“นายครับวันนี้จะสัมภาษณ์พนักงานเองเลยไหมครับ”
ดวงตาสีนิลละจากเอกสารกองโตตรงหน้าหันมาดูลูกน้องคนสนิท เพราะวันนี้มีการสัมภาษณ์พนักงานใหม่ ที่เขาได้คัดคนเก่าออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องทิ้งไปเกือบทั้งชุด
“เรื่องแค่นี้นายจัดการเองเถอะ” เสียงนิ่งเย็นชาบอกเพียงเท่านั้นและจัดการเอกสารกองโตตรงหน้าต่อ
“ครับนาย ผมจะเข้มงวดและเลือกคนที่คุณสมบัติเพียบพร้อมที่สุดครับ”
“อืม” เสียงนิ่งขานรับในลำคออย่างไม่ได้สนใจ เพราะเป็นแค่แผนกเล็ก ๆ ที่ต้องการพนักงานเสิร์ฟ 5 ตำแหน่งเพียงเท่านั้น
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“และ...อย่าลืมคัดเอาคนที่หน้าตาดี ๆ เข้ามาด้วยล่ะ”
“ครับผมจำได้ขึ้นใจเลย”
เมธาลูกน้องคนสนิทพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม เพราะรู้นิสัยเจ้านายดีว่าชอบอะไรแบบไหน และต้องการคนที่หน้าตาดูดีและทำงานได้เก่ง ไม่ใช่เก่งอย่างเดียวแต่หน้าตาไม่ได้เพราะเขานั้นต้องเอาไว้ใช้เรียกแขก ดังนั้นสถานที่แห่งนี้ที่เรียกว่า Red Rose จึงเป็นสวรรค์สำหรับพวกเหล่าคนดังที่มีอันจะกินจะเข้ามาปล่อยเนื้อปล่อยใจไปกับคลับแห่งนี้ทุกค่ำคืน
“ฉันผ่านเข้าทำงานแล้ว” เสียงร้อนรนเอ่ยพูดในโทรศัพท์พร้อมกับเดินกระสับกระส่ายไปมา “ปล่อยพี่สาวฉันไปได้แล้ว”
‘หึ! สาวน้อย ทำงานให้มันสำเร็จก่อนสิถึงจะมาเรียกร้องได้’
“อะไรกัน! ฉันทำตามที่คุณบอกแล้วไงให้มาสมัครงานที่นี่แล้วจะปล่อยตัวพี่สาวฉันไปไงล่ะ”
‘ใช่ฉันปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ทำงานให้เสร็จก่อนที่พี่สาวเธอจะโดนส่งออกนอก’
“ไอ้สารเลว!!”
ตู๊ด ๆ ๆ
ปลายสายตัดสายทิ้งไปแล้วแต่มือเรียวเล็กยังคงกำมือถือราคาถูกไว้อย่างนั้นไม่ยอมปล่อยด้วยมืออันสั่นเทา
“ไอ้ชาติชั่ว ไอ้สารเลวเอ๊ย” เธอก่นด่าและรีบเก็บเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายจัดไว้ให้เพื่อให้เธอได้ทำตามแผนได้ง่ายขึ้นสำหรับไปสอดแนมล้วงความลับจากคลับ Red Rose เธอไม่เต็มใจทำมันเลยด้วยซ้ำแต่เพราะโดนบังคับโดยเอาพี่สาวของเธอมาอ้าง และตอนนี้เธอยังไม่รู้เลยว่าพี่สาวเธอจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างตั้งแต่โดนจับตัวไปก็ยังไม่เคยติดต่อกันเลยสักครั้งเดียว
