Mag-log inลูกศรตรงสเปคเขาทุกอย่างตั้งแต่รูปร่าง หน้าตา หรือแม้แต่เรื่องบนเตียง หากไม่ได้เป็นคนแรกเขาคงคิดว่าเธอชำชอง เจนสนาม ลูกศรทำให้เขาติดใจจนไม่ไปหากินของข้างทางที่ไหนอีกเลยตั้งแต่รู้จักกัน
เพราะเหตุนี้สิงหราชถึงได้เก็บไว้กินเสียนานไม่ยอมปล่อยไปให้ใครหน้าไหนง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่าพี่ชายเธอเป็นใครแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ซ้ำยังรู้สึกดีเสียอีกที่สามารถย่ำยีน้องสาวคนที่เขาเกลียดเข้าไส้แถมยังทำให้เธอหลงรักเขาจนหัวปักหัวปำได้ขนาดนี้
“ก็พี่ยักษ์น่ะสิคะไม่รู้เป็นบ้าอำไรมาตะคอกใส่ศร แต่ช่างเถอะ เราไปดูรองเท้ากันต่อดีกว่า” ลูกศรบอกปัดก่อนจะควงแขนสิงหราชแล้วทั้งคู่ก็เดินกันมายังร้านรองเท้าที่หญิงสาวเล็งเอาไว้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าหล่อเหล่าที่ยกยิ้มอ่อนโยนของชายหนุ่มข้างกาย เขากำลังคิดอะไร
“จะไปดูเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ด้วยเลยไหม”
“ได้เหรอคะ” หญิงสาวทำตาใส ใบหน้าออดอ้อนน่ารักนั่นทำเอาสิงหราชอดก้มลงประทับจูบบนขมับบางไม่ได้
“ได้สิครับ” สิงหราชเอาใจ
ได้ยินคำตอบจากเขาลูกศรตาลุกวาวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินไปยังร้านที่หมายโดยมีสิงหราชคอยทำหน้าที่แฟนที่ดีหอบถุงแบรนด์เนมต่าง ๆ ของเธอที่เขาเป็นคนซื้อให้
แต่ในขณะที่ลูกศรกำลังมีความสุขกับการโดนตามใจ เธอไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่นาทีถัดไป หายนะกำลังจะมาเยือน…
“อยากได้อะไรอีกไหมคะ”
“ไม่แล้วค่ะ ขอเก็บโควตาไว้ใช้วันหลังบ้าง เดี๋ยวพี่สิงห์เบื่อ”
“ไม่เบื่อหรอกค่ะ เพราะว่าพี่ไม่ได้คิดจะให้หนูฟรี ๆ”
“อ่าว...” จากที่เพิ่งยิ้มจนตาหยี ตอนนี้ลูกศรรีบหุบปากฉับหน้าซีดตัวหดทันที
สิงห์ราชเห็นแล้วยิ้มขำก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจแทบจะรดรินกัน แล้วพูดเสียงพร่า…
“เพราะคืนนี้พี่จะให้ศรชดใช้ให้คุ้มกับเงินที่พี่เสียไปทั้งคืนเลย”
ลูกศรเริ่มอายจนแก้มใส ๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ ยิ่งเมื่อโดนเขาโอบเอวให้เข้าไปใกล้โดยที่ไม่สนใจสายตาใคร เธอยกมือดันแผงอกล่ำเอาไว้
“พี่สิงห์ปล่อยก่อนค่ะ อายเขา”
“อายอะไร ปกติเธอขึ้นให้พี่ด้วยซ้ำ”
“นี่!” ถึงตอนอยู่ด้วยกันบนเตียงลูกศรจะร้อนแรงขนาดไหน แต่หน้าเธอก็ไม่ได้หนาพอถึงขั้นจะมาพลอดรักสวีทหวานกับผู้ชายกลางห้างได้โดยไม่รู้สึกอายหรอกนะ
ไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยต่อว่าเขาต่อ ในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มห้าวดังมาแต่ไกล เสียงที่เธอจำได้ขึ้นใจราวกับเสียงมัจจุราชก็ไม่ปาน...
