Share

บทที่ 2 ละครเวที

last update Last Updated: 2025-09-04 20:00:55

หนึ่งเดือนต่อมาในวันนี้มีการแสดงละครเวทีของหยางจื้อเจ๋อ ซูเฟยตื่นแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น ละครเวทีจะเริ่มแสดงตอนเก้าโมงเช้าและแสดงยาวแปดชั่วโมงจบอีกทีก็ห้าโมงเย็น วันนี้ซูเฟยจึงตั้งใจแต่งตัวและแต่งหน้าทำผมเป็นพิเศษเพื่อให้ตัวเองดูสวยที่สุดเผื่อว่าหยางจื้อเจ๋อจะมองลงมาจากเวทีแล้วเห็นเธอบ้าง

        อากาศเช้านี้สดใสยิ่งจึงทำให้หญิงสาวดูสดชื่น ซูเฟยคิดว่าคงเป็นเพราะวันที่เป็นวันดีของเธอท้องฟ้าก็เลยปลอดโปร่งทั้ง ๆ ที่เป็นฤดูฝนเพื่อให้เธอเดินทางไปดูละครเวทีได้อย่างสะดวก

ชุดที่เลือกใส่วันนี้เป็นเสื้อเชิ๊ตสีชมพูกับกางเกงยีนส์ตัวเท่ห์และเลือกที่จะปล่อยผมยาวสลวยแต่งหน้าอ่อน ๆ ตามแบบฉบับของสาวมั่นแต่ก็ซ่อนความหวานไว้เล็กน้อย เป็นเพราะสาวในสเป็คที่หยางจื้อเจ๋อเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการนั้นมีลักษณะประมาณนี้ ปากก็บอกว่าไม่ได้คาดหวังอะไรจากการเป็นแฟนคลับของเขาแต่สุดท้ายแล้วก็พยายามทำทุกอย่างเผื่อว่าเขาจะมองมาอยู่ดี     

        "เท่านี้ก็เรียนร้อยแล้ว" ซูเฟยยืนหน้ากระจกหมุนไปหมุนมาแล้วมองสำรวจตัวเองอีกครั้งว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือยัง จากนั้นค่อยคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป

        ก่อนไปสถานีรถไฟฟ้าก็แวะที่ร้ายขายดอกไม้ก่อน เธอโทรมาสั่งดอกไม้ไว้แล้วล่วงหน้าเพื่อที่จะเอาไปให้กำลังใจนักแสดงที่หน้าโรงละคร

        "สวัสดีค่ะ ฉันมารับดอกไม้ที่สั่งไว้ค่ะ" ซูเฟยกล่าวอย่างยิ้มแย้มกับพนักงานร้านดอกไม้ที่หน้าเคาน์เตอร์

        "สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าผู้ที่สั่งดอกไม้ชื่ออะไรเหรอครับ" พนักงานถามกลับ เนื่องจากมีคนสั่งดอกไม้เข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางร้านจึงต้องจัดทำรายชื่อผู้สั่งไว้อย่างละเอียดจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดอย่างเช่นหยิบดอกไม้ให้ผิด

        "ชื่อซูเฟยค่ะ" ซูเฟยตอบ

        "กรุณานั่งรอตรงนี้สักครู่นะครับ" พนักงานตอบกลับอย่างยิ้มแย้มก่อนจะเดินหายเข้าไปที่หลังร้าน

ซูเฟยยืนมองดอกไม้ภายในร้านอย่างอารมณ์ดีและคิดว่าหลังจากกลับจากไปดูละครเวทีแล้วจะมาแวะอีกรอบเพื่อซื้อดอกไม้เข้าห้อง วันไหนที่อารมณ์ดีก็อยากให้ห้องนอนที่แสนจะจืดชืดของตัวเองนั้นดูสดใสขึ้นมาบ้าง

        สักพักพนักงานก็เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อโตที่เธอสั่งไว้ ดอกไม้ที่สั่งเป็นช่อดอกกุหลาบสีแดงจำนวนหนึ่งร้อยดอกจัดช่อและห่อด้วยกระดาษสีดำ ปิดจบด้วยการผูกโบว์สีแดง แฟนคลับส่วนใหญ่เวลาแสดงความยินดีกับเขาก็มักจะสั่งดอกไม้และจัดช่อแบบนี้

