เข้าอาทิตย์ที่สองแล้วที่คุณหมอเด็กคนใหม่มาตรวจที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แม้จะมาตรวจแค่วันอังคารกับวันอาทิตย์แต่สาวๆ ก็พากันพูดถึงเขาแทบไม่ขาดปาก
ไม่ใช่แค่ที่แผนกกุมารเวชแต่ยังรวมไปถึงแผนกการเงิน แผนกเภสัชกรรมและไม่เว้นแม้กระทั่งป้าแม่บ้านที่ชื่นชมในความหล่อและความสุภาพอ่อนโยนของคุณหมอหนุ่ม
แต่เสน่ห์ของเขาไม่มีผลต่อปณิชาเลยเพราะเธอเคยมีความทรงจำที่ไม่ดีกับอดีตคนรักที่มีอาชีพเป็นหมอ
“พี่เหมยว่าคุณหมอตุลย์เป็นยังไงบ้างคะ” อารดาน้องผู้ช่วยพยาบาลถามขณะที่ทั้งสองนั่งทานอาหารกลางวันกันที่ห้องพักเบรกของแผนก
“ก็ดีนะ ตรวจเก่ง ใจเย็น เข้ากับเด็กๆ ได้ดีเลย” ปณิชาพูดไปตามที่เห็นถึงเขาจะเป็นหมอผู้ชายแต่ก็เข้ากับเด็กได้ดี
“อรหมายถึงหน้าตาค่ะ พี่เหมยว่าหล่อไหมคะ”
“ก็หล่อดีนะแต่หล่อแบบผู้ดีดูสะอาด เรียบร้อย อรถามพี่แบบนี้อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนคลับหมอตุลย์อีกคน” เพราะตั้งแต่หมอตุลธรมาทำงานที่นี่สาวๆ ต่างพากันสมัครเป็นแฟนคลับคุณหมอคนใหม่กันทั้งนั้นยกเว้นก็แต่ปณิชาที่มองเขาแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้น
“มีใครบ้างล่ะคะไม่ชอบคนหล่อ อรแอบถามเพื่อนที่ทำงานโรงพยาบาลเดียวกับหมอมาแล้ว เพื่อนอรบอกว่าคุณหมอยังโสด”
“เชื่อได้เหรออร” นีรนุชพยาบาลรุ่นพี่ที่นั่งทานอยู่ด้วยพูดขึ้น
“ทำไมพี่นุชถึงไม่เชื่อล่ะคะ”
“หมอตุลย์น่ะ อายุเข้าเลขสามแล้วจะไม่มีแฟนได้ยังไง เขาอาจจะมีแล้วแต่คนที่ทำงานไม่รู้ก็ได้หรือบางทีก็อาจจะไม่ชอบผู้หญิงก็ได้นะ” นีรนุชแสดงความเห็นเพราะดูแล้วคุณหมอสุดหล่อไม่น่าจะยังเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้
” พี่นุชอย่าดับฝันอย่างนั้นสิค่ะ ถ้าหมอชอบผู้ชายด้วยกันมันน่าเสียดายออก”
“มันก็ไม่แน่นะอรหมอดูสุภาพ ติดจะเรียบร้อยอย่างนั้นพี่ว่าบางทีเขาอาจจะแอบมีใครซ่อนอยู่ก็ได้”
“พี่เหมยก็อีกคน หมอตุลย์เขาไม่มีแฟนจริงๆ แล้วเขาก็ชอบผู้หญิงด้วยค่ะ เพื่อนอรบอกว่าเขามีผู้หญิงเยอะเลยแต่ยังไม่มีใครเป็นตัวจริง”
“แสดงว่าหมอเป็นคนเจ้าชู้มากล่ะสิ แต่ก็อย่างว่าคนหน้าตาดีก็ต้องมีคนเข้าหาเยอะ”
“ดูเหมือนพี่เหมยจะไม่ปลื้มเขาเหมือนคนอื่นนะคะ”
“ใช่จ้ะ”
“ทำไมคะ เขาหล่อดีนะ”
“ก็ไม่ได้เถียงว่าไม่หล่อ แต่ไม่ใช่สเปก”
