Home / โรแมนติก / ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน / ตอนที่ 5 สตรีบ้าแห่งเรือนเฟิ่งอวี้

Share

ตอนที่ 5 สตรีบ้าแห่งเรือนเฟิ่งอวี้

Author: Jiulin
last update Last Updated: 2025-09-09 09:43:00

“มีอะไรหรือเพคะเหตุใดถึงมองพวกบ่าวเช่นนั้น”

เมื่อทั้งคู่เห็นว่าถูกหลิวหรงผิงจ้องมองไม่วางตาก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาแปลกๆ เหมือนกลัวว่านางจะเกิดคลุ้มคลั่งเข้ามาตบตีพวกนางเหมือนเมื่อก่อนตอนที่ไม่ได้สติอย่างไรอย่างนั้น

พวกนางเริ่มถอยหลังไปทีละนิดจนหลิวหรงผิงถึงกลับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“พวกเจ้าเป็นอะไรไป”

“มะ ไม่ได้เป็นอะไรเพคะ”

“พวกเจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลยนะ ว่าคนที่คอยกลั่นแกล้งข้าคือน้องสาวของจวิ้นอ๋องใช่หรือไม่”

“คือว่า”

ทั้งคู่มองหน้ากันและเอาแต่สะกิดกันไปมา

“พูดมาเถอะน่าข้าไม่เล่าใครฟังหรอก ข้าก็มีเพียงพวกเจ้าสองคนนี่นา”

พวกนางชั่งใจไปชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กันแล้วเริ่มต้นเล่าเรื่องราวให้นางฟัง

“องค์หญิงเพ่ยเพ่ยเป็นน้องสาวร่วมสายเลือดเดียวกับท่านอ๋อง อ้อยังมีองค์ชายเล็กอีกคนด้วยนะเพคะ”

“องค์ชายเล็กงั้นหรือ”

“องค์ชายเก้าน้องชายแท้ๆ ของจวิ้นอ๋องเพียงแต่เขาหายไปตั้งแต่ยังเด็กแล้ว ความจริงเรื่องราวในราชวงศ์พวกข้าเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมากเท่าใด ความจริงแล้วไม่มีใครใคร่อยากรู้นักหรอกเพคะ"

"เพราะเหตุใด"

"เรื่องใหญ่เช่นนั้นพูดได้หรือเพคะ หากยังอยากมีเงาหัวก็ต้องปิดปากให้เงียบเอาไว้"

"หากพระชายาอยากรู้มากกว่านี้คงต้องไปถามท่านอ๋องเองแล้วกระมัง”

“ถามท่านอ๋อง”

ทั้งคู่พยักหน้าให้อย่างไร้เดียงสา

“คนอย่างจวิ้นอ๋องจะมาสนทนาเรื่องภายในครอบครัวให้ข้าฟังได้อย่างไร เขาเกลียดข้ามากไม่ใช่หรือ”

“ก็….”

“แล้วองค์หญิงเพ่ยเพ่ยอะไรนั่นเกลียดข้าเพราะเหตุใด”

“นางไม่อยากให้ท่านอ๋องแต่งกับท่านเพราะความจริงแล้วท่านอ๋องมีคนรักอยู่แล้วเพคะ”

“แล้วอย่างไร”

นางกัดกินผลอิงเถาต่อก่อนจะครุ่นคิดตามที่เสี่ยวเถาเอ่ยออกมาเมื่อครู่

‘อย่าบอกนะว่าเจ้าของร่างนี้แย่งคนรักเขามา ให้ตายสิแล้วแบบนี้ข้าควรต้องทำอย่างไรต่อไปกันเล่า’

“เรื่องมันยาวน่ะเพคะ ท่านอ๋องชื่นชอบในตัวของคุณหนูเว่ยมานานแล้วและเขาเองก็น่าจะวางแผนแต่งงานกับเขาแต่เพราะ…”

