Share

บทที่ 3 หมาป่าจอมทมิฬ

Author: Futhaone
last update Last Updated: 2025-04-02 21:45:57

 

บัดนี้'เสี่ยวเยา'กลับกลายเป็น'ยู่หลง'ทหารชั้นผู้น้อย ที่ต้องไปรายงานตัวกับท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย แม้ชุดทหารนั้นหนาแน่นเพียงใด ก็ไม่อาจปกปิดเรือนร่างซูบผอมของนางไว้ได้

ดวงตาทุกคู่ของสหายร่วมทัพต่างเพ่งมองมายังร่างของนางด้วยความใคร่รู้ บ้างก็ยังซุบซิบนินทา หัวเราะเยาะเย้ยว่านางนั้น ผอมแห้งแรงน้อย จะเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาต่อกรผู้อื่นได้ ไม่แม้แต่จะผ่านด่านคัดเลือกเป็นทหารไปได้แน่นอน แต่ทว่ายังดีที่โชคชะตายังเข้าข้างนาง ไม่มีผู้ใดครางแครงใจในตัวตนที่แท้จริงของตนก็เพียงพอแล้ว

ไม่รีรอต่างมุ่งหน้าไปยังจวนท่านแม่ทัพ ดวงตาสวยยังคงสอดส่องเหล่าทหารหน้าใหม่ ต่างยืนอย่างสง่าผ่าเผย  แววตามุ่งมั่น ตั้งใจ ไร้ความกลัวแต่อย่างใด ช่างน่าประทับใจเสียจริง ยกเว้นแต่นาง ที่ยังคงครางแครงใจว่า เหตุใดถึงทะลุมิติมาที่แห่งนี้ได้

"ข้า เฟ่ยหลง คาราวะท่านแม่ทัพ"น้ำเสียงเข้มขึมเรียกสตินางคืนกลับมา แท้จริงนี้คือนามของทหารผู้น้อยท่านนี้ ท่าทางเคร่งขรึมช่างแตกต่างออกไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

ทหารทุกคนต่างแสดงความเคารพอีก ทั้งยังรายงายชื่อของตนเอง ต่อท่านแม่ทัพผู้นี้จนกระทั้งถึงทีของเสี่ยวเยาแล้ว

"อะ แฮ้ม!ข้ายู่หลง คาราวะท่านแม่ทัพเจิ้งเจี๋ย" ยังดีที่เธอเรียนรู้สำนวน และมารยาทมาบ้างจึงทำให้พูด และปฏิบัติตนตามพวกเขาได้ เสี่ยวเยาอมยิ้มเล็กน้อย อย่างภาคภูมิใจในความสามารถของตน โดยนางไม่ทันระวังตัวว่า รอยยิ้มนั้นได้ไปสะกิดต่อมความสงสัยของท่านแม่ทัพผู้นี้ที่ไม่เคยเมตตา อ่อนข้อให้กับผู้ใด

"ยู่หลงเหรอ!" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นก่อนจะลุกขึ้นมุ่งตรงมายังนาง หากจำไม่ผิดเขาเคยได้ยินว่าเหมยหลินมีน้องชาย ชื่อ ยู่หลง จะใช่คนเดียวกันที่ยืนตรงหน้าตนตอนนี้หรือไม่! แววตาที่เย็นคู่นั้น เพ่งมองเสี่ยวเยาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเผยยิ้มตรงมุมปากอย่างมีเลคนัย

"เยี่ยงนั้น ทหารอ่อนแอ่นผู้นี้ ก็คือ บุตรชายตระกูลยู่สินะ! หึหึ"เสียงหัวเราะในลำคอ ทำให้เสี่ยวเยาขนลุกซู่ อย่างแปลกประหลาดอย่างไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว

'คงไม่เกิดเรื่องไม่ดีกับเราหรอกนะ!ทำไงดี? หากตอบว่าใช่ จะเกิดอะไรขึ้นกับเราไหม? คิดซิเสี่ยวเยา จะหลีกเลี่ยงก็คงเป็นไปไม่ได้ มีอย่างเดียวต้องเผชิญหน้ากันให้รู้แล้วรู้รอดกันไป แต่ฉันคนนี้ไม่ยอมตายในที่แห่งนี้แน่นอน'

"ขอรับท่านแม่ทัพ ข้ายู่หลง บุตรชายคนรองของตระกูลยู่ "

"เจ้ามาได้ตรงเวลาเสียจริง! ในเมื่อพี่สาวของเจ้า ด่วนตายไปเสียก่อนที่ข้าจะลงโทษ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว...หึหึ"เจิ้งเจี๋ยโน้มตัวเล็กน้อยเพื่อกระซิบใกล้ใบหูนาง ด้วยแววตาขุ่นเคือง 

