-KAOTU PART-
บรรยากาศรอบห้องโถงที่เงียบเชียบ อากาศที่เย็นจับขั้วหัวใจจากการทำงานอย่างหนักของแอร์คอนดิชั่น ทำให้ตัวของฉันสั่นไปหมดจนแยกแทบไม่ออกว่าฉันหนาวหรือเพราะฉันกลัวชายตรงหน้าที่จ้องมายังฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อของฉันให้ได้
ฉันมองซ้ายทีขวาทีเพื่อหาตัวช่วย แต่ก็นะวันนี้มันเป็นวันอะไรของฉันกัน ภายในบ้านเงียบมาก จากที่เคยมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่ตามจุดต่างๆ แต่ตอนนี้กลับไม่มีเลยสักคน บ้านหลังใหญ่หลังนี้คงไม่ได้เหลือเพียงเราสองคนหลอกใช่ไหม
“หึ เธอรู้อะไรไหมทำไมฉันถึงเอาเธอมาที่นี่ด้วย" ชายตรงหน้าเอ่ยถามฉันเรียบ พร้อมกับจ้องมายังฉันไม่วางตา
“…”
“ทะ...ทำไมค่ะ” ฉันเอ่ยถามผู้ชายตรงหน้าไปตรงๆ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองไปทำอะไรให้เขาโกรธมาตอนไหน แต่ตอนนี้ฉันสัมผัสได้ถึงความแค้นที่ส่งมาให้ฉัน
ฉันกับเขาเราพึ่งรู้จักกันฉันไม่เคยไปทำร้ายเขาเลย จริงๆมันอาจจะมีบ้าง แต่นั่นก็เป็นอุบัติเหตุที่ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นนี่นา ซึ่งฉันก็คิดว่าคนอย่างเขาไปน่าจะเก็บเอาเรื่องนั้นมาเป็นความแค้นจนถึงตอนนี้นะ
“…”
ตึกตึก ตึกตึก
ชายตรงหน้าค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉัน ด้วยความกลัวฉันจึงเดินถอยหนีเขาจนฉันสะดุดเข้ากับขั้นบันไดก่อนจะหงายหลัง
หมับ
“หึ...” ท่านประธานคว้าแขนของฉันไว้ ก่อนจะดึงมันเข้าหาตัวเขาอย่างแรง จนหน้าของฉันกระเเทกเข้ากับอกแกร่งของเขา กลิ่นคาวเลือดอ่อนๆ ที่ไหลซึมออกมาจากรอยแตกที่บริเวณมุมปากล่างของฉันผสมกับกลิ่นของแอลกอฮอล์ของผู้ชายตรงหน้า สร้างความปั่นป่วนให้กับหัวใจดวงน้อยๆของฉันเป็นอย่างมาก ใจฉันสั่นระรัวไปด้วยความกลัว ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไปจริงๆ
“เธอแน่ใจแล้วหรอว่าอยากรู้” สีหน้าของเขาตอนนี้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวเขามากขึ้นไปอีก ฉันไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขาคิดที่จะทำอะไร สายตาและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวขนาดนี้ ฉันคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ
“คะ...ค่ะ” ฉันตอบเขาออกไปเสียงสั่น ทำเป็นใจดีสู้เสือทั้งที่ภายในใจกลัวจะแย่ แต่อย่างไรก็ตามฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ที่ทำให้เขาโกรธแค้นฉันได้ขนาดนี้
เขาออกแรงกระชากแขนบางของฉันอย่างแรง เพื่อให้ฉันเดินขึ้นบันไดตามเขาไปยังห้องห้องหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆ ห้องของฉัน แต่ภายในห้องนี้ถูกตกแต่งไปด้วยโทนสีดำซึ่งต่างจากห้องพักของฉันที่เป็นโทนสีขาวสะอาดตา
