บทที่ 9 มาทางไหนกลับไปทางนั้น
ตะวันบ่ายคล้อยคนมาซื้อของเริ่มซาลงรวมทั้งคนที่มาร่วมยินดีกับฟู่เยี่ยนเริ่มกลับกันไปมาก ผิงผิงง่วงนอนจึงให้เจียวเจียนพากลับบ้านไปนอนพักกลางวัน จางจื่อจือออกมาร่วมยินดีกับฟู่เยี่ยนได้เพียงครู่ก็ต้องกลับไปที่อำเภอเพราะมีงานที่ยังทำค้างอยู่
“ป้าดีใจกับหนูจริง ๆ เลยไม่คิดเลยว่าหนูจะทำกิจการได้ร่ำรวยขนาดนี้” ป้าซือเสียนนั่งมองร้านค้าของฟู่เยี่ยนอย่างยินดีปรีดาใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“หากไม่มีป้าซือเสียนกับเจียวเจียนก็คงไม่ได้ดีขนาดนี้หรอกค่ะต้องขอบคุณป้าที่คอยช่วยเหลือฉันมาตลอดแถมยังเอ็นดูผิงผิงเหมือนหลานตัวเองอีกด้วย เย็นนี้เราไปกินของอร่อย ๆ กันดีมั้ยคะ”
“แค่วันนี้ของกินที่หนูเลี้ยงแขกก็มากพอแล้ว เก็บแรงเอาไว้เถอะนะกว่าจะหมดวันคงต้องใช้พลังงานอีกมาก” ซือเสียนเริ่มเห็นความเหนื่อยล้าปรากฏขึ้นใบหน้าของฟู่เยี่ยน เธอแทบจะทำเองทุกอย่างในร้าน หยัดยืนด้วยขาของตัวเองแสดงให้เห็นความเป็นผู้นำช่างน่านับถือจริง ๆ ซือเสียนย้อนมองไปอดีตของตนเองเธอต้องมาเสียสามีตอนที่ลูกเข้ากรมทหารโชคดีที่ลูกเติบโตหมดแล้วทำให้เธอไม่ต้องดิ้นรนมาก แต่กับฟู่เยี่ยนไม่ใช่อย่างนั้นเธอเป็นทั้งพ่อและแม่ที่สมบูรณ์ของลูกจริง ๆ
“อย่างนั้นเอาไว้วันไหนว่าง ๆ ฉันจะพาทุกคนไปเที่ยวแล้วกันนะคะป้าซือเสียนอยากกินอะไรนำกลับบ้านได้นะคะฉันต้องขอตัวเขาไปดูของหลังร้านก่อน”
“ได้จ้ะ” ซือเสียนจ้องมองตามแผ่นหลังด้วยสายตาอ่อนโยนแต่ก็ไม่เข้าใจและสงสัยในตัวของฟู่เยี่ยน ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ไม่เคยพูดถึงเรื่องครอบครัวสักครั้ง ไม่รู้ว่าเธอยังมีครอบครัวเหลืออยู่มั้ย?
“ช่างเป็นเด็กที่เก่งจริง ๆ สามารถทำงานหาเงินเลี้ยงลูกของตัวเองได้แม้ฉันไม่รู้เรื่องครอบครัวของเธอ ฉันจะเป็นยายของผิงผิงมอบความรักความเอ็นดูเธอไม่ให้ขาดเลย” เธอพูดออกมาเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปช่วยฟู่เยี่ยนเก็บของ
ฟู่เยี่ยนเดินดูของที่ชั้นวางของจดใส่กระดาษเช็คของจนเธอมั่นใจว่าต้องเพิ่มอะไรและเดินเข้าไปที่หลังร้านเปิดประตูของทำงานของเธอที่มีแต่เธอเท่านั้นที่เข้ามาข้างในได้ก่อนจะเรียกฉิงเชา
“ฉิงเชาเธอได้ยินมั้ย ?”