“แล้วสเปกพี่เหมยเป็นไงคะ”
“พี่ขอตอบแทนเลยละกันนะ สเปกของน้องเหมยน่ะ ต้องอายุน้อยกว่า”
“พี่เหมยชอบกินเด็กเหรอคะ”
“ใช่สิ พี่อยากเป็นอมตะ” ปณิชาเคยมีแฟนอายุมากกว่ามาแล้วและเขาทำให้เธอผิดหวังหญิงสาวเลยเปลี่ยนใจมาชอบคนที่อายุน้อยกว่า
“ถึงว่าพี่เคยมองหมอหนุ่มคนไหนเลยเพราะพวกเขาอายุมากกันแล้วนี่เอง” อารดาก็เพิ่งจะรู้สเปกของพี่สาวคนสนิท
“มันก็ไม่เกี่ยวกับอายุเสียทีเดียวหรอกอร สำหรับพี่นะยังไงก็ได้ ถ้าคุยกันเข้าใจขออย่างเดียวอย่าเป็นหมอก็พอ”
“ทำไมคะพี่เหมย”
“เรื่องมันยาวเอาเป็นว่าถ้าเหลือหมออยู่คนเดียวบนโลกพี่ก็ขออยู่เป็นโสด” ปณิชาพูดแล้วหัวเราะก่อนจะรีบขอตัวไปทำงานต่อทิ้งให้อารดามองตามหลังด้วยความสงสัย
“เพราะอะไรพี่นุชรู้ไหม”
“เรื่องมันยาว เอาไว้ว่างๆ ก็ลองถามน้องเหมยเองแล้วกันนะ” นีรนุชรู้สาเหตุแต่ไม่อยากจะเอาเรื่องของคนอื่นมาพูด
ปณิชาเดินออกมาจากห้องตรวจก็เจอกับหมอตุลธรที่เพิ่งเข้ามาพอดี
“สวัสดีค่ะคุณหมอ”
“สวัสดีครับเหมย ผมซื้อขนมมาฝากทุกคนด้วยนะ” ตุลธรส่งถุงขนมให้กับคุณพยาบาลสาวซึ่งเขารู้สึกถูกชะตาและหาทางใกล้ชิด แต่เพราะมาตรวจที่นี่แค่อาทิตย์ละสองวันความสัมพันธ์ก็เลยไม่คืบหน้าไปไหน ทั้งที่ปกติแล้วถ้าเขาสนใจผู้หญิงคนไหนก็มักจะไม่ต้องจีบให้เสียเวลาด้วยซ้ำ
“ขอบคุณค่ะหมอ ไม่เห็นจะต้องลำบากเลยนะคะแค่หมอมาช่วยตรวจแทนหมอปิ่นก็ดีมากแล้วค่ะ” เพราะปกติแล้วช่วงบ่ายวันอาทิตย์หมอส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยากมาตรวจเพราะเป็นวันพักผ่อนแต่ในทางตรงกันข้ามคนไข้เด็กก็จะค่อนข้างเยอะ
“ไม่ลำบากอะไรเลยร้านนี้อยู่หน้าคอนโดผมพอดีถ้ายังไงก็เอาไปแบ่งกันทานนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“วันนี้มีคนไข้รอตรวจไหมครับ”
“คุณหมอมีคนไข้เด็กรอรับวัคซีนอยู่สามคนค่ะ จะตรวจเลยไหมหรือจะนั่งพักก่อน” เพราะเห็นว่าตุลธรเพิ่งจะเข้าปณิชาเลยต้องถามความพร้อมของเขาก่อน
“ตรวจเลยก็ได้ผมไม่อยากเสียเวลา”
“คุณหมอรอที่ห้องตรวจได้เลยค่ะเดี๋ยวเหมยให้น้องผู้ช่วยพารอหน้าห้องตรวจเลยนะคะ”
“ครับ”
ปณิชาเอาขนมไปเก็บที่ห้องพักเบรกจากนั้นก็เดินมาบอกแพรวาผู้ช่วยประจำห้องตรวจเด็กให้เรียกคนไข้ทั้งสามคนไปรอบริเวณหน้าห้องตรวจเด็ก
