Share

ตอนที่ 11

Author: TheXang789
last update Last Updated: 2025-09-25 12:15:02

"เจ้าว่าอย่างไรนะ"

"คะ คุณชายผู้นี้ กล่าวว่าเห็นวิญญาณขอรับ"

จ้าวจวิ้นซานแทบจะสั่งโบยบ่าวตรงหน้าให้ตายเสีย ในยามนี้มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ว่าจวนตระกูลจ้าวกำลังประสบปัญหาอะไร เชิญคนแปลกหน้าเข้ามาในจวนสุ่มสี่สุ่มห้า ครั้งนี้ก็คงจะเป็นพวกต้มตุ๋นเหมือนคนก่อนๆ

"ขออภัยด้วยคุณชาย เกรงว่าตอนนี้ที่จวนไม่เหมาะจะรับแขก"

เพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญมา ในตอนนี้จวนตระกูลจ้าวจึงมีปัญหามากมายรอการแก้ไข อีกทั้งเรื่องเรือนรับรองที่ถูกไฟไหม้ไปเมื่อคืน ยังไม่สามารถหาช่างมาซ่อมแซมได้

ด้วยเรื่องข่าวลือที่ว่าจวนตระกูลจ้าวมีวัญญาณร้ายสิงสู่ ทำให้ไม่มีใครอยากรับงาน ไม่ว่าจ้าวจวิ้นซานจะเสนอราคาที่สูงแค่ไหนก็ตาม

"เอาเถอะ หากนายท่านจ้าวกล่าวเช่นนั้น ข้าก็ไม่บังคับ"

จ้าวจวิ้นซานยกมือนวดขมับเบาๆ ข้างๆมีติงมี่เซียนนั่งทำท่าขบคิดอยู่ไม่ห่างกาย

"แต่ข้าขอเตือนไว้อย่าง..."

เมื่อชายแปลกหน้าผู้นั้นพูดขึ้นมา จ้าวจวิ้นซาน ติงมี่เซียน หรือคนที่อยู่แถวนั้นต่างก็หยุดฟัง พวกเขาแทบไม่กล้าหายใจดังด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะพลาดใจความสำคัญไป

"ครั้งหน้า... นางคงไม่ยอมจบแค่เสื้อคลุมประจำตำแหน่ง และเรือนรับรองแน่ ที่นางกล่าวมีเพียงเท่านี้"

สิ้นคำพูดของชายแปลกหน้า รอบข้างก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นทันที

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน นอกจากคนในจวนตระกูลจ้าวแล้ว ไม่มีผู้ใดรับรู้เรื่องนี้อีก คนภายนอกต่างเข้าใจว่าเรือนรับรองไฟไหม้เท่านั้น แต่ไม่ได้รู้ไปถึงเหตุของเพลิงวางมาจากสิ่งใด

และคนที่อยู่ด้วยกันเมื่อคืนนั้นต่างยืนยันได้ว่าสิ่งที่ชายแปลกหน้าผู้นี้พูดเป็นเรื่องจริง

ชายคนนั้นไม่รอให้จ้าวจวิ้นซานกล่าวอะไร หันหลังเดินออกไปทันที

ติงมี่เซียนเมื่อเห็นตัวช่วยที่อยู่ๆก็โผล่มา ก็คิดจะรั้งเอาไว้ แต่จ้าวจวิ้นซานยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง นางต้องเรียกสติสามีเพื่อให้จ้าวจวิ้นซานรั้งอีกคนเอาไว้

"ท่านพี่เจ้าคะ"

"อะ..."

กว่าจ้าวจวิ้นซานจะรู้สึกตัว ชายผู้นั้นก็เดินไปเกือบถึงหน้าประตูจวนเสียแล้ว

จ้าวจวิ้นซานไม่มัวรีรอรักษาท่าที เมื่อลุกขึ้นยืนได้ก็รีบวิ่งไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นทันที

โชคดีที่บ่าวคนเดิมนั้น ยังยืนพูดรั้งชายแปลกหน้าเอาไว้ เขาจึงยังไม่ได้เดินไปไหน

จ้าวจวิ้นซานรีบวิ่งเข้าไปหา ก่อนจะขอร้องให้เขาได้เข้ามาคุยกันอีกครั้งก่อน

"คะ คุณชายท่านนี้ เป็นความผิดของข้าที่มีตาหามีแววไม่ ได้โปรดให้โอกาสด้วยเถอะ"