“ไอ้สิงห์ ไอ้สัส!” สิ้นเสียงเรียกนั้นก็มีหมัดหนัก ๆ ลอยมากระทบใบหน้าหล่อเหลาของสิงหราช ทำเอาลูกศรร้องลั่นด้วยความตกใจ
“กรี้ด พี่ยักษ์ทำบ้าอะไรเนี่ย!” ลูกศรตะวาดพี่ชายตัวเองดังลั่นในขณะที่พยายามช่วยประคองร่างกำยำของสิงหราชที่ล้มลงไปกองกับพื้นห้าง
“เหี้ยอะไรกันวะ!” ชายหนุ่มสะบัดหน้าเพราะว่ามึนที่โดนต่อย
'หมัดหนักฉิบหาย! ' ส่วนทศกัณฐ์ไม่รอช้า กระโจนตัวพร้อมเหวี่ยงหมัดเข้าใส่อีกครั้งหากแต่โดนลูกศรเอาตัวเองมาบังไว้
ทศกัณฐ์มองน้องสาวด้วยสายตาขุ่นเข้มไม่ชอบใจอย่างแรงที่เธอเอาแต่ปกป้องอดีตศัตรูหัวใจของเขาซึ่งเป็นพี่ชายเธอ แต่ยังไม่ว่าอะไรน้องสาว เขาเลือกที่จะหันไปหาสิงหราชแล้วเอ่ยถาม
“มึงมายุ่งกับน้องกูทำไม!”
สิงหราชชะงักไปหลังจากที่เงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นว่าคนที่โวยวายและฟาดหมัดใส่เขาเมื่อครู่นี้เป็นทศกัณฐ์
'ไอ้ยักษ์!' เมื่อตั้งสติได้ชายหนุ่มจึงหยัดกายลุกยืนเต็มความสูงก่อนจะยกนิ้วโป้งขึ้นลูบมุมปากตัวเองในจุดที่โดนหมัดหนักสัมผัสจนหน้าชา
“หึ! รู้ตัวจนได้สินะ ช้ากว่าที่คาดไปเยอะเลย” สิงหราชบอกและทำหน้ายียวนกวนบาทาอย่างตั้งใจ
“นี่มึงรู้อยู่แล้วใช่ไหม ว่าศรเป็นน้องสาวกู!”
@หนึ่งปีถัดมา..“เฮ้ออ..”ริมฝีปากหนาได้แต่ปล่อยลมออกมาพรูใหญ่พร้อมทั้งถอนหายใจแบบโล่งอกประหนึ่งยกภูเขาออกจากอกไปได้ก้อนใหญ่“เป็นอะไรคะ? เหนื่อยมากเหรอหมี่นวดให้นะ”หญิงสาวเอ่ยถามสามีทันทีที่ได้ยินเขาถอนหายใจวันนี้แขกเยอะมากกว่าจะพักได้เธอก็แทบตายเหมือนกัน“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะ พี่แค่โล่งใจน่ะ”“เรื่องอะไรเหรอคะ?”“ก็ที่สุดท้ายแล้วเราก็ได้แต่งงานกันสักทียังไงล่ะคะ ถ้าวันนั้นหมี่ไม่ตกลง ยัยหงส์มันจะตัดหน้าแต่งก่อนอยู่แล้ว”เขาพูดขึ้นในตอนนี้ที่ทั้งคู่ถูกส่งตัวเขาหอเป็นที่เรียบร้อย และใช่ วันนี้ก็คือวันแต่งงานที่นายหัวหนุ่มเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แล้วสุดท้ายเขาก็ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการเสียที“ความจริงถึงพี่หงส์จะแต่งก่อนก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่คะ คู่เราค่อยแต่งปีหน้าเอาก็ได้”“ไม่ได้!” มังกรเอ่ยค้านอย่างลืมตัวว่ายังไงก็ได้แต่งไปแล้วเหตุผลหลักไม่ใช่อะไร เขาแค่อยากแต่งกับเธอให้ไวจะได้ประกาศตัวสักทีว่าเขาเป็นสามีเธออย่างเป็นทางการแล้วทั้งทางประเพณี นิตินัยและพฤตินัย ไอ้พวกแมลงหวี่แมลงวันที่คอยมาตามตอมเธอไม่เว้นแต่ละวันมันจะได้ยอมถอยห่างออกไปเสียที ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่ปรานีแล้วนะอีก