“คุณหมอตุลย์นี่ใจดีเหมือนกันนะพี่เหมย ถ้าหนูมีแฟนใจดีหล่อและใจดีแบบหมอตุลย์คงมีความสุขมากแน่ๆ” อารดามองถุงขนมตรงหน้าแล้วยิ้ม
“คนเราจะมองแค่หน้าตามันไม่ได้หรอกนะพี่ว่ามันต้องมองกันที่นิสัยแต่”
“แต่เท่าที่ดูหมอตุลย์เขาก็เป็นคนนิสัยดีนะคะพี่เหมย อรว่าพี่เหมยอคติกับหมอมากเกินไปนะคะ” อารดาพูดเข้าข้างหมอตุลธรเพราะเธอสัมผัสได้ว่าคุณหมอคนนี้นอกจากจะมีดีที่หน้าตาแล้วยังนิสัยดีอีกด้วย
“พี่ไม่ได้อคติกับหมอเลยแต่พี่พูดไปตามประสบการณ์คนเราต้องดูกันนานๆ”
“หมอทุกคนไม่ได้เหมือนกันสักหน่อย”
“ไปรู้อะไรมาล่ะ”
“ก็รู้แค่นิดหน่อยว่าพี่ไม่ชอบหมอบอกได้ไหมคะว่าทำไมถึงไม่ชอบ” อารดาพยายามตื้อ
“อยากรู้จริงๆ เหรอ”
“อยากรู้สิคะพี่เหมยเล่าให้อรฟังหน่อยได้ไหม”
“ถ้าอยากรู้เย็นนี้ก็ไปช่วยพี่จัดของสิ แล้วพี่จะเล่าให้ฟัง”
“จัดของที่คอนโดใหม่เหรอคะ”
“ใช่สิ พี่จัดคนเดียวมาหลายวันแล้วยังไม่เสร็จสักที”
“พี่เหมยไม่น่าย้ายออกเลยนะคะ แบบนี้อรก็เหงาแย่เลยค่ะ แล้วคอนโดที่เหมยอยู่ไกลไหมคะ”
“ไม่ไกลหรอกจากที่นี่ใช้เวลาขับรถไม่ถึง 10 นาทีเย็นนี้เลิกงานอรก็ติดรถพี่ไปเลยสิ ขากับจะมาส่งที่หอ”
“ถ้าหนูไปช่วยจัดของพี่จะเล่าให้หนูฟังใช่ไหมคะว่าทำไมถึงไม่ชอบหมอ”
“แน่นอนสิ” ปณิชาให้คำสัญญาเพราะเรื่องที่จะเล่ามันไม่ได้เป็นความลับอะไร
แล้วก็ถึงวันที่ปณิชาจะต้องเดินทางไปเที่ยวคนเดียวตามลำพังเธอตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งนี้มาก ถึงแม้ว่าก่อนการเดินทางเธอจะเตรียมพร้อมเรื่องภาษามาอย่างดีแต่ก็ยังกังวลว่าจะสื่อสารให้คนอื่นฟังไม่รู้เรื่องตั๋วเครื่องบินที่พี่ชายให้มาเป็นตัวบินตรงจากกรุงเทพมายังสนามบินปรากวาคลาฟฮาเวลซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองปรากไม่ถึง 20 กิโลเมตร พี่ชายของเธอบอกว่าพอลงจากเครื่องก็จะมีรถของโรงแรมมารับให้เธอคอยสังเกตเพราะเขาจะถือป้ายชื่อมาคอยต้อนรับปณิชามองหาคนจากโรงแรมที่พี่ชายบอกว่าจะมารัก แต่มองเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอป้ายชื่อของตัวเอง หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อเห็นป้ายหนึ่งเขียนว่า Will you marry me? เธอรู้สึกว่าไม่มันเป็นอะไรที่โรแมนติกมากที่ขอแต่งงานกลางสนามบินแบบ ปณิชา