หลิวหรงผิงยกถ้วยน้ำชาขึ้นซดรวดเดียวจนหมดดับความร้อนรนที่ได้ยินเมื่อครู่แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเท่าใดนัก

“เป็นเพราะข้าสินะ ถึงว่าสิจากที่พวกเจ้าเล่ามาเขาถึงได้ทำเหมือนข้าเป็นหมูเป็นหมาเช่นนั้น แท้จริงแล้วก็เพียงแค่อยากกำจัดข้าไปให้พ้นทางแล้วไปแต่งกับแม่นางผู้นั้นนี่เอง”

“พระชายา…”

“อย่าทำเหมือนสงสารข้า เพราะว่าเวลานี้ข้าหาได้สนใจเขาอีกไม่”

“อะไรนะเพคะ”

“ตั้งแต่ที่ข้าฟื้นขึ้นมาเมื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดถึงได้รู้ว่ามีคนที่หวังดีกับข้าเพียงแค่ไม่กี่คนหนึ่งในนั้นก็คือพวกเจ้า”

ทั้งสองหันมองหน้ากันเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาเลยแม้เพียงนิด

“แล้วคนที่เอาแต่ทำร้ายข้าเช่นเขาใยข้าต้องสนใจอีกล่ะ”

“แล้วพระชายาจะทำอย่างไรต่อไปเพคะ”

“ไม่ทำอะไรทั้งนั้นคอยดูสิว่าเขาจะมีเล่ห์เหลี่ยมอันใดกับข้าอีก แต่พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปคนอย่างข้าไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวหรอก”

“เอ่อความจริงแล้วเรื่องที่พระชายาถูกขังในคอกหมูไม่ได้เป็นเพียงความคิดของท่านอ๋องคนเดียวหรอกนะเพคะ”

“หมายความว่าอย่างไร”

“เป็นองค์หญิงเพ่ยเพ่ยที่เสนอความคิดนั้น”

เสี่ยวเถาเอ่ยออกมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพระชายาของตนที่เวลานี้ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมาแล้ว

“แล้วท่านอ๋องก็เห็นด้วยเพคะ”

ซิ่วอิงพูดเสริมขึ้นจนหลิวหรงผิงหมดความอดทนไปแล้วจริงๆ 

“เฮอะ! ทำร้ายคนไม่มีทางสู้ช่างเก่งกาจกันเสียจริงดูสิว่าข้าจะจัดการกับพวกเจ้าอย่างไร”

หลิวหรงผิงเหยียดยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ นางจะสั่งสอนให้คนพวกนั้นรู้เองว่าคำว่าร้ายกาจจริงๆ นั้นเป็นอย่างไร

‘แต่ว่าข้ามมิติมาทั้งทีให้เป็นคนดีๆ ไม่ได้หรืออย่างไรกัน ดันต้องกลายเป็นคนบ้าเสียอย่างนั้น เฮ้อ…’

“พระชายาองค์หญิงเพ่ยเพ่ยต้องการพบเพคะ”

เสียงหนึ่งเล็ดลอดเข้ามาในห้องดูเหมือนว่าเมื่อคนผู้นั้นพูดจบจะรีบวิ่งออกไปจากเรือนของนางเสียแล้ว

'กลัวอะไรกัน'

“นางคงรู้แล้วว่าแกล้งพระชายาไม่สำเร็จ”

“ไม่ต้องไปหรอกเพคะพระชายา หากออกไปพบนางครั้งนี้ก็คงไม่ต่างไปจากครั้งก่อนๆ นางคงหาเรื่องมาแกล้งท่านอีกเช่นเคย”

“กลัวอะไรล่ะ คนอย่างข้ามีหรือต้องกลัวใครไปกันเถอะ”

“แต่ว่าพระชายา”

“เชื่อข้า”

หลิวหรงผิงเอ่ยออกมาก่อนจะอมยิ้มพลางคิดแผนขึ้นมาอย่างนึกสนุก

“หาอะไรทำแก้เครียดหน่อยก็แล้วกัน”