ชายแปลกหน้าไม่ได้ตอบรับอะไร เขาเงียบเสียจนจ้าวจวิ้นซานใจหวิว

"หากคุณชายจัดการเรื่องนี้ได้ ไม่ว่าอะไรข้าก็จะหามาให้ เพราะฉะนั้น... ได้โปรดเถอะ"

"ย่อมได้.. ถือว่าเห็นแก่ท่าน"

ชายแปลกหน้ายอมเดินตามจ้าวจวิ้นซานกลับเข้าไปในจวนอีกครั้ง

เนื่องจากเรือนรับรองถูกเผาไปแล้วเมื่อคืน ส่วนที่ใช้รับแขกจึงเปลี่ยนมาเป็นศาลาริมน้ำแทน

"ขออภัยที่เสียมารยทาเมื่อครู่ ข้าจ้าวจวิ้นซานเป็นประมุขตระกูลจ้าว"

ที่ผ่านมาผู้คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจ้าวจวิ้นซานเป็นบุรุษวัยกลางคนที่หล่อเหลาไม่น้อย แต่ในตอนนี้ จ้าวจวิ้นซานแทบไม่หลงเหลือเค้าของความดูดีนั้นแล้ว

เพราะหลายวันที่ผ่านมา ต้องประสบกับปัญหาในจวนไม่เว้นวัน และปัญหานั้นยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกอีกต่างหาก

ภาพลักษณ์ของตระกูลจ้าวที่สั่งสมว่า ล้วนด่างพร้อยเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนตอนนี้ถูกเล่าลือกันไปต่างๆนานา

"นายท่านจ้าว ข้าหวังซิ่นเจีย เป็นไต้ซือพเนจร"

เมื่อกล่าวว่าเป็นไต้ซือพเนจรแล้ว จ้าวจวิ้นซานก็มีความรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หากนี่เป็นเรื่องหลอกลวงอีกครั้งเล่า อาจจะเป็นไปได้ว่าบ่าวที่เชิญเข้ามานั้นเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ฟังแล้ว จึงได้รู้ว่าในจวนเกิดอะไรขึ้น

"เรียนหวังไต้ซือ ในตอนนี้จวนตระกูลจ้าวนั้นได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก หวังไต้ซือโปรดเมตตา"

"ข้าเข้าใจแล้ว ก่อนอื่นข้ามีคนที่ต้องการพบ"

"เป็นผู้ใด หวังไต้ซือไม่ต้องเกรงใจ"

หวังซิ่นเจียเผยรอยยิ้ม ก่อนจะกล่าวชื่อที่ชวนเสียขวัญของคนตระกูลจ้าวออกมา

"จ้าวเซินฝู... เรียกเขามาพบได้หรือไม่"

.

.

.

ในความเป็นจริงแล้ว หากพูดถึงชื่อของจ้าวเซินฝูนั้น คนที่รู้จักย่อมมีเพียงคนในตระกูลจ้าวเท่านั้น เพราะชื่อของจ้าวเซินฝูไม่ได้ป่าวประกาศให้ผู้อื่นรู้

ทุกคนรู้เพียงแค่คุณชายใหญ่ตระกูลจ้าวเท่านั้น แม้ว่าตระกูลจ้าวจะพยายามยัดเยียดตำแหน่งนี้ให้กับจ้าวซินเหอก็ตาม แต่ก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่คนภายนอกรับรู้ตั้งแต่ต้นไม่ได้ว่าจ้าวซินเหอเป็นเพียงคุณชายรอง

หากหวังซิ่นเจียรับรู้ได้ถึงชื่อของจ้าวเซินฝูแล้วล่ะก็ ย่อมไม่ธรรมดา...