"เจ้าจงรับเคราะห์แทนนางเสียเถอะ หึหึ" ยิ้มบางๆของแม่ทัพผู้นี้ ทำให้นางกลืนน้ำลายตรงคอด้วยความหวาดหวั่น 

"มะ... มะ... ไม่ได้หรอกท่านแม่ทัพ?"แม้น้ำเสียงตะกุกตะกัก แต่ยังคงเผยยิ้มกว้างถึงตา ทำใจดีสู้เสื้อไว้ก่อน แล้วค่อยหาวิธีเอาตัวรอดทีหลัง

"เพราะเหตุใด ถึงไม่ได้ ฮึ!" เจิ้งเจี๋ยขมวดคิ้วสูง เพราะไม่เคยมีใครกล้าต่อขัดใจตนมาก่อน แม้แต่จะยิ้มได้ในที่หมายจะเอาชีวิต คงมีแต่คนไร้สติเท่านั้น 

"ความผิดของท่านพี่มิใช่ความผิดของข้า ทำไมข้าจะต้องมารับเคราะห์แทนนางด้วย เรื่องจริงหรือไม่ท่านมั่นใจได้อย่างไร? ข้าเชื่อว่าท่านพี่ปรากฏตัวในสักวันหนึ่ง เมื่อนั้นท่านต้องสืบสาวราวเรื่องหาข้อเท็จจริงเสียก่อน เป็นถึงท่านแม่ทัพก็ต้องมีความยุติธรรม ไม่ใช่อยุติธรรม หากเป็นเช่นดั่งที่ว่าไว้ ข้าน้อยยินดีรับผิดแทนท่านพี่แต่โดยดี" อะไรทำให้ฉันพูดอย่างนี้ออกไปนะ เสี่ยวเยา รนหาที่ตายแท้ๆ

"ได้! ในเมื่อเจ้ากล้าพูดเช่นนี้กับข้า..." นิ้วชี้ที่เรียวยาวของท่านแม่ทัพจับลำคอขาวนวลของนาง ไว้ แม้จะไม่ออกแรงใดๆ แต่เหมือนจะบอกเป็นในว่า 'หัวเจ้าจะหลุดออกจากบ่าแน่นอน' ท่านแม่ทัพผู้นี้เปลือกนอกงดงามดั่งกว่าบุรุษทั้งหมดในใต้หล้า น่าเสียดายที่ถูกจารึกไว้ซึ่ความโหดเหี้ยมของเขาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ 

"เอ๊ะ!!"

"...."

เสี่ยวเยาเงยหน้ามองท่านแม่ทัพอย่างลืมตัวเหมือนโดนมนต์สะกด นัยย์ตาสีม่วงเบ่งประกายบวกกับใบหน้าเรียว เส้นผมดำยาวสลวย แถมผิวขาวเผือก เสมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย ดั่งที่ประวัติศาสตร์ระบุไว้ หากเธอวาดภาพท่านแม่ทัพ ในยุคปัจจุบันก็คงมีแต่ผู้คนคลั่งไคล้ จนลืมความเหี้ยมโหดที่ถูกกล่าวขานไว้เป็นแน่

"องค์รักษนำทหารผู้นี้ไปโบยห้าสิบครั้ง!"

"อะไรกัน? ข้าทำอะไรผิด? ท่านไม่คิดว่าโหดเหี้ยมเกินไปเหรอ? ข้าร่างบางขนาดนี้! แถมยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า..."

"หยุดพล่ามได้แล้ว ชีวิตของเจ้า เหตุใดข้าต้องสนใจด้วย!!" 

" ชิ! ขอปาด้วยร้องเท้าสักครั้งเถอะ!เจ้าหมาป่าน่ารังเกียจ!!! "เสี่ยวเยาฉุดคิดได้ว่าฉายานี้เป็นความลับมีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่รู้

"เจ้า!!"

พลึบ!

ด้วยแรงทั้งหมดที่นางมีบวกกลับไฟร้อนที่ประทุขึ้นตรงกลางใจ ไม่คิดว่าท่านแม่ทัพผู้นี้จะสั่งโบยตนทันที อย่างไร้ความเมตตา ตนเป็นผู้บริสุทธิ์เท่านั้น มีหรือที่ยอมอยู่เฉยๆแบบนี้

รองเท้าลอยสลิ่วไปตามแรงเหวี่ยงสุดกำลัง พรุ่งตรงไปยังท่านแม่ทัพโดนใบหน้าที่แสนเย็นชานั้นอย่างแม่นยำ

"เยส! ต้องให้ได้อย่างนั้นซิ!"

