บทที่ 4 ไม่ใช่ฝันสินะ
จิ๊บ ๆ เสียงนกร้องขับขานกันไปมาแสงแดดเริ่มสาดส่องเล็ดลอดแผ่นไม้เข้ามากระทบใบหน้าของร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงทำให้เธอแสบตาสะลึมสะลือลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมองเห็นเพดานห้องเป็นแผ่นไม้เธอสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอไม่ใช่หลินชิงเสียงแต่เป็นหลี่จื่อเหยาที่อยู่ในยุคทศวรรษ1980
“ฉันคิดว่าเป็นความฝันเสียอีก แต่เป็นความจริงสินะดีจริง ๆ ที่ฉันฝันถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดของหลี่จื่อเหยา เธอไม่ต้องห่วงนะต่อจากนี้ฉันจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเอง เอ๊ะ!แต่จริงสิทำไมในฝันไม่เผยให้ฉันเห็นเรื่องที่เธอตกลงไปอยู่ในน้ำกันนะ อย่างนั้นตอนนี้ฉันก็ไม่สามารถเชื่อใจใครได้นะสิ และคนที่น่าสงสัยที่สุดคือหลี่ยั่วถงสามีของเธอ ไม่แน่เขาอาจจะโกรธแค้นที่เธอไม่เคยรักเขาเอาแต่คอยทำร้ายจิตใจไม่ว่าจะเป็นเขาหรือลูกชาย จนเขาหมดความอดทนเลยลงมือจัดการฆ่าหลี่จื่อเหยา นี่ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ว่าสายตาที่เขาจ้องมองตอนที่ฉันฟื้นมาทำไมดวงตาเขาดีใจด้วยล่ะ หรือว่าเขาแค่แสดงเท่านั้นนะ ต่อจากนี้ไปฉันจะเชื่อใจใครไม่ได้ถ้ายังไม่รู้ว่าร่างของจื่อเหยาตกลงไปในแม่น้ำได้ยังไง” หลินชิงเสียงพูดคนเดียวสักพักก่อนจะลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ หากทุกอย่างยังไม่กระจ่างต่อจากนี้เธอจะต้องสืบหาให้ได้
ภายในบ้านตระกูลหลี่
ตอนนี้ทุกคนลงมากินข้าวเช้าอย่างทุกวัน ซืออี้อยากรู้เรื่องของน้องสะใภ้ว่าตอนนี้เธอมีอาการอย่างไรจึงเอ่ยถามน้องชาย
“ยั่วถงน้องสะใภ้เป็นอย่างไรบ้าง เธอคงไม่ได้หมดสติไปอีกใช่มั้ย”
“เมื่อคืนหลังจากที่พาเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดูเหมือนว่าเธอจะปกติทุกอย่างพี่ซืออี้ไม่ต้องเป็นห่วงวันนี้ผมจะพาเธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลให้ละเอียดอีกครั้ง”
“ดีเลย จะได้อุ่นใจว่าเธอไม่เป็นอะไรแม่เห็นเธอลืมตาขึ้นมาในตอนแรกคิดว่ามีวิญญาณอื่นเข้ามาสิงร่างเสียอีก ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือแววตาของเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน”
“ครับคุณแม่อย่างนั้นวันนี้ผมฝากเจ้อหยูร์ให้อยู่กับคุณแม่ก่อนนะครับ ผมจะขึ้นไปเรียกเธอดูไม่รู้ว่าตอนนี้เธอตื่นหรือยัง?”
