“ไม่ผิดแน่” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวเด็กคนนี้คือลูกของพี่รองกับหลินเฟยจิ้งแน่นอน“ท่านพ่อข้าอยู่ที่ใดกัน?” หลังจากที่หลินลู่หมิงได้ยินชื่อของหลินเฟยจิ้งแล้วนั้น เขาก็ลดท่าทีก้าวร้าวลงในทันทีเด็กน้อยที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มานั้น น้ำเสียงยังคงขึ้นจมูกอยู่ “ท่านช่วยพาข้าไปเจอเขาได้หรือไม่?”“นี่มิใช่หรือ?
เด็กน้อยกุมศีรษะ “เอาแต่ลงไม้ลงมืออยู่เรื่อย ท่านไม่ชอบข้าใช่หรือไม่? ข้าไม่สนใจท่านป้าอย่างท่านหรอก ท่านอย่ามาแตะต้องตัวข้า”อวี้เอ๋อร์ใบหน้าเริ่มดำทะมึนสีหน้าของจีอู๋เยียนดำทะมึนยิ่งกว่า“ช่างเถอะ ช่างเถอะ อย่าไปโต้เถียงกับเด็กเลย พวกเรากลับกันก่อนเถอะ” อวี้เอ๋อร์ลากตัวจีอู๋เยียนออกไป ที่ใต้ต้นไ
เด็กน้อยร้อง “อา” ออกมาหนึ่งคำ ตระหนักได้ถึงจุดที่ขัดแย้งกันเขาก็ไม่อยากอธิบายเพิ่มเติม กอดต้นขาของตงฟางหลีแน่น “ข้าไม่สน ถึงอย่างไรท่านก็เป็นท่านพ่อของข้า ข้าเดินตามพวกท่านมาตั้งแต่เช้า น่าเสียดายที่คลาดกันไปเสียได้ แต่โชคดีที่ข้าเจอกับคนโง่สองคนเสียก่อน การเข้าถ้ำเสือครั้งนี้ข้ามิได้เข้าไปเสียเปล
งูเป็นสัตว์เลือดเย็น จึงมิอาจอาศัยอยู่ในสถานที่ที่หนาวเย็นเช่นนี้ได้ภายใต้การควบคุมโดยสัญชาตญาณของสัตว์ ตัวของงูทองจึงค่อย ๆ แข็งทื่ออย่างช้า ๆท้ายที่สุด ก็มิอาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อยเด็กน้อยร้อนรน นัยน์ตาแดงก่ำ “ท่านทำอะไรเสี่ยวจินน่ะ?”จีอู๋เยียนหยิบงูทองขึ้นมาโยนคืนเด็กน้อย “จำศีลแล้ว”“จำศี
“เหมียว” หลังจากที่เฮยตั้นมองเห็นเด็กน้อย จู่ ๆ ก็ขนตั้งชันไปทั้งตัวมันกระโดดลงจากตั่งคนงาม มายืนขวางอยู่ตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ ก่อนแยกเขี้ยวยิงฟันใส่เด็กน้อย ราวกับว่ากำลังตักเตือนฉินเหยี่ยนเย่ว์มองเฮยตั้นที่ขนตั้งชัน ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเฮยตั้นมีความฉลาดทางสติปัญญาที่สูงมาก และไม่อยากสนใจผู้ค
อวี้เอ๋อร์จูงมือเด็กน้อยที่ชอบฉกฉวยประโยชน์ แล้วไปจูงจีอู๋เยียนที่ใบหน้าดำทะมึนอีก“เลิกวุ่นวายกันได้แล้ว เข้าไปกันเถอะ”พวกเขามิได้เดินเข้าทางประตูหลัก แต่เข้าไปในตรอกแห่งหนึ่ง ก่อนเดินเข้าไปในประตูบานเล็กผ่านทางตรอกนั้นแทนเด็กน้อยมองป้ายบนประตูหลักที่เขียนด้วยอักษรตัวใหญ่ไว้สามคำว่า “จวนหนิงอ๋อง”