แต่ถึงอย่างนั้นเรือนเล็กท้ายจวนก็ยังไม่มีผู้ใดกล้าเฉียดใกล้อยู่เช่นเดิม จึงเป็นเหตุให้หวังซิ่นเจียมาพบจ้าวเซินฝูที่เรือนเล็กแทน

บริเวณเรือนเล็กของจ้าวเซินฝูเงียบสงบเพราะไม่มีคนเดินเพ่นพ่าน แต่วันนี้กลับมีแขกมาเยือนเสียมากมาย

จ้าวเซินฝูทำตัวเป็นเจ้าของเรือนที่ดี ทำท่าเป็นกวาดใบไม้รออยู่ที่ลานหน้าเรือนเล็ก

"คุณชายใหญ่จ้าว"

หวังซิ่นเจีย เดินมาที่เรือนเล็กนี้พร้อมกับคนตระกูลจ้าว โดยตลอดทางที่มายังเรือนเล็กแห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องมีคนนำทางด้วยซ้ำ นั่นยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้คนตระกูลจ้าวไม่จบสิ้น

หากเดินมาถึงเรือนเล็กด้านหลังนี้ได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งคนนำทาง ก็มีอีกอย่างคือสิ่งที่นำทางนั้นไม่ใช่คน...

คนตระกูลจ้าวหวาดกลัวอดีตฮูหยินมากขึ้นอีกระดับ...

จ้าวเซินฝูเมื่อเห็นว่าตัวละครสุดท้ายของตัวเองเข้าฉากแล้วก็ลอบยิ้มในใจ แต่ท่าทีที่แสดงออกไม่ได้มีความน่าสงสัยแต่อย่างใด

จ้าวเซินฝูวางไม้กวาดในมือ แล้วประสานมือค้อมตัวคารวะ

"อ่า... คารวะคุณชาย..."

แม้ว่าในชีวิตก่อนของจ้าวเซินฝูจะได้เรียนรู้เรื่องมารยาทมากจากอาจารย์มากมาย แต่ในชีวิตนี้ เดิมทีจ้าวเซินฝูไม่ได้รับการสั่งสอนใดๆ

ดังนั้นจ้าวเซินฝูจำเป็นจะต้องแสดงให้สมบทบาทเสียหน่อย

จ้าวจวิ้นซานเมื่อมองเห็นสิ่งที่จ้าวเซินฝูทำก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทางและน้ำเสียงที่ใช้ไม่ได้ดูนอบน้อมแม้แต่น้อย ไม่ได้รับการสั่งสอนหรืออย่างไร

จ้าวจวิ้นซานโง่งมไปชั่วครู่ เพราะหน้าที่สั่งสอนบุตรหลาน ควรเป็นหน้าที่ของบิดามารดา หรือหากจ้าวเซินฝูได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาเหมือนบุตรคนอื่นๆ กริยามารยาทย่อมไม่ด้อยไปกว่ากัน

"ต้นเหตุมาจากที่นี่..."

"เห็นหรือไม่ท่านพ่อ! ข้าบอกแล้วว่าไอ้...! พี่ใหญ่ใช้วิชามาร"

จ้าวซินเหอไม่รอฟังอะไรเพิ่มเติมก็พูดแทรกกลางปล้องขึ้นมา จ้าวจวิ้นซานส่งสายตาดุๆไปให้จ้าวซินเหอ

หวังซิ่นเจียหันกลับมามองบุตรชายคนรองของจ้าวจวิ้นซานด้วยใบหน้ายิ้มคล้ายไม่ยิ้ม สลับกับมองติงมี่เซียนที่ยืนอยู่ข้างกัน

"สั่งสอนคุณชายน้อยให้ดีหน่อยเถอะจ้าวฮูหยิน ขืนปล่อยให้พูดจาพล่อยๆเช่นนี้ จะเดือดร้อนเอา"

หวังซิ่นเจียไม่ได้คิดจะไว้หน้าผู้ใดอยู่แล้วแต่แรก เพราะจุดประสงค์ที่มาที่นี่ก็เพียงเพื่อช่วยเหลือจ้าวเซินฝูตามที่มีคนร้องขอมาเท่านั้น

"เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคุณชายใหญ่จ้าว ได้รับการปฏิบัติไม่สมกับฐานะ อดีตฮูหยินเมิ่งหรูซีจึงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง"

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว ผู้คนต่างพากันลอบกลืนน้ำลาย

ไม่เพียงแค่จ้าวซิ่วเทียนเป็นบุตรที่บิดาไม่ใส่ใจเท่านั้น กระทั่งบรรดาบุตรของฮูหยินคนอื่นๆยังพากันกลั่นแกล้งรังแก

และเหล่าบ่าวไพร่บางคนเองก็ถือว่าตนเป็นบ่าวของเหล่าเจ้านายของบ้าน ถือดีรังแกจ้าวเซินฝูเช่นกัน

"อีกทั้งสมบัติของอดีตฮูหยินเมิ่งหรูซียังถูกจ้าวฮูหยินยึดไปเป็นของตนเอง เห้อ..."

