หน้าหลัก / รักโบราณ / ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน / ตอนที่ 5 สตรีบ้าแห่งเรือนเฟิ่งอวี้

แชร์

ตอนที่ 5 สตรีบ้าแห่งเรือนเฟิ่งอวี้

ผู้เขียน: Jiulin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-09 09:43:00

“มีอะไรหรือเพคะเหตุใดถึงมองพวกบ่าวเช่นนั้น”

เมื่อทั้งคู่เห็นว่าถูกหลิวหรงผิงจ้องมองไม่วางตาก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาแปลกๆ เหมือนกลัวว่านางจะเกิดคลุ้มคลั่งเข้ามาตบตีพวกนางเหมือนเมื่อก่อนตอนที่ไม่ได้สติอย่างไรอย่างนั้น

พวกนางเริ่มถอยหลังไปทีละนิดจนหลิวหรงผิงถึงกลับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“พวกเจ้าเป็นอะไรไป”

“มะ ไม่ได้เป็นอะไรเพคะ”

“พวกเจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลยนะ ว่าคนที่คอยกลั่นแกล้งข้าคือน้องสาวของจวิ้นอ๋องใช่หรือไม่”

“คือว่า”

ทั้งคู่มองหน้ากันและเอาแต่สะกิดกันไปมา

“พูดมาเถอะน่าข้าไม่เล่าใครฟังหรอก ข้าก็มีเพียงพวกเจ้าสองคนนี่นา”

พวกนางชั่งใจไปชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กันแล้วเริ่มต้นเล่าเรื่องราวให้นางฟัง

“องค์หญิงเพ่ยเพ่ยเป็นน้องสาวร่วมสายเลือดเดียวกับท่านอ๋อง อ้อยังมีองค์ชายเล็กอีกคนด้วยนะเพคะ”

“องค์ชายเล็กงั้นหรือ”

“องค์ชายเก้าน้องชายแท้ๆ ของจวิ้นอ๋องเพียงแต่เขาหายไปตั้งแต่ยังเด็กแล้ว ความจริงเรื่องราวในราชวงศ์พวกข้าเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมากเท่าใด ความจริงแล้วไม่มีใครใคร่อยากรู้นักหรอกเพคะ"

"เพราะเหตุใด"

"เรื่องใหญ่เช่นนั้นพูดได้หรือเพคะ หากยังอยากมีเงาหัวก็ต้องปิดปากให้เงียบเอาไว้"

"หากพระชายาอยากรู้มากกว่านี้คงต้องไปถามท่านอ๋องเองแล้วกระมัง”

“ถามท่านอ๋อง”

ทั้งคู่พยักหน้าให้อย่างไร้เดียงสา

“คนอย่างจวิ้นอ๋องจะมาสนทนาเรื่องภายในครอบครัวให้ข้าฟังได้อย่างไร เขาเกลียดข้ามากไม่ใช่หรือ”

“ก็….”

“แล้วองค์หญิงเพ่ยเพ่ยอะไรนั่นเกลียดข้าเพราะเหตุใด”

“นางไม่อยากให้ท่านอ๋องแต่งกับท่านเพราะความจริงแล้วท่านอ๋องมีคนรักอยู่แล้วเพคะ”

“แล้วอย่างไร”

นางกัดกินผลอิงเถาต่อก่อนจะครุ่นคิดตามที่เสี่ยวเถาเอ่ยออกมาเมื่อครู่

‘อย่าบอกนะว่าเจ้าของร่างนี้แย่งคนรักเขามา ให้ตายสิแล้วแบบนี้ข้าควรต้องทำอย่างไรต่อไปกันเล่า’

“เรื่องมันยาวน่ะเพคะ ท่านอ๋องชื่นชอบในตัวของคุณหนูเว่ยมานานแล้วและเขาเองก็น่าจะวางแผนแต่งงานกับเขาแต่เพราะ…”