หลิวหรงผิงตั้งท่าจะก้าวเดินออกไปจากห้องนอนทว่าร่างบางกลับหมุนตัวกลับมาก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์ติดมือไปด้วย

'เกือบลืมไปเลยว่าต้องทำภารกิจเพื่อกุญแจบ้าๆ นั่น'

นางเดินตรงไปทางข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นภายใต้แววตาเป็นกังวลของสาวใช้ทั้งสอง

“ครั้งนี้คงได้แผลอีกเช่นเคย เฮ้อ…พระชายานะพระชายาจะออกไปทำไมก็ไม่รู้”

“เจ้าจะบ่นทำไมนักหนารีบตามไปเถอะน่า” 

“รู้แล้วๆ ข้าก็รีบอยู่นี่อย่างไรเล่า” ซิ่วอิงพูดขึ้นก่อนจะออกแรงวิ่งตามเสี่ยวเถาไปติดๆ หญิงสาวทั้งสองต่างก็รีบสับเท้าวิ่งตามพระชายาของตนไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังวิ่งไม่ทันเช่นเคย

‘พระชายาหายป่วยแล้วก็ไม่เห็นต้องทำเป็นวิ่งซุกซนเหมือนที่เคยเลยนี่นา พวกนางจะวิ่งตามไม่ทันแล้วนะเนี่ย’

“พระชายารอพวกบ่าวด้วยเพคะ”

เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป[1] ที่สวนดอกไม้ของจวนจวิ้นอ๋องมีแต่เสียงร้องตะโกนของบ่าวรับใช้ดังก้องไปทั่วจวน เพราะพระชายาจวิ้นอ๋องเอาแต่วิ่งวุ่นไปจนทั่ว นางทั้งวิ่งและหัวเราะชอบใจที่ทำให้เหล่าสตรีพวกนั้นหัวเสียได้

“พระชายาอย่าวิ่งสิเพคะ เร็วเข้ารีบมาช่วยกันจับนางไว้ก่อนที่ท่านอ๋องจะพาฮองเฮาเสด็จกลับมา”

“เจ้าค่ะแม่นมหู”

เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างก็รีบวิ่งเข้ามาล้อมนางเอาไว้หลิวหรงผิงก็ยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้น นางเอาแต่วิ่งวนไปวนมาจนบ่าวรับใช้ต่างก็สับสนไปหมดสุดท้ายก็ปีนขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง

องค์หญิงเพ่ยเพ่ยที่ตามเสด็จฮองเฮามาที่จวนของผู้เป็นพี่ด้วยนั้นมองตามนางที่เวลานี้ปีนขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้แล้ว

“ท่านลงมาเดี๋ยวนี้นะข้าเหนื่อยกับท่านเต็มทีแล้ว” แม่นมหูเอ่ยออกมามือทั้งสองท้าวเอวเอาไว้ นางหายใจเหนื่อยหอบเพราะวิ่งตามหลิวหรงผิงไม่ทัน

“ปล่อยนางไว้ตรงนั้นแหล่ะดูสิว่านางจะทำอย่างไร”

องค์หญิงเพ่ยเพ่ยน้องสาวร่วมสายเลือดของจวิ้นอ๋องเอ่ยออกมาด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธเมื่อไม่สามารถจัดการกับสตรีบ้าผู้นั้นได้

นางไม่ได้ต้องการให้หลิวหรงผิงผู้นี้แต่งเข้าจวนมาเป็นพี่สะใภ้เลยสักเพียงนิด คนที่นางต้องการให้ผู้เป็นพี่ชายอย่างจวิ้นอ๋องแต่งงานด้วยก็คือ เว่ยอวิ๋นเซียน หลานสาวของพระสนมเว่ยเต๋อเฟยนั่นเอง

ท่าทีที่แสดงออกว่ารังเกียจนางมากนั้นกลับไม่ได้ทำให้หลิวหรงผิงใส่ใจเลยแม้เพียงนิดตรงกันข้ามกับรู้สึกสนุกมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

“แต่ว่าองค์หญิงหากว่าท่านอ๋องกลับมาแล้วพบว่านางอยู่บนต้นไม้พวกบ่าวจะถูกลงโทษได้นะเพคะ”

“ช่างสิ สตรีบ้าเช่นนี้เหตุใดท่านพี่ถึงได้ยอมแต่งนางเข้ามาในจวนกันนะ”

“เจ้าๆ นางปีศาจ!”