และวันเริ่มงานวันแรกก็มาถึง นานา เด็กสาวอายุ 18 ปี ที่อยู่กับพี่สาวที่อายุ 25 กันแค่สองคน พ่อแม่ได้ตายจากไปตั้งแต่เธออายุได้ 10 ขวบทั้งชีวิตของเธอจึงมีแค่พี่สาวคนเดียวเท่านั้น
เธอกับพี่สาวต้องมามีชีวิตแบบนี้เพราะผู้เป็นป้าพี่สาวของพ่อเธอแอบเอาบ้านที่เป็นมรดกตกทอดที่เหลือชิ้นเดียวไปค้ำประกัน มันเป็นบ้านที่ใคร ๆ ต่างต้องการ มีนายหน้าหลายคนที่ต่างเข้ามาขอซื้อแต่พวกเธอสองคนไม่มีใครยินยอมขาย และโชคดีที่พี่สาวของเธออายุพ้นนิติภาวะจึงรักษาของทุกอย่างที่พ่อและแม่สร้างเอาไว้ให้พวกเธอก่อนตายเอาไว้ได้ แต่ก็มาพลาดท่าให้กับผู้เป็นป้าแท้ ๆ ที่พวกเธอเชื่อใจมาหักหลังได้ลงคอ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามรดกทั้งหมดที่พ่อและแม่ทิ้งเอาไว้ให้จะโดนคนที่ขึ้นชื่อว่าป้าแท้ ๆ เอาไปถลุงเล่นจนหมด ไหนจะบ้านที่สุกหัวนอนก็โดนยึดเพราะป้าเอาโฉนดไปค้ำตอนเล่นพนัน ไหนจะหนี้ที่ท่วมหัวอีกที่เสียไปจากการเล่นพนันที่เธอและพี่สาวโดนหางเลขไปด้วย แต่ป้าของเธอกลับหนีเอารอดทิ้งให้เธอกับพี่เป็นคนรับผิดชอบแทน
ตอนแรกเธอปลงใจได้แล้ว แต่ฝั่งเจ้าหนี้กลับเฮงซวยมาจับตัวพี่สาวของเธอไปและเข้ามาต่อรองให้เข้าไปทำงานกับแก๊งฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ถูกกัน โดยให้เธอเข้าไปทำงานในไนต์คลับเพื่อล้วงเอาความลับมาให้ พูดง่าย ๆ คือนางนกต่อนั้นเอง
เธอพยายามไปแจ้งความแต่ก็ไร้ผลเพราะฝั่งเจ้าหนี้ก็มีอิทธิพลตำรวจยังกลัวแล้วเธอจะมีทางเลือกทางไหนได้บ้าง เพราะพี่สาวคือชีวิตของเธอทั้งชีวิต ไม่มีทางเลือกวันนี้ ณ ตอนนี้เธอถึงเข้ามาเหยียบถ้ำเสื้ออยู่แบบนี้นี่เอง
“ฮู่วว~~” เธอหายใจออกเพื่อเรียกสติของตัวเองให้กลับมา เมื่อตั้งสติได้แล้วจึงรีบเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
“นรกอะไรอีกเนี่ย” ร่างบางสบถอย่างหัวเสียเมื่อหยิบชุดยูนิฟอร์มขึ้นมาก็ต้องตกใจ เพราะมันแทบไม่ใช่เรียกว่าชุด ชุดอะไรจะเปิดเนื้อหนังขนาดนี้ ไหนจะความสั้นที่น่าใจหายนี่อีก เสื้อคลุมก็ไม่มีให้ เป็นชุดเดียว คือเกาะอกสีแดงกับกระโปรงสีดำที่สั้นแทบเห็นแก้มก้น
