Share

ตอนที่ 86 ศัตรูหัวใจ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:31:15

ทั้งวันนั้น ซูจิ่งหลงใช้เวลาอยู่กับหลานจิ่วอวิ๋นจนเสียงหัวเราะของเด็กน้อยกลายเป็นดั่งสายลมอุ่นที่พัดผ่านหัวใจอันด้านชา แต่เมื่อเงาของตะวันเริ่มทอดยาว เขาก็รู้ว่าคงถึงเวลาพาหลานชายกลับจวนของหลานเยว่ ก่อนที่ความมืดจะโอบล้อมเมืองหลวง

ระหว่างทางกลับ เขาโน้มตัวลง ให้เด็กน้อยปีนขึ้นหลังอย่างเคย มือเล็กโอบรอบคอของเขาอย่างไว้ใจ ความอบอุ่นจากร่างเล็กแผ่ซ่านเข้ามาจนหัวใจที่เคยเย็นชารู้สึกอ่อนโยนขึ้นทุกย่างก้าว“ฮ่า ๆ หลานจิ่วอวิ๋น เจ้าช่างเป็นเด็กดีนัก ลุงภูมิใจในตัวเจ้าจริง ๆ” เขาหัวเราะเบา ๆ เสียงทุ้มอบอุ่นไม่เหลือเค้าลางของชายผู้ผ่านเส้นทางนองเลือด เด็กชายหัวเราะตอบอย่างร่าเริง โดยไม่รู้เลยว่าผู้เป็นลุงนั้นล่วงรู้ทุกความพยายามเล็ก ๆ ที่เขาทำเพื่อปกป้องลูกหนี้ในเงามืดของตน

ยังไม่ทันถึงจวนของหลานเยว่ ร่างสูงก็เห็นสาวใช้ผู้หนึ่งรออยู่ที่ทางเดิน เธอก้าวมาค้อมศีรษะ เอ่ยเสียงสุภาพ “นายท่าน นายหญิงฝากมาบอกว่า คืนนี้ให้นายน้อยไปพักที่จวนของท่านแม่ทัพหลานซือเหยียน”

ซูจิ่งหลงพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเรียบ แต่ในแววตาแฝงความเข้าใจ “อืม…เดี๋ยวข้าจะไปส่งนายน้อยเอง ฝากบอกนายหญิงของเจ้าว่าไม่ต้องห่วง” เขาหยุดเล็กน้อย เหมือนลังเลว่าจะเอ่ยต่อดีหรือไม่ ก่อนเอ่ยถ้อยคำที่แผ่วแต่หนักแน่น “แล้วก็บอกนางด้วย…ลมหนาวกำลังมา ดูแลสุขภาพตัวเองให้มาก”

สาวใช้ยิ้มรับอย่างรู้ใจ เพราะแม้จวนของหลานเยว่จะมีมือสังหารคอยปกป้อง แต่ก็ยังมีบ่าวรับใช้ธรรมดาที่มองเห็นความห่วงใยลึกซึ้งของชายผู้นี้ต่อผู้เป็นนายหญิงได้อย่างชัดเจน ซูจิ่งหลงก้มมองเด็กชายตัวน้อยบนหลัง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงความอบอุ่น “ดูเหมือนว่าคืนนี้…ท่านตาของเจ้าคงอยากให้เจ้ามานอนด้วย”

หลานจิ่วอวิ๋นถึงกับตาโตด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าเล็กเปื้อนยิ้มกว้าง เขารู้ดีว่าคืนที่ได้อยู่กับท่านตา มักจะจบลงด้วยการซุกตัวฟังนิทานอันอบอุ่นจากปากแม่ทัพหลานซือเหยียนจนหลับสนิทราวกับมีใครโอบกอดในฝัน

เมื่อทั้งคู่มาถึงหน้าจวนแม่ทัพ กลับพบว่าบรรยากาศเงียบขรึมแต่เต็มไปด้วยผู้คน ชายหนุ่มในชุดขุนนางหลายคนยืนเรียงรายอยู่ด้วยท่าทีเคร่งขรึม ดวงตาคมของซูจิ่งหลงหรี่ลง ก่อนจะวูบวาบด้วยแสงแห่งความสงสัยและความไม่พอใจที่เขาเก็บซ่อนไว้ลึก ๆ “คนพวกนี้…มาทำอะไรกัน?” เสียงคิดในใจเย็นยะเยือก

หลานจิ่วอวิ๋นกำลังจะร้องเรียกท่านตา แต่ยังไม่ทันเอ่ย ซูจิ่งหลงก็วางมือใหญ่ลงบนศีรษะเล็กๆ แล้วกดเบาๆ เป็นสัญญาณให้เงียบ เขาตั้งใจฟังเสียงสนทนาที่เล็ดลอดมา และไม่นานความหมายของถ้อยคำก็ชัดเจนพวกนั้นมาขอสู่ขอหลานเยว่

