“อ่อ ข้าพอจะมีวิธีป้องกันอยู่บ้าง แต่ของแบบนี้บอกไปก็ต้องมีค่าเหนื่อยกันสักนิดกระมัง ประเดี๋ยวกลับถึงเรือนแล้วข้าจะเขียนวิธีให้เจ้านำไปส่งให้ท่านพ่อก็แล้วกัน ออกไปได้” นั่งรถม้ากลับเรือนอยู่ดี ๆ ก็มีรางวัลมาตกในมือโดยไม่รู้ตัวจบคำสั่งของซินเยว่เพียงกระพริบตาอาเจาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เสี่ยวหลานที่ทำ
หลังจากจัดการปัญหากับตระกูลลั่วเรียบร้อยแล้ว วันนี้ซินเยว่ต้องไปเยี่ยมคารวะมารดาของเฟยเทียน ที่เพิ่งเดินทางจากเมืองเหลียงซานมาถึงเมืองหลวง และอยู่รับมื้อกลางวันที่จวนเป็นเพื่อนนางส่วนเฟยเทียนยังคงอยู่ที่ตำหนักองค์ชายสี่ เพราะต้องหารือวางแผนรับมือกับพวกที่คิดหาผลประโยชน์จากการทำเกลือและน้ำตาล ไหนจะแ
ซินเยว่ฉวยโอกาสตอนที่คุณชายลั่วกำลังตระหนกตกใจ นางเดินไปหยิบไม้ขนาดพอดีมือจากแผงขายของแถวนั้นขึ้นมา และเดินกลับไปหาคุณชายลั่วพร้อมกับฟาดไม้ลงไปที่ขาของเขาอย่างแรงผั๊วะ!! “เจ้าอวดอ้างตนว่ายิ่งใหญ่งั้นหรือ”ผั๊ว!! “เจ้าคิดจะเอาข้าไปเป็นสตรีอุ่นเตียงเพิ่มงั้นหรือ”ผั๊ว!! “เห็นสตรีเป็นเพียงเครื่องมือช่
ชาวบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง เมื่อสหาย ของเสี่ยวหลานนำข่าวการจ้างไปทำงานในไร่หลวงมาบอก พวกเขาต่างดีใจที่จะมีงานทำและได้เรียนรู้วิธีการทำนา ต่อไปพวกเขาจะได้นำความรู้นี้ไปเผยแพร่กับชาวบ้านคนอื่นจากนั้นสหายของเสี่ยวหลานจึงแจ้งเวลาเริ่มการทำงาน อีกเจ็ดวันให้พวกเขาไปรวมกันที่ไร่หลวงเพื่อ
“ใต้เท้าเติ้งว่าที่ฮูหยินของข้านางเป็นสตรีมีความสามารถ จะให้นั่งชี้นิ้วสั่งบ่าวไพร่ทำโน่นทำนี่อยู่แต่ในจวนได้อย่างไร ข้าเลือกนางเป็นฮูหยินเพราะนางเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อย่าได้คิดเอาบุตรสาวไม่ได้ความของท่านมาเทียบกับนางถ้าหากท่านยังไม่ยอมหยุดพูดจาดูถูกนางอีกละก็ เรื่องที่ท่านแอบทำอะไรลับหลัง
เรื่องแผนงานการทำเกลือกับน้ำตาลของซินเยว่เป็นอี้ซวนที่นำเสนออีกครั้งในท้องพระโรง ฮ่องเต้เทียนหลงถามความเห็นจากขุนนางทั้งหลายไม่มีผู้ใดคัดค้าน เพียงแต่มีบางคนเกิดความโลภอยากเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ พวกเขาคิดว่าหากทำสำเร็จขึ้นมาย่อมหมายถึงรายได้มหาศาล หากแบ่งบางส่วนมาเป็นของตนเองความร่ำรวยย่อมอยู่ในกำมือ