เข้าสู่ระบบตอนที่ 17 อดีตฝังใจ
#มุก
ย้อนไปเมื่อสามปีที่แล้ว
ลานนั่งเล่นริมแม่น้ำ
วันนี้เลิกเรียนเร็ว ฉันยังไม่อยากกลับบ้านเลยเดินเลาะจากโรงเรียนมาเรื่อยๆ จนถึงที่แห่งนี้ มันเป็นลานกว้างและอยู่ติดแม่น้ำ ผู้คนบ้างก็นั่งเล่นบ้างก็พากันเดินชมวิวทิวทัศน์
ฉันเลือกโซนที่มันสงบที่สุดและไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน นั่งลงแล้วหยิบตุ๊กตาหมีที่เพิ่งซื้อมาแกะออกจากกล่อง
“ว้าว สีรุ้งด้วย ตัวนี้หายากมาก” พูดคนเดียวแล้วยกยิ้มเมื่อได้ตุ๊กตาสีที่หายาก
“นี่มันยัยหน้าสิวนี่หว่า”
“เออว่ะ”
เสียงผู้ชายดังขึ้น และฉันจำได้ดีว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นใคร มันคือเพื่อนร่วมห้องเรียน และสองคนนี้มักจะชอบบูลลี่กับกลั่นแกล้งฉันเป็นประจำ
โลกมันจะกลมอะไรขนาดนี้นะ
“นี่ยัยสิว เอาการบ้านไปทำให้หน่อยดิ”
“เออ ทำให้ด้วย”
“…” ฉันทำเมินไม่ได้ยิน
“ไม่ได้ยินเหรอวะ” ไอ้นั่นมันพูดพร้อมโยนสมุดการบ้านใส่ศีรษะฉัน “ทำให้ด้วยนะเว้ย และต้องเสร็จภายในสิบนาที”
“ไม่ทำ” ฉันปฏิเสธพวกมันแล้วเก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋านักเรียนก่อนจะลุกยืน
“กล้าปฏิเสธเหรอวะ!”
“อีหน้าสิวนี่!”
“…” ฉันเดินหนีออกมา
ทว่าไอ้สองคนนั้นก็ดันเดินตามมารังควานไม่เลิก พวกมันดึงตัวฉันไว้แล้วสาดน้ำใส่หน้า “ล้างหน้าขี้เหร่ๆ ของเธอหน่อย ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะร่าด้วยความสะใจ
ฉันขี้เหร่แล้วมันยังไง?
หน้าสิวแล้วมันทำไม?!
โอ๊ย!
เสียงร้องโอดโอยดังขึ้น ฉันเช็ดน้ำที่เปื้อนตาทั้งสองข้างออก เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังจับข้อมือของไอ้สองคนนั้นไว้
“เจ็บนะโว้ย”
“ปล่อยดิวะ”
“กล้าดียังไงมารังแกคนที่ไม่มีทางสู้!”
“แล้วพี่มายุ่งไรด้วยอะ”
“เออนั่นดิ”
“ก็ทนดูไม่ได้ไง อีกอย่างหน้าตาพวกมึงดีนักเหรอถึงได้มาบูลลี่คนอื่นเขาแบบนี้ ดูดิ ตาพวกมึงยังไม่เท่ากันเลย แถมเบ้าหน้าอย่างกับสันเขื่อน!” พี่เขาบูลลี่ไอ้สองคนนี้บ้างพลางปล่อยข้อมือพวกมันออก “ขอโทษน้องผู้หญิงคนนี้ซะ”
“ไม่อะ”
“กูกระทืบพวกมึงนะ”
“ไม่กลัวหรอก”
“มึงมองไปนู่นดิ เห็นพวกชุดดำนั่นมั้ย ลูกน้องกูนะ กระดิกนิ้วนิดเดียวพวกมันก็กรูกันมากระทืบมึงสองคนจนอ่วมได้เลย”
ฉันหันไปมองตาม มีผู้ชายใส่ดำยืนจับกลุ่มอยู่เป็นสิบๆ คนตามที่พี่เขาบอก
“กะ โกหก ผมไม่เชื่อหรอก”
“ลองดูเปล่า กูไม่เคยพูดเล่น”
“เออ ขะ ขอโทษก็ได้”
พี่เขาพาไอ้สองคนมันเข้ามาใกล้ๆ ฉันแล้วล็อกต้นคอไว้ “ขอโทษเธอซะ”
“ขอโทษ”
“ขอโทษนะ”
“…” ฉันเงียบ มองดูสีหน้าหวาดกลัวของสองคนนั้นพลางแอบสะใจลึกๆ
“ต่อไปนี้อย่าให้เห็นว่าพวกมึงทำอะไรเธออีกนะ ถ้ากูรู้ กูเอามึงสองคนพิการ หรือมากสุดก็ตาย!”