“ฉิบหาย..ฮู่วว~ท่องเอาไว้เพื่อพี่ เพื่อพี่เราต้องทำได้”
“เด็กใหม่ใช่ไหมเรานะ” สาวสวยหุ่นเซ็กซี่เอ่ยถามพร้อมกับยืนมองมาทางหญิงสาวนิ่ง
“ใช่ค่ะ”
“ขืนออกไปแบบนี้เราโดนไล่เอาออกแน่เลย”
“ทำไมค่ะ?” เธอถามอยากตกใจ เพราะจะโดนไล่ออกไม่ได้เพราะงานนี้มันสำคัญกับชีวิตของเธอมาก
“ทำงานกลางคืนแบบนี้เราก็ต้องแซ่บสิน้อง ดูหน้าจืดชืดแบบนี้มีหวังนายเห็นโดนไล่ออกแน่”
“นานาแต่งหน้าไม่เป็นค่ะ” เธอตอบไปตามความจริง ถามว่าแต่งได้ไหมแต่งได้ แต่เป็นการแต่งให้ดูเรียบร้อย ดูอ่อนหวาน ไม่ได้แต่งให้ดูแซ่บเปรี้ยวซ่าเหมือนพนักงานที่แห่งนี้
“เราชื่อนานาเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“พี่ชื่อพี่ก้อย เราอายุเท่าไรแล้ว”
“20 ค่ะ”
“วัยกำลังโต มานี่พี่ช่วยแต่งให้ มาทำงานสถานที่แห่งนี้ก็คงเดือดร้อนพอสมควรใช่ไหมล่ะ”
“ใช่ค่ะ นานาต้องการเงิน” เธอแกล้งโกหกไปและพยายามทำตัวให้ดูน่าสงสารและอ่อนแอที่สุด ถึงแม้จริงๆ แล้วเธอจะเป็นคนสู้คนก็ตาม
“พี่ชื่อพี่ก้อย เป็นบัดดี้เรา ต่อไปนี้มีอะไรให้ช่วยเข้าถามพี่ได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณค่ะพี่ก้อย” เธอระบายยิ้มหวานออกมาและดูตัวเองในกระจกก็แทบตกใจว่านี่มันคือเธอจริง ๆ เหรอ ผู้หญิงเฉิ่ม ๆ ตอนแรกแต่ตอนนี้กลับดูเปรี้ยวเข็ดฟันจริงๆ
“ก็ว่าอยู่ว่าทำไมเมธาถึงยังรับเธอเข้ามาทำงาน ไปทำงานกันเถอะ” ก้อยหัวเราะและเดินนำออกไป
เริ่มแล้วสินะชีวิตที่เธอต้องเจอในภายภาคหน้า
--------------------------------------
เริ่มแล้วค่ะ มันเริ่มแล้วค่ะ ในดงที่มีแต่เสือ
แล้วเสือจะโดนแมวป่าขย้ำไหมนะ ^^
เป็นเวลาหลายวันแล้วที่หญิงสาวทำตัวเหินห่าง ถ้าวันไหนเขาเดินออกจากห้องเธอมักจะกลับขึ้นไปบนห้องตัวเองแทน อาหารที่เธอมักทำให้ตอนนี้เธอก็ไม่ทำคงโกรธเกลียดเขามากสินะ“คุณแนน อย่าเพิ่งไปครับ”ขาเรียวหยุดอยู่กับที่เมื่อได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยเรียก ปกติเขามักจะส่งเสียงเย็นชาให้ได้ยิน แต่วันนี้กลับอ่อนลงให้เธอแปลก ๆ หรือเขารู้สึกผิดกับเธออย่างงั้นเหรอ“คุณได้กินยารึยัง”เหอะ! ฉันคิดเพ้อฝันอะไรอยู่ อยากได้ยินคำว่าขอโทษจากปากเขาว่างั้น ตอนแรกหลงคิดว่าเขาจะเอ่ยขอโทษ แต่กลับมาถามว่ากินยารึยัง สารเลวจริง ๆ“กินแล้ว คุณไม่ต้องกังวลหรอก เพราะฉันก็ไม่ได้โง่” เธอตอบกลับเสียงเย็นชาและเลือกเดินขึ้นห้องไป“เดี๋ยวก่อนครับ” เมธาวิ่งเข้ามาจับข้อมือเล็กให้เธอหันมาเผชิญหน้า และก็ได้เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากบนหน้าสวยจนเขาทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่ถูกกับน้ำตาของผู้หญิง“มีอะไรอีก ฉันอยากจะขึ้นห้องแล้ว”“ผมขอโทษสำหรับเรื่องคืนนั้น” ร่างสูงเอ่ยออกมาอย่างสำนึกผิด อีกอย่างเขาเป็นคนแสดงออกไม่เป็น เขารู้สึกผิดจริง ๆ แต่หน้ากลับเย็นชาทำเป็นแต่หน้านิ่ง ไม่รู้เธอจะให้อภัยไหม และอีกอย่างตนไม่ใช่คนที่ทำอะไรผิดแล้วจะชิ่ง“ทำไมไม่ขอโทษ
“คุณปล่อยฉันนะ” ร่างเล็กเมื่อริมฝีปากเป็นอิสระจึงร้องส่งเสียงให้เขาออกไป“อื้อ..” ร่างหนาไม่ฟังเขาเพียงปรือตาขึ้นมาเล็กน้อยอาจด้วยพิษไข้จึงทำอะไรโดยไม่รู้ตัว“คุณ นี่ฉันเองนะ ปล่อยได้แล้ว” แนนร้องตะโกนบอกพยายามดิ้นหนี แต่ยิ่งดิ้นเหมือนยิ่งไปกระตุ้นให้เขามีอารมณ์มากขึ้น เพราะรู้สึกได้ถึงตรงนั้นที่นู่นเด่นและแข็งกำลังทิ่มตรงหว่างขาของเธอมือแกร่งดั่งคีมเหล็กเข้ามากระชากชุดนอนของหญิงสาวออก เขากระชากและดึงออกอย่างแรงเมื่อคนตัวเล็กพยายามดิ้นหนีอีกครั้ง“ปล่อยฉันนะ คุณเมธาได้ยินฉันไหม นี่ฉันเอง”“หุบปากสักที รำคาญ” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น และเข้ามาฉกริมฝีปากอวบอิ่มจูบอีกครั้งอย่างหื่นกระหายมือหนาหยาบกร้านเข้ามาสัมผัสผิวเรียบเนียนทีละจุดและมาหยุดที่อกอวบคู่สวย เขาไม่รอช้าบีบขยี้จนแทบแหลกคามือ และใช้ฟันกัดเบา ๆ ที่ปทุมถันที่เริ่มแข็งเป็นไต ลิ้นร้อนปาดเลียวนไปมาและดูดเข้าปากเหมือนเด็กน้อยที่หิวกระหาย“อือ อึก ไม่เอา อย่าทำฉันนะ” ด้วยแรงที่สู้เขาไม่ได้เลยอยู่ใต้อาณัติอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เธอพยายามสู้กับแรงเขาแล้วแต่ไม่สามารถเอาชนะได้เลย และตอนนี้เขากำลังจับเธอแหกขาออกกว้าง“ไม่นะ เมธา ไม่”สวบ!