“คะ คุณ จะทำอะไร” ฉันถามเขาไปเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับขืนตัวเองไม่ให้เดินตามเขาเข้าไปในห้อง พร้อมกับสะบัดมือของเขาออกจากแขนของฉันไปด้วย แต่ต่อให้สะบัดแรงแค่ไหนฉันก็สู้แรงบีบที่เขากำลังบีบแขนฉันอยู่ตอนนี้ไม่ได้
“ก็เธออยากรู้ไม่ใช่หรอ” เขาเอ่ยเสียงเรียบอย่างเหนือกว่า
“มะ ไม่อยากแล้ว ปล่อยนะ” ฉันรีบปฏิเสธเขาออกไปทันที พร้อมกับสะบัดมือของเขาที่เกาะกุมเเขนของฉันอยู่อย่างแรง แต่มันก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด เพราะเขายังคงจับแขนฉันแน่นขึ้นกว่าเดิมซะ มือหนาของเขาบีบมันราวกับว่าอยากจะให้มันแหลกคามือเขายังไงยังงั้น
“หึ”
“…”
“แต่ฉันอยากบอก”
“คะ คุณ อุ๊บ” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบผู้ชายตรงหน้าก็ประกบริมฝีปากร้อนของเขา มอบจุมพิตอันป่าเถื่อนและรุนเเรงให้กับฉัน ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขา รวมกับความป่าเถื่อนของเขานั้นยิ่งทำให้ความหวาดกลัวในใจของฉันทวีคูณขึ้นไปอีก ริมฝีปากของฉันเริ่มแสบขึ้นเรื่องๆ จากแผลเก่าที่กระแทกเข้ากับอกแกร่งของเขา
“…อื้อ” ฉันทั้งดิ้นทั้งทุบอกของผู้ชายตรงหน้า แต่เขาก็ไม่สนใจฉันเลยสักนิด เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของฉันไม่สามารถทำให้ชายตรงหน้าสะทกสะท้านได้เลย เขายังคงบดขยี้จูบฉันอย่างรุนแรงและไร้ความปราณีจนกระทั่ง
พลั่ก!!!
ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดที่ตัวเองพอมีผลักเขาออก แต่มันเหมือนจะไม่ได้ผลเลยสักนิดเขายังคงกอดรัดฉันแน่นขึ้นกว่าเดิม เหมือนเขาจะไม่สนใจเลย ว่าฉันจะเจ็บกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ไหม ไร้ซึ่งความปราณี ไร้ซึ่งความอ่อนโยน
“ปะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ” ฉันพูดทันทีที่เขาละริมฝีปากออก
“หึ มึงก็ไม่ต่างจากพี่ของมึงหรอก” ผู้ชายตรงหน้ายังคงกอดรัดฉันแน่นขึ้นไปอีก หลังจากที่ฉันพูดจบเขาก็กดริมฝีปากร้อนลงมาที่ซอกคอขาวของฉันพร้อมกับฝังร่องรอยของเขาเอาไว้จรลำคอขาวของฉันเต็มไปด้วยรอยแดงจากการกระทำของเขา จากนั้นริมฝีปากร้อนของเขาก็สัมผัสกับติ่งหูของฉัน ก่อนที่เขาจะเอื้อนเอ่ยคำพูดที่แสนร้ายกาจพวกนั้นออกมา
“ทำเป็นคนดีหลอกให้คนอื่นตายใจ...”
“…”
“แต่เดี๋ยวสุดท้ายมึงก็เลวไม่ต่างจากมัน”
เพลี้ยะ!!!
ฉันใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีผลักผู้ชายตรงหน้าออก ก่อนจะตบเขาไปอย่างเต็มแรง...ตอนนี้ความอดทน และความกลัวของฉันมันหมดลงแล้ว ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพี่ปั้นกับเขามีเรื่องอะไรกันแต่เขาก็ไม่ควรที่จะทำกับฉันแบบนี้
“คุณมันไม่ใช่คน...”
“…”
ควับ!! ท่านประธานหันหน้ามาหาฉันด้วยความโกรธจัด...
“มึงกล้ามากนะที่ตบกู” เขาพูดออกมาอย่างนิ่งๆ
“อื้อ!...” ท่านประธานกระชากคอของฉันเข้าไปบีบอย่างแรง...ฉันเจ็บจนฉันไม่สามารถห้ามน้ำตาของฉันได้ “ปะ ปล่อย ฉัน”
“แค่ก แค่กๆๆๆ” ฉันเหมือนจะขาดอากาศหายใจ
“ไง ไม่ปากเก่งอีกล่ะ” เขาเอ่ยกับฉันพร้อมกับบีบคอฉันอยู่อย่างนั้น
“ขะ ขอโทษ” ฉันเอ่ยบอกกับเขาเสียงสั่นเต็มไปด้วยความกลัว
“กู ไม่ ต้อง การ!!” เขาตะคอดใส่ฉันเสียงแข็ง
พลั่ก!!!
เขาจะกระชากคอเสื้อของฉันให้เดินตามเขาเข้าไปในห้อง ฉันไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะต่อต้านเขาแล้วในตอนนี้ ก่อนจะเขาผลักฉันลงไปที่เตียงอย่างแรง พร้อมกับที่มือใหญ่ของเขาจะถอดเสื้อผ้าที่ติดกายของเขาออกจดหมด และตามมาทิ้งตัวคล่อมฉันไว้เต็มแรง ทำให้ฉันทั้งจุกและเจ็บไปหมด
“คะ คุณ กะ กลัวแล้วค่ะ” เสียงที่ฉันพยายามอ้อนวอนขอความเห็นใจจากผู้ชายใจร้ายตรงหน้า ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลเลยสักนิด
แคว่ก!!
เขากระชากเสื้อของฉันออกจนหมดอย่างแรงด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว ทำให้ฉันแสบตามตัวที่โดนเสื้อบาดจากการกระชากของเขา
“หึ สวยดีนิ”
“ปะ ปล่อยฉันไปเถอะ” เสียงของฉันเหมือนจะไม่มีความหมายกับเขาเลยสักนิดเขายังคงก้มลงซุกไซ้ซอกคอฉันอย่างรุนแรง พร้อมกับฝากรอยแดงไว้ที่คอขาวของฉัน ยิ่งเขาขบเม้นมันมากเท่าไหร่ความเจ็บปวดของฉันก็ทวีคูณขึ้นไปอีก เพราะมันไม่ใช่เเค่ร่างการของฉันอย่างเดียวที่เจ็บ ในตอนนี้หัวใจของฉันก็บอกช้ำไม่เหลือชิ้นดีแล้วเหมือนกัน
“…”
“ฮืออออออ ปล่อย” เสียงฉันที่ตะโกนบอกให้เขาปล่อย แต่สุดท้ายฉันก็ทำได้เพียงแค่ร้องไห้ออกไป ฉันทั้งกลัวและเจ็บแสบบริเวณซอกคอของฉันไปหมด
“…”
“ฮึก!!...คุณมันเลว”
"กูเลวได้มากกว่านี้อีก มึงคอยดูไว้ละกัน อย่าพึ่งตายซะก่อนล่ะ" ชายตรงหน้าเอ่ยออกมาเสียงแข็ง
“มะ ไม่นะ ฮือออ อึกกก” ฉันสะอื้นพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำตาที่ไหลนองหน้า
ตุบ ตุบ!!!
ฉันพยายามทุบและผลักเขาอย่างสุดกำลังเท่าที่ฉันจะทำได้ แต่เหมือนว่าฉันจะสู้แรงร่างแกร่งตรงหน้าไม่ได้เลยสักนิด
หมับ!!! เขาจับมือของฉันทั้งสองข้างเอาไว้ด้านบนด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว
“คะ คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ”
“…”
“กรี๊ดดดดด!!!”