หลิวหรงผิงยกถ้วยน้ำชาขึ้นซดรวดเดียวจนหมดดับความร้อนรนที่ได้ยินเมื่อครู่แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเท่าใดนัก

“เป็นเพราะข้าสินะ ถึงว่าสิจากที่พวกเจ้าเล่ามาเขาถึงได้ทำเหมือนข้าเป็นหมูเป็นหมาเช่นนั้น แท้จริงแล้วก็เพียงแค่อยากกำจัดข้าไปให้พ้นทางแล้วไปแต่งกับแม่นางผู้นั้นนี่เอง”

“พระชายา…”

“อย่าทำเหมือนสงสารข้า เพราะว่าเวลานี้ข้าหาได้สนใจเขาอีกไม่”

“อะไรนะเพคะ”

“ตั้งแต่ที่ข้าฟื้นขึ้นมาเมื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดถึงได้รู้ว่ามีคนที่หวังดีกับข้าเพียงแค่ไม่กี่คนหนึ่งในนั้นก็คือพวกเจ้า”

ทั้งสองหันมองหน้ากันเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาเลยแม้เพียงนิด

“แล้วคนที่เอาแต่ทำร้ายข้าเช่นเขาใยข้าต้องสนใจอีกล่ะ”

“แล้วพระชายาจะทำอย่างไรต่อไปเพคะ”

“ไม่ทำอะไรทั้งนั้นคอยดูสิว่าเขาจะมีเล่ห์เหลี่ยมอันใดกับข้าอีก แต่พวกเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปคนอย่างข้าไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวหรอก”

“เอ่อความจริงแล้วเรื่องที่พระชายาถูกขังในคอกหมูไม่ได้เป็นเพียงความคิดของท่านอ๋องคนเดียวหรอกนะเพคะ”

“หมายความว่าอย่างไร”

“เป็นองค์หญิงเพ่ยเพ่ยที่เสนอความคิดนั้น”

เสี่ยวเถาเอ่ยออกมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพระชายาของตนที่เวลานี้ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมาแล้ว

“แล้วท่านอ๋องก็เห็นด้วยเพคะ”

ซิ่วอิงพูดเสริมขึ้นจนหลิวหรงผิงหมดความอดทนไปแล้วจริงๆ 

“เฮอะ! ทำร้ายคนไม่มีทางสู้ช่างเก่งกาจกันเสียจริงดูสิว่าข้าจะจัดการกับพวกเจ้าอย่างไร”

หลิวหรงผิงเหยียดยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ นางจะสั่งสอนให้คนพวกนั้นรู้เองว่าคำว่าร้ายกาจจริงๆ นั้นเป็นอย่างไร

‘แต่ว่าข้ามมิติมาทั้งทีให้เป็นคนดีๆ ไม่ได้หรืออย่างไรกัน ดันต้องกลายเป็นคนบ้าเสียอย่างนั้น เฮ้อ…’

“พระชายาองค์หญิงเพ่ยเพ่ยต้องการพบเพคะ”

เสียงหนึ่งเล็ดลอดเข้ามาในห้องดูเหมือนว่าเมื่อคนผู้นั้นพูดจบจะรีบวิ่งออกไปจากเรือนของนางเสียแล้ว

'กลัวอะไรกัน'

“นางคงรู้แล้วว่าแกล้งพระชายาไม่สำเร็จ”

“ไม่ต้องไปหรอกเพคะพระชายา หากออกไปพบนางครั้งนี้ก็คงไม่ต่างไปจากครั้งก่อนๆ นางคงหาเรื่องมาแกล้งท่านอีกเช่นเคย”

“กลัวอะไรล่ะ คนอย่างข้ามีหรือต้องกลัวใครไปกันเถอะ”

“แต่ว่าพระชายา”

“เชื่อข้า”