        "ขอบคุณค่ะ มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมไหมคะ" ซูเฟยถามก่อนจะรับช่อดอกไม้นั้นมา

        "ไม่มีครับ การ์ดที่เขียนให้แนบไว้ที่ดอกไม้แล้วนะครับ" พนักงานตอบพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง

ซูเฟยได้ของแล้วก็เดินออกจากร้านมาและตรงไปยังสถานีรถไฟฟ้าทันทีเพราะนี่ก็เป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว ต้องรีบหน่อยเพราะว่าจะไปถึงก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมง

        หญิงสาวบุคลิกมาดมั่นคนหนึ่งกับดอกใม้ช่อโตเป็นที่สะดุดตาของผู้คนบนรถไฟฟ้าเป็นอย่างมาก พวกเขาต่างหันมามองเธอเป็นตาเดียวเพราะหากไม่ใช่วันแห่งความรักแล้วก็ไม่ค่อนเห็นใครถือดอกไม้ช่อโตขนาดนี้หรอก แสดงว่าวันนี้ต้องเป็นวันพิเศษของเธอแน่ ๆ

         “พี่สาวค่ะ แฟนพี่ให้ดอกไม้มาเหรอค่ะ สวยจังเลยค่ะ” เด็กหญิงอายุราว ๆ แปดเก้าขวบที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้น เป็นธรรมดาของเด็กหญิงที่เห็นช่ออดกไม้สวย ๆ แล้วก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้

         “อ๋อ ไม่ใช่หรอกจ้ะ ดอกไม้นี่พี่จะเอาไปให้นักแสดงละครเวที” ซูเฟยตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

         “พี่กำลังจะไปดูละครเวทีเหรอคะ” เด็กหญิงถามอีกครั้ง

         “ใช่แล้ว อีกไม่นานก็แสดงแล้วล่ะ” หญิงสาวตอบ

         เด็กหญิงส่งยิ้มกลับมาให้เธอบ้าง “ถ้างั้นดูให้สนุกนะคะ”

“ขอบใจจ้ะ” ซูเฟยตอบกลับด้วยความยินดี

มาถึงโรงละครสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือเอาช่อดอกไม้ของตัวเองไปจัดไว้ที่หน้าโรงละครซึ่งตอนนี้มีแฟนคลับของนักแสดงหลายคนเอาช่อดอกไม้มาจัดวางแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยช่อเป็นทางยาวจนเกือบจะถึงประตูทางเข้า ช่อดอกไม้ของซูเฟยจึงได้พื้นที่ที่ค่อนข้างไกลหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ถือว่าได้มาแสดงความยินดีกับความสำเร็จของละครเรื่องนี้แล้ว ตามกฏแล้วแฟนคลับไม่สามารถเอาช่อดอกไม้ไปให้ศิลปินของตนเองที่ด้านในโรงละครได้บรรดาแฟนคลับจึงต้องจัดวางช่อดอกไม้ไว้ข้างนอก

        ประตูเปิดให้เข้าตอนเก้าโมงตรง ซูเฟยเดินเข้าไปยังที่นั่งของตนเองด้วยความตื่นเต้น เธอนั่งในโซนวีไอพีด้านหน้าเวทีพอดีและนี่คือผลพวงของการซื้อตั๋วแพงเพราะว่าจะได้เห็นนักแสดงชัดๆ

        ละครเวทีเรื่องที่จะแสดงนี้มีชื่อว่า "มุ่งสู่ความฝันด้วยใจที่มุ่งมั่น" เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นทหารซึ่งรับบทโดยหยางจื้อเจ๋อ เด็กหนุ่มคนนี้มีความฝันที่จะเป็นทหารตามพ่อซึ่งเคยมีตำแหน่งเป็นถึงทหารยศผู้พันแต่ว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสจนพิการจึงจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาและหยุดปฏิบัติหน้าที่มาจนถึงทุกวันนี้ เขาจึงตั้งใจที่จะเป็นทหารเพื่อนสานต่อความฝันของพ่อตัวเอง