องค์หญิงเพ่ยเพ่ยหันขวับไปมองหลิวหรงผิงที่กำลังชี้นิ้วมาที่นาง

“เจ้าว่าใครเป็นปีศาจ นังบ้า!”

หลิวหรงผิงไม่ใส่ใจคำพูดนั้น อยู่ๆ นางก็กระโดดลงมาโดยที่คนด้านล่างไม่ทันได้ตั้งตัวกันเลยสักคน

“กรี๊ด! นังบ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาทับข้าออกไปให้พ้นนะ”

“นังบ้า เจ้าคือนังบ้า ฮ่าๆๆ”

“เจ้าสิบ้าพวกเจ้ายืนเซ่ออะไรอยู่รีบมาลากตัวนางไปขังไว้ที่เรือนบ้านั่นเดี๋ยวนี้!”

“เพคะองค์หญิง”

“พวกเจ้าปล่อยข้านะอย่าทำอะไรพระชายาของข้าไม่เช่นนั้นข้าจะฟ้อง….” เสี่ยวเถาและซิ่วอิงที่ก่อนหน้านี้ถูกนางกำนัลและบ่าวในจวนจับตัวเอาไว้ก็พลันสะบัดแขนจนหลุดพ้นจากการจับกุมนั้น

แต่ไม่ทันที่พวกนางจะพูดจบองค์หญิงเพ่ยเพ่ยก็ตวัดสายตามองมาด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

“จะฟ้องใครขี้ข้าอย่างพวกเจ้าใครจะสนใจกัน ลากพวกนางออกไปเดี๋ยวนี้!”

"ไม่นะ! องค์หญิงเพคะหม่อมฉันขอประทานอภัยแทนพระชายาด้วย นางๆ ไม่สามารถรับรู้ได้เช่นคนปกติและกระทำการล่วงเกินองค์หญิงไปได้โปรดทรงปล่อยพระชายาไปด้วยเถิดเพคะ หม่อมฉันจะเป็นคนพานางกลับไปที่เรือนเองและจะไม่ให้นางออกมาจากเรือนอีกเลยแม้เพียงก้าวเดียว"

ซิ่วอิงรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งท่าจะรังแกพระชายาของนางท่าเดียว อีกทั้งคนยังมากมายเพียงนี้พวกนางก็คงหนีไม่พ้นที่จะเจ็บตัวอีกเช่นเคย

เมื่อเห็นว่าองค์หญิงยังคงนิ่งเฉยทั้งซิ่วอิงและเสี่ยวเถาต่างก็รีบโขกหัวของตนไปกับพื้นหินตรงหน้าจนดูเหมือนว่าที่ศีรษะของนางทั้งสองนั้นจะเริ่มมีเลือดไหลออกมาแล้ว

หลิวหรงผิงที่เห็นดังนั้นก็หยุดนิ่งไปทันทีนางจ้องมองสาวใช้ของตนเองก่อนจะหันไปมององค์หญิงเพ่ยเพ่ย แววตาดุดันที่ไม่เคยแสดงออกมาให้ใครเห็นแต่เวลานี้แม่นมหูได้เห็นก่อนใครแล้ว

หลิวหรงผิงย่างเท้าเข้าไปหาสาวใช้ของตนหมายจะประคองให้ลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันได้ถึงตัวของทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงของแม่นมหูพูดขึ้นว่า