“เข้าใจ”
“เข้าใจครับพี่”
“ไป ไสหัวไปเลย ไอ้ทุเรศ เด็กกระโปก!”
สองคนนั้นมันวิ่งแจ้นหายไปทันที ก็นึกว่าจะแน่ ที่แท้มันก็เก่งแค่กับคนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น
“อะ เช็ดหน้าซะ” พี่เขายื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้
“ขอบคุณค่ะ” ยกมือไหว้แล้วรับมันมา ฉันจัดการเช็ดหยดน้ำออกจากใบหน้าจนแห้ง
“ทำไมไม่สู้”
“สู้ไปก็โดนแกล้งอยู่ดีค่ะพี่ สองคนนี้เรียนอยู่ห้องเดียวกับหนู พวกมันสองคนแกล้งหนูจนเป็นการอดิเรกกันแล้วค่ะ”
“แต่อย่างน้อยก็ควรสู้สิ ถึงแพ้ก็สู้ก่อน”
“…” นี่พี่เขาจะให้ฉันไปต่อยกับสองคนนั้นเหรอ?
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่ไม่ได้จะให้ไปตบตี แต่อยากให้น้องด่ามันกลับหรือบูลลี่มันกลับบ้าง”
“อ๋อ ไม่ดีกว่าค่ะ ทนไป อีกปีเดียวก็จะจบมอหกแล้ว คงไม่ได้เจอพวกนั้นอีกแล้วล่ะค่ะ” ทนไปก่อน เพราะยังไงฉันก็ทนมาตลอดอยู่แล้ว
“คนอื่นล่ะ โลกมันกว้างนะ น้องต้องหัดปกป้องตัวเอง ใครว่ามาเราก็ว่ากลับ ไม่ใช่คนไม่สวย หน้าสิว อ้วน ดำ ขี้เหร่จะไม่สิทธิ์ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันหมดนะ”
พี่เขาดูหล่อทั้งหน้าตาและคำพูดเลยแฮะ และเขาไม่มีท่าทีรังเกียจฉันเหมือนคนอื่นๆ
“ขอบคุณพี่มากนะคะ”
“อื้ม ว่าแต่เราอายุเท่าไหร่?”
“สิบเจ็ดปีค่ะ”
“เท่ากับตอนนี้เรียนอยู่มอห้า?”
“ใช่ค่ะ แล้วพี่ล่ะคะ”
“หมายถึงอายุเหรอ?”
“…” ฉันพยักหน้า
“สามสิบสอง”
“โฮ” นี่เขาไม่น่าจะใช่รุ่นพี่แล้ว รุ่นน้าแล้วนะ
“เรียกพี่อะแหละ ถึงอายุแก่แต่หน้าตาพี่ไม่แก่” พี่เขาพูดดักทางฉันทันที
“ค่ะ”
“ชื่ออะไร พี่ชื่อเตย์”
“ชื่อมุกค่ะ พี่เตย์”
“ชื่อมุก ชื่อนี้ก็น่ารักดีนะ”
“ขอบคุณค่ะ” ชมแบบนี้ฉันก็เขินน่ะสิ
วันถัดมา
ลานนั่งเล่น
หลังจากเมื่อวานฉันได้เจอพี่เตย์ ฉันก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังเจอกับรักแรกพบ หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
และวันนี้พอเลิกเรียนปุ๊บฉันก็รีบมาที่ลานนั่งเล่นแห่งเดิม เพราะหวังจะได้เจอพี่เขา
เดินวนไปวนมาแล้วคอยชะเง้อมอง ในมือก็ถือกล่องตุ๊กตาหมีไว้ ฉันตั้งใจไว้ว่าจะเอามาให้พี่เตย์แทนคำขอบคุณ
เกือบสองชั่วโมงที่ฉันรอเจอพี่เขา แต่ก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้านแล้วด้วย นั่งยองๆ เก็บของลงกระเป๋านักเรียนอย่างห่อเหี่ยวใจ สีหน้าแสดงความผิดหวังออกมา
“ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”
“พี่เตย์” ฉันดีใจจนออกหน้าออกตา
“อืม มาที่นี่ทุกวันเหรอเรา ทำไมก่อนหน้าพี่ไม่เคยเห็น เพราะพี่มาที่นี่บ่อย”
“เมื่อก่อนไม่ค่ะ แต่ว่าหลังจากนี้คงจะมาทุกวัน”
