แชร์

บทที่ 19 ข้ารับใช้ต่างโลก

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-21 17:21:00

บทที่ 19

ข้ารับใช้ต่างโลก

            พอทำธุระในเมืองเสร็จ ลู่ซินฟางพาลูกๆ ไปกินของอร่อยแล้วตรงกลับหมู่บ้าน 

            ค่ำคืนวันนั้น หลังจากลูกทั้งสองหลับสนิทและไม่ตื่นจนถึงเช้า ลู่ซินฟางก็ข้ามมิติมาหาหลินทันที 

            สายลมกลางคืนพัดเย็น ลู่ซินฟางนั่งดื่มชากับกินคุกกี้ช็อกโกแลตที่หลางไป๋ยกมาเสิร์ฟ 

            “ขนมของหลางไป๋เนี่ย จะกินอีกกี่ครั้งก็ยังอร่อยเหมือนเดิมเลย” ลู่ซินฟางกินคำหนึ่งก็ชมคำหนึ่ง “ชาก็หอมกลมกล่อม”

            หลางไป๋ยิ้มไม่หุบ “เป็นเพราะท่านซินฟางช่วยส่งเสริม ฝีมือทำอาหารของข้าก็เลยพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ขอรับ”

            ช่วงที่เผ่าหมาป่าเข้ามาอยู่ในอาณาเขตนี้ใหม่ๆ หลางไป๋ยังเป็นแค่หมาป่าที่ทำอะไรไม่เป็น แต่ด้วยความที่อยากตอบแทนบุญคุณ เขาจึงคอยติดตามอยู่ข้างหลังหลินกับลู่ซินฟางอยู่เสมอ

            รู้ตัวอีกที หลางไป๋ก็คอยรับใช้พวกนางในฐานะพ่อบ้าน 

            สิ่งที่หลางไป๋สนใจเป็นพิเศษคือการทำอาหาร ลู่ซินฟางเห็นว่าหลางไป๋มีพรสวรรค์จึงซื้อหนังสือทำอาหารหลายๆ สไตล์มาให้ ทั้งยังซื้อวัตถุดิบและเครื่องใช้ไฟฟ้าอำนวยความสะดวกด้วย และยังสอนวิธีปรุงอาหารให้กับหลางไป๋ แต่ส่วนมากเป็นหลางไป๋ที่ศึกษาด้วยตัวเอง

            แต่เดิมนั้น สัตว์อสูรยังอ่านเขียนกันไม่เป็น ใช้ชีวิตตามสัญชาตญาณล้วนๆ แต่เพราะพวกเขามีสติปัญญา พูดภาษามนุษย์ได้ พอได้ลู่ซินฟางเป็นคนสอนอะไรหลายๆ อย่างเพิ่มเติม พวกเขาก็เริ่มเข้าใจเรื่องของมนุษย์และใช้ชีวิตแบบมนุษย์ได้อย่างกลมกลืน  

            “เจ้านาย หลินถามท่านต้นไม้โลกมาแล้วละนะ!”

            หลังจากจิบชา กินขนมไปได้สักพัก หลินก็บอกด้วยสีหน้าร่าเริง

            “หลินคอยเป็นธุระให้ตลอดเลย ขอบใจมากนะ”

            “ไม่หรอก หลินสนุกที่ได้ทำเพื่อเจ้านาย แล้วก็นะ ท่านต้นไม้โลกบอกว่าเจ้านายพาคนของที่นี่ออกไปได้ แต่ต้องแลกเปลี่ยนด้วยการขยายฟาร์มละ”

            ท้ายประโยค หลินกางสองแขนออกกว้าง คงกำลังนึกภาพฟาร์มขนาดใหญ่ ลู่ซินฟางเองก็วาดฝันอยากมีฟาร์มใหญ่ๆ เช่นกัน ที่ทำอยู่ตอนนี้ยังเรียกฟาร์มเต็มปากไม่ได้

            จากคำพูดของท่านต้นไม้โลก ตามความเข้าใจของลู่ซินฟางคงหมายถึง ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ลู่ซินฟางไม่เคยเสียใจที่มีมิติอยู่ในมือ หรือต้องทุ่มเทสร้างทรัพยากรให้กับโลกทางนี้

            ตรงกันข้ามเลย การได้รู้จักหลินเหมือนพรอันยิ่งใหญ่ ลู่ซินฟางสนุกกับสิ่งที่ทำและได้อยู่กับทุกคนที่นี่ 

            “ว่าแต่ ถ้าทำการค้าแล้ว การขนย้ายสินค้าก็เป็นเรื่องสำคัญ ท่านต้นไม้โลกได้ให้คำแนะนำเรื่องประตูมิติหรือเปล่า” ลู่ซินฟางถามต่อ

            แม้ว่าการเปิดประตูมิติในแต่ละครั้ง ลู่ซินฟางเป็นสื่อกลาง แต่ถ้ามีประตูแยกอีกบาน การทำงานจะสะดวกมากขึ้น

            “อืม” หลินพยักหน้า “ต้องทำการแบ่งเลือดแยกวิญญาณ”