แต่พอได้เข้าไปเป็นทหารแล้วตัวเองก็เจออุปสรรคมากมายเช่นกันที่ทำให้ชีวิตทหารของเขาไม่ราบรื่น จนในที่สุดต้องละทิ้งความฝันนั้นและลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแทน ธุรกิจของเขาในตอนเริ่มต้นก็เป็นไปอย่างทะลักทุเลเพราะว่าในสมันนั้นรัฐไม่ได้เปิดโอกาสในการทำการค้ามากนักแต่ในทีสุดเมื่อผ่านช่วงของการเปลี่ยนแปลงมาแล้วเขาก็สามารถนำพาธุรกิจของเขาให้ผ่านพ้นวิกฤติและเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้

        แต่ว่าอุปรรค์ของเขายังไม่หมดเพียงเท่านี้ วันหนึ่งเขาเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง ถึงแม้ว่าเขาจะเสียใจแต่ก็ไม่ย่อท้อ เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนในการฟื้นฟูตัวเองและกลับมายืนยัดต่อสู้สร้างธุรกิจต่อ ถึงแม่้ว่าจะนั่งบนรถเข็นแต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะว่าสมองและสองมือยังคงทำงานได้ เขายังมีความฝันอีกอย่างก็คืออยากที่จะเป็นนักเขียน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องราวของตนเองเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น และเขาก็ทำตามความฝันจนสำเร็จ หนังสือของเขาติดอันดับขายดีอยู่หลายปีซ้อน

        หยางจื้อเจ๋อแสดงได้ดีมากจนคนดูถึงกับร้องไห้ตาม ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นนักแสดงทุกคนที่แสดงละครเวทีเรื่องนี้ต่างก็เป็นนักแสดงคุณภาพ เมื่อการแสดงจบลงทุกคนก็ยืนขึ้นปรบมือเป็นกำลังใจให้กับนักแสดง จากนั้นนักแสดงก็กล่าวขอบคุณผู้ชม ในตอนที่หยางจื้อเจ๋อกล่าวของคุณผู้ชมอยู่นั้นสายของเขาก็กวาดมาสบตากับซูเฟยอยู่แวบหนึ่ง ซูเฟยถึงกับอึ้งจนแน่นิ่งไปกว่าจะตั้งสติได้อีกทีเขาก็กล่าวขอบคุณผู้ชมจบไปแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 14 แม่สื่อแม่ชัก

    บทที่ 14 แม่สื่อแม่ชัก ออกจากเหลาสุราก็เดินตรงไปยังร้านขายหมูของต้าเป่าทันที ที่ร้านขายหมูตอนนี้วุ่นวายมากเพราะใกล้จะถึงงานเทศกาลตวนอู่แล้ว ผู้คนจึงออกจากบ้านมาจับจ่ายซื้อของไปทำบ๊ะจ่างกันมากมายเต็มตลาดไปหมด กว่าที่ฟางหนิงฮวาจะเบียดฝ่าฝูงชนเข้าไปในร้านขายหมูได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกเช่นกัน เทศกาลตวนอู่หรือเทศกาลบ๊ะจ่างเป็นเทศกาลสำคัญ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 5 เดือน 5 บรรยากาศของเทศกาลอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของวัฒนธรรมและประเพณี ผู้คนจะเริ่มเตรียมตัวกันตั้งแต่เช้าตรู่ หญิงสาวช่วยกันห่อบ๊ะจ่างด้วยใบไผ่หรือใบหญ้าเรียวยาว ภายในห่อข้าวเหนียวสอดไส้ด้วยหมูแดง ถั่ว หรือไข่แดงเค็ม กลิ่นหอมของบ๊ะจ่างลอยคลุ้งไปทั่วลานบ้านชายฉกรรจ์จะนำเรือมังกรออกมาเพื่อเตรียมแข่งในแม่น้ำ เสียงกลองกระหึ่มกึกก้อง ผสมกับเสียงร