เพราะจะมาดูหน้าของพี่เตย์ไง
เขินจัง~
“อื้ม”
“เอ่อ ไม่รู้พี่จะชอบมั้ย แต่มุกอยากให้แทนคำขอบคุณที่ช่วยไว้เมื่อวานค่ะ” ฉันหยิบกล่องตุ๊กตาออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้คนพี่
“ตุ๊กตาเหรอ?” พี่เตย์ดูประหลาดใจแต่เขาก็รับมันไว้ “พี่ไม่เคยเล่นตุ๊กตาเลยนะเนี่ย”
“ไม่ต้องเล่นก็ได้ค่ะ เอาไปตั้งวางโชว์เฉยๆ ก็ได้”
“โอเค ขอบใจนะ” พี่เขาวางมือลงบนผมฉันแล้วขยี้เบาๆ ก่อนจะเอามือออก
“ค่ะ” ฉันยิ้มดีใจ หลังจากวันนี้ไปจะไม่สระผมเด็ดขาด! ฉันจะเก็บรอยมือของพี่เตย์เอาไว้บนผมแบบนั้น
ใจฟู~
วันที่สอง…
ฉันเจอกับพี่เตย์อีกแล้ว วันนี้เราสองคนนั่งพูดคุยกันถึงเรื่องการเรียน พี่เขาก็แนะนำและให้ความรู้ฉันมากพอสมควร
วันที่สาม…
เราเจอกันอีกครั้ง และทำความรู้จักมากขึ้น
วันที่สี่…
เราสองคนเริ่มคุยกันถูกคอ หัวเราะ ยิ้มแย้มให้กันมากกว่าเดิม
วันที่ห้า…
ฉันและพี่เตย์นั่งกินข้าวด้วยกันที่ลานนั่งเล่น
สองอาทิตย์ผ่านมา…
เราทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้น มีนัดมาเจอกันบ่อยๆ
สามอาทิตย์ผ่านไป…
ความสัมพันธ์เรามันเริ่มไม่ใช่แค่พี่กับน้อง ฉันรู้สึกว่ามันลงลึกไปกว่านั้น
สี่อาทิตย์ต่อมา…
เราเจอกันทุกวัน โทร.หากัน กินข้าวด้วยกันวันละมื้อ และก็จบที่มานั่งเล่นด้วยกันในสถานที่เดิม
และตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนกับอีกสิบห้าวันที่ฉันกับพี่เตย์รู้จักกัน ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันข้ามขั้นคำว่าพี่น้องแต่ยังไม่ถึงแฟน เพราะต่างคนต่างไม่มีใครเอ่ยปากขอคบ
“พี่เตย์” ฉันเดินไปหาคนพี่เตย์ที่ยืนหันหลังดูแม่น้ำอยู่อย่างเพลิดเพลิน
“ว่าไง” พี่เตย์หันมาแล้วมองฉัน แต่ว่าวันนี้สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยสดใสเลย
“คือมุกมีอะไรจะบอกค่ะ”
“อะไรเหรอ?”
“เรามาเป็นแฟนกันมั้ยคะ”
“เป็นแฟน…”
“ค่ะ มุกคิดว่าเราต่างคนก็ต่างก็มีความรู้สึกดีดีให้กัน ดังนั้นเรามาคบหากันดูมั้ยคะ ถึงมุกจะหน้าสิวหน้าไม่สวยแต่มุกนิสัยไม่แย่นะคะ” ฉันมั่นใจว่าตัวเองนิสัยดีระดับหนึ่ง เพราะพี่มินผู้เป็นพี่ชายอบรมสั่งสอนมาอย่างดี
“…” พี่เตย์เงียบ
“…” ฉันก็เริ่มใจคอไม่ดี แต่ยังยิ้มสู้
“พี่ไม่เคยบอกว่ามีใจให้เรานะ”
“คะ คือ…?”
“หยุดมโนได้แล้ว ฉันไม่ได้ชอบเธอ หน้าแบบนี้ใครจะชอบลง”
“…” ทันทีที่ฉันได้ยินพี่เตย์พูดแบบนั้นใจก็แตกสลายในทันที มือสั่นปากสั่นทำอะไรไม่ถูก น้ำตาเริ่มเอ่อมาคลอเบ้า
“เอาเวลาไปตั้งใจเรียนเถอะ” เขาปิดบทสนทนาด้วยการเดินจากไปแบบไร้เยื่อใย
ฉันไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะตั้งคำถามว่าทำไม เพราะอะไร มีเหตุผลอะไร และที่ผ่านมาคืออะไร?