หวังซิ่นเจียไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่หันกลับมามองติงมี่เซียนที่ยืนกำมือแน่นด้วยความโกรธและความอับอาย

เดิมทีนางเป็นเพียงแม่ค้าฐานะยากจนคนหนึ่ง โชคดีที่ได้คนรักเป็นชายจากตระกูลใหญ่ เมื่อตบแต่งเข้ามาแล้ว ได้เห็นทรัพย์สมบัติที่นางไม่เคยมีจึงได้โลภมากเป็นธรรมดา

นางรู้สึกอิจฉาเมิ่งหรูซีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน กระทั่งคนตายไปแล้วเวลามองสมบัติของนางที่ตนเองครอบครองเอาไว้ยังนึกชังน้ำหน้า

ยามที่ได้มองสมบัติของเมิ่งหรูซียังนึกเย้ยหยันอยู่ในใจ แม้ว่าจะเป็นสมบัติของเมิ่งหรูซี แต่ตอนนี้นางเป็นเจ้าของ คนตายไปแล้วจะมาทวงคืนอะไรไม่ได้

นางคิดแบบนั้นมาโดยตลอดกระทั่งวันนี้...

เมิ่งหรูซีกลับมาทวงทุกอย่างคืนแล้ว...

ไม่ว่าจะเป็นสมบัติของนาง หรือตำแหน่งที่บุตรของนางควรจะได้ ติงมี่เซียนที่รู้สึกเหนือกว่ามาโดยตลอดตอนนี้กลับพ่ายแพ้อย่างหมดรูป

ไม่เพียงแค่นางที่จะต้องเสียทรัพย์สมบัติที่นางได้ครอบครอง แต่บุตรชายของนางยังต้องถูกลดทอนฐานะมาเป็นคุณชายรอง

ถ้าหากเป็นเช่นนี้ บุตรชายของนางจะใช้ชีวิตได้อย่างไร

"หวังไต้ซือ ดูเหมือนท่านจะเข้าใจอะไรผิดไป สิ่งที่ข้าต้องการคือกำจัดนางเสีย"

"วิญญาณที่มีแรงอาฆาตและมีสิ่งที่ห่วงหาอาทรณ์เช่นนาง ไม่ยอมถูกกำจัดได้ง่ายหรอกนายท่านจ้าว"

จ้าวจวิ้นซานไม่ได้ต้องการให้นางมามีสิทธิ์เรียกร้องอะไร อย่างไรนางก็ตายไปแล้ว

"ไม่ว่าท่านจะไปคว้านหาผู้มีความสามารถมากมายเพียงใด ก็ไม่สามารถกำจัดนางได้หรอก..."

หวังซิ่นเจียพูดขู่

"คืนนี้...นางต้องการสายเลือดตระกูลจ้าวหนึ่งคน..."

คำกล่าวของหวังซิ่นเจียทำเอาคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ขนหัวลุกไปหมด

หวังซิ่นเจียหันหลังกลับมากวาดสายตามองกลุ่มคนที่ยืนอยู่ ก่อนจะหยุดสายตาลงที่จ้าวซินเหอ

"เรื่องที่นางขอ ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เช่นนั้นการที่เสียคุณชายรองไป คงเป็นเรื่องที่นายท่านจ้าวรับได้มากกว่า"

"นี่ท่าน!"

"ไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้ แต่คืนนี้... ระวังให้ดี"

จ้าวจวิ้นซานกำมือแน่น ติงมี่เซียนถึงกับปล่อยโฮกอดบุตรชายไว้อย่างหวงแหน ไม่ต่างกับจ้าวซินเหอทีตอนนี้ยืนนิ่งน้ำตาไหลราวกับโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมา

"เช่นนั้น... ข้าต้องขอตัว"

หวังซิ่นเจียยิ้มอ่อนๆ ก่อนที่จะเดินสวนกับจ้าวจวิ้นซานที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ท่ามกลางเสียร้องไห้ปานใจจะขาดของติงมี่เซียน นางพยายามอ้อนวอนจ้าวจวิ้นซานอย่างหมดหนทาง

