เกรียงไกรถึงกับอุทานว่าฉิบหายในใจ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจ้านายของเขาติดใจพีอาร์ของร้านนี้อยู่คนหนึ่ง เพราะเคยได้ยินเจ้าของร้านซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องพูดให้ฟัง
ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำไมถึงได้ลืมคิดไปนะ อยากตบกบาลตัวเองสักฉาด
“พี่ว่าเราไปนั่งที่ร้านเดอะกลาสกันดีกว่า กิ๊งอยากไปอยู่ไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มขยิบตาให้คนรักขณะพูด
“ไปสิคะพี่ไกร ไปนั่งอีกร้านดีกว่าน้องเกล ที่นั่นบรรยากาศดี ดนตรีฟังสบายหูกว่าที่นี่เยอะ เน้นดื่มไม่เน้นแดนซ์ เหมาะกับคนมีคลาสแบบเราดี” ลลิตาตอบรับคนรักแล้วหันไปชักชวนหญิงสาวอีกคนด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ตามใจพี่กิ๊งเลยค่ะ เกลยังไงก็ได้”
“โอเคจ้ะ” ลลิตารีบกวักมือเรียกพนักงานให้มาคิดเงินโดยเร็ว เพื่อที่จะออกไปให้พ้นจากร้านอาหารแห่งนี้ เธอไม่รู้เรื่องอะไรหรอก แต่จากคำพูดของตุลฎาและจากท่าทีของคนรัก มันคงจะดีกว่าถ้าออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด…
เนตรดาวกวักมือเรียกพนักงานที่เพิ่งเดินออกมาจากโต๊ะที่ตัวเองเขม่นอยู่ สายตายังมองไปที่หญิงสาวหน้าแฉล้ม ที่จำได้ดีว่าธีรทัศน์เคยควงมาด้วยไม่เลิ
“เธอไม่ใช่ไก่วัดฉันนี่ ทำไมฉันต้องอดด้วยล่ะ” ธีรทัศน์ตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มที่มีรสเลือดผสม“พี่เขื่อน! พี่พูดจาหมา ๆ แบบนี้ได้ยังไงวะ!”“แล้วแกจะเอายังไงกับฉัน” เขาถามกลับเสียงเรียบ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองผิดจริง แต่ก็ไม่ได้นึกเสียใจสักนิด“ตอบผมมาว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนี้กับน้องเกล พี่ก็รู้ว่าผมรักน้องเกลมากแค่ไหน พี่ยังกล้าทำกับคนที่ผมรักอีกเหรอ”“ฉันก็รักเขาน่ะสิ ฉันถึงทำ” ได้ยินคำว่ารักจากปากของน้องชาย อารมณ์หึงหวงจึงบังเกิด ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคิดกับเธอในระดับไหน แต่ก็ยังอดหึงหวงไม่ได้ “มึงน่ะรักหนูเกลแค่แบบพี่น้อง แต่กูน่ะรักแบบอยากเอาทำเมียโว้ย พอใจหรือยัง”ธีรสิทธิ์นิ่งอึ้งไปก่อนชั่วขณะ เพื่อทบทวนคำพูดของพี่ชายให้เข้าใจแจ่มแจ้ง “พี่กำลังบอกผมว่าพี่รักหนูเกลงั้นเหรอ” เขาถามช้า ๆ ชัด ๆ“อือ” ธีรทัศน์ตอบรับในลำคอ“หมายความว่าพี่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปใช่ไหม”“ไม่”“พี
