Share

ตอนที่ 87 ภาพฝัน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-03 12:31:40

ในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงเช้าส่องลอดหน้าต่างไม้เข้ามาเป็นลำ เสียงสนทนาของสองบุรุษผู้ผ่านศึกและผ่านโลกมามากมายดังขึ้นช้า ๆ แม่ทัพหลานซือเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่แฝงความเหนื่อยล้า“เจ้าวางใจเถอะ… ข้าจะไม่ให้ใครก้าวเหยียบเรือนข้าอีก เพียงเท่านี้… ข้ากับนางก็แทบจะมองหน้ากันไม่ติดอยู่แล้ว”

เขารู้ดีว่าในสายตาของหลานเยว่นั้น เต็มไปด้วยความแค้นเก่า แม้กาลเวลาผ่านไปเพียงใด นางคงไม่มีวันให้อภัย แต่ในใจของเขาก็ตัดสินแล้วว่าจะไม่ทำผิดซ้ำเพิ่มบาดแผลให้ชีวิตนางอีกหลังจากเว้นจังหวะ แม่ทัพกล่าวต่ออย่างจริงจัง“ส่วนเรื่องระหว่างเจ้าและนาง… ข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา ให้นางได้เลือกด้วยตัวเอง”

ซูจิ่งหลงฟังแล้วแค่นหัวเราะเบา ๆ รอยยิ้มบางผุดบนใบหน้าเย็นเฉียบ“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ให้โอกาส… เพียงแต่การเอาชนะใจนางมันยากเหลือเกิน” แม้จะได้รับคำตอบว่าไม่มีการขัดขวาง แต่ในใจเขาก็ไม่แน่ใจนัก ว่าความรู้สึกที่ทุ่มให้นาง จะเพียงพอทำให้หัวใจของหลานเยว่สั่นไหวหรือไม่ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อจากไป เขาหันกลับมาอีกครั้ง สายตาคมดั่งมีดส่องตรงเข้าหาแม่ทัพ“ข้าขอ… รายชื่อทั้งหมดของคนที่คิดจะมายุ่งกับนาง” เสียงของซูจิ่งหลงทุ้มต่ำ แฝงด้วยแรงกดดันจนบรรยากาศในห้องหนักอึ้งลงทันตาเขาไม่ใช่ชายที่ลงมืออย่างบ้าบิ่นเพียงเพราะหึงหวง หากแต่ทุกการกระทำถูกชั่งน้ำหนักด้วยเหตุผล หากบุคคลใดเพียงแค่หมายตานางโดยปราศจากพิษภัย เขาจะเพียงเฝ้าจับตามอง แต่หากแม้เพียงร่องรอยว่าในอนาคต คนผู้นั้นอาจเป็นภัยต่อนางและลูก… ความตายคือคำตัดสินเพียงอย่างเดียว

คืนนั้น เมืองหลวงเงียบสงัดกว่าที่เคย ลมหนาวพัดกรูราวกับพาเอากลิ่นคาวเลือดแผ่วบางปะปนมากับความมืด เงาวูบไหวเคลื่อนผ่านหลังคาและตรอกซอยแคบ ก่อนหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ไม่กี่ชั่วยามต่อมา ชื่อที่ถูกจารึกอยู่บนแผ่นกระดาษในมือซูจิ่งหลง กลายเป็นเพียงรายนามผู้วายชนม์ ศพเหล่านั้นร่วงหล่นราวใบไม้แห้งร่วงจากกิ่งไม้ในยามปลายฤดู พวกเขาทุกคนล้วนมีอดีตที่ไม่ขาวสะอาด ขุนนางฉ้อฉล หรือพ่อค้าสกปรก และสำคัญที่สุดทุกคนเคยเอ่ยปากหรือมีแผนคิดจะเกี่ยวดองกับตระกูลหลาน

เมื่อรุ่งสางมาถึง… เมืองหลวงตื่นขึ้นพร้อมข่าวลือถึงความตายของผู้คนในค่ำคืนเดียวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวง ทว่าหลานเยว่กลับไม่ใส่ใจ นางมิได้เอื้อนเอ่ยหรือคิดว่าตนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย เพราะสำหรับนาง เรื่องเหล่านั้นเป็นเพียงเสียงเล่าลือที่ลอยผ่านหูแล้วก็หายไป