ในฐานะของพ่อคนหนึ่ง จ้าวจวิ้นซานเองก็ไม่ได้คิดจะให้บุตรของตนเองเป็นอะไรไป แต่สิ่งที่นางต้องการ ราวกับเป็นการหักหน้าตระกูลจ้าวต่อหน้าธารกำนัล

ให้จ้าวเซินฝูกลับมาใช้ตำแหน่งคุณชายใหญ่ทั้งๆที่ผ่านมาหลายปี ตระกูลจ้าวมีคุณชายใหญ่ชื่อจ้าวซินเหอ

ให้คืนสมบัติของนางให้จ้าวเซินฝู... จ้าวจวิ้นซานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าติงมี่เซียนผลาญมันไปหมดแล้วหรือยัง

แล้วหลังจากนี้ผู้คนจะมองตระกูลจ้าวราวกับเป็นตัวตลกหรือไม่...

และในฐานะของประมุขตระกูล แม้การรักษาหน้าจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่การรักษาชีวิตของคนในตระกูลก็สำคัญเช่นกัน...

หากเป็นเช่นนั้น...

แม้ว่าไม่อยากจะเสียหน้า แต่หากปล่อยให้เกิดเรื่องไม่ดีกับคนในตระกูล จะยิ่งเสียหน้ามากกว่าเดิม

ท่ามกลางเสียงอ้อนวอนของติงมี่เซียน เสียงสะอึกสะอื้นร้องไห้ของจ้าวซินเหอ และเสียงซุบซิบของบ่าวไพร่ยืนยืนล้อมกันอยู่

อย่างที่รู้เมื่อครู่หวังซิ่นเจียพูดถึงตำแหน่งและสมบัติที่เมิ่งหรูซีต้องการทวงคืนให้กับจ้าวเซินฝู และยังมีอะไรอย่างอื่นที่นางจะเรียกร้องเพิ่มเติม

จ้าวซินเหอที่อยู่ในฐานะคุณชายใหญ่มาทั้งชีวิต วันหนึ่งจะต้องถูกลดขั้นเป็นคุณชายรอง และต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเสียงนินทาจากรอบด้าน

แต่อย่างไรแล้วก็ยังดีกว่าตาย...

"หวังไต้ซือ โปรดคอยก่อน"

หวังซิ่นเจียหยุดเดินก่อนจะหันกลับมามองจ้าวจวิ้นซานที่ยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ที่เดิม

"ข้อเรียกร้องของนาง..."

"ท่านยินดีจะทำตามงั้นหรือ"

"หวังไต้ซือ โปรดกล่าวมาเถอะ หากไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ข้าย่อมยินดี"

แม้ว่าจ้าวซินเหอจะต้องเสียตำแหน่งคุณชายใหญ่ อย่างไรเสียก็ยังดีกว่าตาย หรือติงมี่เซียนจะต้องมอบสมบัติทั้งหมดของเมิ่งหรูซีคืนให้กับจ้าวเซินฝู แล้วอย่างไรล่ะ ของเหล่านั้นไม่ใช่ของนางมาตั้งแต่แรก

"เช่นนั้นเราหาที่นั่งคุยกันดีๆเถอะ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทุกหนี้แค้นล้วนแล้วมีเจ้าของ เล่ม 1 -จวนตระกูลจ้าว-   ตอนที่ 15