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 13สุราที่นี่ก็ไม่เท่าไร

    บทที่ 13 สุราที่นี่ก็ไม่เท่าไร หนึ่งเดือนผ่านไปฟางหนิงฮวาก็เริ่มคุ้นชินกับการใช้ชีวิตในเมืองถู่หยางแล้ว ถึงแม้ว่าจะคิดถึงที่ที่จากมาอยู่บ้างแต่ว่าที่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หนักใจอะไร คนที่คิดถึงก็เห็นจะมีแค่เสี่ยวปิงกับคนที่ร้านอาหารเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรพวกเขาย่อมต้องมีชีวิตของตนเองต่อไป ถึงนางไม่จากตายก็ต้องมีวันใดวันหนึ่งจากเป็นอยู่ดี การที่ได้มาเกิดใหม่ที่นี่ก็ดีไม่น้อย นางมีทั้งพ่อแม่ทั้งอารองที่รักและคอยดูแลนาง เมื่อเทียบกับชาติที่แล้วที่ไม่มีญาติเลยแม้แต่คนเดียวนั้นก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นกว่ามาก การได้อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัวเป็นอะไรที่มีความสุขยิ่งซึ่งนางไม่เคยสัมผัสมาก่อนชีวิตที่นี่ก็เรียบง่ายไม่ต้องทำงานแข่งกับเวลาหรือว่าแข่งขันกันเพื่อความก้าวหน้า อาจจะมีบ้างในคนระดับสูงแต่ไม่ใช่บุตรสาวร้านขายซาลาเปาเช่นนาง งานที่ต้องทำก

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 12 ข่าวดีของเมืองถู่หยางที่มาพร้อมกับซิกแพค

    บทที่ 12 ข่าวดีของเมืองถู่หยางที่มาพร้อมกับซิกแพค ข่าวของท่านเจ้าเมืองถูกติดประกาศตามพื้นที่ต่าง ๆ รอบเมืองถู่หยาง ชาวเมืองต่างก็มาดูประกาศกันอย่างตื่นเต้น ในเมื่อประกาศจากจวนเจ้าเมืองยืนยันเป็นที่แน่ชัดว่าท่านเจ้าเมืองของพวกเขาฟื้นแล้วทุกคนต่างก็ดีใจมาก ถึงขั้นจัดฉลองกันใหญ่ โดยเฉพาะบรรดาหญิงสาวที่ชื่นชอบท่านเจ้าเมือง พวกนางดีใจจนถึงกับน้ำตาไหล ต่างจับมือกันอย่างปลาบปลื้ม บ้างกราบไหว้ฟ้าดินไม่หยุดพร่ำพูดว่าขอบคุณสวรรค์ที่เมตตา พวกนางยังคงไปยืนออกันอยู่ที่หน้าประตูจวนเจ้าเมืองเช่นเคย คราวนี้เหมือนว่าพวกนางจะรวมตัวกันเยอะกว่าเดิมเสียอีก ของเยี่ยมต่าง ๆ ถูกนำมาให้เหล่าองครักษ์ขนกลับเข้าจวนไปนับไม่ถ้วน แต่ถึงอย่างไรพวกนางก็ยังคงไม่ได้เข้าไปเยี่ยมท่านเจ้าเมืองอยู่ดีเพ

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 11 ท่านเจ้าเมืองฟื้นแล้ว

    บทที่ 11ท่านเจ้าเมืองฟื้นแล้วเมื่อลืมตาขึ้นมาหยางจื้อเจ๋อก็พบกับแสงสว่างอีกครั้งแต่เป็นแสงสว่างที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาในห้องที่นอนอยู่ เขากวาดตามองไปรอบห้องช้า ๆ ไม่สามารถหันหน้าได้ถนัดเนื่องจากรู้สึกเจ็บปวดที่ต้นคออยู่ไม่น้อย ห้องที่นอนอยู่นั้นมองแล้วรู้สึกไม่คุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง ทุกอย่างภายในห้องดูเหมือนจะไม่ใช่โลกปัจจุบันที่เขาเคยอยู่ ทั้งรูปแบบการตกแต่งห้องที่แปลกตา ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ดูแล้วนะจะเหมือนจวนของชนชั้นสูงในยุคโบราณมากกว่า แต่ที่แปลกกว่านั้นก็คือเหตุใดอยู่ ๆ เขามีมีอาการเหมือนคนได้รับบาดเจ็บ หรือว่าจะเป็นเพราะเหตุการณ์รถชน พอคิดดูอีกครั้งก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะว่าเขาเองก็ตายไปแล้วและร่างก็ถูกฝังไปเมื่อสักครู่นี้ซึ่งเขาเห็นมันด้วยตาของตัวเองหยางจื้อเจ๋อพยายามยามยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแต่ทว่าความ