แต่สำหรับ ซูจิ่งหลง ทุกหยดเลือดที่หลั่งรินมีเหตุผลเดียวเพื่อให้นางและลูกได้อยู่อย่างสงบสุข ต่อให้หัวใจของนางมิได้มอบให้แก่เขา แต่เขาก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อกันโลกอันโหดร้ายออกไปจากชีวิตของนางหลายวันมานี้ เขามาปรากฏตัวที่จวนบ่อยครั้ง จนในที่สุด หลานเยว่ก็เอ่ยถามขึ้น น้ำเสียงเรียบเย็น ใบหน้างามไม่เผยอารมณ์ใด“เจ้าว่างนักหรือ ถึงได้เหยียบมาที่นี่ครั้งแล้วครั้งเล่า?” ซูจิ่งหลงยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า สายตาที่ทอดมองมีทั้งความดื้อรั้นและความหวั่นไหวปะปนกัน เขาตอบช้า ๆ ราวกับแต่ละถ้อยคำถูกกลั่นกรองมาจากส่วนลึกของหัวใจ“มิใช่ว่าข้าว่าง… แต่ข้ากลัวว่าจะเสียเจ้าไป” เขาสูดลมหายใจลึก ก่อนกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่แฝงไปด้วยความสั่นสะเทือน“ทุกวันนี้ มีบุรุษนับไม่ถ้วนก้าวเข้ามาในจวนของบิดาเจ้า ข้า…ไม่อาจนิ่งเฉยได้ ข้าเกรงว่าในสักวันหนึ่ง เจ้าจะถูกช่วงชิงไปจากสายตาข้า” ถ้อยคำเหล่านั้นทำให้บรรยากาศรอบตัวแปรเปลี่ยนเป็นเงียบงัน ความจริงใจที่เปล่งออกมาจากดวงตาของเขา ทำให้ยากที่ใครจะไม่สั่นไหว แต่หลานเยว่นั้นยังคงยืนอยู่ในความสงบ ความเย็นชาของนางราวกำแพงสูงที่ไม่ยอมเปิดทางให้ใครก้าวผ่าน

“เจ้าเห็นข้าว่าเป็นสตรีใจง่ายเช่นนั้นหรือ?” เสียงของ หลานเยว่ เปล่งออกมาแผ่วเบา แต่แฝงด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย แววตาที่ทอดมองชายตรงหน้ามีทั้งความตำหนิและความเย็นชาซูจิ่งหลง รีบส่ายหน้าพลางเอ่ยตอบโดยไม่ทันคิด เพราะเกรงว่านางจะเข้าใจผิด“ไม่เลย… ข้าเพียงแค่หวาดหวั่นเท่านั้น กลัวว่าวันใดจะมีบุรุษคนใดคนหนึ่งปรากฏขึ้น… แล้วช่วงชิงใจเจ้าจากข้าไป”

นางจ้องมองใบหน้าของเขาอย่างไร้อารมณ์ ดั่งน้ำแข็งที่ไม่สะท้อนความรู้สึกใด ก่อนจะหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงัน ทิ้งเพียงถ้อยคำที่เย็นชาไว้เบื้องหลัง “ข้าไม่คิดจะเหลียวมองชายใดทั้งนั้น”

ประโยคสั้น ๆ ของนาง ทำให้หัวใจของเขาเหมือนถูกบีบทั้งสองด้านโล่งอกที่นางปฏิเสธทุกคน แต่ขณะเดียวกันก็หนักอึ้ง เพราะเขาเองไม่อาจแน่ใจได้ว่านางจะยกเว้นเขาสักคนหรือไม่ซูจิ่งหลงยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนผ่อนลมหายใจออกยาวแล้วหันไปหา หลานจิ่วอวิ๋น เด็กชายที่คอยเฝ้ามองอยู่ไม่ไกล เขาก้มลงพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เผยให้ใครเห็นนัก“หลานจิ่วอวิ๋น… แม่ของเจ้าช่างใจแข็งนัก”

เด็กชายเงยหน้าขึ้น ดวงตาใสซื่อส่องประกายเจิดจ้า เขายื่นมือเล็ก ๆ มากุมมือของซูจิ่งหลงแน่นราวกับกำลังมอบกำลังใจเงียบ ๆ เด็กน้อยยังเล็กเกินกว่าจะเข้าใจความรักอันซับซ้อนของผู้ใหญ่ แต่สำหรับซูจิ่งหลงแล้ว เพียงสัมผัสเล็ก ๆ นี้กลับอบอุ่นและมีค่ายิ่งกว่าคำพูดใด ๆ มันทำให้เขามีแรงจะยืนหยัดต่อไป แม้หนทางสู่หัวใจของนางจะเต็มไปด้วยความยากลำบากเพียงใดก็ตาม

ซูจิ่งหลง คือชายผู้มีรูปลักษณ์สง่างาม โดดเด่นจนผู้คนหันมองตามไปทั้งเมือง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นที่หมายตาของสตรีทั้งหลาย ตรงกันข้ามไม่ว่าจะอยู่ที่ใด สายตาของผู้หญิงมากมายต่างก็แอบทอดมองเขาด้วยความปรารถนา ทว่าเขา… กลับไม่เคยเหลียวแลผู้ใดเลยสักครั้งจนกระทั่งวันที่เขาได้พบกับ หลานเยว่ เป็นครั้งแรก...

