Mag-log inสิงหราชไหวไหล่ตั้งใจยียวนกวนประสาทให้ทศกัณฐ์อารมณ์เดือดพล่าน เห็นแล้วก็สะใจดี ทำเป็นขรึมวางมาดนิ่ง มีเรื่องกันแต่ละทีก็เป็นมันที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าจนเขาต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกครั้งไป
ไม่คิดเลยว่าเรื่องของลูกศรจะทำเอาคนอย่างผู้กองทศกัณฐ์สติแตก จนอาละวาดกลางห้างอย่างบ้าคลั่งไม่สนใจใครหน้าไหนได้ขนาดนี้
“แค่เพราะเกลียดกู อยากแก้แค้นกู ถึงกับต้องใช้วิธีเลว ๆ ทำลายน้องกูเลยเหรอวะ ไอ้สิงห์ มึงนี่แม่ง โคตรเหี้ยเลยไอ้ห่า!” ทศกัณฐ์จะตะบันหน้าสิงห์ราชอีกครั้งแต่โดนลูกศรใช้ตัวเองขวางเอาไว้ เธอร้องห้ามแล้วหันไปกอดสิงหราชไม่ให้โดนพี่ชายทำร้าย
“พี่ยักษ์เป็นบ้าอะไรเนี่ย พูดกันดี ๆ ได้ไหม” ลูกศรไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไร ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากเธอตั้งตัวไม่ทัน
จะว่าพี่ชายเธอหวงน้องสาวอันนั้นก็ใช่ แต่เขาไม่ใช่คนไร้เหตุผลไม่ฟังอะไรแล้วเอาแต่พุ่งเข้าใส่แบบนี้มาก่อน พี่ชายเธอเหมือนรู้จักสิงหราชเป็นอย่างดี หรือว่าทั้งคู่รู้จักกัน?
“ถุย!” สิงหราชถ่มเลือดสีสดที่กลมปากออกไป เขาแกะแขนเรียวของหญิงสาวออกจากการเกาะกุม ดันเธอไปยืนห่างกายก่อนจะเดินไปประจันหน้ากับทศกัณฐ์
“เหอะ! แล้วยังไงวะ น้องสาวมึงอยากโง่มานอนอ้าขาให้กูเอาเองทำไม” มุมปากหนายกยิ้มสะใจ
“ไอ้สัส!” ทศกัณฐ์ได้ยินก็ยิ่งเลือดขึ้นหน้า สองหนุ่มพุ่งเข้าหากันและระบายความโกรธเกรี้ยวแบบที่ไม่สนใจผู้คนรอบกาย ไม่สนว่าที่ตรงนี้จะเป็นที่สาธารณะหรือไม่เป็นภาระให้ยามรักษาความปลอดภัยพากันจับแยกจนวุ่นวายไปหมด กว่าจะห้ามทัพชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำทั้งสองคนได้เล่นเอาต้องใช้คนมาจับแยกเกือบสิบคน
“พะ พี่สิงห์...”
ในขณะที่ผู้คนล้วนอลม่านลูกศรเป็นคนเดียวที่ยังคงยืนค้างนิ่งตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น หน้าชาตัวสั่นหูอื้อตั้งแต่ได้ยินคำนั้นออกมาจากปากสิงหราช ทำไมเขาถึงพูดกับพี่ชายเธอไปแบบนั้น…
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร!” ลูกศรตะหวาดลั่น ตอนนี้เธอก็เป็นอีกคนที่จะไม่สนใจใครหน้าไหน แค่ต้องการคำตอบจากคนรักและพี่ชาย
“ใครช่วยอธิบายให้ศรฟังหน่อยได้ไหมว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!”
“ศรเป็นอะไรกับมัน? ไปรู้จักไอ้เหี้ยนี่ได้ยังไง?” ทศกัณฐ์ถามน้องสาวแต่ไม่คิดเว้นจังหวะให้เธอตอบคำถามแต่อย่างใด เพราะตอนที่ตนเห็นลูกศรกับสิงหราชกอดกันหยอกล้อกันมันก็พอจะเป็นคำตอบได้ว่าทั้งคู่สนิทสนมกับไปถึงขั้นไหน ทศกัณฐ์จึงเลือกเป็นฝ่ายตัดบทเสียเองดีกว่ารอฟังคำตอบที่ตัวเองต้องเจ็บปวดใจไปมากกว่านี้
“จะเป็นอะไรกันก็ช่างแม่งเหอะแต่ตั้งแต่นี้ต่อไปเลิกยุ่งกับมันซะ!”