หลิวหรงผิงเอ่ยออกมาก่อนจะอมยิ้มพลางคิดแผนขึ้นมาอย่างนึกสนุก

“หาอะไรทำแก้เครียดหน่อยก็แล้วกัน”

หลิวหรงผิงตั้งท่าจะก้าวเดินออกไปจากห้องนอนทว่าร่างบางกลับหมุนตัวกลับมาก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์ติดมือไปด้วย

'เกือบลืมไปเลยว่าต้องทำภารกิจเพื่อกุญแจบ้าๆ นั่น'

นางเดินตรงไปทางข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นภายใต้แววตาเป็นกังวลของสาวใช้ทั้งสอง

“ครั้งนี้คงได้แผลอีกเช่นเคย เฮ้อ…พระชายานะพระชายาจะออกไปทำไมก็ไม่รู้”

“เจ้าจะบ่นทำไมนักหนารีบตามไปเถอะน่า” 

“รู้แล้วๆ ข้าก็รีบอยู่นี่อย่างไรเล่า” ซิ่วอิงพูดขึ้นก่อนจะออกแรงวิ่งตามเสี่ยวเถาไปติดๆ หญิงสาวทั้งสองต่างก็รีบสับเท้าวิ่งตามพระชายาของตนไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังวิ่งไม่ทันเช่นเคย

‘พระชายาหายป่วยแล้วก็ไม่เห็นต้องทำเป็นวิ่งซุกซนเหมือนที่เคยเลยนี่นา พวกนางจะวิ่งตามไม่ทันแล้วนะเนี่ย’

“พระชายารอพวกบ่าวด้วยเพคะ”

เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป[1] ที่สวนดอกไม้ของจวนจวิ้นอ๋องมีแต่เสียงร้องตะโกนของบ่าวรับใช้ดังก้องไปทั่วจวน เพราะพระชายาจวิ้นอ๋องเอาแต่วิ่งวุ่นไปจนทั่ว นางทั้งวิ่งและหัวเราะชอบใจที่ทำให้เหล่าสตรีพวกนั้นหัวเสียได้

“พระชายาอย่าวิ่งสิเพคะ เร็วเข้ารีบมาช่วยกันจับนางไว้ก่อนที่ท่านอ๋องจะพาฮองเฮาเสด็จกลับมา”

“เจ้าค่ะแม่นมหู”

เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างก็รีบวิ่งเข้ามาล้อมนางเอาไว้หลิวหรงผิงก็ยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้น นางเอาแต่วิ่งวนไปวนมาจนบ่าวรับใช้ต่างก็สับสนไปหมดสุดท้ายก็ปีนขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง

องค์หญิงเพ่ยเพ่ยที่ตามเสด็จฮองเฮามาที่จวนของผู้เป็นพี่ด้วยนั้นมองตามนางที่เวลานี้ปีนขึ้นไปนั่งบนกิ่งไม้แล้ว

“ท่านลงมาเดี๋ยวนี้นะข้าเหนื่อยกับท่านเต็มทีแล้ว” แม่นมหูเอ่ยออกมามือทั้งสองท้าวเอวเอาไว้ นางหายใจเหนื่อยหอบเพราะวิ่งตามหลิวหรงผิงไม่ทัน

“ปล่อยนางไว้ตรงนั้นแหล่ะดูสิว่านางจะทำอย่างไร”

องค์หญิงเพ่ยเพ่ยน้องสาวร่วมสายเลือดของจวิ้นอ๋องเอ่ยออกมาด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธเมื่อไม่สามารถจัดการกับสตรีบ้าผู้นั้นได้

นางไม่ได้ต้องการให้หลิวหรงผิงผู้นี้แต่งเข้าจวนมาเป็นพี่สะใภ้เลยสักเพียงนิด คนที่นางต้องการให้ผู้เป็นพี่ชายอย่างจวิ้นอ๋องแต่งงานด้วยก็คือ เว่ยอวิ๋นเซียน หลานสาวของพระสนมเว่ยเต๋อเฟยนั่นเอง