ติ่ง…//
“สวัสดีฟู่เยี่ยน วันนี้เธอเรียกฉันทั้งที่ฟ้ายังสว่างต้องการของอะไรหรือ”
“ฉันอยากได้ของใช้เพิ่มและอยากถามตอนนี้ฉันสามารถนำของออกมาได้เยอะแค่ไหน”
“รอสักครู่ ฉันจะเช็คความดีที่เธอนำมาแลกในครั้งนี้เสียก่อน” ฉิงเชาเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะดังขึ้นมาอีกครั้ง "ตอนนี้ฉันได้ตรวจสอบแล้วความดีที่เหลืออยู่สามารถนำของออกมาได้เพียงแค่สิบอย่าง วันนี้ฉันมีสิ่งที่จะเพิ่มความดีของเธอมาให้หากเธอสามารถทำได้และช่วยเหลือคะแนนความดีของเธอจะเพิ่มขึ้นสองเท่า" ทันทีที่ฟู่เยี่ยนได้ยินเธอคลี่ยิ้มเต็มดวงหน้าไม่ว่าให้เธอช่วยเหลืออะไรเธอสามารถทำได้ทั้งนั้น
“เรื่องที่เธอว่าคืออะไรแต่ไม่ว่าอะไรที่เธอให้ทำแล้วมีคะแนนความดีเพิ่มฉันสามารถทำได้ทั้งนั้น”
“วันนี้หลังจากกลับบ้านจะมีชายคนหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลือให้เธอช่วยเหลือเขาตามที่เขาต้องการแล้วเธอจะได้คะแนนเพิ่ม”
"แค่ช่วยคนเองฉันทำได้แต่ตอนนี้ฉันขอเข้ามิติไปเอาของออกมาก่อนนะ พอดีวันนี้ฉันอยากกลับบ้านไปฉลองกับลูกสาวตัวน้อยเร็ว ๆ " เพียงฟู่เยี่ยนพูดออกมาแบบนั้นมิติได้เปิดขึ้นให้เธอเข้าไปเลือกของตามที่เธอต้องการทันที
ดวงอาทิตย์ลับลาขอบฟ้าเปลี่ยนผันเป็นดวงจันทร์ขึ้นมาแทนที่ฟู่เยี่ยนขอบคุณคนงานทุกคนก่อนจะให้ทุกคนเลิกงานกลับบ้านไปพักผ่อนเธอไม่ลืมที่จะให้ทริปเพราะวันนี้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่จริง ๆ เมื่อคนงานกลับหมดแล้วฟู่เยี่ยนเดินเข้าไปนำของในห้องเธอที่เอาออกมาจากมิติมาวางไว้ข้างนอกเพื่อให้คนงานได้เติมเข้าชั้นในวันพรุ่งนี้ เมื่อเธอทำอะไรเสร็จสิ้นสำรวจทุกที่ของร้าน และเดินออกมาปิดประตูอย่างแน่นหนาพลางถอนหายใจ
“เฮ้อ!! ไม่คิดเลยว่าฉันจะมาไกลได้ขนาดนี้แค่คิดไว้เปิดร้านเล็ก ๆ แล้วเลี้ยงลูกแต่กลับเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางจนได้ คิดถึงผิงผิงแล้วสิรีบกลับบ้านไปหาผิงผิงดีกว่า” ฟู่เยี่ยนเหนื่อยแต่เธอก็ภูมิใจที่สามารถทำให้กิจการของเธอเติบโตขึ้น ตอนนี้เธอมีแทบทุกอย่างทั้งลูกความสุขและเงิน เธอจึงคิดว่าอีกไม่นานจะพาผิงผิงไปหาพ่อของฟู่เยี่ยนไม่รู้เลยว่าตอนนี้ท่านจะเป็นอย่างไร เมื่อรู้เรื่องที่ฟู่เยี่ยนหย่ากับเสี่ยวฮั่ว คนเป็นพ่อคงทุกข์ใจไม่น้อย
ฟู่เยี่ยนขับรถยนต์กลับบ้านเธอยังอาศัยอยู่บ้านหลังที่เธอมาอยู่ในครั้งแรกเพราะผิงผิงผูกพันกับบ้านหลังนี้หากจะให้เธอย้ายไปอยู่บ้านหลังใหญ่กว่านี้หรืออพาร์ทเม้นท์หรู ๆ ยังได้แต่เมื่อเห็นเด็กหญิงมีความสุขเธอจึงเลือกที่จะอยู่บ้านหลังนี้ต่อ เพราะอย่างไรเจ้าของไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาง่าย ๆ เมื่อเดือนก่อนเธอพึ่งไปทำสัญญาเช่ารายปีกับญาติเจ้าของบ้านมาทำให้เธอสบายใจในส่วนนี้