“ทะ ทำไมอะพี่ยักษ์”
“ไม่ต้องถามมาก กลับบ้านกับพี่” ทศกัณฐ์เรียกน้องสาวแต่ลูกศรไม่เข้าใจ เธอจึงไม่คิดจะเดินตามไป จนสุดท้ายทศกัณฐ์ก็อดไม่ไหวกระชากแขนเรียวแล้วลากเธอออกไปสุดแรงภายใต้สายตาของคนที่มายืนมุงเต็มห้างไปหมด
“พี่ยักษ์เดี๋ยวสิ ศรไม่ไป” เธอขัดขืนแต่สู้แรงพี่ชายไม่ได้
“พี่สิงห์…” ลูกศรหันไปมองหน้าสิงหราชแล้วอ้อนวอนด้วยสายตาขอให้เขาช่วย กระนั้นสิงหราชกลับยืนนิ่ง เขามองเธอเฉยเมย ปล่อยให้ทศกัณฐ์ลากเธอออกไปโดยไม่แม้แต่จะพูดหรือทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
“เลิกยุ่งกับมันซะ!” ประโยคแรกที่ทศกัณฐ์คุยกับน้องสาวทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องพักของลูกศรเข้ามาแล้วมือหนาก็ปิดประตูดังลั่น
ปึ้ง!
เสียงปิดประตูห้องและเสียงประกาศกร้าวของทศกัณฐ์ดังสนั่นจนคนทั้งชั้นต้องเปิดประตูมามองอย่างสนใจ ถึงจะไม่ได้เห็นเจ้าของเสียงที่อยู่ในห้องพักที่ปล่อยว่างทิ้งร้างไว้มาหลายเดือน แต่ฟังจากเสียงก็พอจะคาดเดาได้ว่ามีความเดือดดาลระดับไหน
“พี่ยักษ์ไม่มีเหตุผล!” ยังไม่รู้เรื่องราวเลยว่ามันเป็นมายังไงพี่ชายเธอกับเขาไม่ถูกกันเพราะเรื่องอะไร แล้วจะมาบังคับให้เธอเลิกกันโดยไม่บอกไม่อธิบายอะไรเลยมันไม่ได้
“เหตุผลคือมันเหี้ย เข้าใจไหม เลิกยุ่งกับมันซะ!” ทศกัณฐ์ไม่ถามว่าทั้งคู่ไปรู้จักกันได้อย่างไร นานแค่ไหนและความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนกันแล้วเพราะไม่อยากเจ็บใจไปมากกว่านี้ ลำพังแค่ได้ยินที่สิงหราชพูดว่าลูกศรเต็มใจให้มันย่ำยี
ดูจากอาการน้องสาวเขารักมันอย่างกับอะไรดีก็หัวร้อนจะตายห่าอยู่แล้ว!
“ไม่ค่ะ ศรไม่รู้หรอกนะว่าพี่จะเคยทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่พี่จะมากีดกันความรักของศรไม่ได้ อย่าหัวโบราณไปหน่อยเลยพี่ยักษ์ แล้วไอ้ที่พี่บอกว่าพี่สิงห์เหี้ยอันนี้ศรขอผ่านนะคะ เพราะว่าเกือบสองปีที่ผ่านมาพี่สิงห์ไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดีกับศรเลย” เขาแสนดีกับเธอมาเสมอตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน เอาอกเอาใจทุกอย่าง ไม่เคยพูดจาหยาบคายใส่ ไม่ทำร้ายจิตใจหรือร่างกายและยังไม่เคยนอกใจเลยสักครั้ง
“ศร!” เห็นน้องสาวหัวรั้นเถียงฉอด ๆ เข้าข้างคนอย่างไอ้สิงหราชแล้วนึกอยากหาไม้เรียวมาฟาดให้ก้นลายเสียจริง เป็นครั้งแรกที่ลูกศรดื้อรั้นขนาดนี้
“เห็นควยดีกว่าพี่รึไงวะ!”
“พี่ยักษ์ใจร้าย! ไม่มีเหตุผล เอาแต่ใจ! ศรไม่สนใจพี่ยักษ์แล้ว!” คำหยาบคายจากปากพี่ชายที่แสนดีทำลูกศรกลั้นน้ำตายเอาไว้ไม่ได้ เธอคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องแต่โดนทศกัณฐ์รั้งแขนเรียวเอาไว้
“แกจะไปไหน!”