“เมื่อคืนขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดยังงั้นออกไป”ทันทีที่เห็นชายหนุ่มเดินลงมาแนนจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปหาและเอ่ยขอโทษออกมาอย่างสำนึกผิด เธอชงกาแฟดำและขนมปังปิ้งวางไว้ให้เขาตามด้วยไข่คนที่มีเบคอนทอดกรอบวางอยู่ด้านข้างส่งกลิ่นหอมฉุยออกมาเรียกน้ำลาย“อืม” ชายหนุ่มขานรับสั้น ๆ ในลำคอและจิบกาแฟดำเข้าปากพร้อมกับกัดขนมปังทานไปเงียบ ๆ และเอ่ยขอตัวไปทำงานแบบที่เขาทำเป็นประจำ“วันนี้ฉันจะทำกับข้าวรอนะคะ”เมธาหยุดเดินและหันมามองด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่เขาไม่พูดอะไรแค่มองแบบนั้นและเดินออกไป“เฮ้อ~~ สงสัยกลัวดอกพิกุลร่วงออกจากปาก พูดลากันสักคำก็ได้ ไม่ใช่เดินออกไปเฉย ๆ” เธอบ่นตามหลังเพราะไม่กล้าบ่นต่อหน้าเพราะเมื่อคืนสร้างวีรกรรมไว้แล้ว ถ้าจะสร้างต่อคงไม่ดี เพราะเธอยังอยากให้น้องปลอดภัยจากคนของโทมัสตกเย็นจวบจนถึงเวลาสี่ทุ่มเธอก็ยังไม่เห็นชายหนุ่มกลับมา ตั้งใจทำอาหารรอไว้อย่างดิบดีแต่กลับไม่เห็นเจ้าตัวกลับมาเสียที เธอตัดสินใจเก็บอาหารเข้าตู้เย็น พอเคลียร์อะไรเสร็จตั้งใจจะขึ้นห้องแต่ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจึงยืนอยู่รอ เผื่อเขายังไม่ได้ทานข้าวมาเธอจะเตรียมอุ่นให้“ทำไมสภาพคุณเป็นอย่างงั้นล่ะคะ”
ร่างสูงกำยำบังคับหัวเรือเข้ามาจอดเทียบท่า สายตาคมมองไปในพื้นน้ำและท่ามกลางความมืด ตอนนี้แค่รอเวลาเพียงเท่านั้นปัง!ปัง!ปากหยักคลี่ยิ้มเมื่อทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน เมธารีบเดินออกมาเมื่อได้ยินเหล่าลูกน้องส่งเสียงร้องโหวกเหวกโวยวาย“กูจัดการเอง” เสียงแข็งกระด้างและใหญ่เอ่ยบอกและชี้ให้เหล่าลูกหาบกระโดดลงไปเพื่อเอาชีวิตรอด“แล้วกัปตันล่ะ ถ้ามันยิงกัปตันขึ้นมาพวกเราจะทำยังไง”“พวกมันไม่ยิงหรอก พวกมึงหนีเอาชีวิตรอดก่อนเถอะ”“ครับ” เมื่อเห็นเหล่าลูกจ้างหนีออกไปกันจนหมดแล้วเขาก็เดินออกมาเพื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่เข้ามาเยือน“นี่คือของทั้งหมดใช่ไหม” หนึ่งในแก๊งที่เข้ามาปล้นเอ่ยถามเสียงหยัน“เออ รีบ ๆ เข้าเถอะก่อนที่บอสใหญ่จะมา ถ้ามาตัวใครตัวมันก็แล้วกัน และถ้าใครโดนจับได้กูแนะนำให้พวกมึงฆ่าตัวตายซะถ้าไม่อยากทรมาน"“นี่เงินที่นายแบบนั้นสั่งให้เอามาให้ ครั้งหน้ามีงานอีกกูจะติดต่อไป” มือหนารับเงินปึกใหญ่ที่บรรจุอยู่ในซองกระดาษมาถือเอาไว้“อืม รีบเข้าเถอะก่อนที่ลูกเรือคนอื่นจะเห็น เมื่อกี้กูเพิ่งไล่ให้ไปอีกทางไม่รู้มันจะย้อนกลับมาไหม”“เออ เร่งมือเข้า เอาเรือมาเทียบท่าเร็ว” เพราะด้วยวันนี้ไม่มีเรื