“ฮึ.. เดิมทีแล้วน้องสะใภ้เคยตื่นแต่เช้าตรู่มานั่งกินอาหารกับเราหรือไงกัน วัน ๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่แต่งตัวสวยเดินไปมาจะสนใจทำไมที่จริงน่าจะปล่อยให้ตายไปซะได้ก็ดี” ซืออี้ได้ยินเสียงของคนภรรยารีบหันมองข่มเธอด้วยสายตาให้หยุดพูด แต่ว่าคำพูดของเธอทุกคนได้ยินจนหมด
“แม้ว่าภรรยาของผมจะแต่งตัวสวยอยู่บ้านวัน ๆ ไม่ทำอะไรผมเองเต็มใจที่จะดูแลเธอเช่นนี้ตลอดไปครับ เพราะงานที่โรงงานผมเป็นคนดูแลเกือบทุกอย่างต่างจากพี่สะใภ้กับพี่ซืออี้ที่ไม่ทำอะไร แต่ละเดือนทำเพียงรอเงินจากกงสี ที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดอะไรเพราะเห็นแก่คุณแม่ และต่อจากนี้พี่สะใภ้เองก็ควรหยุดต่อว่าภรรยาของผมเสียที”
“พูดเรื่องอะไรกันอยู่เหรอน่าสนุกจริง ๆ ” หลินชิงเสียงที่อยู่ในร่างของจื่อเหยาเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน ในเมื่อตอนนี้เธออยู่ในร่างของจื่อเหยาแสนสวยเธอเลือกที่จะแต่งตัวเหมือนจื่อเหยาคนเดิมเพื่อไม่ให้คนอื่นจับได้ว่าเธอไม่ใช่ตัวจริง และการพูดการจาเธอพยายามจะพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดอย่างที่จื่อเหยาเคยทำ
“นี่คุณตื่นแล้วเหรอมีอาการอะไรหรือเปล่า” หลี่ยั่วถงรีบลุกขึ้นเดินไปประคองตัวของจื่อเหยามาที่เก้าอี้
“ฉันสบายดีไม่ต้องประคองหรอกฉันเดินเองได้” ตอนนี้เธอไม่เชื่อใจใครทั้งนั้นเพราะไม่รู้ว่าการที่เธอร่างของจือเหยาไปอยู่ที่แม่น้ำได้ยังไงเธอต้องระแวงทุกคนเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
“ฮึ ฮึ วันนี้อากาศคงเปลี่ยนผันน้องสะใภ้ของฉันลงมากินข้าวพร้อมทุกคน”
“ทำไมล่ะค่ะ คนเรามักจะเปลี่ยนกันได้และต่อจากนี้ฉันจะลงมากินข้าวกับทุกคนในทุกวัน”
“คุณแม่ครับ ผมเป็นห่วงคุณแม่มากเลยผมอยากจะไปหาคุณแม่ที่ห้องแต่กลัวจะทำให้คุณแม่รำคาญใจผมดีใจนะครับที่เห็นคุณแม่แข็งแรงเหมือนเดิม” จื่อเหยาแทบอยากถลาตัวไปกอดเด็กชายด้วยความสงสารทั้งที่น่ารักน่าเอ็นดูอย่างนี้ทำไมแม่ของเขาถึงได้ใจร้ายไม่ใส่ใจได้ลง
“อื้ม..ตอนนี้ฉันหายดีแล้ว กินข้าวเสร็จแล้วตามฉันไปที่สวนหลังบ้านด้วย” เจ้อหยูร์แปลกใจที่คุณแม่เรียกเขาไปพบแต่ในใจก็ดีใจไม่น้อยนี่เป็นครั้งแรกที่แม่อยากคุยกับเขา
“เอาล่ะ เอาล่ะในเมื่อมาแล้วก็นั่งลงกินอาหารเช้าเถอะเดี๋ยวหลี่ยั่วถงจะไปทำงานสาย ไหนจะพาเธอไปหาหมอเพื่อเช็คอาการอีกรอบให้ละเอียด” แม่สามีรีบบอกให้จื่อเหยาไปนั่งเก้าอี้ตัวที่วางอยู่ บรรยากาศบนโต๊ะอาการเริ่มอึมครึมเพราะการปรากฏตัวของจื่อเหยาที่แต่ก่อนไม่เคยลงมากินข้าวกับทุกคน แต่ทว่ายั่วถงกลับดีใจไม่น้อย