รู้สึกอิจฉาผู้หญิงคนนั้นเหลือเกินที่มีคนทำเรื่องเซอร์ไพรซ์แบบนี้หญิงสาวกำลังเดินมาใกล้จุดที่คนถือป้ายเรื่อยๆ และพอเดินเข้าใกล้ด้านหน้าหน้าก็มีอีกป้ายหนึ่งปรากฏขึ้นซึ่งมันเขียนด้วยภาษาไทยตัวโตๆ ว่า “เหมย” หญิงสาวเลยรีบเดินเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นคนจากโรงแรมและบังเอิญมายืนผิดตำแหน่ง“เหมยแต่งงานกันนะ” เสียงที่พูดขึ้นมาทำให้หญิงสาวหยุดชะงักแล
ปณิชาไม่ต้องไปทำงานที่คลินิกของหมอตุลธรแล้วเย็นนี้เธอจึงมีเวลาออกมาเดินซื้อของใช้จำเป็นที่ห้างสรรพสินค้า ระหว่างที่ปณิชากำลังเดินเอาของมาเก็บที่รถก็ได้รับสายจากศุภกิจพอดี “สวัสดีค่ะพี่ใหญ่”“สวัสดีจ้ะเหมย ตอนนี้อยู่ที่ไหนทำไมเสียงดังจังเลย”“เหมยออกมาซื้อของที่ห้างค่ะ พี่ใหญ่มีธุระอะไรกับเหมยหรือเปล่าหรืออยากให้เหมยช่วยอะไรไหมคะ”“อยู่ห้างแถวไหนล่ะ”ปณิชาบอกชื่อห้างสรรพสินค้าที่ตนเองกำลังเดินอยู่ให้กับพี่ชายฟังอีกฝ่ายก็ถามกลับ“รีบไปไหนหรือเปล่า”“ไม่หรอกค่ะ พี่ใหญ่จะให้เหมยทำอะไรหรือเปล่า”“เปล่าหรอกพี่เพิ่งเลิกงาน เรานัดเจอกันหน่อยดีไหม พี่กำลังอยากหาเพื่อนกินข้าวอยู่พอดีเลย”“ได้ค่ะเดี๋ยวเหมยเอาของไปเก็บที่รถถ้าพี่ใหญ่มาถึงก็โทรบอกนะคะเดี๋ยวมเหมยจะไปหาพี่เองค่ะ”“ได้ครับ เหมยรอพี่ไม่น่าจะเกิน 20 นาทีนะ”“แล้วพี่ใหญ่จะมายังไงคะ”“พี่นั่งวินหน้าโรงพยาบาลไปก็ได้”“ให้เหมยไปรับดีกว่าไหมคะ”“ไม่เป็นไรหรอกพี่ไปเองแบบนี้มันน่าจะสะดวกกว่า”“ก็ได้ค่ะพี่ใหญ่”ปณิชาเดินเอาของไปเก็บที่รถจากนั้นก็เดินไปเตร็ดเตร่อยู่แถวหน้าห้างพอศุภกิจลงจากวินมอเตอร์ไซด์เธอก็รีบเข้าไปทักทายทั
ตุลธรมองนาฬิกาข้อมือซึ่งขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งเขาจะต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนที่ปณิชาทำงานอยู่ ชายหนุ่มไม่อยากไปเลยแต่วันนี้หมอปรียาภัทรไม่ว่างจึงไปออกตรวจแทนเขาไม่ได้ตั้งแต่คุยกับปณิชาเมื่อเย็นวันพุธเขากับเธอก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่จะเผชิญหน้ากับหญิงสาว ตุลธรไม่รู้ว่าตัวเองจะมองหน้าเธอได้หรือเปล่าเนื่องจากเขากลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนและกลับไปรักเธออีกครั้งเมื่อมาถึงโรงพยาบาลตุลธรก็เห็นว่าปณิชานั้นยิ้มแย้มแจ่มใสกับคนไข้อย่างเคย