            “แบ่งเลือดแยกวิญญาณ!?” ลู่ซินฟางทวนคำด้วยความสงสัยระคนตกใจ ฟังดูลึกลับและอันตรายจัง

            หลินอธิบายว่า “เจ้านายใช้แค่เลือด หลินจะแบ่งวิญญาณ ทำแบบนั้นจะได้มีเจ้านายคนที่สองคอยเปิดปิดประตูมิติ”

            “แล้วต้องการเลือดเยอะไหม”

            หลินหัวเราะ “แค่เล็กน้อยเท่านั้น”

            ลู่ซินฟางหลุบตามองมือตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือไปตรงหน้าหลิน

            “ถ้าอย่างนั้นหลินใช้เลือดข้าได้ตามสบายเลย”

            “งั้นหลินจะทำการแยกวิญญาณแล้วนะ”

            พอหลินพูดจบ กลางฝ่ามือของลู่ซินฟางพลันรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนถูกมีดกรีด เลือดผุดซึมเป็นแนวยาว ทั้งที่ควรจะเจ็บมากแท้ๆ แต่ลู่ซินฟางกลับเจ็บแค่ครู่เดียวเท่านั้น

            เมื่อมือน้องยๆ ของหลินประทับกับมือของลู่ซินฟาง แสงสีฟ้าเจิดจ้าสว่างวาบทั่วห้อง

            หลังจากแสงสว่างนั้นหายไป ภายในห้องก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน

            สมาชิกใหม่คนนี้มีอายุ 10 ขวบ ผิวขาวเกลี้ยงเกลา หน้าตาน่ารัก มองไปละหม้ายคล้ายหลิน ทว่าดูอีกทีกลับเหมือนกับลู่ซินฟางด้วยเช่นกัน หนุ่มน้อยอายุ 10 ขวบคนนี้มีผมดำขลับยาวถึงกลางหลัง สีหน้านิ่งขรึม แต่ก็นั่นแหละ เพราะหน้าตาค่อนไปทางน่ารักเลยไม่รู้ว่าเพศชายหรือหญิง

            “น่ารักจัง อายุแค่ 10 ขวบเองเหรอ” ลู่ซินฟางถาม

            “นับจากช่วงที่หลินกับเจ้านายรู้จักกันน่ะ”

            ได้ยินแบบนั้น หัวใจของลู่ซินฟางสั่นไหว ซาบซึ้งใจอย่างมาก

            นั่นสิ นางกับหลินรู้จักกันมาสิบปีแล้วสินะ

            “ต่อไปก็ตั้งชื่อ เจ้านาย ให้เด็กคนนี้ชื่ออะไรดี” หลินโพลงถาม ลู่ซินฟางดึงสติกลับ

            “เอ๊ะ เอ่อ…” ลู่ซินฟางไม่ค่อยถนัดตั้งชื่อ เลยเกิดความลังเล “ถ้าจะให้ตั้งชื่อ ต้องรู้ก่อนว่าเด็กคนนี้มีเพศอะไร ว่าแต่เขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”

            หลินปรายตามองทางนั้นแทนการถามตรงๆ

            เด็กชายพยักหน้า “ข้าเป็นผู้ชายขอรับ”

            น้ำเสียงก็น่ารัก ถึงสีหน้าของหนุ่มน้อยคนนี้จะนิ่งขรึมก็เถอะนะ

            ว่าไปแล้ว ถ้าจะบอกว่าเด็กคนนี้คือหลินเวอร์ชั่นนิ่งขรึมคงได้สินะ 

            “ในเมื่อเจ้าเกิดมาจากเลือดข้าและวิญญาณของหลิน ถ้าอย่างนั้นชื่อ ซินหลิน เป็นยังไง”

            “หลินชอบนะ...ซินหลิน” หลินกระโดดโหยงๆ บนโต๊ะ

            เด็กชายเอียงศีรษะทวนคำ “ซินหลิน ซินหลิน ข้าจำได้แล้ว!”

            ลู่ซินฟางยิ้มอย่างปลื้มปริ่ม

            เด็กอะไรน่ารักจัง...ต้องเป็นพี่ชายให้กับเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ที่ดีแน่ๆ

            “ถ้าอย่างนั้น พวกเรามาขายสินค้าล็อตแรกให้ได้กำไรเยอะๆ แล้วมาขยายฟาร์มกันเถอะนะ” ลู่ซินฟางพูดด้วยความมุ่งมั่น

            “ได้เลย!” หลินชูกำปั้นเหนือศีรษะ ทำท่าฮึกเหิม ทว่าภาพลักษณ์อันสดใสกลับทำให้ดูน่ารักและขี้เล่นมากกว่า

            “ขอรับ” หลางไป๋พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

            “อืม” ซินหลินตอบหน้านิ่ง

            เมื่อท้องฟ้าสว่าง ลู่ซินฟางกับลูกแฝดทั้งสองกินข้าวเช้ากันอิ่มแล้ว นางกำชับให้พวกเขาเฝ้าบ้านให้ดี 