"องค์หญิงนี่ก็ใกล้เวลาที่ฮองเฮากับท่านอ๋องจะกลับเข้าจวนแล้ว ไม่สู้ปล่อยนางไปก่อนดีหรือไม่เพคะ"

แม่นมหูรีบเดินเข้ามากระซิบกับองค์หญิงเพ่ยเพ่ยก่อนจะหันไปจ้องมองหลิวหรงผิงอีกครั้ง

"ก็ได้" องค์หญิงเพ่ยเพ่ยกอดอกก่อนจะชักสีหน้ามึนตึงไปไม่น้อย

"รีบไสหัวไปทั้งนายทั้งบ่าวเสียสิ!” แม่นมหูเอ่ยขึ้นเสียงดังทั้งยังก้าวเข้ามายืนบังหน้าองค์หญิงด้วยเหตุผลอันใดนั้นนางไม่อาจรู้ได้

เสี่ยวเถากับซิ่วอิงรีบลุกขึ้นไปประคองหลิวหรงผิงด้วยความรวดเร็วประหนึ่งกลัวว่าองค์หญิงจะเปลี่ยนใจไปเสียก่อน

“จะทำอะไรข้า จะพาข้าไปเที่ยวหรือ”

“ใช่เพคะไปเที่ยวนะเพคะพระชายา”

“ไปๆๆ ไปสิเร็วเข้า”

สาวใช้ทั้งสองจับแขนทั้งสองข้างของนางเอาไว้ก่อนจะนำพาร่างบอบบางเดินกลับไปที่เรือนของตนทันที

“คอยดูเถอะ สักวันข้าจะเขี่ยเจ้าออกไปจากจวนนี้ให้ได้และให้พี่หญิงเว่ยมาเป็นพี่สะใภ้ของข้าแทน”

“แต่ว่าองค์หญิง นางคือพระชายาที่ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้กับท่านอ๋องนะเพคะใช่ว่าท่านอ๋องจะหย่ากับนางได้ง่ายๆ เสียที่ไหนกัน”

“เฮอะ! ก็คอยดูเถอะไม่มีอะไรที่คนอย่างข้าทำไม่ได้หรอก”

- - - - - - - - - -

[1] หนึ่งก้านธูป = ครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 46 ความทรมานที่กัดกินใจ

    เมืองหลวงแคว้นต้าหยวน-กรมการพระนคร-จวิ้นอ๋องเดินออกมาจากกรมการพระนครด้วยสีหน้าที่ดูเบื่อหน่ายยิ่งนัก หลายปีมานี้เขาต้องเรียนรู้งานในฐานะองค์รัชทายาทที่ถูกฮ่องเต้ยัดเยียดตำแหน่งนี้ให้โดยที่เขาไม่เต็มใจรับเลยสักเพียงนิดชายหนุ่มหมายมั่นจะออกท่องยุทธภพเพื่อตามหาชายาเพียงคนเดียวของเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน แต่เพราะหน้าที่ในตอนนี้จึงทำได้เพียงแค่ส่งองค์รักษ์และเหล่าทหารออกติดตามหานางแทนเขาเท่านั้นน้องชายร่วมสายเลือดที่หายตัวไปตั้งแต่เล็กๆ แม้จะตามหาพบแล้วแต่กลับมีชะตากรรมเดียวกันกับเขาเสียอย่างนั้น“นั่นเจ้าจะไปไหน ต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่ออีกนะ”“ใยข้าต้องไปด้วย”“เจ้าเป็นเจ้ากรมไหนเลยจะละทิ้งหน้าที่กลับไปรายงานผลงานกับพระองค์เดี๋ยวนี้เลยจะมาทิ้งให้ข้ารับผิดชอบแทนเจ้าไม่ได้”“เฮ้อ…ไว้ค่อยรายงานก็ยังได้ นี่พี่สี่พวกเราทำอะไรกันอยู่อย่างนั้นหรือ”“ถามมาได้ว่าทำอะไรไหนเจ้าบอกว่าใกล้ได้ตัวคนร้ายที่เป็นคนลอบทำร้ายเสด็จแม่แล้วอย่างไรเล่า”“ก็ยังไม่รู้ว่านางอยู่ไหน” เยี่ยอ๋องพูดขึ้นพลางเสยผมของเขาด้วยท่วงท่าที่ดูเหนื่อยหน่ายยิ่งนัก จวิ้นอ๋องรู้ดีว่าเวลานี้เขาไม่น่าจะมีกระจิตกระใจในการทำงานอย