แต่เมื่อเธอมาถึงหน้าบ้านเห็นรถยนต์ไม่คุ้นตามาจอดเทียบอยู่คิ้วของเธอเริ่มขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
"นั่นรถใครกันนะ ทำไมถึงมาจอดขวางทางเข้าบ้านฉันแบบนี้" ฟู่เยี่ยนพูดพึมพำก่อนจะขับรถจอดริมถนนทางเข้าบ้านและรีบเดินเข้าไปดูว่าใครกันที่มาหาจอดเอาไว้อย่างนี้และในใจเกิดเป็นห่วงเด็กทั้งสองคนที่อยู่ในบ้านจนหัวใจเต้นแรงระรัวสองเท้ารีบเดินเข้าไปอย่างฉับไว หน้าบ้านของเธอมีโต๊ะหน้าบ้านเมื่อเดินเข้ามาเห็นชายสองคนเพียงแค่เห็นแผ่นหลังที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำให้เธอเริ่มหวั่นใจ หรือว่าเธอจะไปขัดขาใครหรือกิจการของคนแถวนี้ถึงได้ให้ชายฉกรรจ์ถึงสองคนมานั่งคอยเธออยู่หน้าบ้านอย่างนี้ ยิ่งยุคนี้เป็นยุคที่มีมาเฟียมากมายอีกด้วย
“คุณทั้งสองคนมาทำอะไรที่หน้าบ้านของฉันคะ หากจะมาก่อความวุ่นวายหรือมารังแกกัน ฉันจะแจ้งความทันทีช่วยออกไปจากหน้าบ้านที่มีแต่ผู้หญิงด้วยเถอะค่ะ” เสียงเล็กแหลมของเธอเปล่งออกไปสุดเสียงเพื่อให้ทั้งสองได้รับรู้ว่าตอนนี้เธอที่เป็นเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับ แต่เมื่อชายทั้งสองที่นั่งอยู่หันกลับมามองเธอ สองเท้าของฟู่เยี่ยนชะงักหยุดอยู่กับที่ดวงตาเบิกโพลงโตลมหายใจเริ่มติดขัดใจเต้นแรงมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พอเห็นหน้าก็ขับไล่เลยหรือไงกันใจร้ายจริง ๆ ” เสี่ยวฮั่วยิ้มอย่างมีเลศนัยลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ฟู่เยี่ยนที่ยังยืนอึ้งอยู่กับที่ไม่ว่าผ่านมากี่ปีที่ไม่ได้พบหน้ากัน เธอจดจำใบหน้าของเขาได้เสมอมาเพราะความเกลียดชังที่เธอมีต่อเขาทำให้เธอจำเขาได้ขึ้นใจ
“คุณมาทำอะไรที่นี่จำไม่ได้หรือไงว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันพูดกับคุณคืออะไร อย่ามาทำเป็นรู้จักกันอีกฉันไม่อยากรู้จักคุณ มาจากที่ไหนก็กลับไปซ่ะ เวลาของฉันมีค่าไม่อยากจะมาเสียเวลากับคนอย่างคุณ" ฟู่เยี่ยนตั้งสติได้เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะตอบเขาออกมาเสียงแข็งพร้อมขับไล่ให้เขากลับไปเธอไม่อยากให้เขารู้ถึงการมีอยู่ของผิงผิง