            ก่อนหน้านี้ ลู่ซินฟางบอกลูกๆ ว่าจะเข้าเมืองไปรับคนรู้จักมาช่วยงานในไร่

            เด็กทั้งสองเชื่อฟังท่านแม่ ปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา

            ทางด้านลู่ซินฟางนั้นหาได้นั่งรถเทียมวัวเข้าเมืองแต่อย่างใด นางเดินเข้ามาในป่า เพื่อหลบสายตาของผู้คน แล้วข้ามมายังมิติ   

            ก้อนเมฆขาวล่องลอยบนฟ้าสดใส ทิวทัศน์รอบด้านส่วนใหญ่คือสีเขียว ลู่ซินฟางเดินดูสวนผลไม้ ทุ่งข้าวสาลี ทุ่งข้าวโพด ถัดออกไปอีกก็คือสวนผักที่แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน ลำธารใสสะอาด เหล่าสัตว์อสูรช่วยกันเก็บเกี่ยวพืชผัก ผลไม้ อย่างขยันขันแข็ง พอเห็นแบบนี้อดภูมิใจไม่ได้จริงๆ  

            ระหว่างกำลังคิดว่าจะต้องขยายฟาร์มยังไงต่อนั้น หลินบินเข้ามาหา และอีกสองคนที่ตามหลังมานั้นคือหลางไป๋กับซินหลิน

            “มาแล้วเหรอ เจ้านาย!”

            “เพิ่งเจอกันเมื่อคืนเองเนอะ” ลู่ซินฟางพูดยิ้มๆ

            “แต่หลินอยากให้เจ้านายอยู่ที่นี่ตลอดไปเลย”

            “ข้าก็อยากอยู่ที่นี่ตลอดเหมือนกัน”

            “ท่านซินฟางขอรับ ข้าหาคนที่เหมาะสมที่จะออกไปข้างนอกได้แล้ว” หลางไป๋เข้าประเด็นสำคัญ

            เหตุผลที่ลู่ซินฟางมาก็เพื่อพาสหายจากต่างมิติออกไปข้างนอก ส่วนคนที่หลางไป๋เลือกไม่ใช่ใครอื่น หลางชุน ญาติผู้น้องของหลางไป๋ เผ่าหมาป่าเงิน สยงจวินกับลูกชายชื่อว่าสยงอู๋ เผ่าหมี เหตุผลที่หลางไป๋เลือกพวกเขาทั้งสามคนให้ออกไปโลกข้างนอกก่อนนั้น เป็นเพราะว่าพวกเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์ และอยู่ในร่างมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์

            หลังจากหลางไป๋เรียกทั้งสามคนมา พวกเขาดูตื่นเต้นมาก

            “หากออกไปที่โลกข้างนอกแล้ว พวกเจ้าอาจจะต้องเจอเรื่องลำบาก มนุษย์น่ะนะ นิสัยใจคอซับซ้อน แต่ก็มีคนนิสัยดีๆ เหมือนกัน พวกเขาอาจสร้างความลำบากให้กับพวกเจ้า เพราะฉะนั้น...ข้าไม่รู้จะพูดยังไง ก่อนอื่นข้าอยากจะขอโทษพวกเจ้า”

            “ท่านซินฟางอย่าขอโทษพวกเราเลย พวกเราอยากออกไปดูโลกข้างนอก เพื่อจะเอามาพัฒนาโลกที่นี่ด้วย ก็เลยขออาสาออกไปเอง” สยงจวินกล่าว

            พ่อหมีร่างใหญ่คนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีความคิดที่สุขุม

            “ใช่ค่ะ” หลางชุนตอบด้วยรอยยิ้ม

            “ชุน ตรงนี้เจ้าต้องพูดว่า เจ้าค่ะ” หลางไป๋เตือน

            ชุนเกาแก้ม ยิ้มแห้งๆ “เจ้าค่ะ”

            ลู่ซินฟางยิ้มให้กับพวกเขา “ยังไงก็เถอะนะ ถ้าพวกเจ้าอยากกลับมาต่างมิติก็ขอให้บอก อย่าได้เกรงใจ อีกอย่าง ข้าพร้อมรับฟังความคิดเห็นของพวกเจ้า หากว่ามีปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ละก็ บอกมาได้ตลอดเลยนะ”

            “ขอรับ/เจ้าค่ะ”

            เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้ว หลังจากนั้นลู่ซินฟางก็วางบทบาทให้กับทั้งสาม หลางชุนจะอยู่ดูแลเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ยามที่ลู่ซินฟางไม่อยู่บ้าน สยงจวินกับลูกชายคือหัวหน้าคนงานคอยจัดการเรื่องในไร่ 

            คนสุดท้าย ซินหลินคือนายน้อย คอยดูแลกลุ่มสัตว์อสูร และมีอำนาจเปิดปิดประตูมิติได้ตามใจ

            อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ลู่ซินฟางวางแผนว่าจะเพิ่มแรงงานในไร่อีกเยอะๆ 

             

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status