“ฉันอิ่มแล้ว ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากอาหารคงเป็นเพราะแพ้ท้องขอตัวนะคะ”
“ช่วงท้องแรก ๆ ก็เป็นเช่นนี้แหละอีกไม่นานก็จะดีขึ้นวันนี้ฉันจะออกไปซื้อยาบำรุุงมาให้จะได้กินอาหารได้มากกว่าเดิม ยิ่งตอนท้องยิ่งต้องกินข้าวให้มากกว่าเดิมลูกจะได้แข็งแรง” แม่สามีพูดกับสะใภ้ใหญ่เธอยิ้มบางก่อน ๆ ก่อนจะเดินออกจากโต๊ะอาหารไป
“คุณแม่ครับ ผมมีเรื่องจะหารือหลังกินอาหารเสร็จขอพบคุณแม่นะครับ”
“เรื่องอะไรพูดตรงนี้ไม่ได้หรือไง ทุกคนล้วนเป็นคนในบ้านจะมีความลับทำไม" ซืออี้เหลียวมองน้องชายกับน้องสะใภ้อย่างไม่สบายใจและอึดอัดที่จะพูดมันออกไป แต่ก็จำใจพูดเรื่องที่เขาต้องการ
“ผมจะทำธุรกิจกับเพื่อน อยากจะขอเงินไปลงทุนนะครับ”
“ลงทุนทำอะไร ตอนนี้ที่บ้านของเราก็มีธุรกิจอยู่แล้วแกยังไม่เอาใจใส่คิดว่าเปิดทำธุรกิจกับเพื่อนจะไปรอดหรือไงกัน ถ้าอยากได้เงินลงทุนแกจะต้องเข้าโรงงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทำให้ฉันเห็นว่าแกใส่ใจงานแค่ไหนให้ฉันสบายใจถ้าให้เงินไปแล้วจะไม่สูญเปล่า ยั่วถงแม่ขอฝากพี่ชายเราด้วยแล้วกันและคอยมารายงานว่าพี่แกสนใจงานแต่ไหน ถ้าเกียจคร้านเช่นเดิมไม่มีทางที่ฉันจะเสียเงินสักหยวนให้ไปสิ้นเปล่า” จื่อเหยานั่งกินข้าวพลางเหลือบตามองทั้งสามคนที่สนทนากันอยู่ ใบหน้าของซืออี้ตอนนี้บ่งบอกว่าเขาไม่พอใจขนาดไหนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ก่อนที่เขาจะโวยวายลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกไป
“เฮอะ!! ผมเป็นพี่ชายของหลี่ยั่วถงเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหลี่แต่ดูคุณแม่ทำสิ ทำเหมือนว่าผมเป็นลูกชายที่ไม่เอาไหนพึ่งพาไม่ได้จนทุกวันนี้ทุกคนคิดว่าผมเป็นน้องชายของหลี่ยั่วถงไปแล้ว”
“แล้วนายทำตัวสมเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหลี่หรือไงกัน ไปสำนึกตัวก่อนที่ฉันจะลดเงินกงสีของแกกับเมียแก” แต่ที่น่าแปลกที่แม่สามีไม่ได้สนใจและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชากับลูกชายคนโต ยิ่งทำให้จื่อเหยาสงสัยความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวนี้เหลือเกิน