เมื่องานเลี้ยงเลิกรามังกรกอดประคองมัดหมี่ขึ้นรถมาหมายจะพากลับบ้าน แต่ก็ยังไม่วายถามเธออย่างเอาใจใส่ไม่กล้าตัดสินใจเองสักเท่าไหร่เพราะวันนี้เขารับปากแล้วว่าจะตามใจเธอ ขืนแม่คุณยังไม่อยากกลับเดี๋ยวได้อาละวาดเข้าให้ เพราะเวลาเมาก็ขี้โวยวายเอาเรื่องใช้ได้เลยเหมือนกัน“เมาแล้วนะเราน่ะ จะกลับกันเลยไหม?”“ไม่อาววว~ ยังไม่อยากกลับ เบื่อไร่อ่าาาา~” นาน ๆ ทีจะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้เธอไม่รู้จะรีบกลับไปทำไม“ผับปิดแล้วนะ แล้วอยากไปไหน..” หากอยากขับรถเที่ยวเล่น กินลมชมวิวเขาก็จะพาไป“..ไปชายทะเลกันไหม?”มังกรเสนอเพราะสมัยเรียนมหาวิทยาลัยพอเมาทีไรก็พากันไปอ้วกที่ทะเลทุกที เวลากลางคืนแบบนี้ได้นั่งฟังเสียงคลื่นก็รู้สึกผ่อนคลายดีเหมือนกัน“มันไกล~” พูดเสียงหวานพลางซบไหล่หนาเอาไว้ รู้สึกหนักหัว ทรงตัวนั่งเองไม่ค่อยจะไหว กลายเป็นตอนนี้มัดหมี่อยู่ในท่าทางที่เหมือนกำลังออดอ้อนคนตัวโตไปโดยปริยาย มังกรเหลือบมามองความน่ารักของเธอแล้วหันไปขับรถเรื่อย ๆ รอเธอตัดสินใจ“แล้วหนูอยากไปไหน?” ใช้มือที่ว่างโอบไหล่บางเอาไว้เอ่ยถามเสียงละมุนใส่ แล้วขับรถด้วยมือเพียงข้างเดียว“ไปกินข้าว”“โอเคครับ ข้าวต้มไหม?” วันนี้จะยัง
หลังวันสุดท้ายของการฝึกงานมัดหมี่ไปฉลองกับเพื่อนอย่างที่เคยนัดกันไว้เมื่อห้าเดือนก่อนหน้า คราวนี้เธอพลาดไม่ได้เพราะคราวก่อนเริ่มฝึกงานเธอไม่ได้มาในไลน์กลุ่มโดนเพื่อนรุมกดดัน จากที่กลัวสามีว่าตอนนี้กลัวเพื่อนเลิกคบเสียมากกว่าเพราะจะจบกันแล้ว นอกจากวันพรีเซนต์จบและรับปริญญาก็ไม่รู้จะได้เจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกตอนไหนเพราะต่างคนต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่และมีชีวิตเป็นของตัวเองแล้ว ตอนขอนายหัวหนุ่มก็แอบกลัวเขาว่า แต่ตรงกันข้ามเขากลับอนุญาตเสียง่าย ๆ แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะต้องไปด้วยแล้วเธอเองก็ต้องอยู่กับเขา นั่งกับเขา