@หนึ่งปีถัดมา..“เฮ้ออ..”ริมฝีปากหนาได้แต่ปล่อยลมออกมาพรูใหญ่พร้อมทั้งถอนหายใจแบบโล่งอกประหนึ่งยกภูเขาออกจากอกไปได้ก้อนใหญ่“เป็นอะไรคะ? เหนื่อยมากเหรอหมี่นวดให้นะ”หญิงสาวเอ่ยถามสามีทันทีที่ได้ยินเขาถอนหายใจวันนี้แขกเยอะมากกว่าจะพักได้เธอก็แทบตายเหมือนกัน“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะ พี่แค่โล่งใจน่ะ”“เรื่องอะไรเหรอคะ?”“ก็ที่สุดท้ายแล้วเราก็ได้แต่งงานกันสักทียังไงล่ะคะ ถ้าวันนั้นหมี่ไม่ตกลง ยัยหงส์มันจะตัดหน้าแต่งก่อนอยู่แล้ว”เขาพูดขึ้นในตอนนี้ที่ทั้งคู่ถูกส่งตัวเขาหอเป็นที่เรียบร้อย และใช่ วันนี้ก็คือวันแต่งงานที่นายหัวหนุ่มเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แล้วสุดท้ายเขาก็ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการเสียที“ความจริงถึงพี่หงส์จะแต่งก่อนก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่คะ คู่เราค่อยแต่งปีหน้าเอาก็ได้”“ไม่ได้!” มังกรเอ่ยค้านอย่างลืมตัวว่ายังไงก็ได้แต่งไปแล้วเหตุผลหลักไม่ใช่อะไร เขาแค่อยากแต่งกับเธอให้ไวจะได้ประกาศตัวสักทีว่าเขาเป็นสามีเธออย่างเป็นทางการแล้วทั้งทางประเพณี นิตินัยและพฤตินัย ไอ้พวกแมลงหวี่แมลงวันที่คอยมาตามตอมเธอไม่เว้นแต่ละวันมันจะได้ยอมถอยห่างออกไปเสียที ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่ปรานีแล้วนะอีก
เมื่องานเลี้ยงเลิกรามังกรกอดประคองมัดหมี่ขึ้นรถมาหมายจะพากลับบ้าน แต่ก็ยังไม่วายถามเธออย่างเอาใจใส่ไม่กล้าตัดสินใจเองสักเท่าไหร่เพราะวันนี้เขารับปากแล้วว่าจะตามใจเธอ ขืนแม่คุณยังไม่อยากกลับเดี๋ยวได้อาละวาดเข้าให้ เพราะเวลาเมาก็ขี้โวยวายเอาเรื่องใช้ได้เลยเหมือนกัน“เมาแล้วนะเราน่ะ จะกลับกันเลยไหม?”“ไม่อาววว~ ยังไม่อยากกลับ เบื่อไร่อ่าาาา~” นาน ๆ ทีจะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้เธอไม่รู้จะรีบกลับไปทำไม“ผับปิดแล้วนะ แล้วอยากไปไหน..” หากอยากขับรถเที่ยวเล่น กินลมชมวิวเขาก็จะพาไป“..ไปชายทะเลกันไหม?”มังกรเสนอเพราะสมัยเรียนมหาวิทยาลัยพอเมาทีไรก็พากันไปอ้วกที่ทะเลทุกที เวลากลางคืนแบบนี้ได้นั่งฟังเสียงคลื่นก็รู้สึกผ่อนคลายดีเหมือนกัน“มันไกล~” พูดเสียงหวานพลางซบไหล่หนาเอาไว้ รู้สึกหนักหัว ทรงตัวนั่งเองไม่ค่อยจะไหว กลายเป็นตอนนี้มัดหมี่อยู่ในท่าทางที่เหมือนกำลังออดอ้อนคนตัวโตไปโดยปริยาย มังกรเหลือบมามองความน่ารักของเธอแล้วหันไปขับรถเรื่อย ๆ รอเธอตัดสินใจ“แล้วหนูอยากไปไหน?” ใช้มือที่ว่างโอบไหล่บางเอาไว้เอ่ยถามเสียงละมุนใส่ แล้วขับรถด้วยมือเพียงข้างเดียว“ไปกินข้าว”“โอเคครับ ข้าวต้มไหม?” วันนี้จะยัง
