Share

ตอนที่ 65 เพื่อนรัก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:09:29

ท่ามกลางผู้มาร่วมงานที่แต่งกายไว้ทุกข์ คนผู้หนึ่งก้าวเท้าเข้ามาอย่างเงียบงัน... หลานซือเหยียน แม่ทัพใหญ่อีกคนหนึ่งของแผ่นดิน และคือสหายร่วมรบผู้เคยยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับซ่งไห่หยางมาตลอดหลายสิบปี

มือที่ถือธูปของเขาสั่นเล็กน้อย ขณะที่ปลายนิ้วจรดก้านธูปในกระถาง ใบหน้าขรึมที่มักเยือกเย็นไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด บัดนี้กลับซีดเซียวราวคนแบกน้ำหนักทั้งแผ่นดินไว้บนบ่า เขาหลับตาลงแน่น ในใจกำลังตั้งจิตอธิษฐานเงียบ ๆ

“ซ่งไห่หยาง... เพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียวของข้า... ข้าอยากจะขอโทษเจ้าจริง ๆ เรื่องลูกชายของเจ้า... ข้ารู้ดีว่าความจริงนั้นร้ายแรงเพียงใด... แต่ทั้งข้าและซ่งเจี้ยนหง พวกเราทุกคนต่างมีความผิดที่ต้องชดใช้... ข้าเคยกลัวว่าเจ้าจะรู้ กลัวว่าสายตาของเจ้าจะมองข้าเปลี่ยนไป”

ความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมา... วันที่ทั้งสองยังเป็นเพียงนายกองตัวเล็ก ๆ ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวของสนามฝึก พูดถึงความฝันอันไกลโพ้น ความหวังอันเรียบง่ายในวันที่ยังไม่มีคำว่าอำนาจหรือศักดิ์ศรีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่วันคืนเหล่านั้นกลับหายไปดั่งหมอกจางเมื่อเงามืดแห่งตำแหน่งสูงศักดิ์เข้าปกคลุมหัวใจ

แม้บรรยากาศในงานจะอบอวลไปด้วยกลิ่นกำยานและความเศร้า แต่สำหรับหลานซือเหยียนแล้ว... ความเงียบงันนี้กลับยิ่งตอกย้ำบางสิ่งที่ผิดปกติ เหล่าทหารเอกของซ่งไห่หยาง คนเหล่านั้นที่เขาเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่มาในสมรภูมิ นับไม่ถ้วนครั้ง กลับไม่มีแม้แต่เงาปรากฏตัวในพิธีอำลาดวงตาแหลมคมของแม่ทัพผู้ช่ำชองหันไปจับจ้องร่างของซ่งอี้เฉินทันที

"แล้วเหล่าทหารเอกของบิดาเจ้าหายไปไหนหมด?" เสียงของเขาหนักแน่น ทว่ากดต่ำดุจสายลมก่อนพายุ บรรดาขุนนางและแขกผู้มีเกียรติในงานเริ่มหันสายตาสงสัยมองไปยังซ่งอี้เฉิน ชายหนุ่มที่บัดนี้กำลังรับบทเป็นบุตรชายผู้โศกเศร้าเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆ แฝงด้วยความนิ่งสงบผุดขึ้นที่ริมฝีปาก"ข้า... ไม่ทราบจริงๆ ท่านแม่ทัพ" น้ำเสียงอ่อนโยนราวสายหมอก แต่ดวงตานั้นกลับไร้คลื่นอารมณ์ ไม่ต่างอะไรจากทะเลที่ไร้ชีพพูดจบ เขาก้มหน้าลงอีกครั้ง บีบน้ำตาเบาๆ ราวกับหัวใจแตกสลายกับการจากไปของบิดา ท่าทีทั้งหมดสมบูรณ์แบบไร้ที่ติจนไม่อาจจับผิด

แต่หลานซือเหยียนที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน รู้ดีว่าน้ำตาบางหยดนั้นช่างเย็นเยียบจนน่าหวาดหวั่นแม่ทัพเฒ่ากำหมัดแน่น สันกรามเขาขบกันจนขึ้นนูน ดวงตาวาววับด้วยเพลิงโทสะที่ถูกเก็บกลั้น