"เจ้า!!"

เจิ้งเจี๋ยเดินดรุ่ยๆมุงตรงมายังเสี่ยวเยา ด้วยอารมณ์ขุนเคืองใจ พร้อมดึงกระบี่คู่กายออกจากฝักอย่างรวดเร็ว ไม่รีรอจี้ตรงคอขาวนวลของนางอย่างไม่ลังเล น้ำใสสีแดงขุ่นไหลออกมาเล็กน้อย เพื่อย้ำเตือนนางว่าอย่าบังอาจหยาบคายกับเขาเช่นนี้อีก

แววตาที่เเข็งกระด้างด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเมื่อมองใบหน้าเสี่ยวเยา ผู้เป็นน้องชายของนางกำนัลทรยศ ทำให้หวนนึกถึงวันวานที่ตนหลงรักนางจนหมดหัวใจ 

"เหตุใดเจ้าถึงล่วงรู้ฉายาของข้า?" ท่านแม่ทัพกระซิบข้างหูที่สั่นระริกไปด้วยความหวาดกลัว หัวใจเสี่ยวเยาแทบหลุดออกมา ย้อนนึกถึงวันที่นางเปิดอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ในยุคนี้ ได้ระบุฉายาฉายาลับของเขา ที่องค์จักรพรรคไทจู่เป็นผู้ประทานให้ และเบื้องหลังที่ราชสำนักได้ปกปิดไว้มากมาย เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

'ฉายาหมาป่าจอมทมิฬผู้โหดเหี้ยม' 

เสี่ยวเยารู้สึกแน่นหน้าอก หายใจเริ่มติดขัด ทุกอย่างรอบๆตัวนางกำลังหมุนติ้ว

'เกิดขึ้นอีกแล้วเนี่ย'

นางทำได้เพียงแค่คิดในใจ นั้นคงเป็นเพราะความเหนื่อยล้า หรือความหิวกันแน่ สายตาเริ่มพร่ามัวเหมือนทุกอย่างค่อยๆดับวูบลงไป นางผู้ซึ่งหมดสติโดยไม่ทันรู้เลยว่า ร่างบางของตนกำลังอยู่ในอ้อมแขนของเจิ้งเจี๋ยเสียแล้ว

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 28 "อึก!! พี่ใหญ่ ฮื้อๆ ปล่อยข้า ข้าจะฆ่าพวกเจ้า"

    'เปะ เปะ' เสียงปรบมือดังขึ้นจากด้านหลัง เผยให้เห็นบุรุษร่างสูงในชุดดำ ยิ้มเหี้ยมเกรียมให้เขาทั้งคู่อย่างกระหยิ่มใจไม่น้อย "หนูสองตัวติดกลับที่วางไว้จนได้ มันช่างอย่างง่ายดายตามที่ท่านอ๋องวางแผนไว้ มิมีผิด ฮ่าฮ่า" เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างพึงพอใจ นั้นดึงกระบี่คู่กายออกมา หมายจะฆ่าทั้งคู่ด้วยมือตนเอง "ยังมิใช่ตอนนี้" อ๋องจี่ชงเผยยิ้มมุมปากเล็กน้อย ".......""แต่หากเจ้าต้องการ ข้าอนุญาตให้เจ้าเลือกปลิดชีพคนใดคนหนึ่งได้!" แววตานิ่งเฉยไร้ความเมตตาเอ่ยขึ้น"เอาละ ข้าจะปลิดชีพผู้ใดก่อนดี เจ้า! หรือเจ้า! ฮ่าฮ่า ช่างสนุกเสียจริง" เฮ่ออี๋เพ่งมองคนทั้งคู่อย่างพิจารณาก่อนเหลือบมองอ๋องจี่ชงจิบสุราอย่างรื่นรมย์"ไม่คิดว่าวันนี้ ข้าจะจับหมารับใช้ตัวโปรดของเจ้าหมาป่าได้ หึหึ น่าขันเสียจริง"อ๋องจี่ชงเหลือบมองทั้งคู่เล็กน้อย เดินตรงมาหยุดนิ่งตรงหน้าลี่หวังก่อนจะเทน้ำสุราราดบนศีรษะเขาอย่างดูหมิ่น"อึก!" ลี่หวังทำได้เพียงกำมัดแน่นจนเล็กจิบเพื่อเก็บอาการแค้นเคืองไว้ในใจ"เจ้า!!" ลี่ซานตะโกนขึ้น ทว่าลี่หวังส่ายหน้าให้เขาเก็บอารมณ์ไว้ เพราะในตอนนี้ชีวิตตนทั้งคู่ได้แขวนอยู่บนเส้นด้ายเสียแล้ว"เจ้าทั้งคู่

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 27 "เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรือไง!"