หัวใจเขากระตุกวูบและรู้สึกหวั่นไหวจนต้องเบือนหน้าหนี“สวัสดีค่ะหมอตุลย์” ปณิชากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างเคย หากแต่แววตาที่มองนั้นมันว่างเปล่าไม่มีความรักหลงเหลืออยู่ในนั้นอีกแล้ว ตุลธรรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เขาเป็นคนตัดสัมพันธ์กับเธอเองแต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าตนเองนั้นทำผิดพลาด“สวัสดีครับ”“หมอมีคนไข้รออยู่ 4 คนนะคะ เดี๋ยวเหมยจะให้แพรวาเรียกไปรอหน้าห้องตรวจค่ะ”“ขอบคุณครับ” ตลอดทั้งบ่ายอาทิตย์ชายหนุ่มมักจะมองออกไปยังห้องตรงข้ามซึ่งเป็นห้องสำหรับฉีดวัคซีนเขาเห็นปณิชาทำงานด้วยรอยยิ้มก็เผลอมองอยู่นาน ตุลธ
ปณิชานั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถจนกระทั่งถึงเวลาสองทุ่ม เมื่อเห็นตุลธรเดินออกมาจากคลินิกเธอก็รีบเปิดประตูออกแล้วเดินเข้าไปหาเขาทันที“หมอตุลย์คะ เหมยว่าเราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”“ผมเหนื่อยมากนะเหมยเอาไว้คุยกันวันหลังได้ไหม”“หมอจะบ่ายเบี่ยงไปถึงไหนมีอะไรก็พูดมาตรงๆ”“คุณอยากให้ผมพูดตรงๆ กับคุณมากใช่ไหม”หญิงสาวรู้สึกแปลกเพราะสรรพนามที่เขาใช้เรียกเธอนั้นมันเปลี่ยนไปแต่ก่อนเขาเรียกชื่อเล่นแต่ตอนนี้เขาแทนชื่อเธอด้วยคำว่าคุณซึ่งมันแสดงออกถึงความห่างเหิน“ค่ะ เหมยอยากรู้ว่าระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นทำไมหมอถึงเปลี่ยนไปแบบนี้”“ผมก็เป็นของผมแบบนี้แหละ”“แล้วที่ผ่านมาคืออะไรคะ หมอหลอกเหมยมาตลอดเหรอคะว่ารักเหมย”“มันก็แค่คำพูดของผู้ชายน่ะเจ้าชู้” ตุลธรยิ้มมุมปากแววตาที่มองเธอวันนี้มันต่างไป มันไม่หลงเหลือความรู้สึกอะไรในนั้นเลย“เหมยไม่คิดเลยนะคะว่าหมอที่จิตใจดีและอ่อนโยนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแบบนี้”“แล้วคุณคาดหวังจะให้ผมเป็นยังไงล่ะ”“เหมยก็คิดว่าคุณแตกต่างจากผู้ชายคนอื่นแต่จริงๆ แล้วก็ไม่เลยสักนิด”“คุณอย่าเอาผมไปเปรียบเทียบกับคนรักเก่าของคุณ”“ทำไมจะเปรียบเทียบไม่ได้ล่ะคะ ในเมื่อคุณก็ไ