"เด็กสารเลว... เจ้านี่มันกล้าเมินข้าราวกับข้าเป็นอากาศธาตุเช่นนั้นหรือ?" เขาก่นด่าภายในใจอย่างเดือดดาล แต่ยังข่มกลืนทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้าสงบนิ่ง เพื่อไว้เกียรติแด่ผู้ล่วงลับอย่างซ่งไห่หยาง ผู้ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย

ยามหัวค่ำมาเยือน จวนตระกูลซ่งกลับเข้าสู่ความเงียบสงัด แขกเหรื่อขุนนางผู้มีเกียรติทยอยกลับกันไปหมดแล้ว เหลือไว้เพียงบรรยากาศหม่นหมองกับกลิ่นธูปที่ยังคงลอยกรุ่นอยู่หน้าป้ายวิญญาณ ซ่งอี้เฉินยังคงสวมชุดไว้ทุกข์สีดำสนิท เส้นผ้าขาวพาดไหล่ ขับให้ใบหน้าที่ซีดเซียวดูเศร้าหมองอย่างสมบูรณ์แบบ เขาแสดงได้แนบเนียนตลอดทั้งวัน ทั้งน้ำเสียงที่อ่อนแรง ดวงตาแดงช้ำ และหยาดน้ำตาที่กลั่นออกมาได้ตรงจังหวะแต่เมื่อฟ้ามืดลง เมื่อสายตาของผู้คนพ้นจากเงาจวน... สิ่งที่เรียกว่า หน้ากาก ก็ถูกเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดี

เพล้ง! เสียงกระถางธูปกระเด็นกระแทกพื้นแตกกระจาย ราวกับเป็นสัญญาณเปิดม่านให้ปีศาจในใจเผยโฉม ซ่งอี้เฉินถลึงตา มือสองข้างกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เขาหันขวับไปทางป้ายวิญญาณของผู้เป็นบิดา ดวงตาแดงก่ำด้วยเพลิงโทสะที่คุกรุ่นตลอดทั้งวัน

"อ๊ากกกกก!!! ไอ้แก่สารเลว!! มันกล้าดียังไงถึงจับผิดข้าต่อหน้าผู้คน! เจ้าเห็นมั้ย!?" เสียงตะโกนลั่นสะท้อนก้องไปทั่วลานว่างของเรือนบรรพชน บ่าวรับใช้ที่ยังไม่ทันถอยหนีไปไหนถึงกับหน้าซีด ตัวสั่นไม่กล้าขยับเขยื้อนเขาเดินเข้าไปกระแทกไหล่ใส่โต๊ะบูชาอย่างรุนแรงจนเชิงเทียนโยกเยก เปลวไฟลุกวูบตามแรงลมที่ไล่ตามแผ่นอาฆาต

"ตอนมีชีวิตพวกเจ้าแค่เสแสร้งสวมหน้ากากให้กันและกัน! ทั้งที่ต่างก็หักหลังกันมาเป็นสิบปี! แล้ววันนี้มันคืออะไร!? มิตรภาพหรอ!? ความอาลัยหรอ!? ฮึ!"

เขาหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยันและความบิดเบี้ยวจากบาดแผลในใจที่สั่งสมมานานปีดวงตาของซ่งอี้เฉินที่เคยเยือกเย็น กลับฉายแววคลั่งเสียจนน่าหวาดหวั่น ราวกับสัตว์บาดเจ็บที่พร้อมจะกัดทุกคนที่กล้ามองตาเงามืดที่ทอดยาวจากเปลวไฟพลิ้วไหว ลากเงาร่างของเขายาวเหยียดบนพื้นศิลา และในเงานั้น... ความลับที่ถูกฝังไว้ ก็เริ่มส่งเสียงสะท้อนออกมาอย่างแผ่วเบา

“แกรักไอ้เด็กเหลือนั่นมากใช่ไหม...”

เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวของคนที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและชิงชัง

“ดีล่ะ เช่นนั้น...ข้าจะส่งมันไปตามรับใช้ แกต่อในโลกหน้า!”“ข้าจะยัดมันลงหลุมเดียวกับแกนั่นแหละ แล้วข้าจะทวงคืนทุกอย่าง...ทุกสิ่งที่มันไม่ควรได้ตั้งแต่แรก!”