หลายเดือนมาแล้วที่เธอได้อยู่กับคนหน้านิ่งเหมือนเป็นคนไม่มีอารมณ์ใด ๆ ผ่านใบหน้า นอกจากความเย็นชา“หน้าผมมันมีอะไรติดรึไงครับถึงได้เอาแต่มอง”เสียงพูดติดรำคาญถามแต่ตายังคงมองไปข้างหน้า ที่ทั้งเขาและเธอออกมาห้างเพื่อซื้อของใช้จำเป็น และพวกอาหารสดและแห้ง ปกติเขาชอบซื้อกินมากกว่า แต่พอมีผู้หญิงคนนี้เข้ามากลับกลายเป็นต้องเลิกซื้ออาหารข้างนอกกิน เพราะเธอคนนี้จะทำอาหารไว้รอเขาตลอด จนมันกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว“ฉันมองเพราะหน้าคุณมันหล่อละมั้งค่ะ” แนนตอบกลับหน้าตาย ส่วนเมธาก็หน้าตายไม่แพ้กัน“เหอะ!!” เมธาหัวเราะออกมาเพราะรู้ว่าหญิงสาวประชด“ตอนนี้สถานการณ์อีกฝั่งยังไม่คลี่คลายดีเหรอคะ”“ทำไม”“ฉันอยากไปอยู่กับน้องแค่สองคนแล้วค่ะ มัวแต่อยู่กับคุณแบบนี้ฉันเกรงใจ”“เกรงใจหรืออึดอัดกันแน่”หึ รู้ดีอีก อุตส่าห์เก็บความรู้สึกเอาไว้อย่างดีแล้วแท้ ๆ“เกรงใจสิคะ จะมาอึดอัดอะไรล่ะ บ้านหลังตั้งใหญ่โต ข้าวก็ไม่ต้องซื้อกินสบายจะตาย ใช่ไหมละคะ”เหอะ! ยัยผู้หญิงหน้าด้านเมธาถอนหายใจและเดินมาหยุดตรงครีมอาบน้ำ กำลังจะหยิบครีมอาบน้ำที่ใช้เป็นประจำขึ้นมาสองขวด แต่มือเล็กขึ้นมาปัดมือของเขาออก“ฉันอยากเปลี่ยนครีม
ผลัวะ! ผลัวะ! อั๊ก!!เสียงข้างนอกดังเอะอะโวยวายเข้ามา ร่างเล็กที่นอนคดอยู่บนฟูกเก่า ๆ ขยับตัวขึ้นและพยายามมองลอดผ่านช่องว่างของประตูออกไปว่าเกิดอะไรขึ้นผลัวะ!! ปัง!“กรี๊ด!!” เธอหวีดร้องออกมาอย่างตกใจที่ประตูเกือบกระแทกโดนหน้าของเธอเต็ม ๆ ดีที่กระโดดหลบออกมาได้ทัน“เธอใช่แนนไหม?” เสียงเย็นชาเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง และใช้มือที่มีแต่เลือดกระแทกท่อนเหล็กลงพื้นด้วยความหงุดหงิด “ตอบสิวะ” ชายหนุ่มทำหน้าหงุดหงิดและเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเลือดที่มือออกและเดินดุ่ม ๆ เข้ามาที่หญิงสาว“จะทำอะไรฉัน ถ้าจะฆ่าฉันก็ปล่อยน้องสาวฉันไป” ร่างสูงมองเข้าไปที่ดวงตาดำขลับที่มองเขาอย่างไม่เกรงกลัว แต่ตัวของเธอกลับสั่นอย่างน่าขัน“ฉันถาม เธอใช่แนนไหม” เสียงเย็นชาเอ่ยถามอีกครั้ง และบีบเข้าที่คางเล็กจนผิวยุบไปตามแรง“ชะ ใช่ ฉันเจ็บนะ”“ถ้าไม่อยากให้น้องสาวเธอตายก็รีบตามมา”“ค่ะ” เธอรับอย่างว่าง่ายและเดินตามมาอย่างเชื่อฟังเมธาเหลือบมองร่างเล็กของหญิงสาวใบหน้าของเธอละม้ายคล้ายคลึงกับน้องสาวของเธอไม่มีผิด แต่คนนี้มีดวงตาสีดำและเส้นผมสีดำที่เงางามเหยียดตรงมากกว่า ต่างจากคนน้องที่ผมออกสีน้ำตาล“ออกรถ” เสียงแข็งกระ