หัวใจเขากระตุกวูบ ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ศัตรูหัวใจ…จำนวนไม่น้อยยืนอยู่ตรงหน้าเขาในค่ำคืนนี้

“ลุงต้องไปแล้ว” เขาเอ่ยเพียงเท่านั้น น้ำเสียงราบเรียบแต่ดวงตายังคงจับจ้องผู้คนเหล่านั้นไม่วาง ก่อนจะส่งหลานชายถึงมือแม่ทัพหลานซือเหยียน แล้วหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

ค่ำคืนนี้…เป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษที่ซูจิ่งหลงไม่อาจข่มตาหลับได้เขานั่งพิงพนักเก้าอี้ในห้องเงียบงัน แสงตะเกียงสั่นไหวราวกับหัวใจของเขาที่ไม่เคยนิ่ง ภาพของหลานเยว่ผุดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าใบหน้าสงบงาม รอยยิ้มที่เคยแตะเพียงปลายสายตา และ…เงาร่างของชายหนุ่มรูปงามนับสิบที่เขาเห็นยืนอยู่หน้าจวนแม่ทัพในค่ำนี้

หัวใจเขาเหมือนถูกบีบแน่น เขาไม่คาดคิด…ว่าตนจะมีศัตรูหัวใจมากมายถึงเพียงนั้น

นางอดีตสตรีที่ครั้งหนึ่งเคยถูกตราว่าไร้ค่า แถมยังมีลูกติดกลับกลายเป็นเป้าหมายของผู้คนมากมาย แต่ซูจิ่งหลงรู้ดี…คนเหล่านั้นไม่ได้หลงรักนางจากหัวใจ พวกมันเพียงเห็นนางเป็นสะพานสู่เส้นทางแห่งอำนาจ

เพราะในวันนี้ แม่ทัพหลานซือเหยียนวางมือแล้วการได้ครอบครองนาง…ก็เท่ากับการผูกพันตนเองเข้ากับตระกูลที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดตระกูลหนึ่งในแผ่นดิน เส้นทางชีวิตของพวกมันจะถูกปูด้วยอำนาจ บารมี และเกียรติยศที่หาไม่ได้จากที่ใด

ซูจิ่งหลงขบกรามแน่น รู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบที่คลืบคลานในอกผสมกับไฟร้อนรุ่มที่เผาใจ เขาไม่เคยหวาดกลัวศัตรูในโลกมืด แต่ศัตรูหัวใจเหล่านี้…ทำให้เขาอยากลงมือเสียยิ่งกว่าใคร

ค่ำคืนนี้…ไม่ใช่เพียงซูจิ่งหลงที่นอนไม่หลับในจวนแม่ทัพ หลานซือเหยียนก็ทอดถอนใจอยู่กลางความเงียบเช่นกันแทนที่เขาจะรู้สึกยินดีที่มีขุนนางน้อยใหญ่ต่างหมายตาบุตรสาว หากเป็นเมื่อก่อน…เขาคงยกนางให้ไปโดยไม่ลังเล อดีตนั้น หลานเยว่เคยเป็นเพียงสตรีไร้ค่าตามสายตาของผู้คน การที่มีผู้ชายมากหน้าพร้อมอ้าแขนรับดูแลนาง ก็ถือเป็น เกียรติ สูงสุดในชีวิตของหญิงเช่นนั้นแต่วันนี้…ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

“เจ้าพวกนี้…ช่างทำให้ข้าเหนื่อยใจนัก” แม่ทัพพึมพำอย่างเคร่งขรึม แววตาแฝงความหวาดหวั่นปนความเด็ดขาดหากพวกมันยังคงดื้อดึง ตื้อไม่เลิก เขาจะไล่พวกมันกลับไปให้หมด ไม่เหลือแม้แต่เงาเขาไม่มีความจำเป็นต้องถนอมน้ำใจใครอีกแล้วโดยเฉพาะถ้าหลานเยว่เข้าใจผิด คิดว่าเขาต้องการผลักไสนางไปเป็นเพียง สตรีอุ่นเตียงของใคร

นั่นจะเป็นจุดจบของเขาเอง…หลานซือเหยียนไม่ต้องการชะตากรรมเช่นนั้นเขาเพียงอยากใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข ไม่อยากจบชีวิตด้วยความน่าสมเพช เหมือนผู้ชายมากมายที่เคยกล้าลองดีกับนาง…แล้วพังพินาศไม่เหลือแม้ชื่อให้จดจำ

เช้าวันถัดมา แสงอรุณเพิ่งสาดลอดผ่านหมอกจาง ๆ ซูจิ่งหลงก็ก้าวเข้าสู่จวนแม่ทัพหลานซือเหยียนวันนี้เขามิใช่บุรุษในชุดดำที่มีกลิ่นอายโลกมืด หากแต่แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมเรียบหรู สีสุขุมตัดเย็บอย่างประณีต ทรงผมเกล้าขึ้นอย่างเรียบร้อยไร้เส้นหลุดลุ่ย ราวกับบัณฑิตหนุ่มที่ตั้งใจมาพบผู้ใหญ่เป็นครั้งแรก