ท่าทีที่แสดงออกว่ารังเกียจนางมากนั้นกลับไม่ได้ทำให้หลิวหรงผิงใส่ใจเลยแม้เพียงนิดตรงกันข้ามกับรู้สึกสนุกมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

“แต่ว่าองค์หญิงหากว่าท่านอ๋องกลับมาแล้วพบว่านางอยู่บนต้นไม้พวกบ่าวจะถูกลงโทษได้นะเพคะ”

“ช่างสิ สตรีบ้าเช่นนี้เหตุใดท่านพี่ถึงได้ยอมแต่งนางเข้ามาในจวนกันนะ”

“เจ้าๆ นางปีศาจ!”

องค์หญิงเพ่ยเพ่ยหันขวับไปมองหลิวหรงผิงที่กำลังชี้นิ้วมาที่นาง

“เจ้าว่าใครเป็นปีศาจ นังบ้า!”

หลิวหรงผิงไม่ใส่ใจคำพูดนั้น อยู่ๆ นางก็กระโดดลงมาโดยที่คนด้านล่างไม่ทันได้ตั้งตัวกันเลยสักคน

“กรี๊ด! นังบ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาทับข้าออกไปให้พ้นนะ”

“นังบ้า เจ้าคือนังบ้า ฮ่าๆๆ”

“เจ้าสิบ้าพวกเจ้ายืนเซ่ออะไรอยู่รีบมาลากตัวนางไปขังไว้ที่เรือนบ้านั่นเดี๋ยวนี้!”

“เพคะองค์หญิง”

“พวกเจ้าปล่อยข้านะอย่าทำอะไรพระชายาของข้าไม่เช่นนั้นข้าจะฟ้อง….” เสี่ยวเถาและซิ่วอิงที่ก่อนหน้านี้ถูกนางกำนัลและบ่าวในจวนจับตัวเอาไว้ก็พลันสะบัดแขนจนหลุดพ้นจากการจับกุมนั้น

แต่ไม่ทันที่พวกนางจะพูดจบองค์หญิงเพ่ยเพ่ยก็ตวัดสายตามองมาด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

“จะฟ้องใครขี้ข้าอย่างพวกเจ้าใครจะสนใจกัน ลากพวกนางออกไปเดี๋ยวนี้!”

"ไม่นะ! องค์หญิงเพคะหม่อมฉันขอประทานอภัยแทนพระชายาด้วย นางๆ ไม่สามารถรับรู้ได้เช่นคนปกติและกระทำการล่วงเกินองค์หญิงไปได้โปรดทรงปล่อยพระชายาไปด้วยเถิดเพคะ หม่อมฉันจะเป็นคนพานางกลับไปที่เรือนเองและจะไม่ให้นางออกมาจากเรือนอีกเลยแม้เพียงก้าวเดียว"

ซิ่วอิงรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตั้งท่าจะรังแกพระชายาของนางท่าเดียว อีกทั้งคนยังมากมายเพียงนี้พวกนางก็คงหนีไม่พ้นที่จะเจ็บตัวอีกเช่นเคย

เมื่อเห็นว่าองค์หญิงยังคงนิ่งเฉยทั้งซิ่วอิงและเสี่ยวเถาต่างก็รีบโขกหัวของตนไปกับพื้นหินตรงหน้าจนดูเหมือนว่าที่ศีรษะของนางทั้งสองนั้นจะเริ่มมีเลือดไหลออกมาแล้ว

หลิวหรงผิงที่เห็นดังนั้นก็หยุดนิ่งไปทันทีนางจ้องมองสาวใช้ของตนเองก่อนจะหันไปมององค์หญิงเพ่ยเพ่ย แววตาดุดันที่ไม่เคยแสดงออกมาให้ใครเห็นแต่เวลานี้แม่นมหูได้เห็นก่อนใครแล้ว