    วันนี้ตระกูลจ้าวยังเงียบสงัดเช่นเดิมเมื่อตะวันลับขอบฟ้า ความมืดคืบคลานจนกระทั่งเต็มแผ่นฟ้า จวนตระกูลจ้าวจุดไฟสว่างไสวแต่กับไร้ผู้คนเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น จ้าวจวิ้นซานขุ่นเคืองเสียจนไม่รับสำรับพร้อมกับติงมี่เซียน กระทั่งบุตรชายของนางเองก็ยังมีข้ออ้างเพื่อที่จะอยู่ให้ไกลจากนางจ้าวจวิ้นซานไปนอนที่เรือนของฮูหยินรองตามที่เจ้าตัวว่าเอาไว้ ส่วนฮูหยินเอกอย่างติงมี่เซียนในตอนนี้ ก็ต้องกลับมานอนที่เรือนใหญ่คนเดียว เพราะเรือนรับรองนั้นยังไม่ได้ซ่อมแซมแม้ว่าในช่วงเย็นจะมีบ่าวใจกล้าสามสี่คนมาจัดการเรื่องต่างๆให้ติงมี่เซียน แต่เมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีก็รีบกลับเรือนบ่าวไปโดยไม่ลาเท่ากับว่าในตอนนี้ติงมี่เซียนอยู่ที่เรือนใหญ่นี่เพียงคนเดียวติงมี่เซียนอยู่ในชุดผ้าสีขาวพร้อมนอน แต่สายตาของนางกวาดมองไปรอบห้องอย่างหวาดระแวงสายตาของนางจ้องเขม็งไปยังราวไม้ว่างเปล่า เดิมทีมันเป็นราวไม้สำหรับแขวนเสื้อคลุมประจำตำแหน่งฮูหยินเอกที่ถูกเผาทำลายไปตอนนี้มันเป็นเพียงราวไม้ว่างเปล่า แต่กลับดูน่าหวาดกลัวเสียเหลือเกินหากยังเป็นเช่นนี้ ราตรีนี้นางคงไม่อาจข่มตาหลับได้...ติงมี่เซียนรีบคิดหาทางรอดอย่

  • ทุกหนี้แค้นล้วนแล้วมีเจ้าของ เล่ม 1 -จวนตระกูลจ้าว-   ตอนที่ 14

    หลังจากที่ลงทะเบียนบ่าวกับทางการแล้ว จ้าวเซินฝูก็พาบ่าวทั้งคู่ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปง่ายๆคนละห้าชุด ก่อนจะพากันกลับจวนเงินค่าตัวบ่าวนั้นมอบให้กับทั้งสองคนอย่างเท่าเทียม และมีสัญญาบ่าวเป็นเวลาห้าปีเนื่องจากทั้งเสี่ยวเล่อและเสี่ยวเมิ่งนั้นไม่มีบิดามารดา หรือผู้ดูแลอะไรเลย เงินที่ทั้งสองคนได้จึงเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องรับใช้จ้าวเซินฝูให้ครบห้าปีเสียก่อนจึงจะไถ่ถอนตัวเองได้ โดยมีพันธะสัญญานายบ่าวที่จัดการโดยทางการเย็นย่ำแล้ว หวังซิ่นเจียและจ้าวเซินฝูจึงได้พากันกลับมาที่จวนตระกูลจ้าวในตอนนี้คนตระกูลจ้าวมีสีหน้าที่เหนื่อยล้าไม่น้อย เพราะทุกอย่างจะต้องเสร็จสิ้นก่อนตะวันตกดิน และทุกอย่างเพิ่งจะเสร็จสิ้นก่อนที่จ้าวซิ่วเทียนจะกลับมาไม่ถึงสองเค่อจ้าวจวิ้นซานเมื่อเห็นว่าหวังซิ่นเจียและจ้าวเซินฝูกลับมาก็รีบเดินเข้ามาหา"หวังไต้ซือ""ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วหรือประมุขจ้าว""ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วขอรับ""เช่นนั้นหรือ..."จ้าวจวิ้นซานแม้จะพูดแบบนั้น แต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่าสมบัติที่ติงมี่เซียนเก็บเอาไว้นั้น ได้เอาไปคืนที่เรือนจันทร์เสี้ยวจนครบทุกอย่างแล้วหรือยัง"นางกล่าวว่ายังมี