ลลิตายิ้มเจื่อนลงเล็กน้อย ถอนหายใจเบา ๆ ขณะมองหน้าคนรัก มันคงไม่ดีแน่ถ้าบอกกับผู้ใหญ่ออกไปตรง ๆ“กิ๊งก็มีเกริ่น ๆ เรื่องนี้กับคุณน้าไว้แล้วค่ะ ท่านคงเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว เพราะไม่ได้พูดคัดค้านอะไร” เธอพยายามพูดให้ฟังดูดีที่สุด“ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยโล่งใจหน่อย” ละม่อมยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ “ส่วนเรื่องงานแต่งก็แล้วแต่หนูกับเจ้าไกรมันเถอะ พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกพ่อกับแม่ได้เลย แม่จะจัดการทำตามประเพณีให้ทุกอย่าง สินสอดทองหมั้นอาจจะไม่มากมายสมฐานะของหนู แต่จะพยายามไม่ให้น้อยหน้า”“ขอบคุณค่ะคุณแม่ คุณพ่อ ที่ไม่รังเกียจหนู” ลลิตายกมือไหว้บุพการีของคนรักอีกครั้งด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ“ขอบคุณพ่อกับแม่มากนะจ๊ะที่เข้าใจเรา” เกรียงไกรยกมือไหว้บุพการีด้วยความอิ่มเอมในหัวใจ“พ่อกับแม่เข้าใจลูกเสมอนั่นแหละ แค่จะพูดหรือไม่พูดเท่านั้น” บุญเพิ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม และชักชวนให้หญิงสาวอยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน..“น้องเกลไม่มากินข้าวกับเราด้วยเหรอคะพี่ไกร” ลลิตาถามคนรัก เมื่อเขายกสำรับอ
“แล้วคุณเขื่อนจะไปพาลถึงพี่ไกรกับพี่กิ๊งทำไมคะ” ตุลฎาต่อว่าเขาอย่างเหลืออด ใบหน้าแดงด้วยความเขินอายกับคำพูดของเขา เขาหึงร้ายหรือโมโหร้ายกันแน่ตอนนี้“ก็แล้วเธอรักใครล่ะ ระหว่างไอ้ขันกับไอ้ไกร” เขาตะคอกใส่เธอเสียงเครียด“เกลรักผู้ชายดิบเถื่อน ปากจัด เผด็จการ เจ้าอารมณ์ แล้วก็บ้ากาม รักผู้ชายที่ชื่อเขื่อนคนนี้ต่างหากล่ะ” เธอบีบแก้มของเขาแรง ๆ ด้วยความหมั่นไส้ “พอใจหรือยัง”หน้าที่ตึงเครียดค่อย ๆ คลี่ยิ้มกว้าง และเปล่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสุข เมื่อได้ยินคำสารภาพรักเต็มสองรูหู รีบพยักหน้ายอมรับกับเธอ“พอใจและโคตรมีความสุขเลยจ้ะเมียจ๋า” เสียงเคร่งเครียดเปลี่ยนเป็นหวานหูขึ้นมาทันใด จริงสินะ เขารู้จักผู้ชายคนนั้นดีที่สุด และเขาก็ไม่ใช่คนงานเพราะเขาคือเจ้าของฟาร์มอุดมสุขแห่งนี้ ทำไมถึงได้โง่บรมแบบนี้นะไอ้เขื่อน เขาด่าทอตัวเองอย่างมีความสุข“อย่าพูดแบบนั้นนะคะ”“ทำไมล่ะจ๊ะเมียจ๋า ๆ ๆ” เห็นหน้าแดงก่ำของเธอก็ยิ่งได้ใจ จึงล้อเลียนไม่เลิก“มันน่าอาย&rdquo
เห็นเขาจ้องมองความเป็นอิสตรีของเธอไม่วางตา ตุลฎาก็รู้สึกเขินอายจนต้องยกขาขึ้นตั้งเข่าเป็นที่กำบังมือใหญ่ตามไปจับข้อเท้าทั้งสองข้างของเธอแล้วดึงให้ราบลงไปกับพื้น ใช้ปลายนิ้วเกี่ยวบิกินี่ตัวจิ๋วให้หลุดตามกระโปรงออกไปขนกายของตุลฎาลุกซู่ด้วยความซาบซ่านสะท้านทรวง เมื่อเขาโน้มหน้าลงไปตรงจุดนั้นแล้วพรมจูบไปทั่ว“ไม่มีใครหน้าไหนมอบความสุขให้เธอได้มากเท่าฉันอีกแล้วจำเอาไว้” เขาผงกศีรษะขึ้นพูดกับเธอแล้วก้มลงไปใหม่ ชำแรกปลายลิ้นเรียวหนาลงไปปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้แตกซ่าน..