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 45 ร้ายแรงกว่าที่คิด

    “อาเฟยอยู่หรือไม่”เสียงเรียกของหลิวหรงผิงดังแว่วออกมาจากด้านในบ้าน อาเฟยที่กำลังกระโดดโลดเต้นเล่นอยู่หน้าบ้านกับเพื่อนๆ อยู่นั้นก็รีบวิ่งเข้ามาด้านในด้วยความรวดเร็ว“มีอะไรหรือขอรับท่านแม่”“เห็นท่านป้าของเจ้าหรือไม่”“เมื่อครู่ข้าเห็นท่านป้าเดินไปที่สวนไผ่หลังบ้านคงจะไปเดินเล่นกระมังขอรับ”“อย่างนั้นหรือ อาหารเย็นใกล้เสร็จแล้วเจ้ามาช่วยเสี่ยวเถายกไปวางที่โต๊ะอาหารทีแม่จะไปเก็บผักที่แปลงข้างบ้านเสียหน่อย”“ได้ขอรับ”“ล้างมือด้วยเล่า”“ขอรับท่านแม่”เด็กชายรีบวิ่งไปที่ถังใส่น้ำที่ถูกวางเอาไว้บนโต๊ะทำอาหาร เขาปีนเก้าอี้เล็กแล้วยื่นมือน้อยๆ นั้นลงไปล้างในอ่างน้ำทีละส่วนตามที่ผู้เป็นมารดาเคยสอนเอาไว้ หลิวหรงผิงจ้องมองการกระทำนั้นอย่างนึกเอ็นดูก่อนจะหันหลังเดินไปที่สวนผักข้างบ้านในเวลาต่อมา“พี่เสี่ยวเถา”อาเฟยกระโดดลงจากเก้าอี้เล็กนั้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาเสี่ยวเถาที่กำลังจัดเตรียมอาหารสำหรับอาหารมื้อค่ำนี้ นางหันมามองเด็กชายเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า“มีอะไรหรือเจ้าคะคุณชาย”“พี่เสี่ยวเถาอยู่ตรงนี้ไปก่อนนะข้าจะไปดูท่านป้ามู่เสียหน่อย”“แต่ว่าคุณหนูบอกให้คุณชายอยู่ที่นี่เตรียมอาหารสำหรับตั้งโ