เล่นกับความรู้สึกคนมันสนุกมากเหรอ
ฮือๆ
ฉันยืนร้องไห้อย่างไม่อายคน ตอนนี้มันเจ็บที่ใจมากๆ เจ็บสุดๆ
ตอนพิเศษหลายปีต่อมานั่งตรวจเอกสารอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวภายในบ้าน เมียก็สอนการบ้านให้ลูกสาวคนเล็กอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ส่วนไอ้ลูกคนโตมันนั่งหัวโด่เร้าหรือจะเอาของบางอย่างจากผู้เป็นพ่ออย่างผม“พ่อ...”“เรียกอะไรนักหนาฮะ” เรียกผมแบบนี้มาจะได้ชั่วโมงแล้วมั้ง“ผมก็เรียกจนกว่าพ่อจะยอมให้บัตรวีไอพีนั่น” ลูกชายนั่งกดดันตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะเลิกกวน“แล้วแกจะเอาไปทำอะไร มันไม่ใช่ของที่เด็กจะครอบครองได้” บัตรนี้มันมีค่ามหาศาล ขืนผมให้ลูกไปมันก็คงจะรักษาของไม่ได้ด้วยอายุเท่านี้ ความรับผิดชอบยังไม่มากพอ“ผมอายุสิบแปดแล้วนะพ่อ ไม่เด็กแล้ว”“ตราบใดถ้ายังไม่บรรลุนิติภาวะก็ยังเด็กอยู่”“พ่อครับ…”“ตุลย์ พ่อจะทำงาน”“ผมอยากได้บัตรวีไอพี”“ตอนนี้พ่อยังให้แกไม่ได้ ช่วยเข้าใจหน่อย”“แต่ทำไมพ่อให้แม่ได้ล่ะ”“เอ้า ก็นั่นเมียฉันนะเว้ย ให้เมียแล้วมันผิดตรงไหน”“แต่นี่ก็ลูกนะพ่อ ให้ลูกมันผิดตรงไหนอะ”เฮ้อ… ผมล่ะเหนื่อยที่จะต้องมานั่งต่อล้อต่อเถียงกับลูกชายหัวดื้อคนนี้จริงๆ มันขี้ตื๊อเหมือนใครวะ? อ๋อ เหมือนพ่อมันเอง เหมือนเปี๊ยบ! “เอางี้นะ ถ้าแกอายุครบยี่สิบปีเมื่อไหร่พ่อจะยกบัตรให้เลย ”“โ
ตอนที่ 30 ครอบครัวที่สมบูรณ์เก้าตุลาคมเป็นวันคล้ายวันเกิดของผม วันนี้อายุครบสามสิบหกปีเต็ม และก็ถือว่าเป็นวันดีอีกวันหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งลูกชายของผมได้ถือกำเนิดในวันเดียวกัน‘เด็กชายตุลย์ นันทพิวัฒน์’ เกิดวันที่เก้าตุลาคม น้ำหนักสามพันห้าร้อยกรัม หรือง่ายๆ คือสามโลห้าตามภาษาชาวบ้านหน้าตาลูกชายมาทางผมหมด เหมือนถอดแบบกันออกมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งดวงตาและสีลูกตาคือเป๊ะมากลูกพ่อของแท้แทบไม่ต้องสืบ“โอ๊ย น่าเกลียดน่าชังจังเลยเว้ยหลานปู่เนี่ย” พ่อผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วอุ้มหลานไว้ในอ้อมอกอย่างระมัดระวัง“หน้าไม่ได้มุกเลยอะ ไปทางนายหมดเลยนะครับ” มินมันพูดแล้วช่วยพ่อผมประคองตัวหลานไปด้วย“หล่อแต่เด็กเลยลูก” โรสเองก็เอ่ยชมแล้วยกยิ้มส่วนมุกนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงคนไข้ซึ่งมีผมดูแลอยู่ไม่ห่าง เธอเลือกคลอดแบบธรรมชาติ เห็นบอกว่าเจ็บมาก เบ่งหลายทีกว่าลูกจะออกมาเนื่องจากเด็กค่อนข้างตัวใหญ่“เจ็บมากมั้ยคะที่รัก” ผมถามพร้อมลูบศีรษะเธอด้วยความอ่อนโยน “เจ็บแต่ทนได้ค่ะ” มุกดูเหนื่อยล้าแต่ก็ยังมีรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของเธอ “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่คลอดลูกของเราออกมาพี่รักหนูมากๆ” โน้ม