ระหว่างที่ตุลธรไปประชุมที่สิงคโปร์ปณิชาก็มีเรื่องวุ่นเกิดขึ้นเพราะลูกชายของลุงสุพจน์ย้ายมาทำงานที่เมืองไทยเขาอยากได้คอนโดมิเนียมที่เธออาศัยอยู่ในตอนนี้เนื่องจากชายหนุ่มยังไม่ชินกับถนนเมืองไทยจึงอยากย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าการเดินทางมาทำงานก็สะดวกกว่าคอนโดมิเนียมของตนเองศุภกิจหรือพี่ใหญ่จึงยื่นข้อเสนอให้ปณิชาย้ายไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมของตัวเอง โดยจะซื้อรถยนต์คันใหม่ให้เธอพร้อมกับให้เงินเธออีกก้อนหนึ่งเป็นค่าน้ำมันที่ต้องเพิ่มขึ้นเนื่องจากคอนโดที่จะต้องย้ายไปนั้นอยู่ไกลกว่าที่เดิมประมาณ 5 กิโลเมตรปณิชาคิดว่ามันไม่ได้ลำบากอะไรถ้าหากหญิงสาวจะต้องตื่นเช้าอีกสักนิดเพื่อจะขับรถมาทำงานเพราะเธอเองก็คุ้นเคยกับถนนเส้นนี้ดีต่างจากศุภกิจที่ไปอยู่อเมริกานานนับสิบปี เธอจึงตอบตกลงโดยไม่คิดอะไรมากปณิชาไม่ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับตุลธรเพราะมันเรื่องภายในครอบครัวอีกทั้งตอนนี้เขาก็กำลังยุ่งอยู่กับการประชุมเธอคิดจะบอกคนรักในวันที่เขากลับมาถึงเมืองไทยแล้วปณิชาใช้เวลาไม่นานก็ย้ายของทั้งหมดของตัวเองไปยังคอนโดมิเนียมแห่งใหม่โดยครั้งนี้มีอารดาและพาขวัญมาช่วย“ที่นี่น่าอยู่ไม่แพ้ที่เ
หลังจากส่งคนรักถึงขอบสวรรค์ไปแล้วตุลธรก็พลิกให้เธอลงมาอยู่ด้านล่าง เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนจะบดจูบลงบนริมฝปากบางอยางดูดดื่ม ฝ่ามือร้อนคลึงเคลาสองปทุมอวบอิ่มอย่างมันมือ ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถันปลุกเร้าจนเสียงหวานครางระงม“อื้อ....หมอตุลย์”จูบจนพอใจเขาก็ลากไล้ความเปียกชื้นไปตามซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มดูดดึงไปตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ผิวเนียนนุ่มขึ้นรอยแดงไปทั่วทุกจุดที่ปากร้อนเลื่อนผ่านและมาหยุดที่ยอดถันสีสวย ตุลธรไม่รอช้าที่จะดูดกินอย่างหิวกระหายขณะที่ท่อนเอ็นร้อนก็กำลังกดเข้าหาความอุ่นของโพรงสวาทอีกครั้ง“อ๊ะ....”“เจ็บเหรอ”ปณิชาส่ายหน้า เธอมองหน้าคนรักแล้วยิ้มยั่วขณะขมิบช่องทางรักทักทายท่อนเอ็นของเขาเป็นจังหวะ“อ้าห์.....จะฆ่าผมให้ตายคาอกเลยใช่ไหม” ตุลธรกัดกรามแน่นแล้วเขาก็เริ่มขยับสะโพกเป็นจังหวะอีกครั้งเพราะถ้ายังอยู่นิ่งปณิชาคงใช้ความอ่อนนุ่มรัดเขาจนแตกเร็วแน่ๆ “อื้ม...หมอขาเหมยเสียว” เธอครางหวานร่างกายสั่นสะท้านเมื่อเขากระแทกกระทั้นตัวเข้าหา ท่อนเอ็นแข็งร้อนเคลื่อนเข้าออกโพรงอุ่นสุดความยาวครั้งแล้วครั้งเล่า เสี