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 44 ข้ามีพ่อหรือไม่

    เป็นเวลาร่วมเดือนแล้วที่หลิวหรงผิงได้อยู่ร่วมกับสหายคนสนิททั้งสองช่วยกันรักษาผู้คนทุกๆ ครั้งที่เย่หยุนฟางทำการเปิดโรงเตี๊ยมเพื่อทำการรักษาคนเรื่องการไปโรงเรียนของอาเฟยเพราะมีมู่อิงเถาช่วยพูดอีกแรงจนสุดท้ายหลิวหรงผิงก็ยอมอนุญาตให้เด็กชายไปโรงเรียนเช่นเดียวกันกับเพื่อนๆ ในละแวกบ้านของเขาเด็กชายดีใจเป็นอย่างมากและดูจะตื่นเต้นกับการไปโรงเรียนไม่น้อย ในทุกๆ วันเขาจะตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่จัดการตัวเองจนเสร็จเรียบร้อยนั่งรอคอยผู้เป็นมารดาไปส่งเขาที่โรงเรียน วันนี้ก็เช่นกันในใจกลางเมืองฉางอันผู้คนเดินกันพลุกพล่านแผงขายอาหารผักสดผลไม้สดตั้งเรียงรายเต็มทั้งสองข้างทาง เมื่อยืนอยู่บนโรงเตี๊ยมก็มองเห็นบรรยากาศในเมืองได้อย่างชัดเจนความงดงามของแสงอาทิตย์ยามเช้าที่มีแสงแดดอ่อนๆ รำไรสาดส่องลงมาบนแผงขายผักและผลไม้สดที่เรียงรายเป็นแนวชวนให้นางคิดถึงบ้านเกิด“ก่อนหน้านี้ข้าไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่ต่อแต่เมื่อมาพบพวกเจ้าข้าถึงได้รู้สึกว่าชีวิตที่เหลือของข้าก็น่าอยู่ไม่น้อยเลย”“พูดอะไรของเจ้ากัน เจ้ายังมีข้ากับอาเฟยอีกคนนะจะทิ้งพวกข้าเอาไว้ที่นี่เพียงลำพังอย่างนั้นหรือช่างใจร้ายเสียจริง”“ข้าพูดแบบนั้นเสีย

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 43 พานพบสหายเก่า

    ห้าปีต่อมา-เมืองฉางอัน แดนตะวันออก-สายลมเย็นที่พัดโชยมาหอบเอากลิ่นสมุนไพรจากสวนสมุนไพรข้างบ้านลอยเข้ามาถึงในห้องโถง หลิวหรงผิงที่กำลังคัดเลือกสมุนไพรกับเสี่ยวเถาอยู่นั้นก็เงยหน้าขึ้นจ้องมอง หลิวเฟยหมิง ที่กำลังยืนทำหน้างอให้นางอยู่ยิ่งเขาแสดงสีหน้าบึ้งตึงมากเท่าใดก็ยิ่งเหมือนคนผู้นั้นมากขึ้นทุกที‘บ้าจริง! อุ้มท้องมาตั้งหลายเดือนเลี้ยงมาเองกับมือแต่เหตุใดถึงได้เหมือนคนบ้าผู้นั้นถึงเพียงนี้กันนะ’“ท่านแม่ข้าพูดจริงๆ นะ ข้าอยากไปโรงเรียน”“เอาไว้ให้โตกว่านี้ก่อนดีหรือไม่เจ้าคะคุณชาย” เสี่ยวเถาที่สังเกตเห็นสีหน้าที่เริ่มไม่สบอารมณ์ของผู้เป็นนายสาวก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที“ข้าโตแล้วนะขอรับพี่เสี่ยวเถา อีกอย่างเพื่อนรุ่นเดียวกับข้าก็ไปโรงเรียนกันหมดแล้วด้วย”“ไหนเจ้าบอกว่าที่โรงเรียนมีเด็กเกเรที่คอยแต่จะรังแกเจ้าแล้วเจ้ายังอยากจะไปอยู่อีกหรือ”“โธ่ท่านแม่พวกนั้นรังแกข้าก็จริงแต่ข้าก็ซัดกลับไปทุกทีกลัวอะไรกันเล่าขอรับ” เด็กชายเดินเข้ามากอดแขนผู้เป็นมารดาแน่นซบหน้าลงกับไหล่บางของนางคำตอบของเด็กชายทำเอาหลิวหรงผิงถอนหายใจออกพรืดหนึ่ง“อาเฟยเองก็โตแล้วเจ้าส่งเขาไปโรงเรียนได้แล้วกระมัง อุดอู้อยู่