“พอเถอะค่ะคุณเขื่อน” เธอขอร้องเสียงกระเส่า หายใจหอบสะท้านด้วยความซาบซ่าน ครั้งนี้เขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมา ถึงได้เรียกร้องรุนแรงเอาแต่ใจแบบนี้“รับปากฉันก่อนสิว่าจะไม่นอกใจไปรักคนอื่น ถ้าไม่รับปาก ฉันจะทำให้เธอตายด้วยน้ำมือของฉันนี่แหละ” เขายืนยันคำพูดด้วยการโน้มหน้าลงไปทำให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านเสียว“ค่ะ ๆ เกลยอมแล้ว” ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้เธอคงตายเพราะเขาจริง ๆศีรษะที่ปกคลุมไว้ด้วยเส้นผมดกดำเป็นมันเงา ละจากใจกลางเรือนร่างระหง ถั
“เตือนเรื่องอะไรวะ” ธีรทัศน์ค้างคาใจ“คุณเขื่อนคงไม่รู้ว่าหนุ่ม ๆ ในฟาร์มมีใจให้น้องเกลกันกี่คน จากการสังเกตของผมไม่น่าจะต่ำกว่าสิบ” คนแบบนี้ต้องใช้ไม้นี้แหละดีที่สุด“ใครวะไอ้ไกร มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้เลย กูจะไปกระทืบมันให้จมตีนเลย” เส้นเลือดน้อยใหญ่แย่งกันปรากฏบนขมับด้วยความตึงเครียด“ผมบอกไม่ได้หรอกครับ ถ้าอยากรู้ก็ดูเอาเองเถอะ”“ไอ้ไกร!”“ครับ”“มึงไม่ใช่เพื่อนกูใช่ไหม”“ใช่ครับ”“แล้วทำไมถึงไม่บอกกู”“ผมเป็นคนกลางนะครับ เรื่องแบบนี้คุณเขื่อนต้องจัดการเอง” ชายหนุ่มปิดประตูรถด้านหลัง “ฝากดูแลเธอดี ๆ นะครับคุณเขื่อน อย่าทำนิสัยลักกินขโมยกินเหมือนคู่ของผมล่ะ” พูดจบก็กลับเข้าไปนั่งตอนหน้าเคียงคู่คนรัก “ถ้าผมไปขอกิ๊งเขาจริง ๆ คุณเขื่อนจะเป็นเถ้าแก่ให้ผมไหมครับ”“ไอ้เพื่อนทรยศ ข้าจะไม่ไปเป็นเถ้าแก่ให้มึงเด็ดขาด” เขาสบถเสียงเครียดตามหลังรถที่ขับห่างออกไปเรื่อย
“เนตรขอโทษค่ะผู้จัดการ เนตรสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก” เธอชิงพูดขึ้นก่อนเมื่ออีกฝ่ายเดินมาถึง“จำคำพูดของเธอไว้ด้วยล่ะ โชคดีที่คุณกิ๊งเขาไม่เอาเรื่อง และยังขอร้องไม่ให้ไล่เธอออก รู้ไว้ด้วยว่าแฟนของเธอเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้านายของเราเลยนะ”“ขอโทษค่ะผู้จัดการ เนตรจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ” เนตรดาวรู้สึกขอบคุณคู่ต่อสู้อย่างลลิตาอยู่ในใจ“ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน ถ้ามันเกิดขึ้นอีกเธออาจจะไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้” ผู้จัดการต่อว่าหญิงสาวอีกหลายประโยคก่อนเดินจากไป...……………….“พี่กิ๊ง พี่ไกร” ตุลฎาเรียกคู่รักเบา ๆ ขณะนั่งอยู่ในรถด้วยกัน ยกมือไหว้ทั้งสองด้วยสีหน้าไม่สบายใจ “เกลขอโทษนะคะที่ทำให้เกิดเรื่อง”“อย่าคิดมากน่าเกล พี่กิ๊งเขาก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ยอมใครง่าย ๆ หรอก พี่ชินแล้ว” เรื่องนี้เขามีประสบการณ์ตรงจากตัวเองนี่แหละ ตั้งแต่สมัยที่เธอมาตามตื๊อขอคบกับเขา“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับน้องเกลหรอก มันเป็นเรื่องระหว่างพี่กับผู้