  • ทุกหนี้แค้นล้วนแล้วมีเจ้าของ เล่ม 1 -จวนตระกูลจ้าว-   ตอนที่ 13

    เช้าวันถัดมาหวังซิ่นเจียเดินมาหาจ้าวเซินฝูที่เรือนเล็กพร้อมกับพ่อบ้านหยางในตอนนี้พ่อบ้านหยางเป็นบ่าวส่วนตัวของจ้าวเซินฝูแล้ว เหมือนว่าพ่อบ้านหยางจะดูยิ้มแย้มขึ้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องไหน ระหว่างได้เป็นบ่าวส่วนตัวของจ้าวเซินฝู หรือได้ปลดภาระจากการเป็นพ่อบ้านของตระกูลจ้าว"วันนี้ข้าจะพาไปเลือกบ่าวคนใหม่"จ้าวเซินฝูเพียงพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามออกมา แต่ดูเหมือนว่าหวังซิ่นเจียจะไม่ค่อยพึงพอใจนัก และสิ่งที่ทำให้หวังซิ่นเจียดูไม่พึงพอใจคือชุดที่จ้าวเซินฝูสวมใส่"แน่ใจนะว่าจะไปหาบ่าวเพิ่ม ไม่ใช่ไปขายตัวเป็นบ่าว"ตอนนี้ชุดที่จ้าวเซินฝูสวมใส่ราวกับผ้าขี้ริ้วก็ไม่ปาน หากเป็นเช่นนี้เกรงว่าหวังซิ่นเจียคงไม่กล้าเดินใกล้แม้ว่าชุดของหวังซิ่นเจียจะดูเก่า แต่มันก็มีราคา ที่สำคัญมันดูเก่าเพราะต้องระหกระเหินไปนู่นมานี่ต่างหาก หากใส่ชุดดีๆเกรงว่าชุดจะหม่นหมอง"เป็นถึงคุณชายใหญ่ ไม่มีเสื้อผ้าที่ดีกว่านี้หรือ"จ้าวเซินฝูได้แต่ทำหน้าแหยๆออกมาตั้งแต่เติบโตมาเสื้อผ้าที่จะมีใส่ก็มีเพียงชุดของบ่าวไพร่ที่เอามาทิ้งเท่านั้น อีกทั้งสองตัวนี้ยังใส่มานานแล้วด้วย"เป็นข้าที่สะเพร่าเอง พวกท่านโปรดรอสักครู่ ข้

  • ทุกหนี้แค้นล้วนแล้วมีเจ้าของ เล่ม 1 -จวนตระกูลจ้าว-   ตอนที่ 12

    หวังซิ่นเจียถ่ายทอดเรื่องที่อดีตฮูหยินอย่างเมิ่งหรูซีต้องการออกมาเป็นข้อๆอย่างแรกที่นางต้องการย่อมไม่พ้นตำแหน่งคุณชายใหญ่ตระกูลจ้าวที่ควรเป็นของจ้าวเซินฝูบุตรของนางตั้งแต่แรก ที่ผ่านมาเป็นติงมี่เซียนต้องการตำแหน่งนั้นให้กับบุตรชายของตนเอง และจ้าวจวิ้นซานไม่ได้โต้แย้งอะไรหวังซิ่นเจียกล่าวว่า นางคิดว่าจ้าวซินเหอหลงระเริงกับตำแหน่งนั้นมานานเกินพอแล้ว จ้าวซินเหอควรรู้ฐานะของตนแม้ว่าเมื่อพูดเรื่องแรกขึ้นมาแล้ว ลูกหนี้ความแค้นของจ้าวเซินฝูจะทำหน้าเหมือนไม่อยากจะยอมรับมากเพียงใด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในประการแรกที่เมิ่งหรูซีร้องขอมา จ้าวจวิ้นซานจึงตอบตกลงติงมี่เซียนมีสีหน้าที่ไม่น่าดูนัก อย่างไรการที่ลดตำแหน่งของจ้าวซินเหอนั้น นางมีแต่เสียกับเสีย ไม่ว่าจะเป็นตัวจ้าวซินเหอเองที่ต้องทนอยู่กับฐานะที่เป็นรอง อีกทั้งคนภายนอกอาจจะมองว่าที่ผ่านมา เป็นจ้าวซินเหอที่ใฝ่สูง อยากเป็นคุณชายใหญ่ก็ได้แล้วไหนจะตัวนางที่เป็นฮูหยินอยู่ในตอนนี้...สายตาเหยียดหยามจากคนอื่นคงทิ่มแทงจนนางแทบจะเป็นรูแต่เมื่อจ้าวจวิ้นซานนั้นรับปากไปแล้ว นางย่อมทำอะไรไม่ได้"สมบัติของอดีตฮูหยิน... โปรดมอบคืนให้กับคุณชายใหญ่ด้วย"แ

