวด้วยนักหรอก""เอ๋? สาปแช่ง?" นางเลิกคิ้วแต่เมื่อนึกถึงว่าเขาอยู่ในแวดวงการค้า การไปขัดแข้งขัดขาตัดโอกาสใครคงมีไม่น้อย...จะโดนสาปแช่งก็ไม่แปลกนัก.."เป็นเรื่องสมัยที่บิดาข้าเพิ่งทำการค้า แม้จะไม่ได้ตั้งใจแต่ผลของมันช่างใหญ่หลวง ทำให้อีกตระกูลหนึ่งล่มสลาย"เขาเล่า "ตอนนั้นผู้คนต่างสาปแช่งตระกูลไป๋ ว่าเป็นผู้เหยียบซากศพผู้อื่นเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุด""...จะหาว่าข้าโหดร้ายก็ได้นะ แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาของการทำการค้า" หมิงเสวี่ยมองอย่างตรงไปตรงมา "ข้าไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดคิดว่าเร

  • ตื๊อรักวาณิช   ฟ้าหมาดฝน ภาคปลาย 4

    "ข้าไม่ได้หึงท่าน!" นางมันบ้า! เมื่อไหร่ไอ้อาการคิดไปเองนี้จะแก้หายเสียที ฮือ...น่าอับอายจนอยากจะเอาหน้าซุกดินแล้ว!"เสวี่ยเอ๋อร์นี่ปากแข็งนัก" จื่อหนี่รีบวิ่งมาจับมือของทั้งสองประสานกัน "ตอนอยู่ในครัว นางกลัวว่านายท่านรู้เรื่องข้ากับเฉี่ยวหลางเข้าแล้วจะเสียใจ นางร้อนใจมากเลยนะเจ้าคะ""จ....เจ้า" น่าตีนัก เป็นน้องเป็นนุ่งจะตีให้ก้นลาย!"ข้าเพียงไม่อยากเห็นผู้ใดถูกสวมเขาเท่านั้น!" พูดไปแล้วนางก็ได้รีบยกมือปิดปาก นางหันหลังให้ทุกคนในที่นั้นแล้วตีปากตัวเองไม่หยุดปากพล่อยนัก!...พูดแบบนั้นมันต่างอะไรกับการบอกว่าเป็นห่วงเขากันเล่า?!ยิ่งเห็นสายตาหยอกเย้ของคนทั้งสาม ยิ่งทำเอาอีกฝ่ายหน้าแดง ทั้งยังรู้สึกโกรธจนหูอื้อตาลาย"ข...ข้าไม่คุยด้วยแล้ว!" นางกระทืบเท้าเป็นเด็กๆ แล้ววิ่งกลับไปยังห้องนอนทันที"จื่อหนี่หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ "พี่สะใภ้ข้าช่างน่ารักอะไรอย่างนี้""หนี่เอ๋อร์ก็น่ารักเหมือนกัน" เฉี่ยวเหมยเชยคางเด็กสาวขึ้นอย่างหลงใหล"นายท่านรีบไปโอ๋ว่าที่ฮูหยินน้อยเถอะขอรับ นางโมโหใหญ่แล้ว""เห็นว่าตนเองนำข้าไปหนึ่งก้าวก็สั่งสอนข้าแล้วรึ?" สายตาเยียบเย็นของจิ้งเหอมองเฉี่ยวเหมยอย่างเสียดแทง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status