ตอนที่ 29 เพื่อเมีย [18+]#เตย์หลายเดือนต่อมาหลังจากหาหมอตรวจครรภ์เสร็จก็กำลังขับรถกลับบ้าน ทว่าเมียผมดันเกิดอารมณ์ใคร่ เธอสั่งให้ผมหาที่จอดรถในบริเวณเปลี่ยวๆ ทันทีพักหลังมานี้มุกมีความต้องการเยอะมาก ยิ่งท้องใกล้คลอดเธอยิ่งต้องการเซ็กซ์มากขึ้นส่วนผมน่ะเหรอ… “มะ มุกคะ เบาๆ หน่อยค่ะ”“หุบปากเลย”“…” ผมก็ต้องเงียบปากตามที่เมียสั่งรถคันหรูที่จอดหลบอยู่ข้างทางโยกเยกไปมาตามแรงสวาทที่คนเป็นเมียใส่มาไม่ยั้ง เธอกำลังถาโถมขย่มใส่ท่อนเนื้อแบบดุเดือด คนตัวเล็กบดเอวร่อนขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะเหมือนกับคนช่ำชองก็น่าจะช่ำชองแหละ อาทิตย์นึงจับผัวขย่มไปแล้วหกวัน อวัยวะสืบพันธุ์จะหักแหล่ไม่หักแหล่เมื่อก่อนผมบ้ากาม แต่เดี๋ยวนี้เมียบ้าแทน~ปัก!“อ๊า~”เสียงเนื้อกระทบกันบวกกับเสียงร้องครวญครางดังระงมอยู่ภายในรถ ผมสวนกระแทกเอวใส่กลับแบบไม่ยั้งเช่นกัน“อ่า~ พะ...พี่จะแตกแล้วค่ะที่รัก”“มุกก็จะ…เสร็จแล้ว”คนเป็นเมียขย่มแรงและถี่กว่าเดิมเมื่อรู้สึกว่าตัวเธอเองกำลังจะถึงจุดสุดยอดกึก!เสียงเข้มคำรามก่อนร่างกำยำกระตุกเกร็งเล็กน้อย มือใหญ่กดเอวคอดไว้แน่นก่อนจะปล่อยน้ำกามพุ่งเข้าสู่ร่างกาย
ตอนที่ 28 ต้องการคุณ“มุกใจเย็นๆ”“…”“มุก…”“…” ฉันดึงสติกลับมาแล้วมองคนตรงหน้า ตอนนี้คุณเตย์ยังมีชีวิตอยู่ ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ ร่างกายของเขาก็ไม่พบร่องรอยการถูกยิง เลือดแม้แต่หยดเดียวก็ไม่มีที่ตัวเขาแล้วเสียงปืนที่ดังสองนัดเมื้อกี้ล่ะ?“พี่ไม่เป็นไรค่ะ” เขาบอกพลางเช็ดหยดน้ำตาให้ฉันด้วยความอ่อนโยน” “พี่ยังอยู่นะ”“แล้วเสียงปืน…”“พี่จัดการเรียบร้อยแล้วน่ะ” เสียงพี่ชายฉันดังแทรกขึ้น พี่มินเดินเข้ามาหาฉันแล้วลูบศีรษะปลอบประโลม “ไม่เป็นอะไรแล้ว ปลอดภัยดีใช่มั้ย เจ็บตรงไหนหรือเปล่าน้องสาวของพี่”“มุกไม่เป็นอะไร แล้วพี่นิว…” ฉันเบนสายตาไปมองพี่นิวที่ตอนนี้นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด“ไม่ต้องห่วง มันไม่ถึงตายหรอก แค่สาหัส” พี่มินพูดพลางคลี่ยิ้ม สีหน้าพี่ชายดูไม่ตื่นตกใจเท่าไหร่“…”แค่สาหัส?!มันก็เกือบถึงตายแล้วนะนั่น“ขอบใจมึงมากไอ้มิน ถ้ามึงมาช้าอีกนิดกูคงโดนยิงสมองกระจาย”“ไม่เป็นไรครับนาย ว่าแต่จะให้ผมจัดการกับไอ้นี่ยังไงดี”“เรียกรถพยาบาลและตำรวจมาก็พอ ที่เหลือให้ว่าไปตามกฎหมายละกัน กูไม่อยากมือเปื้อนเลือดอีก” คุณเตย์บอกในขณะที่โอบกอดฉันไว้“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้น