หลังวันสุดท้ายของการฝึกงานมัดหมี่ไปฉลองกับเพื่อนอย่างที่เคยนัดกันไว้เมื่อห้าเดือนก่อนหน้า คราวนี้เธอพลาดไม่ได้เพราะคราวก่อนเริ่มฝึกงานเธอไม่ได้มาในไลน์กลุ่มโดนเพื่อนรุมกดดัน จากที่กลัวสามีว่าตอนนี้กลัวเพื่อนเลิกคบเสียมากกว่าเพราะจะจบกันแล้ว นอกจากวันพรีเซนต์จบและรับปริญญาก็ไม่รู้จะได้เจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกตอนไหนเพราะต่างคนต่างก็ต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่และมีชีวิตเป็นของตัวเองแล้ว ตอนขอนายหัวหนุ่มก็แอบกลัวเขาว่า แต่ตรงกันข้ามเขากลับอนุญาตเสียง่าย ๆ แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะต้องไปด้วยแล้วเธอเองก็ต้องอยู่กับเขา นั่งกับเขา จะดื่มจะเมาก็ต้องอยู่ในสายตาเขาไม่ห่างไปไหน ส่วนมัดหมี่จะไปมีสิทธิคัดค้านอะไรได้ ตั้งแต่คืนนั้นเขาก็แทบจะสิงร่างเธอไม่ยอมให้ห่างไปไหนเว้นเวลาทำงาน เมื่อเดินทางมาถึงคลับหรูเพื่อนหลายคนที่เพิ่งรู้ว่าเธอมีคนรักแล้วก็แซวกันยกใหญ่ “มัดหมี่ แกไปตกพี่เขามาได้ยังไง โคตรหล่อเลย”“นั่นสิหมี่ คิดว่าจะจำศีลเป็นแม่ชี ชีวิตนี้คิดว่าเพื่อนจะไม่มีหลัวซะแล้ว”เสียงบรรดาเพื่อน ๆ พากันกระซิบกระซาบเอ่ยแซวในตอนที่มังกรขอตัวไปหาใครบางคน โดยไม่วายเอ่ยสั่งคนรักเอ
“พี่กรขา ใส่เข้ามาในตัวหมี่ทีนะ หมี่ไม่ไหวแล้ว อ๊า..”ทันทีที่เธอเรียกร้องออกมา มังกรร้ายก็ยกยิ้มพอใจเต็มใบหน้าและไม่รอช้าอีกต่อไป เขาทาบทับเธอเอาไว้ใช้มือหนาสองข้างรองใต้ท้ายทอยก่อนจะกดลำกายเข้าไปรวดเดียว ทั้งเขาและเธอครางเสียวอย่างลืมอายเอวสอบขยับไหวอย่างหนักแน่นร้อนแรงและเอาแต่ใจจนร่างบอบบางสะท้านไหวโยกคลอนไปตามแรงกระแทกอยู่อย่างนั้น มือเรียวสะเปะสะปะเพราะความเสียวซ่านเธอไม่รู้จะเอามันไปวางตรงไหน“กอดพี่แน่น ๆ นะคนดี ถ้าเสียวมากก็ข่วนได้”เขาออกคำสั่งก่อนจะจับแขนสองข้างของเธอมาโอบรอบคอเขา แล้วให้เธอใช้ขาเกี่ยวเอวสอบไว้ เมื่อทุกอย่างเข้าที่วินาทีถัดไปเขาหยัดกายลุกขึ้นยืน มัดไม่ทันตั้งตัวจึงหวีดร้อง“อ๊า!” ทุกการขยับไหวของเขาทำเอาเธอเสียวถึงแกนสมอง ที่ร้องไม่ใช่กลัวแต่เป็นเพราะตัวเขาของเขาเข้าไปลึกสุดใจ เขาอุ้มเธอขึ้นแล้วยืนเอาไว้ ก่อนจะขยับกายสอนบทเรียนเธอในท่าใหม่ ๆ ส่วนคนหัวไวก็รู้งานดี เธอสนองเขาอย่างเร่าร้อนไม่ต่างกัน ปากอิ่มเป็นฝ่ายประกบจูบเขา ลิ้นเล็กหยอกล้อลิ้นสากอย่างเร่าร้อนเพราะอารมณ์กระสันที่พลุ่งพล่านเสียงครางเสียวสลับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่น ยิ่งได้ยินเสียงลามกแ