จะดื่มจะเมาก็ต้องอยู่ในสายตาเขาไม่ห่างไปไหน ส่วนมัดหมี่จะไปมีสิทธิคัดค้านอะไรได้ ตั้งแต่คืนนั้นเขาก็แทบจะสิงร่างเธอไม่ยอมให้ห่างไปไหนเว้นเวลาทำงาน เมื่อเดินทางมาถึงคลับหรูเพื่อนหลายคนที่เพิ่งรู้ว่าเธอมีคนรักแล้วก็แซวกันยกใหญ่ “มัดหมี่ แกไปตกพี่เขามาได้ยังไง โคตรหล่อเลย”“นั่นสิหมี่ คิดว่าจะจำศีลเป็นแม่ชี ชีวิตนี้คิดว่าเพื่อนจะไม่มีหลัวซะแล้ว”เสียงบรรดาเพื่อน ๆ พากันกระซิบกระซาบเอ่ยแซวในตอนที่มังกรขอตัวไปหาใครบางคน โดยไม่วายเอ่ยสั่งคนรักเอ
“พี่กรขา ใส่เข้ามาในตัวหมี่ทีนะ หมี่ไม่ไหวแล้ว อ๊า..”ทันทีที่เธอเรียกร้องออกมา มังกรร้ายก็ยกยิ้มพอใจเต็มใบหน้าและไม่รอช้าอีกต่อไป เขาทาบทับเธอเอาไว้ใช้มือหนาสองข้างรองใต้ท้ายทอยก่อนจะกดลำกายเข้าไปรวดเดียว ทั้งเขาและเธอครางเสียวอย่างลืมอายเอวสอบขยับไหวอย่างหนักแน่นร้อนแรงและเอาแต่ใจจนร่างบอบบางสะท้านไหวโยกคลอนไปตามแรงกระแทกอยู่อย่างนั้น มือเรียวสะเปะสะปะเพราะความเสียวซ่านเธอไม่รู้จะเอามันไปวางตรงไหน“กอดพี่แน่น ๆ นะคนดี ถ้าเสียวมากก็ข่วนได้”เขาออกคำสั่งก่อนจะจับแขนสองข้างของเธอมาโอบรอบคอเขา แล้วให้เธอใช้ขาเกี่ยวเอวสอบไว้ เมื่อทุกอย่างเข้าที่วินาทีถัดไปเขาหยัดกายลุกขึ้นยืน มัดไม่ทันตั้งตัวจึงหวีดร้อง“อ๊า!” ทุกการขยับไหวของเขาทำเอาเธอเสียวถึงแกนสมอง ที่ร้องไม่ใช่กลัวแต่เป็นเพราะตัวเขาของเขาเข้าไปลึกสุดใจ เขาอุ้มเธอขึ้นแล้วยืนเอาไว้ ก่อนจะขยับกายสอนบทเรียนเธอในท่าใหม่ ๆ ส่วนคนหัวไวก็รู้งานดี เธอสนองเขาอย่างเร่าร้อนไม่ต่างกัน ปากอิ่มเป็นฝ่ายประกบจูบเขา ลิ้นเล็กหยอกล้อลิ้นสากอย่างเร่าร้อนเพราะอารมณ์กระสันที่พลุ่งพล่านเสียงครางเสียวสลับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่น ยิ่งได้ยินเสียงลามกแ
เย็นวันนั้นมังกรขอให้พ่อตาและว่าที่ภรรยากลับมาทานข้าวด้วยกันที่บ้านเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออยากให้พ่อหญิงสาวย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหญ่ด้วย แต่ท่านปฏิเสธบอกว่า..