  • ทุกหนี้แค้นล้วนแล้วมีเจ้าของ เล่ม 1 -จวนตระกูลจ้าว-   ตอนที่ 11

    "เจ้าว่าอย่างไรนะ""คะ คุณชายผู้นี้ กล่าวว่าเห็นวิญญาณขอรับ"จ้าวจวิ้นซานแทบจะสั่งโบยบ่าวตรงหน้าให้ตายเสีย ในยามนี้มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ว่าจวนตระกูลจ้าวกำลังประสบปัญหาอะไร เชิญคนแปลกหน้าเข้ามาในจวนสุ่มสี่สุ่มห้า ครั้งนี้ก็คงจะเป็นพวกต้มตุ๋นเหมือนคนก่อนๆ"ขออภัยด้วยคุณชาย เกรงว่าตอนนี้ที่จวนไม่เหมาะจะรับแขก"เพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญมา ในตอนนี้จวนตระกูลจ้าวจึงมีปัญหามากมายรอการแก้ไข อีกทั้งเรื่องเรือนรับรองที่ถูกไฟไหม้ไปเมื่อคืน ยังไม่สามารถหาช่างมาซ่อมแซมได้ด้วยเรื่องข่าวลือที่ว่าจวนตระกูลจ้าวมีวัญญาณร้ายสิงสู่ ทำให้ไม่มีใครอยากรับงาน ไม่ว่าจ้าวจวิ้นซานจะเสนอราคาที่สูงแค่ไหนก็ตาม"เอาเถอะ หากนายท่านจ้าวกล่าวเช่นนั้น ข้าก็ไม่บังคับ"จ้าวจวิ้นซานยกมือนวดขมับเบาๆ ข้างๆมีติงมี่เซียนนั่งทำท่าขบคิดอยู่ไม่ห่างกาย"แต่ข้าขอเตือนไว้อย่าง..."เมื่อชายแปลกหน้าผู้นั้นพูดขึ้นมา จ้าวจวิ้นซาน ติงมี่เซียน หรือคนที่อยู่แถวนั้นต่างก็หยุดฟัง พวกเขาแทบไม่กล้าหายใจดังด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะพลาดใจความสำคัญไป"ครั้งหน้า... นางคงไม่ยอมจบแค่เสื้อคลุมประจำตำแหน่ง และเรือนรับรองแน่ ที่นางกล่าวมีเพียงเท่าน

  • ทุกหนี้แค้นล้วนแล้วมีเจ้าของ เล่ม 1 -จวนตระกูลจ้าว-   ตอนที่ 10

    ช่วงเวลาที่ไม่น่าอภิรมย์มากที่สุดของตระกูลจ้าว คือเมื่อยามที่ตะวันลับขอบฟ้า...ช่วงเวลาที่แสนน่าหวาดหวั่นของคนที่อยู่ในจวนตระกูลจ้าวทั้งเจ้านายและบ่าวไพร่มารวมตัวกันอยู่ที่เดียว เรือนรับรองถูกใช้เป็นที่ซุกหัวนอนในยามค่ำคืนของคนในตระกูลนี้แต่ถึงอย่างนั้น ทุกๆคืนก็ยังได้ยินเสียงลมหวีดหวิวอยู่ด้านนอก เรือนรับรองนั้นแม้ในยามที่ทุกคนรวมตัวกันอยู่ ด้านนอกก็ยังมีเสียงฝีเท้าที่เดินรอบเรือนครั้งหนึ่งเคยให้บ่าวพากันออกไปดูว่าใครเป็นคนเดิน แต่เมื่อออกไปดูก็พบเพียงความว่างเปล่า สายลมกรรโชกแรง พัดพายอดไม้สูงเอนไหวตามลมเป็นภาพที่น่าขนลุกหลังจากนั้นแม้จะมีเสียงเดินรอบเรือนรับรอง หรือเสียงขูดเล็บกับบานหน้าต่าง กระทั่งเสียงเดินบนหลังคาเรือนรับรองก็ไม่มีใครกล้าออกไปดูแต่คืนนี้ จะเป็นคืนสุดท้ายแล้ว การกลั่นแกล้งทั้งหมดจะจบลงในคืนนี้ดังนั้นจ้าวซิ่วเทียนจึงคาดหวังให้มันเป็นคืนที่จะฝังอยู่ในใจของผู้พบเจอไปจนตาย..."จงอยู่กับความหวาดกลัวไปชั่วชีวิตเสียเถอะ"เสียงแผ่วเบาพัดหายไปกับสายลมแรง จ้าวเซินฝูคับแค้นเสียจนต้องเอ่ยปากกับตัวเอง เกรงว่าหากไม่ได้ระบายออกมาเสียหน่อยคงจะอกแตกตายเรื่องที่ว่าจะให้ยกโทษ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status