เย็นวันนั้นมังกรขอให้พ่อตาและว่าที่ภรรยากลับมาทานข้าวด้วยกันที่บ้านเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออยากให้พ่อหญิงสาวย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหญ่ด้วย แต่ท่านปฏิเสธบอกว่า..“พ่อขออยู่บ้านหลังเดิมดีกว่านะ จะสะดวกใจกว่า ที่สำคัญบ้านใหญ่ไม่มีห้องนอนชั้นล่าง พ่อขึ้นบันไดไม่ไหว ข้อเข่ามันไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ แก่แล้ว”“ถ้างั้นหมี่ขอกลับไปอยู่กับพ่อที่บ้านหลังเดิมนะคะ หมี่จะได้ดูแลพ่อด้วยค่ะ” มัดหมี่พูดออกมาแต่ผู้เป็นพ่อร้องห้ามบอกว่าให้เธออยู่กับนายหัวน่ะดีแล้วเขาเองก็จะได้สบายใจ เขาเชื่อว่ามังกรสามารถที่จะรักและดูแลมัดหมี่ได้ ดูจากความจริงใจที่ชายหนุ่มเฝ้ารอลูกสาวเขามาได้ตั้งหลายปีมังกรเคยสารภาพกับเขาว่ารักมัดหมี่มาเกือบสิบปีแล้ว ส่วนความรู้สึกดีก็มีมาตั้งแต่เห็นมัดหมี่ตั้งแต่แรกเห็น เวลาหลายปีที่ผ่านมาก็พอจะพิสูจน์ได้ มังกรไม่เคยคบผู้หญิงคนไหน เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในไร่เฝ้ามัดหมี่จบมื้ออาหารผู้เป็นพ่อก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ทั้งคู่จึงขึ้นไปบนห้องนอนชั้นบนของบ้าน เขาให้หญิงสาวเข้าไปอาบน้ำก่อนส่วนตัวเองนั้นขอไปเคลียร์เอกสารที่ห้องทำงานกลับเข้ามาอีกทีก็เห็นมัดหมี่ยังไม่นอน“ทำไมยังไม่นอน รอพี่เหรอ?”ร่างสูงกำ
“แต่ฝึกงานอีกสองเดือนเราก็จบแล้วนะ” มังกรว่า“นั่นแหละค่ะ ยังแต่งไม่ได้ หมี่ฝึกงานแล้วจะลามาแต่งได้ยังไง น่าเกลียดตายเลย”“เรื่องนั้นไม่เป็นไร พี่คุยกับพี่เสือกับน้องเพียวให้ได้”“ไม่ได้ค่ะ หมี่ขอเรียนจบจริง ๆ แล้วรับปริญญาก่อนนะคะ เรื่องแต่งงานค่อยมาว่ากัน”“ได้ไง นานเกินพี่รอไม่ไหวหรอกนะ”“หมี่ไม่ได้ขอให้รอนี่คะ ต่อให้เรียนจบหมี่ก็คิดว่ามันยังไวไปด้วยซ้ำ หมี่อยากทำงานและใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนค่ะ ยังไม่อยากแต่ง” มัดหมี่พูดจากใจ เพราะที่ผ่านมาเธอเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนและช่วยงานในไร่ แทบไม่ได้ออกไปไหนเลยเวเนสซ่าและวาคิมยิ้มอย่างพึงพอใจในความคิดความอ่านของว่าที่ลูกสะใภ้ เห็นเป็นเด็กสาวใส ๆ แต่เธอก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อย่างน้อยก็ยังมีความคิดความอ่านไม่ได้หวังจะจับลูกชายแล้วคิดจะอยู่สุขสบายงอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลย ต่างจากลูกชายที่หน้านิ่วคิ้วผูกโบว์อย่างไม่ชอบใจ“ไม่แต่งไม่ได้ เธอได้พี่แล้วนะ จะทิ้งกันแบบนี้ได้ยังไง”“ไอ้กร ใจเย็น” วาคิมรีบปรามเมื่อเห็นพ่อของหญิงสาวเริ่มกัดกรามแน่น มังกรหันไปขอโทษพ่อตาแล้วยืนยันว่าตนอยากแต่ง ดีที่พ่อหญิงสาวไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไรอย่างน้อยเขาก็ไว้ใจมังกรได้