“มะ ไม่เอานะปล่อยฉัน” ฉันกรี๊ดร้องออกมาอย่างดัง พร้อมกับสายหน้าไปมา
ฉันได้แต่หวังว่าจะมีใครสักคนในบ้านที่ได้ยินเสียงของฉัน และเข้ามาช่วยฉัน แต่ไม่มีเลย ไม่มีสักคนเลย
“มองหน้ากู!!!” เขาตะคอกใส่ฉัน
“…” ฉันยังคงเลือกที่จะหันหน้าหนีเขาไปอีกทาง
“กูบอกให้หันหน้ามา...!!!” เขาพูดจบพร้อมกับบีบแก้มของฉันอย่างแรง พร้อมกับบังคับให้ฉันหันไปสบตากับเขา
“จำหน้ากูไว้นะของเล่นของกู” พอเขาพูดจบ เขาก็จัดการแยกขาของฉันออกและเขาก็จับท่อนเอ็นของเขากระแทกเข้ามาในร่องสาวของฉันอย่างแรง
“ฉะ ฉันจะจำหน้าคุณไว้”
“กรี๊ดดดดดดดด!!! อะ...เอาออกไป ฮือออออ” ฉันกรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บปวด
“หึ ดี...” เขาพูดออกมาด้วยความพอใจที่ได้เห็นของเหลวสีแดงที่หยดลงที่ผ้าปูที่นอน
“สารเลว…ฮืออ” ฉันพูดออกไป...ตอนนี้ฉันไม่กลัวอะไรแล้วสิ่งที่เขาทำกับฉันมันเกินไปแล้ว
“อึก!!! พะ...พอเถอะ” เขาไม่ตอบอะไรฉันเลย...เขาก็เริ่มขยับเข้าออกอย่างรุนแรงโดยที่เขาไม่สนเลยว่าฉันจะเจ็บปวดแค่ไหน...ฉันคงทำได้แค่จิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น
ฉันไม่สามารถห้ามให้เขาหยุดได้...สิ่งที่ฉันทำได้คงมีแค่ปล่อยให้เขาทำกับร่างกายฉันจนพอใจสินะ...
“ฉะ...ฉันเจ็บ”
“หึ แค่นี้มันยังน้อยไป อ้า แน่นชิบ”
ตอนนี้ฉันรับรู้เพียงแค่เตียงที่ตัวเองนอนสั่นสะเทือนตามแรงที่เขากระทำอย่างหนักหน่วง จนฉันรู้สึกเจ็บปวดไปหมด
ฉันยกมือขึ้นปิดริมฝีปากตัวเองไว้จนแน่น เพื่อไม่ให้เสียงกรี๊ดร้องของตัวเองเล็ดลอดออกมาให้ผู้ชายใจร้ายคนนี้ได้ยิน พร้อมกับมืออีกข้างของฉันที่จิกลงกับที่นอนจนแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ก่อนที่ร่างใหญ่ด้านบนจะกระตุกพร้อมปลดปล่อยความร้อนระอุเข้ามาในกายฉัน ฉันก็ไม่มีสติมากพอที่จะรับรู้ว่าคืนนี้ของฉันจะไปจบลงที่ตรงไหน…
8.00 น.
อืออออ!
ฉันค่อยๆ ลืมตามาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่ตอนนี้มันยังไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้เลย ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉันแต่ถึงยังไงมันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรเหลือให้ตัวเองภูมิใจอีกแล้ว
“ฮึก ฮืออออ” ถ้าแม่รู้เข้าท่านคงจะต้องเสียใจมากแน่ๆ ฉันเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เวลามันผ่านไปแล้วและก็ไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก ‘ไม่เป็นไรนะข้าวอะไรที่เสียไปแล้วก็ปล่อยช่างมันเถอะ’ ฉันได้แต่ปลอบใจตัวเอง
“ฮึกกก…” ฉันหันไปมองรอบๆ ห้องก็ไม่พบใครอยู่แล้ว... ‘เขาคงไปแล้วสินะ...’ ฉันจึงนำผ้าห่มคลุมตัวก่อนที่จะลุก
“อ๊ะ...” ฉันเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บบริเวณตรงนั้น ฉันพยายามแข็งใจเดินออกมาจากห้องของเขาเพื่อที่จะกลับไปยังห้องของตัวเอง…