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 42 ยากจะหวนคืน

    จวิ้นอ๋องที่กำลังนั่งตรวจหนังสือรายงานการลอบทำลายสะพานที่เมืองลี่หนานรวมไปถึงรายงานการลอบทำร้ายชายาของตนอยู่นั้นได้เงยหน้าขึ้นจ้องมององค์รักษ์คนสนิทของเขาที่เวลานี้เอาแต่เดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูห้องตำราท่าทางที่กระวนกระวายใจของเขาทำให้ชายหนุ่มอดที่จะสงสัยไม่ได้“เจ้าเป็นอะไร” เสียงของจวิ้นอ๋องดังมาจนถึงหน้าประตูห้อง หานเฟิงเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบเข้ากับสายตาเยือกเย็นที่เต็มไปด้วยความงุนนงงของผู้เป็นนาย “เอ่อ คือว่า”เขาเอาแต่ยืนอ้ำอึ้งและยังคงไม่กล้าเดินเข้าไปในห้องจนตงหยางที่รอคอยรับใช้จวิ้นอ๋องอยู่ข้างกายนั้นถึงกับต้องพูดออกมาอย่างหมดความอดทน“ขาของเจ้าเป็นอะไรจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานหรือไม่ ท่านอ๋องรอฟังเจ้าอยู่ไม่เห็นหรืออย่างไร”“เห็น”“ก็พูดมาเสียทีสิ”หานเฟิงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องด้วยความเชื่องช้า“คือว่าท่านอ๋อง เมื่อครู่ข้าน้อยไปที่เรือนเฟิ่งอวี้มาได้ยินว่าพระชายาอยากไปสวดมนต์ที่อารามหนิงเซียนพ่ะย่ะค่ะ”“สวดมนต์งั้นหรือ”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”“แค่สวดมนต์ใยต้องไปไกลถึงเพียงนั้นกัน แล้วกงการอะไรของเจ้าถึงได้ไปที่เรือนนั้นโดยที่ข้าไม่ได้สั่ง”“คือว่าข้าน้

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 41 หัวใจที่แตกสลาย

    คำพูดของเว่ยอวิ๋นเซียนทำให้รุ่ยอ๋องเริ่มโกรธขึ้นมาแล้ว เขาหันมาจ้องมองหลิวหรงผิงด้วยแววตากราดเกรี้ยว“ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้ก็ยังนึกว่าท่านจะเป็นคนดีที่คู่ควรกับพี่สี่เสียอีก”“นางก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ใจแคบและเห็นแก่ตัว” จวิ้นอ๋องพูดขึ้นโดยไม่มองมาที่นางแม้เพียงนิด“พูดเช่นนี้แสดงว่าพวกท่านเชื่อใจนางกระนั้นหรือ” นางหันไปมองจวิ้นอ๋องและน้องสามีก็เห็นเพียงสายตาว่างเปล่าของพวกเขาที่มองส่งมาเท่านั้น“ได้ แล้วแต่ท่านเถอะไม่ว่าอย่างไรข้าก็เป็นคนที่ท่านไม่เคยไว้วางใจมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แม้ว่าข้าจะรักษาท่านหายจริงแต่นั่นก็ไม่อาจชดเชยสิ่งที่สกุลหลิวทำได้ข้าเองก็เพิ่งจะรู้ก็ตอนนี้นี่เอง”“จวิ้นอ๋องท่านจงจำเอาไว้จากนี้เป็นต้นไปไม่ว่าท่านจะพูดหรือทำสิ่งใดก็ล้วนไม่มีผลกับข้าอีกแล้ว ข้าในเวลานี้เป็นเพียงชายาในนามของท่านเท่านั้นอยากจะลงโทษข้ากระนั้นหรือก็สุดแล้วแต่พวกท่านเลย”นางพูดจบก็เบือนหน้าหนีไม่คิดจะทำตัวให้ดูน่าสงสารสักเพียงนิดองค์หญิงเพ่ยเพ่ยหันไปมองพี่ชายของตนก่อนจะหันกลับมามองหลิวหลงผิงอีกครั้ง“ท่านพี่ข้าว่าเรื่องนี้ควรสอบสวนก่อนดีหรือไม่”“องค์หญิงพูดเช่นนี้หมายค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status