“พ่อขออยู่บ้านหลังเดิมดีกว่านะ จะสะดวกใจกว่า ที่สำคัญบ้านใหญ่ไม่มีห้องนอนชั้นล่าง พ่อขึ้นบันไดไม่ไหว ข้อเข่ามันไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ แก่แล้ว”“ถ้างั้นหมี่ขอกลับไปอยู่กับพ่อที่บ้านหลังเดิมนะคะ หมี่จะได้ดูแลพ่อด้วยค่ะ” มัดหมี่พูดออกมาแต่ผู้เป็นพ่อร้องห้ามบอกว่าให้เธออยู่กับนายหัวน่ะดีแล้วเขาเองก็จะได้สบายใจ เขาเชื่อว่ามังกรสามารถที่จะรักและดูแลมัดหมี่ได้ ดูจากความจริงใจที่ชายหนุ่มเฝ้ารอลูกสาวเขามาได้ตั้งหลายปีมังกรเคยสารภาพกับเขาว่ารักมัดหมี่มาเกือบสิบปีแล้ว ส่วนความรู้สึกดีก็มีมาตั้งแต่เห็นมัดหมี่ตั้งแต่แรกเห็น เวลาหลายปีที่ผ่านมาก็พอจะพิสูจน์ได้ มังกรไม่เคยคบผู้หญิงคนไหน เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในไร่เฝ้ามัดหมี่จบมื้ออาหารผู้เป็นพ่อก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ทั้งคู่จึงขึ้นไปบนห้องนอนชั้นบนของบ้าน เขาให้หญิงสาวเข้าไปอาบน้ำก่อนส่วนตัวเองนั้นขอไปเคลียร์เอกสารที่ห้องทำงานกลับเข้ามาอีกทีก็เห็นมัดหมี่ยังไม่นอน“ทำไมยังไม่นอน รอพี่เหรอ?”ร่างสูงกำ
“แต่ฝึกงานอีกสองเดือนเราก็จบแล้วนะ” มังกรว่า“นั่นแหละค่ะ ยังแต่งไม่ได้ หมี่ฝึกงานแล้วจะลามาแต่งได้ยังไง น่าเกลียดตายเลย”“เรื่องนั้นไม่เป็นไร พี่คุยกับพี่เสือกับน้องเพียวให้ได้”“ไม่ได้ค่ะ หมี่ขอเรียนจบจริง ๆ แล้วรับปริญญาก่อนนะคะ เรื่องแต่งงานค่อยมาว่ากัน”“ได้ไง นานเกินพี่รอไม่ไหวหรอกนะ”“หมี่ไม่ได้ขอให้รอนี่คะ ต่อให้เรียนจบหมี่ก็คิดว่ามันยังไวไปด้วยซ้ำ หมี่อยากทำงานและใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนค่ะ ยังไม่อยากแต่ง” มัดหมี่พูดจากใจ เพราะที่ผ่านมาเธอเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนและช่วยงานในไร่ แทบไม่ได้ออกไปไหนเลยเวเนสซ่าและวาคิมยิ้มอย่างพึงพอใจในความคิดความอ่านของว่าที่ลูกสะใภ้ เห็นเป็นเด็กสาวใส ๆ แต่เธอก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อย่างน้อยก็ยังมีความคิดความอ่านไม่ได้หวังจะจับลูกชายแล้วคิดจะอยู่สุขสบายงอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลย ต่างจากลูกชายที่หน้านิ่วคิ้วผูกโบว์อย่างไม่ชอบใจ“ไม่แต่งไม่ได้ เธอได้พี่แล้วนะ จะทิ้งกันแบบนี้ได้ยังไง”“ไอ้กร ใจเย็น” วาคิมรีบปรามเมื่อเห็นพ่อของหญิงสาวเริ่มกัดกรามแน่น มังกรหันไปขอโทษพ่อตาแล้วยืนยันว่าตนอยากแต่ง ดีที่พ่อหญิงสาวไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไรอย่างน้อยเขาก็ไว้ใจมังกรได้