เมื่อกลับมาถึงห้องฉันและกำลังจัดการอาบน้ำล้างสิ่งสกปรกออกจากตัวเอง
“ฮึกกก...ฮือออออ” ภาพที่ฉันเห็นตัวเองในกระจกทำให้ฉันไม่สามารถที่จะห้ามน้ำตาได้อีกต่อไป รอบแดงตามคอลามลงมาจนถึงหน้าท้องนั้น ทำให้ภาพภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน กลับมาฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหัวของฉัน
@โรงพยาบาล SE"พี่มาร์คัส พี่นักรบคะ เขาเป็นยังไงบ้าง?" ฉันถามพี่มาร์คัสกับพี่นักรบออกไปทันทีที่ฉันเดินมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน"ทำใจดีๆไว้นะข้าว" พี่นักรับเอ่ยบอกกับฉันพร้อมสีหน้าที่ไม่สู้ดีเอาสะเลย"ฮึก ฮืออออ ไม่จริงเขาต้องไม่เป็นอะไร" ฉันเอ่ยบอกกับพี่นักรบพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย"ข้าวตู..." พี่มาร์คัสเอ่ยเรียกฉันเสียงอ่อน ก่อนที่มือหนาจะลูบลงที่บ่าของฉันอย่างปลอบประโลม"ฮึก มะ ไม่จริงใช่ไหมค่ะ" ฉันเอ่ยถามพวกเขาออกไปอีกครั้ง หัวใจสั่นระรัวเหมือนกับว่ามันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว"ถ้าข้าวเป็นห่วงมันขนาดนี้ทำไมไม่ให้อภัยมันสักที?" พี่มาร์คัสเอ่ยถามฉันขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างรอคำตอบ"คะ ใครบอกว่าหนูไม่ให้โอกาสเขาล่ะคะ" ฉันเอ่ยบอกกับพี่มาร์คัสออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหนออกมา"...""หนูให้โอกาสเขาตั้งนานแล..." ฉันยังไม่ทันพูดจบพี่นักรบก็เอ่ยแทรกขึ้นมา"ได้ยินชัดแล้วนะมึง" พี่นักเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองเลยไปที่ด้านหลังของฉัน อย่าบอกนะว่าเขายืนอยู่ข้างหลังฉันควับ!!! ฉันรีบหันกลับไปมองเขาทันทีที่พี่นักรบพูดจบ"ฮืออออ พี่โซโล่..." ฉันเอ่ยเรียกเขาก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดเขาไว้ทันทีราว
3 ปีก่อน...ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!! ติ๊งงงงง!!!'ใครอะ?' ข้อความในมือถือของจีน่าดังเขามารัวๆ ข้อความถูกส่งมาโดยคนที่เธอไม่รู้จัดเธอจึงกดเข้าไปดูแล้วกูพบว่ามันเป็นรูปข้าวปั้นแฟนหนุ่มของเธอกับนุ่นเพื่อนสาวคนสนิทกำลังนอนกอดกำลังนอนกอดกันอยู่ในสภาพที่ทั้งคู่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น รวมถึงสภาพห้องที่ดูแล้วราวกับว่าพึ่งจะผ่านศึกสงครามมา จีน่าเธอยืนดูภาพตรงหน้านิ่งเพราะเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเรื่องจริง แต่ต่อให้พยายามหาเหตุผมที่จะมาลบล้างภาพตรงหน้าสักเท่าไรมันก็ไม่หายไปสักทีจนกระทั่งกรี๊ดดดดดดดด ฮือออออออจีน่ากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดที่ตอนนี้มันไม่สามารถระบายเป็นความเจ็บปวดได้ทั้งแฟนที่เธอรักและเพื่อนที่เธอสนิทด้วยทั้งคู่กำลังสวมเขาให้เธอจริงๆนะหรอ?ฮึกกกก ฮืออออออจีน่าพยายามโทรหาข้าวปั้นแต่โทรเท่าไรก็โทรไม่ติดสักที เธอจึงเลือกส่งข้อความไปแทน'มันเป็นเรื่องจริงหรอปั้น?' จีน่าส่งรูปที่มีบุคคลที่สามส่งมาให้เธอให้กับข้าวปั้นพร้อมกับพิมพ์ถามเขาออกไป'ปั้น''อ่านแล้วก็ตอบเล่าสิอย่าเงียบได้ไหม'ฮืออออออออ'ปั้นทำมันลงไปจริงหรอ' ยิ่งข้าวปั้นอ่านแล้วไม่ตอบมัน