ตอนที่ 27 ถือว่าขออาทิตย์ถัดมาบ้านพี่มินเช้านี้ฉันเก็บทำความสะอาดภายในชั้นล่างของบ้าน ไม่ได้อยู่อาทิตย์กว่าบ้านค่อนข้างรก ส่วนคุณเตย์กับพี่มินออกไปทำงานตั้งแต่เมื่อวานเย็นจนป่านนี้ยังไม่กลับ แต่ว่าก็ยังติดต่อทั้งคู่ได้อยู่เลยไม่มีอะไรให้กังวลใจไลน์~เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ฉันทิ้งไม้กวาดแล้วรีบกดดูข้อความทันที@Tay : พี่กำลังกลับค่ะ@Tay : น้องมุกอยากได้อะไรมั้ย?@Muk : ไม่เอาอะไรค่ะ ขับรถดีดีนะคะ@Tay : อีกประมาณสิบห้านาทีถึงค่ะ@Tay : คิดถึงมาก อยากกอดแล้ว@Muk : (ส่งสติ๊กเกอร์โอเค)ฉันปิดจบบทสนทนาแล้วมาทำความสะอาดต่อ ในขณะที่วุ่นวายอยู่กับการเก็บบ้านจนทำให้ฉันไม่รู้ตัวว่ามีใครบางคนยืนนิ่งจ้องมองอยู่ที่หน้าประตู รู้ตัวอีกทีคือเขาเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าแล้ว“พี่นิว…” เขาเข้ามาได้ยังไง ไม่เรียก ไม่ถาม ไม่ขออนุญาตกันก่อนสักนิด“มอนิ่ง” เขาคลี่ยิ้มที่แฝงอะไรบางอย่างซึ่งมันดูไม่บริสุทธิ์ใจเอาเสียเลย“เข้ามาได้ไงคะ?”“ก็ปืนเข้ามาสิ” เขาตอบแบบไม่อ้อมค้อม “ตกใจอะไรขนาดนั้นเล่า ทำหน้าอย่างกะเห็นผีแน่ะ พี่ไม่ได้น่ากลัวสักหน่อย”“คราวหลังรบกวนขออนุญาตมุกก่อนนะคะ มุกไม่โ
ตอนที่ 26 ว่าที่สามีคนหื่น [18+]ห้องทำงานท่านประธานผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงคุณเตย์ก็ยังไม่กลับมาจากการประชุม ฉันเบื่อๆ เซ็งๆ ไม่มีอะไรจะให้ทำเลยนั่งอยู่บนเก้าอี้แถวโต๊ะทำงานแล้วหมุนไปมาอย่างเชื่องช้าก๊อก ก๊อกจู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น“เข้ามาได้ค่ะ” ฉันเอ่ยอนุญาตแล้วนั่งตัวตรงผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมถือแฟ้มเอกสารในมือ การแต่งตัวเธอดูจัดจ้านและยั่วเย้ายังไงชอบกล“ท่านประธานไม่อยู่เหรอ” เธอเชิดหน้าถามฉันด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง“ไม่อยู่” แล้วทำไมฉันจะต้องยอม ก็เชิดหน้าตอบกลับไปเช่นกัน“ชิ! ทำมาชูคอ เธอมันก็แค่เด็กไต่เต้า”“ไต่เต้าอะไรมิทราบ ฉันไม่ได้เป็นพนักงานของที่นี่”ยัยนี่ต้องเข้าใจอะไรผิด สภาพฉันมันเหมือนพนักงานของบริษัทนี้มากนักหรือไงยะฉันน่ะเหมือนเมียท่านประธานของบริษัทนี้มากกว่าอีก!“อยากจะเลื่อนขั้นมากขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงได้เข้ามารออ่อยท่านถึงที่”“เธอเข้าใจไรผิดปะเนี่ย ฉันก็มากับท่านประธานอะ และเขาให้มาในห้องนี้”ตอนที่คุณเตย์แนะนำฉันแสดงว่ายัยคนนี้ไม่ได้อยู่ณ ตอนนั้น ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เข้าใจอะไรผิดๆ แบบนี้“ตอแหล!”เดี๋ยววววเธอด่าฉันเรอะ หน็