บทที่ 4 ไม่ใช่ฝันสินะจิ๊บ ๆ เสียงนกร้องขับขานกันไปมาแสงแดดเริ่มสาดส่องเล็ดลอดแผ่นไม้เข้ามากระทบใบหน้าของร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงทำให้เธอแสบตาสะลึมสะลือลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมองเห็นเพดานห้องเป็นแผ่นไม้เธอสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอไม่ใช่หลินชิงเสียงแต่เป็นหลี่จื่อเหยาที่อยู่ในยุคทศวรรษ1980“ฉันคิดว่าเป็นความฝันเสียอีก แต่เป็นความจริงสินะดีจริง ๆ ที่ฉันฝันถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดของหลี่จื่อเหยา เธอไม่ต้องห่วงนะต่อจากนี้ฉันจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเอง เอ๊ะ!แต่จริงสิทำไมในฝันไม่เผยให้ฉันเห็นเรื่องที่เธอตกลงไปอยู่ในน้ำกันนะ อย่างนั้นตอนนี้ฉันก็ไม่สามารถเชื่อใจใครได้นะสิ และคนที่น่าสงสัยที่สุดคือหลี่ยั่วถงสามีของเธอ ไม่แน่เขาอาจจะโกรธแค้นที่เธอไม่เคยรักเขาเอาแต่คอยทำร้ายจิตใจไม่ว่าจะเป็นเขาหรือลูกชาย จนเขาหมดความอดทนเลยลงมือจัดการฆ่าหลี่จื่อเหยา นี่ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ว่าสายตาที่เขาจ้องมองตอนที่ฉันฟื้นมาทำไมดวงตาเขาดีใจด้วยล่ะ หรือว่าเขาแค่แสดงเท่านั้นนะ ต่อจากนี้ไปฉันจะเชื่อใจใครไม่ได้ถ้ายังไม่รู้ว่าร่างของจื่อเหยาตกลงไปในแม่น้ำได้ยังไง” หลินชิงเสียงพูดคนเดียวสักพัก
บทที่ 3 เรื่องน่าสงสัยหลังจากที่ขึ้นมาบนห้องนอนยั่วถงทำเหมือนเคยทำ เขาส่งเธอที่หน้าห้องเท่านั้นให้เธอเช้าไปที่ห้องเพียงลำพังเพราะตั้งแต่แต่งงานกันมาทั้งสองไม่เคยนอนด้วยกันเลยนอกจากคืนเข้าหอคืนแรก"ฉันดีใจนะที่เธอกลับมา ฉันคิดว่าจะเสียเธอไปแล้วเสียอีก" เขาบ่นพึมพำพร้อมคิดเรื่องราวที่ผ่านมาส่วนหลินชิงเสียงเข้ามาในห้องเธอกวาดสายตามองห้องนี้ตกแต่งอย่างสวยงามของใช้ทุกอย่างล้วนเป็นของยุคสมัยก่อนเธอเดินผ่านกระจกเห็นใบหน้าตัวเองต้องชะงัก เพราะใบหน้านี่งดงามจริง ๆ และเป็นคนเดียวกับที่เธอทำสัญญาตกลงเรื่องข้อแลกเปลี่ยนที่ให้เธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง"ไม่คิดเลยว่าฉันจะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แถมยังมีชีวิตอยู่ในยุคทศวรรษ1980ด้วย " หลินชิงเสียงจับลูบใบหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะครุ่นคิดเรื่องที่เจ้าของร่างทำก่อนเสียชีวิต ความสงสัยข้องใจมากมายเกิดขึ้นในใจของเธอ สิ่งแรกที่เธอต้องทำคือการที่เธอต้องรู้เหตุผลข้อนี้ให้ได้ แล้วทำไมเจ้าของร่างถึงได้อยากให้เธอกลับมาแก้ไขและทำให้ทุกคนมีความสุขหรือเพราะว่าเธอสำนึกผิดก่อนจะตายอย่างนั้นเหรอ"เฮ้อ!! ปวดหัวจังทำไมไม่บอกถึงเหตุผลที่เธอได้ทำลงไปด้วยล่ะแล้วอย่างนี้ฉันจ