บทที่ 29 ความรักที่แท้จริงหนึ่งเดือนผ่านมาตอนนี้ฟู่เยี่ยนยังอยู่กับจางจื่อจือแต่ไม่ได้อยู่ในฐานะเพื่อนเพราะตอนนี้ทั้งสองได้หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ทั้งสองตั้งใจจะเดินทางไปที่มณฑลเหิงฉีไปหาพ่อของฟู่เยี่ยนเพื่อทำทุกอย่างให้เป็นทางการและขนบธรรมเนียม ฟู่เยี่ยนเองก็อยากกลับไปขอโทษที่เธอไม่ได้บอกลาและติดต่อไปเลยสักครั้งยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจที่ละเลยความรู้สึกของคนแก่คนหนึ่งที่ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหนติ่ง !! เสียงระบบดังขึ้นในระหว่างที่ฟู่เยี่ยนกำลังแต่งตัวเพื่อออกเดินทาง“สวัสดีฟู่เยี่ยน ดูเหมือนตอนนี้เธอมีความสุขดีสินะ”“ใช่ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก ว่าแต่เธอเถอะเงียบหายไปเลยตั้งแต่มาบอกเรื่องภารกิจ แล้วเรื่องที่ฉันทำภารกิจผ่านไม่ผ่านไม่เห็นจะมาบอกเลยสักครั้งเวลาที่ฉันอยากได้ของเพียงแค่คิดมิติก็เปิดออกเธอไปไหนมา ”“ฉันมีเรื่องให้ทำนิดหน่อยนะ วันนี้ฉันมาเพื่อแจ้งเรื่องภารกิจเธอทำได้สำเร็จ ฉันดีใจด้วยนะและฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะมาแจ้งเธอ”“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ ? ว่าแต่ภารกิจที่เธอทำให้ ทำให้คนรักมีความสุขนี่คือใครกันหรือใช่ผิงผิงมั้ย” “เรื่องภารกิจที่ฉันให้เธอทำให้คนรักม
บทที่ 28 ฉันเลือกคุณฟู่เยี่ยนขับรถมาถึงบ้านต้องแปลกใจ บ้านที่สว่างรอเธออยู่ทุกวันวันนี้กลับมืดไร้แสงไฟ เธอดับเครื่องยนต์ทุกคนพากันเดินลงจากรถด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน“พี่ฟู่เยี่ยนนายอำเภอจางจื่อจือวันนี้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ใช่มั้ยคะ ”“จริงสิฉันลืมได้ยังไงกันนะ วันนี้เขาคงเหนื่อยมาก ๆ แน่ ๆ เราช่วยกันทำกับข้าวไว้รอเขากันเถอะ ส่วนผิงผิงลูกอิ่มแล้วใช่มั้ยนั่งเล่นของเล่นรอแม่กับพี่เจียวเจียนทำกับข้าวก่อนนะ ทำเสร็จแล้วจะให้พี่เจียวเจียนพาไปอาบน้ำ”“ค่ะคุณแม่ ” ทั้งสามเดินเข้ามาในบ้านพร้อมเปิดไฟแต่เมื่อเดินไปที่ห้องครัวกลับพบว่าตอนนี้บนโต๊ะกับข้าวมีอาหารเต็มไปหมด“เอ๊ะ ! ทำไมกับข้าวถึงมีเต็มโต๊ะแบบนี้คะหรือว่านายอำเภอกลับมาแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงไม่เปิดไฟกัน” เจียวเจียนพูดขึ้นด้วยความสงสัยฟู่เยี่ยนพลางครุ่นคิดหรือว่าเขาเหนื่อยมากจนปิดไฟนอน แต่ทว่าเขาไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกกว่ามีอะไรแปลก ๆ ไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงบอกให้เจียวเจียนพาผิงผิงไปอาบน้ำ“เจียวเจียนเธอพาผิงผิงไปอาบน้ำและให้ผิงผิงเล่นอยู่ในห้องเธอค่อยมากินข้าวนะ ฉันจะไปดูจางจื่อจือก่อนฉันคิดว่าเขาน่าจะไม่สบาย” เธอรู้