หลิวหรงผิงย่างเท้าเข้าไปหาสาวใช้ของตนหมายจะประคองให้ลุกขึ้นแต่ยังไม่ทันได้ถึงตัวของทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงของแม่นมหูพูดขึ้นว่า

"องค์หญิงนี่ก็ใกล้เวลาที่ฮองเฮากับท่านอ๋องจะกลับเข้าจวนแล้ว ไม่สู้ปล่อยนางไปก่อนดีหรือไม่เพคะ"

แม่นมหูรีบเดินเข้ามากระซิบกับองค์หญิงเพ่ยเพ่ยก่อนจะหันไปจ้องมองหลิวหรงผิงอีกครั้ง

"ก็ได้" องค์หญิงเพ่ยเพ่ยกอดอกก่อนจะชักสีหน้ามึนตึงไปไม่น้อย

"รีบไสหัวไปทั้งนายทั้งบ่าวเสียสิ!” แม่นมหูเอ่ยขึ้นเสียงดังทั้งยังก้าวเข้ามายืนบังหน้าองค์หญิงด้วยเหตุผลอันใดนั้นนางไม่อาจรู้ได้

เสี่ยวเถากับซิ่วอิงรีบลุกขึ้นไปประคองหลิวหรงผิงด้วยความรวดเร็วประหนึ่งกลัวว่าองค์หญิงจะเปลี่ยนใจไปเสียก่อน

“จะทำอะไรข้า จะพาข้าไปเที่ยวหรือ”

“ใช่เพคะไปเที่ยวนะเพคะพระชายา”

“ไปๆๆ ไปสิเร็วเข้า”

สาวใช้ทั้งสองจับแขนทั้งสองข้างของนางเอาไว้ก่อนจะนำพาร่างบอบบางเดินกลับไปที่เรือนของตนทันที

“คอยดูเถอะ สักวันข้าจะเขี่ยเจ้าออกไปจากจวนนี้ให้ได้และให้พี่หญิงเว่ยมาเป็นพี่สะใภ้ของข้าแทน”

“แต่ว่าองค์หญิง นางคือพระชายาที่ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้กับท่านอ๋องนะเพคะใช่ว่าท่านอ๋องจะหย่ากับนางได้ง่ายๆ เสียที่ไหนกัน”

“เฮอะ! ก็คอยดูเถอะไม่มีอะไรที่คนอย่างข้าทำไม่ได้หรอก”

- - - - - - - - - -

[1] หนึ่งก้านธูป = ครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 50 มีเพียงเจ้า-END

    ท่าทีที่เหินห่างของนางก็ยิ่งทำให้เขาปวดใจไม่น้อยอยากที่จะเข้าไปสวมกอดคนตรงหน้าแต่ก็ทำได้เพียงแคยับยั้งใจเอาไว้เท่านั้น“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”“ข้าสบายดี”“ผิงเอ๋ออย่าทำห่างเหินกับข้าเช่นนี้สิ”“ข้ากับท่านในเวลานี้เกี่ยวข้องอันใดกันอย่างนั้นหรือถึงได้ใช้คำว่าห่างเหิน”“เจ้าตั้งครรภ์เหตุใดถึงไม่บอกข้า”“ไม่ใช่ว่าท่านเป็นคนพูดเองหรอกหรือว่าไม่ว่าอย่างไรจะให้สายเลือดของท่านปะปนกับคนสกุลหลิวไม่ได้”“คือว่าข้าไม่ได้….”“จะบอกว่าไม่ได้เป็นคนพูดกระนั้นหรือ ครั้งแรกตอนเข้าหอกับข้าครั้งที่สองตอนอยู่ที่เมืองลี่หนานคิดว่าข้าโง่เขลาถึงกลับจดจำไม่ได้อย่างนั้นหรือ”“อันที่จริงนี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วท่านกับข้าก็ห่างเหินกับคำว่าสามีภรรยาไปแล้ว และท่านเองก็มาอยู่ที่นี่แล้วดังนั้นหนังสือหย่าของข้าได้แล้วหรือยัง”“เจ้าอยากหย่ากับข้ามากกระนั้นหรือ”“ใช่”หลิวหรงผิงตอบเขาไปโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองเขาเลยสักเพียงนิด จวิ้นอ๋องกำมือของตนเอาไว้แน่นก่อนจะชายตามองไปยังสองคนที่เหลือในห้องเย่หยุนฟางที่เห็นแววตาเย็นเยือกของเขาจ้องมองมาก็เข้าไปสะกิดเซี่ยเว่ยหมิงในทันที ก่อนที่ชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งฟังบทสนทนาของคนทั้งค