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 10 คำสั่งเสียจากวีรบุรุษ

    ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หยางจื้อเจ๋อที่ประสบอุบัติเหตุรถเสียหลักพุ่งเข้าชนต้นไม้ข้างทาง เขาเสียชีวิตบนรถฉุกเฉินระหว่างที่นำตัวส่งโรงพยาบาล วิญญาณของเขาออกจากร่างแล้วนั่งมองตนเองนอนอยู่ในรถอย่างสิ้นหวัง เขาเพิ่งอายุเพียงแค่สามสิบต้น ๆ กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นและใกล้ถึงจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในชีวิต อีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะถอนตัวจากเบื้องหน้าแล้วมาทำเบื้องหลังเป็นผู้กำกับอย่างเต็มตัว ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดสวรรค์ถึงไม่ให้เขามีโอกาสนั้น พยาบาลที่อยู่ในรถฉุกเฉินต่างก็พยายามช่วยชีวิตเขาอย่างเต็มที่ แต่ในที่สุดก็สายไปเสียแล้ว เมื่อเสียงของเครื่องวัดสัญญาณชีพในรถพยาบาลดังยาวเป็นสัญญาณบอกว่าผู้ป่วยได้หมดลมหายใจ เมื่อร่างของเขาถึงที่โรงพยาบาลได้ไม่นาน พ่อกับแม่ของเขาก็บินตรงมาจากต่างเมืองเพื่อมาดูอาการของลูกชาย พวกเขามีลูกชายเพียงคนเดียวและคาดหวังว่าเขาผู้นี้จะเป็นผู้สืบท

  • ทะลุมิติมาพบรักกับเมน   บทที่ 9 ว่าที่คู่หมั้น อะไรกันเนี่ย

    เมื่อทำหน้าที่ของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้วฟางหนิงฮวาก็กลับมาที่ร้านอย่างสบายใจ หลังจากนั้นจึงทำหน้าที่ปั้นแป้งซาลาเปาต่อ ร้านนี้ไม่ได้ขายดีเพียงแค่ช่วงเช้าหรือว่าช่วงที่ผู้คนพักกินข้าวกันเท่านั้นแต่ทว่าขายดีทั้งวัน เพราะเมืองถู่หยางนั้นมีผู้คนมากมาย แต่ละคนทำงานไม่เหมือนกันเวลาพักกินข้าวบางครั้งก็ไม่ตรงกัน ดังนั้นซาลาของร้านสกุลฟางจึงขายได้ทั้งวัน ที่ร้านไม่ได้มีเพียงแค่ซาลาเปาอย่างเดียวยังมีหมั่นโถวขายด้วย ฟางหนิงฮวาไม่คิดว่าสวรรค์จะเข้าข้างตนเองถึงเพียงนี้ ชาติที่แล้วได้ทำงานที่ตัวเองรักนั่นก็คือการเป็นเชฟ พอตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ยังได้เกิดเป็นบุตรสาวร้านขายซาลาเปาอีก ช่างมีความสุขจริง ๆ นางคิดเล่น ๆ ว่าในภายภาคหน้าหากคุ้นเคยกับเมืองนี้และรู้เรื่องลู่ทางการทำมาหากินแล้วก็อยากจะขยายร้านซาลาเปาให้เป็นร้านอาหารที่โด่งดังที่สุดในเมืองถู่หยางพูดถึงร้านอาหารแล้วที่เมือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status