-SOLO PART-@บ้านข้าวตูผมขับรถสปอร์ตหรูของตัวเองเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของข้าวตู ผมไม่รู้ว่าแม่ของข้าวตูเธอรู้เรื่องของผมมากน้อยแค่ไหนแต่สิ่งที่ตอนนี้ผมควรจะทำมากที่สุดคือเล่าความเลวของตัวเองที่ได้กระทำไว้กับข้าวตู ให้แม่ของเธอได้รับรู้จากปากของผมเอง ผมไม่ได้คาดหวังว่าท่านจะให้อภัยผม เพราะถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของผม ผมก็คงไม่ให้อภัยใครง่ายๆ เหมือนกัน แต่อย่างน้อยผมก็อยากจะขอโอกาสอีกครั้งเพื่อปรับปรุงตัวเองกริ๊ง!!! กริ๊ง!!!ผมเดินลงจากรถและไปกดกริ๊งหน้าบ้านของข้าวตู รอไม่นานแม่ของข้าวตูเธอก็เดินตรงมาหาผม"คุณมาทำไมคะ" เธอเอ่ยถามทันทีที่เธอเห็นว่าคนที่มาเป็นผม ท่าทีเธอดูนิ่งจนผมเริ่มจะแปลกใจ"สวัสดีคับ ผมขอเข้าไปข้างไนได้ไหม?" ผมกล่าวทักทายแม่ข้าวตูด้วยถ่อยคำที่สุภาพ"เชิญค่ะ""ขอบคุณครับ" พูดจบผมจึงเดินตามแม่ข้าวตูเข้าไปในบ้านของเธอ"นั่งก่อนค่ะเดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้""ไม่เป็นไรครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณแม่""ค่ะ!!!" เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ทำให้ผมไปไม่เป็นเลยทีนี้ผมว่าผมเรียกเธอว่าแม่ก็ถูกแล้วก็เธอเป็นแม่ของเมียผมนิ"เอ่อ...ผมขอโทษนะครับเรื่องที่ผมทำร้ายข้าวตู" ผมเอ่ยขอโทษแม่ขอ
"ปั้น" เสียงของจีน่าเอ่ยเรียกแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ"ครับ" ข้าวปั้นหยุดเดิน ก่อนจะขานรับคำจีน่าพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ"ปั้นไม่โกรธโซเลยหรอ?" จีน่าเอ่ยถามข้าวปั้นออกไปด้วยความสงสัย เพราะนอกจากวันนั้นที่พวกเขาทะเลาะกันที่บ้านของข้าวปั้นแล้ว เขาก็ไม่ได้แสดงทีท่าว่าโกรธเคืองโซโล่ออกมาอีก"โกรธสิ! เราอยากจะบีบคอมันให้ตายคามือ" ข้าวปั้นเอ่ยตอบจีน่าออกมาเสียงเรียบ"...""แต่เราไม่ทำหรอ เดี๋ยวเวณกรรมก็ตามมันเองเรารู้จักน้องเราดีถึงภายนอกข้าวตูจะดูเป็นคนอ่อนแอก็เถอะ""หมายความว่า...ปั้นรู้?" จีน่าเอ่ยถามข้าวปั้นออกไปทั้งๆที่เธอก็พอจะรู้คำตอบอยู่บ้างแล้วจากคำพูดของเขาเมื่อกี้"เรารู้มานานแล้วว่าไอ้โซชอบข้าว" ข้าวปั้นตอบจีน่ากลับไป"ปั้นผิดแล้ว..." จีน่าตอบข้าวปั้นออกไปด้วยรอยยิ้ม"หืม แต่เราเห็นว่ามันสั่งให้ลูกน้องของมันเอาตุ๊กตามาให้ข้าวเมื่อหลายปีก่อนนะ" ข้าวปั้นตอบจีน่ากลับไปด้วยความงุนงง มันจะผิดไปได้ไงในเมื่อวันเกินข้าวตูเมื่อ 8 ปีก่อนหลังเลิกเรียนเขาเดินกลับมาบ้านก็เห็นว่ามันยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้วางแผลกับลูกน้องของมันเพื่อที่จะนำตุ๊กตามาให้ข้าวตู ทุกอยากอยู่ในสายตาของเขาหมด รวม