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 49 สมควรแล้ว

    เสียงลากกระบี่ดังขึ้นไปตามทางเดินของจวนนำพาความรู้สึกเย็นยะเยือกรายล้อมไปทั่วทั้งบริเวณนั้น จนบ่าวรับใช้ในจวนไม่มีผู้ใดกล้าโผล่หน้าออกมาดูเลยสักคน ร่างสูงยืนจังก้าจ้องมองเจ้าเมืองฉางอันที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นหน้าเรือนใหญ่“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้งบอกมาว่านางอยู่ไหน”“ขะ ข้าไม่รู้เรื่อง”“เจ้าเมืองฉางอัน ท่านคงใช้ชีวิตอยู่มานานมากจนไม่เสียดายชีวิตนี้ของท่านแล้วสินะ”เป็นเยี่ยอ๋องที่พูดขึ้นก่อนจะเข้าไปนั่งยองๆ ใกล้เขา เจ้าเมืองฉางอันที่ถูกซ้อมปางตายในเวลานี้แทบจะพูดอะไรออกมาไม่ได้อยู่แล้วเพราะความละโมบของเขานำพามาซึ่งเหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้เพราะมีสตรีนางหนึ่งมาขอให้เขากระทำการบางอย่างบอกว่าเป็นพระประสงค์ของพระสนมเสียนเฟยหากว่าเขาทำสำเร็จจะได้รางวัลเป็นทองคำหนึ่งล้านตำลึงและได้แต่งงานกับองค์หญิงห้าหรือก็คือองค์หญิงเพ่ยเพ่ยที่ถึงวัยออกเรือนแล้วนั่นเองแม้จะอายุห่างกับเขาราวพ่อลูกแต่เพราะความหลงใหลในรูปโฉมและเงินทองทำให้เขาไม่สนใจถูกผิด ช่วยเหลือนางโดยการลักพาตัวสตรีนางหนึ่งและเด็กชายอีกคนที่เขาไม่คิดจะสืบที่มาที่ไปของคนทั้งคู่ก่อนเลยสักเพียงนิดมาไว้ที่จวนแห่งนี้

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 48 ความเหมือนที่คล้ายคลึงกัน