แม้ภายนอกเขาจะยังคงแต่งกายงามสง่าราวขุนนางผู้ดีผู้เปี่ยมด้วยสติปัญญา แต่เนื้อแท้ของเขานั้นช่างเป็นสิ่งตรงกันข้าม จิตใจดำมืดจนยากจะนับเป็นมนุษย์ “หลานจิ่วอวิ๋น...” เสียงเอ่ยนามนั้นหลุดออกจากริมฝีปากของซ่งอี้เฉินช้า ๆ ราวกับมันเป็นคำสาป “เจ้ากำลังจะรู้เสียที...ว่าโลกใบนี้ไม่มีที่ยืนให้เด็กที่ไม่ควรเกิดมาอย่างเจ้า”

แม้ซ่งอี้เฉินจะพอมีความรู้ มีวรยุทธ์อยู่บ้าง แต่โดยสันดานแล้ว เขาเป็นเพียงคนขี้ขลาดที่หวาดกลัวเงาของตนเอง ทว่าบัดนี้ เขากลับก้าวเดินอย่างองอาจดั่งอสรพิษที่เพิ่งสลัดคราบเก่า นับแต่วันที่เขาส่งบิดาแท้ ๆ ลงสู่หลุมศพ ซ่งอี้เฉินก็ได้รับสิ่งที่ปรารถนามาตลอดชีวิต อำนาจ ศักดิ์ศรี ทรัพย์สิน และชื่อเสียงที่เคยเป็นของซ่งไห่หยาง บัดนี้ล้วนตกเป็นของเขาเพียงผู้เดียว ในโลกที่ความจงรักภักดีขึ้นอยู่กับจำนวนชามข้าวมีคนมากพอที่พร้อมจะคุกเข่ารับใช้คนอย่างเขา ตราบใดที่ยังมีเศษอาหารและอำนาจโยนใส่พื้นให้พวกมันแย่งกันแทะซ่งอี้เฉินมองคนพวกนั้น พวกนักฆ่ารับจ้าง พวกทหารฝีมือตก พวกขุนนางตาเหล่ที่เคยโดนบิดาเขากดหัวไว้ มาบัดนี้ต่างยืนเรียงแถวอย่างเชื่องราวหมาที่ผ่านการฝึกดีแล้วเขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ พลางเอ่ยกับตัวเองด้วยเสียงที่แทบไม่ได้ยิน

“เจ้าเด็กนั่น... ต่อให้เจ้ามีสายเลือดของตระกูลซ่ง แต่เจ้าก็ไม่มีอะไรเลย ไม่มีพลัง ไม่มีฐานะ ไม่มีอำนาจ… เจ้าจะไม่มีวันเอาชนะข้าได้” เสียงหัวเราะแผ่วเบาของซ่งอี้เฉินแฝงไปด้วยความเหยียดหยาม ทว่าเมื่อลอยกระทบกำแพงห้อง กลับดังก้องราวกับคำสาปที่ประกาศชะตากรรมของตนเองโดยไม่รู้ตัว

ทว่า… มีสิ่งหนึ่งที่เขายังไม่รู้ และอาจไม่มีวันได้รู้จนกว่ามันจะสายเกินไปวันใดก็ตามที่เขากล้าคิดแตะต้องเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาด้วยมือเปื้อนเลือดของตนเองวันนั้น… จะเป็นวันแรกที่เขาก้าวเข้าสู่หายนะอันไร้หนทางหวนกลับโชคชะตาของซ่งอี้เฉินได้ถูกขีดเส้นไว้แล้ว บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยเงามืดและในเงามืดนั้น มีสายตาคู่หนึ่ง… จับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลา รอคอยเพียงวินาทีที่เหมาะสมเพื่อฟาดฟัน ต่อให้เขาจะปั้นหน้าเป็นผู้ทรงคุณธรรม ต่อให้เขาจะพร่ำคำอ่อนโยนเพียงใดเลือดของผู้บริสุทธิ์ที่ติดอยู่บนมือ กับความโลภที่ฝังลึกในใจ จะไม่มีวันถูกลบล้าง และในวันนั้น… ชื่อของซ่งอี้เฉิน จะถูกสลักไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะผู้ที่จมสู่เหวลึกด้วยน้ำมือของความอธรรมของตนเอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status