-KAOTU PART-"จอดรถเถอะนุ่นปล่อยข้าวตูไป น้องไม่เกี่ยวอะไรด้วย" เสียงของผู้หญิงที่ชื่อจีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนคนข้างๆ"เป็นห่วงกันจริงๆเลยน้องผัวเนี่ย อ้อไม่สิหรือต้องเรียกว่าพี่สะใภ้กันนะถึงจะถูก" ฉันอึ้งไปกับคำพูดของผู้หญิงตรงหน้า 'หมายความว่าเธอคนนี้ที่ชื่อจีน่า เธอเป็นน้องสาวของผู้ชายใจร้ายคนนั้น และเธอก็เป็นแฟนเก่าของพี่ปั้นพี่ชายของฉันงั้นหรอ' ฉันพูดกับตัวเองอยู่ภายในใจพร้อมกับมองไปที่คุณจีน่าไปด้วยความงุนงง ทำไมความสัมพันธ์มันซับซ้อนจัง"หยุดเถอะนุ่น" คุณจีน่าพูดเสียงเเข็ง ตอนนี้สีหน้า ท่าทางของเธอดูเหมือนกับพี่ชายของเธอไม่มีผิดทั้งท่าทีที่ดูน่าเกรงขามและน้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นฉันว่า 'บรรยากาศบนรถมันเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้วสิ' คิดได้ดังนั้นฉันจึงขยับตัวเองไปนั่งติดกับที่พิงด้านหลัง แล้วมือทั้งสองข้างฉันจับเบาะรถไว้เเน่น ฉันไม่ได้ห่วงตัวเองเลยสักนิดแต่ฉันเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กในท้องฉันต่างหาก"กูไม่หยุด มึงจะสนมันทำไมมึงไม่เกลียดพี่มันแล้วหรอ" เธอตวาดคุณจีเสียงดัง"ฉันไม่มีทางเกลียดปั้น" คุณจีก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน"..." ฉันนั่งฟังที่เขาคุยกันอย่างเงียบๆ เพราะเรื่อง
17.00 น."ข้าวตู ข้าว" ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงพี่ปั้นที่เรียกฉันดังมาจากหน้าห้องนอนของฉัน"ค่า..." ฉันขานรับพี่ปั้นกลับไปก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ"ลงไปกินข้าวกัน""โอเครค่ะ เดี๋ยวหนูตามลงไปนะ" ฉันตอบพี่ปั้นกลับไปก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แล้วจึงเดินลงไปด้านล่าง"ฮืมมม หอมจังเลยค่ะแม่" ฉันเอ่ยบอกกับออกไป"งั้นหนูต้องกินเยอะๆนะลูก" แม่เอ่ยบอกกับฉันก่อนจะเดินเข้ามาลูบหัวของฉันอย่างทะนุถนอม"กำไลใครหรอข้าว?" เรานั่งกินอาหารกันไปได้สักพักพี่ปั้นก็เอ่ยถามฉันพร้อมกับมองดูกำไลที่ข้อมือของฉันอย่างสงสัย"ข้าวก็ไม่รู้ค่ะ มีคนมาส่งตุ๊กตามาให้ข้าวอีกแล้วค่ะ และในนั้นก็มีกำไลนี้มาด้วยข้าวพยายามแกะออกแล้วนะ แต่ทำยังไงมันก็ไม่ออกสักที" ฉันอธิบายให้แม่กับพี่ปั้นฟัง"งั้นเดี๋ยวเราไปดูที่กล่องว่าเขาซื้อมาจากที่ไหน แล้วถ้าวันไหนว่างพี่จะพาไปเอาออก" พี่ปั้นเอ่ยบอกกับฉัน ก่อนที่ลงมือทานอาหารตรงหน้าต่ออย่างเอร็ดอร่อย นานแล้วที่เราสามคนแม่ลูกไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ ทำให้อาหารมื้อนี้ยาวนานกว่าที่เคย แถมฉันก็ยังเจริญอาหารมากกว่าทุกครั้งอีกด้วย3 วันต่อมา...