มันไม่ใช่การพบพานที่งดงามดั่งนิทาน หากแต่เป็นการเผชิญหน้าที่เฉียดตายเพราะนางคิดจะดับลมหายใจของเขาทันทีที่สบตา ดาบในมือนางเย็นเยียบ แววตาที่มองเขาไร้ความปรานี และนั่นเองที่ทำให้หัวใจของเขาเหมือนถูกแย่งชิงไปในพริบตา นางคือสตรีแรกที่กล้าชี้ดาบใส่หน้าเขา นางคือสตรีแรกที่มองเขาด้วยสายตาเย็นชาราวกับเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไร้ค่าในวินาทีนั้น เขารู้แล้วว่าตนไม่มีทางหวนกลับไปเป็นคนเดิมได้อีก หัวใจที่เคยเย็นชาของเขาถูกจุดไฟขึ้นมาโดยสตรีตรงหน้า และไฟนั้นยิ่งลุกโชนไม่ยอมมอด

“ต่อให้ข้าต้องใช้เวลาทั้งชีวิต… ข้าก็จะพิชิตหัวใจของเจ้าให้ได้”ถ้อยคำสาบานนั้นไม่เคยเลือนหายจากความทรงจำ ราวกับเสียงก้องสะท้อนอยู่ทุกห้วงยาม ไม่ว่าจะหลับหรือฝัน เขายังคงได้ยินมันชัดเจนประหนึ่งเป็นพันธะสัญญาที่สลักลงบนวิญญาณของตนเอง

ยามนี้… อาจเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขที่สุดทั้งสำหรับเขาและนางสายลมอ่อนของรุ่งอรุณพัดพาเอากลิ่นหอมบางเบาของดอกเหมยมาสัมผัสจิตใจ กลีบสีขาวบริสุทธิ์โปรยปรายร่วงหล่นลงบนพื้นดุจหิมะ เสียงหัวเราะใสบริสุทธิ์ของเด็กน้อยดังแว่วอยู่ภายในเรือน ช่างอ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความอบอุ่นเสียจนโลกอันโหดร้ายภายนอกคล้ายจะถูกขับไล่ให้เลือนหายไปชั่วขณะ

ภายใต้แสงอาทิตย์แรกของวัน ทุกสิ่งทุกอย่างถูกแต่งแต้มด้วยความงดงามอันน่าหลงใหล ประหนึ่งภาพฝันที่จับต้องไม่ได้ ภาพฝันที่ใคร ๆ ก็อยากเก็บรักษาไว้ตลอดกาล หากแต่เขากลับรู้ดี ความฝันเช่นนี้ไม่มีทางยืนยาว

เพราะผู้ที่เติบโตมาจากเงามืดและโลดแล่นอยู่ในโลกมืด ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ลิ้มรสความสุขยืนนาน ต่อให้เขาไม่คิดแสวงหาความวุ่นวาย ความวุ่นวายนั้นก็จะตามล่าหาเขาและผู้คนรอบกายอย่างไม่ปรานี ทุกก้าวย่างของความเงียบสงบจึงมิได้เป็นสัญญาณแห่งความราบรื่น หากแต่คือเงื่อนไขแห่งพายุที่ค่อย ๆ ก่อตัวใกล้เข้ามาทีละน้อย

เสียงหัวเราะของเด็กน้อย… แววตาอ่อนโยนของนาง… ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่บอบบางและเปราะบางจนเขาแทบไม่กล้าเอื้อมมือไปสัมผัส เกรงเพียงว่าตัวตนของเขาจะเป็นผู้ทำลายมันเสียเองด้วยเหตุนี้ เขาจึงตั้งปณิธานแน่วแน่ในใจ ว่าไม่ว่ามรสุมจะซัดสาดมาอีกกี่ครั้ง ไม่ว่าความมืดจะจ้องเขม็งด้วยเพียงใด ต่อให้ต้องเดินลุยท่ามกลางเลือดนองและศพมากเพียงไหน เขาก็จะยืนหยัดเพื่อปกป้องช่วงเวลาแห่งความสงบสุขนี้ให้ถึงที่สุด

เขาจะรักษาภาพฝันแห่งเช้าวันนี้เอาไว้ แม้สุดท้ายมันอาจจะสลายไปดุจหมอกบางเมื่อเผชิญแสงอาทิตย์ก็ตามเพราะสำหรับเขาแล้วเพียงแค่ได้เห็นนางและลูกมีความสุข แม้มันจะเป็นเพียงความฝันสั้น ๆ ที่โลกรอบด้านไม่ยินยอม เขาก็พร้อมจะต่อสู้กับทั้งสวรรค์และโลกา… เพียงเพื่อยืดเวลาฝันนั้นให้ยาวออกไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status