    ภายในห้องรับรองนั้นเยี่ยอ๋องที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหน้าต่างโดยไม่ยอมขยับกายไปไหนอยู่นั้นก็ได้พูดขึ้นมาว่า“นางดูแปลกๆ ท่านแน่ใจนะว่านางจะช่วยพวกเราได้จริงๆ พี่สี่นี่ได้ยินหรือไม่”เยี่ยอ๋องจ้องมองใบหน้าคมคายของผู้เป็นพี่ชายที่เวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะเอาแต่นั่งเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่และดูท่าว่าจะไม่ได้ฟังที่เขาพูดเมื่อครู่นี้“พี่สี่….องค์รัชทายาท!”“เบาๆ สิเจ้าอยากคนให้แตกตื่นมากนักหรืออย่างไรกัน”“ข้าเรียกท่านนานแล้วแต่ท่านก็เอาแต่เหม่อลอยเป็นอะไรไปอย่าบอกนะว่าสนใจสตรีผู้นั้นขึ้นมาแล้ว” จวิ้นอ๋องหันไปจ้องมองน้องชายของเขาก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก“ข้าว่านะเยี่ยอ๋องพวกเราไม่ต้องส่งคนออกไปตามหาพวกนางหรอก”“ท่านจ้างวานนางไปแล้วมันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วหรือไม่เล่า”“ไม่ใช่เช่นนั้น ตงหยางเจ้าเข้ามาในนี้ที”“ขอรับใต้เท้า” เสียงของตงหยางดังขึ้นหน้าประตูห้องก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามาด้านใน“ส่งคนไปสะกดรอยตามเย่หยุนฟางเอาไว้หากมีความคืบหน้าอะไรให้รีบมารายงานข้า”“ขอรับ” เขารับคำสั่งก่อนจะเร่งฝีเท้าออกไปจากห้องรับรองตามมาด้วยเหวินหงที่ถูกเยี่ยอ๋องสั่งการให้ตามเขาไป

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 47 คนคุ้นเคย

    -โรงเตี๊ยมเหมยหลัน เมืองฉางอัน-“ข้าก็บอกไปแล้วว่าให้พวกเจ้าพักผ่อนก่อนไม่ต้องรีบมาอย่างไรเล่า”“ข้าไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ข้าทำได้”เมื่อมู่อิงเถายังคงยืนยันหนักแน่นหลิวหรงผิงก็หันไปมองเย่หยุนฟางด้วยความจนใจ“เจ้าบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับพวกข้าเรื่องอะไรงั้นหรือ”“พักนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในเมืองมากมายนัก”“ไหนเจ้าบอกว่าตรวจสอบดีแล้วอย่างไรเล่า”“ก็ตรวจสอบไปแล้วไม่พบพิรุธอันใดถึงได้มายืนสนทนากับพวกเจ้าได้อย่างไรเล่า”เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ทั้งหมดจะหันไปมองตามมาด้วยร่างอ้วนท้วนของฉางไห่ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมโผล่หน้าเข้ามาในห้องรับรองก่อนจะสังเกตเห็นว่าเย่หยุนฟางก็อยู่ในห้องนี้เช่นกัน“นายหญิงท่านก็อยู่ด้วยหรือขอรับ”“วิ่งหน้าตาตื่นมาเช่นนี้มีเรื่องสำคัญอะไร”เย่หยุนฟางหันไปถามคนของตัวเองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย“มีคนมาขอพบแม่นางหลิวขอรับ”“ใคร/ใคร”ทั้งหลิวหรงผิงและเย่หยุนฟางต่างก็พูดขึ้นพร้อมกัน ฉางไห่ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้นางก่อนจะบอกว่าคนผู้นั้นรอนางอยู่ด้านล่างแล้วเย่หยุนฟางหันไปมองหลิวหรงผิงแววตามีความกังวลอยู่ไม่น้อย หลิวหรงผิงคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกอ่านสีหน้าที่วิตกกังวลก่อนหน้