บทที่ 2 ใจร้ายจริง ๆหลินชิงเสียงได้ยินเสียงคนพูดคุยกันแถมยังได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กชายที่ดังอยู่ใกล้ ๆ หู เธอพยายามลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นทว่าความทรงจำของเธอก็แวบเข้ามาเมื่อครู่เธอได้แลกเปลี่ยนตกลงกับผู้หญิงที่งดงามคนหนึ่งและตอนนี้เธอเองก็ตายไปแล้ว ทำไมถึงได้รู้สึกที่ถึงลมหายใจเสียงหัวใจที่เต้นตึกตักเช่นนี้เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบแสงสว่างและที่น่าตกใจคือทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ เหมือนเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่"ที่นี่ที่ไหน แล้วทำไมเสื้อผ้าของฉันถึงเปียกโชกแบบนี้ โอ๊ยปวดหัววว" หลี่ยั่วถงเห็นภรรยาของตนฟื้นคืนจากความตายเขาไม่ได้หวาดกลัวเธอแต่อย่างไรแต่รีบเข้ามาหาเธอด้วยความดีใจ"จื่อเหยาเธอฟื้นกลับมาแล้ว สวรรค์เมตตาจริง ๆ ต่อจากนี้ไม่ว่าเธอจะรังเกียจต่อว่าฉันหรือจะเย็นชาต่อกันเพียงใดฉันจะไม่นึกโกรธเธอเลย ขอแค่เธอมีลมหายใจอยู่ต่อเพียงเท่านี้ฉันก็ดีใจแล้ว" หลินชิงเสียงกุมขมับตัวเองเงยหน้าจ้องมองชายที่ยืนอยู่ใกล้ ดวงตาของเขาเริ่มคลอด้วยหยาดน้ำตารอยยิ้มที่เผยให้เห็นว่าเขาดีใจแค่ไหนที่ร่างนี้ฟื้นขึ้นมา แต่ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าของเขาความทรงจำมากมายได้พรั่งพรูเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง' คุณแม่
แนะนำเรื่องหลินชิงเสียงวิญญาณที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่โลกแห่งความตายจู่ ๆ ก็ถูกวิญญาณอีกดวงดึงวิญญาณเธอไปเพื่อทำข้อแลกเปลี่ยน มีหรือที่เธอจะไม่สนใจเธอยังใช้ชีวิตที่ผ่านมาไม่คุ้มเลยด้วยซ้ำเธอไม่เคยมีแม้กระทั่งคนรักและความรักดี ๆ เมื่อมีข้อเสนอที่ดีให้เธอไปเกิดใหม่และใช้ชีวิตอยู่ต่อ ทำให้เธอเลือกไม่ยากเลยสักนิดแต่ใครจะไปคิดว่าสิ่งที่เธอแลกเปลี่ยนนั้นคือการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตของหลี่จื่อเหยา เธอเป็นนางร้ายถึงชนิดที่เกลียดและเย็นชาได้กระทั่งลูกของตัวเอง เธอไม่เคยสนใจคนรอบข้างทั้งเกลียดหลี่ยั่วถงผู้เป็นสามี แล้วอย่างนี้หลินชิงเสียงจะทำอย่างไรต่อไป และเรื่องที่น่าชวนสงสัยมีเงื่อนงำคือการที่ร่างของหลี่จื่อเหยาไปอยู่ในแม่น้ำได้ยังไง หากเธอต้องการฆ่าตัวตายแล้วอยากให้หลินชิงเสียงกลับมาแก้ไขความผิดที่เธอทำไว้ทำไมกันนะ หรือจะเป็นฝีมือใครที่ต้องการกำจัดเธอ คนที่น่าสงสัยหลัก ๆ คือสามีของเธออย่างนี้การอยู่บ้านหลังนี้จะปลอดภัยกับเธออีกต่อไปหรือ? ไหนจะลูกชายของหลี่จื่อเหยาที่เธอเคยทำร้ายด้วยคำพูดจนเกิดบาดแผลในใจหลินชิงเสียงต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้บทที่ 1 ข้อแลกเปลี่ยนเมฆหมอกหนาครึ้มปกคลุมไป