บทที่ 27 จากกันด้วยดีแต่ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าและท่าทางของฟู่เยี่ยนต้องทำให้เขาหุบยิ้มทันที ครั้นนั้นฟู่เยี่ยนไม่ได้จะหยิบจับแหวนในกล่องเธอดันกล่องกลับมาหาเขาใบหน้าของเธอแสดงความดุดันและจริงจังอย่างที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งที่เธอขอหย่า“เก็บแหวนของคุณไว้เถอะค่ะ แหวนวงนี้ฉันขายทิ้งไปแล้วเช่นเดียวกับความรู้สึกที่ฉันตัดสินใจขายมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดี ๆ ความรักความผูกพันมันจบลงตั้วแต่วันนั้นแล้ว เราทั้งสองไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก แต่เราสามารถทำหน้าที่พ่อและแม่ให้แก่ผิงผิงได้ ฉันเปิดใจยอมให้อภัยในสิ่งที่ผ่านมาแต่ทว่าตอนนี้หัวใจของฉันมีคนอื่นเข้ามาอยู่แทนคุณแล้ว คนที่ทำทุกอย่างโดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอเขาเป็นห่วงห่วงใยคอยเอาใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเขาไม่เคยสนใจรูปร่างภายนอกของฉันและไม่เคยอายที่มีฉันเดินเคียงข้าง สิ่งนั้นที่เขามีคุณไม่เคยมีเราทั้งคู่จากกันด้วยดีเถอะนะคะ ฉันไม่อยากจะเกลียดคุณไปมากกว่านี้ ” เสี่ยวฮั่วพูดไม่ออกร่างกายสั่นเทาใจของเขาเริ่มสั่นคลอนไปหมด“ฉันไม่มีทางเข้าไปแทรกเลยสินะ เอาล่ะฉันเองก็เป็นลูกผู้ชายพอในเมื่อเธอตัดสินใจอย่างนั้นฉันเองไม่สามารถ
บทที่ 26 แต่งงานกับฉันนะเสี่ยวฮั่วดีใจมาก ๆ ที่ฟู่เยี่ยนเธอเริ่มเปิดใจให้เขาเข้าใกล้ผิงผิงและตอนนี้เธอยังยอมบอกว่าเขาคือพ่อของผิงผิงอีกด้วย เขาพาเด็กหญิงตัวน้อยนั่งรถไปหาคุณแม่ของเขาที่บ้านป้าไป๋เซียง คุณแม่ต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ได้เห็นหลายสาวน่ารักคนนี้“ผิงผิงพ่อขอโทษนะ ลูกคงจะโกระจะเกลียดพ่อมากใช่มั้ยที่ไม่ได้ดูแลและเลี้ยงลูกมา” เสี่ยวฮั่วขับรถยนต์พลางหันมามองหน้าของผิงผิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา เด็กหญิงเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกห่างจากอกผู้เป็นแม่เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนจะคอยมีฟู่เยี่ยนคอยอยู่ข้าง ๆ เสมอ“หนูไม่โกรธและก็ไม่เกลียดคุณลุงเลยค่ะ ดีใจเสียอีกที่ได้รู้ว่าพ่อของหนูยังมีชีวิตอยู่ ”“ผิงผิงเป็นเด็กดีจริง ๆ เลิกเรียกคุณลุงได้แล้วนะเรียกคุณพ่อสิ” “ได้ค่ะคุณพ่อ” ผิงผิงยิ้มหวานให้แก่เขา ทั้งสองพากันเดินทางไปถึงบ้านป้าไป๋เซียง แม่ของเสี่ยวฮั่วต่างก็แปลกใจและดีใจที่เห็นหน้าของหลานสาว เธอพาผิงผิงไปกินข้าวพาเที่ยวเล่นและซื้อของเล่นอย่างที่ผิงผิงอย่างได้ จนกระทั่งถึงเวลาไปส่งผิงผิงที่ร้านเพราะตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว ระหว่างทางไปที่ร้านเหมียวเหมียวฉิงถิงได้เอ่ยถามลูกชายเพร