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 46 ความทรมานที่กัดกินใจ

    เมืองหลวงแคว้นต้าหยวน-กรมการพระนคร-จวิ้นอ๋องเดินออกมาจากกรมการพระนครด้วยสีหน้าที่ดูเบื่อหน่ายยิ่งนัก หลายปีมานี้เขาต้องเรียนรู้งานในฐานะองค์รัชทายาทที่ถูกฮ่องเต้ยัดเยียดตำแหน่งนี้ให้โดยที่เขาไม่เต็มใจรับเลยสักเพียงนิดชายหนุ่มหมายมั่นจะออกท่องยุทธภพเพื่อตามหาชายาเพียงคนเดียวของเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน แต่เพราะหน้าที่ในตอนนี้จึงทำได้เพียงแค่ส่งองค์รักษ์และเหล่าทหารออกติดตามหานางแทนเขาเท่านั้นน้องชายร่วมสายเลือดที่หายตัวไปตั้งแต่เล็กๆ แม้จะตามหาพบแล้วแต่กลับมีชะตากรรมเดียวกันกับเขาเสียอย่างนั้น“นั่นเจ้าจะไปไหน ต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่ออีกนะ”“ใยข้าต้องไปด้วย”“เจ้าเป็นเจ้ากรมไหนเลยจะละทิ้งหน้าที่กลับไปรายงานผลงานกับพระองค์เดี๋ยวนี้เลยจะมาทิ้งให้ข้ารับผิดชอบแทนเจ้าไม่ได้”“เฮ้อ…ไว้ค่อยรายงานก็ยังได้ นี่พี่สี่พวกเราทำอะไรกันอยู่อย่างนั้นหรือ”“ถามมาได้ว่าทำอะไรไหนเจ้าบอกว่าใกล้ได้ตัวคนร้ายที่เป็นคนลอบทำร้ายเสด็จแม่แล้วอย่างไรเล่า”“ก็ยังไม่รู้ว่านางอยู่ไหน” เยี่ยอ๋องพูดขึ้นพลางเสยผมของเขาด้วยท่วงท่าที่ดูเหนื่อยหน่ายยิ่งนัก จวิ้นอ๋องรู้ดีว่าเวลานี้เขาไม่น่าจะมีกระจิตกระใจในการทำงานอย

  • ท่านอ๋องเย็นชากับชายาแสนซน   ตอนที่ 45 ร้ายแรงกว่าที่คิด

    “อาเฟยอยู่หรือไม่”เสียงเรียกของหลิวหรงผิงดังแว่วออกมาจากด้านในบ้าน อาเฟยที่กำลังกระโดดโลดเต้นเล่นอยู่หน้าบ้านกับเพื่อนๆ อยู่นั้นก็รีบวิ่งเข้ามาด้านในด้วยความรวดเร็ว“มีอะไรหรือขอรับท่านแม่”“เห็นท่านป้าของเจ้าหรือไม่”“เมื่อครู่ข้าเห็นท่านป้าเดินไปที่สวนไผ่หลังบ้านคงจะไปเดินเล่นกระมังขอรับ”“อย่างนั้นหรือ อาหารเย็นใกล้เสร็จแล้วเจ้ามาช่วยเสี่ยวเถายกไปวางที่โต๊ะอาหารทีแม่จะไปเก็บผักที่แปลงข้างบ้านเสียหน่อย”“ได้ขอรับ”“ล้างมือด้วยเล่า”“ขอรับท่านแม่”เด็กชายรีบวิ่งไปที่ถังใส่น้ำที่ถูกวางเอาไว้บนโต๊ะทำอาหาร เขาปีนเก้าอี้เล็กแล้วยื่นมือน้อยๆ นั้นลงไปล้างในอ่างน้ำทีละส่วนตามที่ผู้เป็นมารดาเคยสอนเอาไว้ หลิวหรงผิงจ้องมองการกระทำนั้นอย่างนึกเอ็นดูก่อนจะหันหลังเดินไปที่สวนผักข้างบ้านในเวลาต่อมา“พี่เสี่ยวเถา”อาเฟยกระโดดลงจากเก้าอี้เล็กนั้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาเสี่ยวเถาที่กำลังจัดเตรียมอาหารสำหรับอาหารมื้อค่ำนี้ นางหันมามองเด็กชายเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า“มีอะไรหรือเจ้าคะคุณชาย”“พี่เสี่ยวเถาอยู่ตรงนี้ไปก่อนนะข้าจะไปดูท่านป้ามู่เสียหน่อย”“แต่ว่าคุณหนูบอกให้คุณชายอยู่ที่นี่เตรียมอาหารสำหรับตั้งโ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status