หลานซือเหยียนยืนมองชายตรงหน้าแล้วอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วสูง ความทรงจำของเขายังชัดเจนบุรุษผู้นี้ในยามปกติคือเสือร้ายผู้กุมสายใยโลกมืดไว้ในมือ แต่ภาพที่เห็นวันนี้กลับราวกับเป็นคนละคน

“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากัน” แม่ทัพถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ผสมทั้งความงุนงงและระแวดระวัง ซูจิ่งหลงสบตาเขาอย่างไม่หลบเลี่ยง แววตาคมมั่นคง ริมฝีปากเอื้อนเอ่ยช้า ๆ แต่หนักแน่น“ท่านแม่ทัพ…ข้าหลงรักบุตรสาวของท่าน”

เพียงประโยคเดียว…บรรยากาศในห้องก็พลันเงียบลงจนได้ยินแม้เสียงลมพัดใบไม้ไหว หลานซือเหยียนนิ่งอึ้งราวกับถูกตีให้ชะงักไปชั่วขณะ ชายผู้นี้…คนที่เขาเคยร่วมทำธุรกิจมืดด้วยกันมานับครั้งไม่ถ้วนวันนี้กลับมายืนสารภาพรักต่อหน้าอย่างเปิดเผย ราวกับเป็นหนุ่มน้อยที่เพิ่งค้นพบว่าหัวใจตนเองถูกช่วงชิงไป

“อายุเจ้ากับนางห่างกันมากนัก”เสียงของแม่ทัพหลานซือเหยียนทุ้มต่ำ แฝงด้วยน้ำหนักของคนผ่านศึกมานับไม่ถ้วน เขาจ้องสำรวจชายตรงหน้าซูจิ่งหลง ผู้มีวัยสี่สิบต้น ๆ และชื่อเสียงเลื่องลือทั้งในโลกสว่างและโลกมืด ขณะที่บุตรสาวของเขา หลานเยว่ เพิ่งอยู่ในวัยยี่สิบกลาง ๆ เท่านั้นซูจิ่งหลงไม่หลบสายตา น้ำเสียงหนักแน่นเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ตลอดชีวิตของข้า…ข้าไม่เคยหลงรักสตรีนางใด นอกจากนาง”

แม่ทัพพินิจอีกฝ่ายด้วยสายตาคมกริบ เขารู้ดีว่าฉากหน้าของชายคนนี้คือเจ้าของโรงประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แต่ฉากหลังคือพ่อค้าแห่งความตาย ผู้ครอบครองเครือข่ายนักฆ่าอันแผ่กว้าง อีกทั้งยังมีสายเลือดเชื้อพระวงศ์ที่แทบไม่มีใครล่วงรู้ และยังขึ้นชื่อในเรื่องความโมโหร้ายที่ไม่เคยปรานีใคร

“แต่เจ้าเคยตบบุตรสาวข้าจนฟันร่วงไปแล้วคนหนึ่ง…จำได้หรือไม่” น้ำเสียงของแม่ทัพเต็มไปด้วยร่องรอยความโกรธเก่าที่ไม่เคยจาง ภาพของหลานอวี้ซินบุตรสาวคนรองที่เคยงามหมดจด แต่ต้องอับอายเพราะถูกตบกลางตลาดค้าทาสยังฝังอยู่ในใจ

ซูจิ่งหลงเพียงหัวเราะเย็น แววตาไม่มีแม้เงาสำนึก “ที่ข้าทำ…ก็เพื่อปกป้องลูกของนางบุตรชายของหลานเยว่” เขาเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “บุตรสาวของท่านผู้นั้น แม้จะงามหยดย้อย แต่ใจกลับอัปลักษณ์ยิ่งนัก ท่านควรขอบใจข้าเสียด้วยซ้ำที่ลงมือสั่งสอน หากเป็นคนอื่น ป่านนี้นางคงจับไปขายเป็นทาสแล้ว”

เขาก้าวเข้าใกล้เพียงครึ่งก้าว เสียงเข้มขึ้นราวประกาศิต “หากนางยังกล้าทำอีก…ข้าจะตบนางให้ฟันร่วงหมดปาก”

คำพูดตรงไปตรงมานั้นทำให้ใบหน้าของแม่ทัพหลานซือเหยียนตึงเครียดและบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์ซับซ้อนโกรธก็มี สับสนก็มี แต่ในแววตาลึก ๆ กลับแฝงประกายบางอย่างที่ยอมรับว่าชายตรงหน้า…ที่สำคัญ เขามองหลานเยว่และลูกชายของนางเป็นดั่งโลกทั้งใบที่ไม่มีวันปล่อยให้ใครแตะต้องได้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status