บทที่ 25 ผิงผิงเกลียดคุณแม่“คุณมาทำอะไรที่นี่ผิงผิงมาหาแม่เดี๋ยวนี้” เสียงแหลมตะโกนออกมาดังสนั่นทำให้ทั้งสองหันขวับไปมองทันที ผิงผิงรีบเดินไปหาแม่ของเธออย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะถูกแม่ว่า“ฟู่เยี่ยน... ฉันแค่อยากเจอผิงผิงทำไมเธอถึงใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้” “ใจร้ายเหรอ ? ฮึ..ใช่ฉันมันใจร้ายแต่ใครกันที่ใจร้ายกว่าถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งกับเราสองแม่ลูกฉันจะพาผิงผิงหนีไปให้ไกลที่สุด และรอบนี้คุณจะไม่ได้เห็นเธออีก” “คุณแม่คะคุณลุงรู้สึกผิดและเสียใจที่เคยทำร้ายจิตใจคุณแม่ คุณแม่ยกโทษให้คุณลุงเถอะนะคะ คุณแม่เคยสอนไม่ใช่เหรอคะถ้าเราทำผิดให้ขอโทษการขอโทษคือทางออกที่ดีที่สุด อย่างนั้นแค่คุณลุงขอโทษคุณแม่ก็ควรให้อภัยไม่ใช่หรือคะ”“ผิงผิงเรื่องนี้หนูยังไม่เข้าใจ ชายคนนี้เลวร้ายยิ่งกว่าที่หนูคิดเชื่อแม่อยู่ให้ไกลจากคน ๆ นี้ ”“ทำไมล่ะ ? ทำไมเธอถึงไม่สนใจความรู้สึกของลูกบ้าง เธอจะพรากฉันกับลูกอีกนานแค่ไหน ฉันเองก็มีสิทธิ์ในตัวลูกเหมือนกันนะฉันขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ฉันผิดไปแล้วให้ฉันได้ทำหน้าที่พ่อให้แก่ผิงผิงเถอะนะ ” เสี่ยวฮั่วเดินเข้ามาใกล้พร้อมบอกผิงผิงว่าเขาคือพ่อของเธอ ตอนนี้ผิงผิงงงงวยไปหมดร
บทที่ 24 ฉันคือพ่อของผิงผิงฝั่งด้านเสี่ยวฮั่วเขาไม่ได้ไปหาฟู่เยี่ยนแต่เลือกที่จะไปหาผิงผิงที่โรงเรียนเขาไม่ลืมที่จะซื้อขนมหวานติดไม้ติดมือมาด้วย เขาให้ตู่หนานพาแม่ไปหาฟู่เยี่ยนส่วนเขามาที่นี่คนเดียว ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาวิ่งเล่นของเด็ก ๆ เขาเดินเข้ามาในโรงเรียนต้องถูกยามที่หน้าโรงเรียนเรียกตัวเองไว้ก่อน“เดี๋ยวครับ คุณเป็นผู้ปกครองหรือเป็นใครที่จะเข้าไปในโรงเรียนครับ ”“ฉันเป็นพ่อของผิงผิง อยากเข้าไปหาเธอสักหน่อยเธอเรียนอยู่ที่นี่ใช่มั้ย” ยามจ้องมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเขาก็จำได้ผู้ปกครองที่มารับผิงผิงจะมีแต่ผู้หญิงและยิ่งเรื่องการลักพาตัวเด็กไปแลกค่าไถ่หรือจับตัวไปขอทานช่วงนี้ยิ่งมีเยอะการที่เขาเป็นยามของที่นี่จึงต้องเข้มงวด“ผู้ปกครองของผิงผิงเหรอครับ อย่ามาโกหกเลยแกเป็นพวกลักพาตัวเด็กใช่มั้ย นี่จะเอาขนมมาล่อเด็กและจับตัวไปสินะคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงออกไปจากที่นี่ก่อนที่ฉันจะเรียกจัดการเรียกตำรวจ” เสี่ยวฮั่วตกใจคิดว่าที่นี่จะเข้าง่าย แต่ก็เข้าใจยามที่เฝ้าหน้าประตูดี เขาช่างเป็นคนที่รักในหน้าที่จริง ๆ“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ คุณเองก็น่าชื่นชมทำหน้าที่เป็นอย่างดี ฉันคือนายพลเว่ย