    ทุกอย่างเงียบสงัดลง เพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง จนแทบจะได้ยินเสียงลมพัดผ่านอย่างเหน็บหนาว แววตาเย็นชาของลี่หวังเพ่งมองทิศทางเบื้องหน้าอย่างจริงจัง ไม่มีแม้คำพูดสักคำเอ่ยออกมา เพราะรู้ดีว่าในใจนางตอนนี้ คงสับสนและเหนื่อยล้าเต็มที ท่าทางไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแม้แต่จะเดินไปต่อ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มสดใสบัดนี้กลับเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ณ เวลานี้มีเพียงตัวนางเท่านั้นที่ต้องต่อสู้กับชะตากรรมที่ซับซ้อน ซึ่งไม่คาดคิดว่าในอดีตนางคือ เหมยหลิน ผู้ที่หลงรักเขาจนหมดใจ แต่ได้เพียงทุกข์จนตรอมใจกลับมาเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้นางจะทำอย่างไรต่อไป 'ฉันต้องแก้แค้นให้ตัวเอง หรือเผชิญหน้ากับเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งตอนนี้เขาเหมือนจะรักเรามาก ควรให้อภัยดีไหม ทำไงดีเสี่ยวเหยา?' ความคิดต่างๆ นานาพรั่งพรูเข้ามาอย่างมิอาจหยุดยั้งไว้ได้"เฮ่อ..." นางถอนหายใจเพียงเบาๆ แววตาเศร้าอย่างชัดเจน"เสี่ยวเหยา เสี่ยวเหยา ข้ามาแล้ว...เอ๊ะ!" น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากเบื้องหลังนาง เป็นใครไม่ได้นอกจากสหายคนสนิท ในขณะที่ลี่หวังพินหน้ามองบุรุษผู้ไร้เดียงสา ดวงตาเขาเบิกกว้างเมื่อพบว่าคนผู้นั้นวิ่งตรงดิ่งมายังท

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 26 "ไม่ว่านางจะเป็นคนรักของผู้ใด หากข้าต้องการ ก็มิอาจรอดพ้นเนื้อมือจากข้าไปได้"

    เวลาล่วงเลยผ่านไป ความเงียบสงบเข้ามาเยือนอีกครั้ง เสี่ยวเหยามิอาจพบหน้าเจิ้งเจี๋ยได้เต็มร้อย นางพยายามซ่อนตัวจากเขา ไม่มาปรนนิบัติรับใช้ข้างกายเหมือนดั่งเช่นเคย แม้บังเอิญพบเจอกันที่ใด นางก็เอาแต่หลีกหนีเขาทุกครั้งไป ราวกับว่าเขาสิ่งปฏิกูลที่น่ารังเกียจ สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาไม่น้อย ทว่ามิอาจทำการสิ่งใดได้ นางเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ไปก็เพราะตน จึงฝืนใจนิ่งเฉย รอแผนการคืนความยุติธรรมให้นาง ดั่งที่วางไว้สำเร็จ เมื่อนั้นตนจะลงโทษนางให้สาสมที่ทำให้ตนคะนึงหาอย่างอดทนอดกลั้นแทบจะตายเสียให้ได้ ทางด้านอ๋องจี๋ชงผู้ซึ่งเฝ้ามองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ไม่ห่าง อีกทั้งคอยสั่งให้เหล่าทหารจับตามองนางทุกฝีก้าว ครั้นเมื่อสบโอกาสจึงหยิบยื่นไมตรีให้นาง เพียงหวังว่าในช่วงเวลาที่นางจะซาบซึ้งใจ เป็นหนทางเดียวที่ตนสามารถเข้าไปแทนที่ของเจิ้งเจี๋ยได้ ดวงตาเจ้าเล่ห์เพ่งมองสตรีผู้งดงาม ในชุดนางกำนัลชั้นผู้น้อยอย่างหลงใหล กลับมาครั้งนี้นางมิต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไป ดวงตาสวยเพ่งมองเงาตนเองในน้ำ ด้วยท่าทางเหม่อเลย ภายในใจครุ่นคิดว่าจะทำเช่นไรกับชีวิตต่อไป"เจ้าดูซูบผอมลงไปมาก มีเรื่องอะไรให้ครุ่นคิด บอกข้าได้หรือ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 25 "ข้ามิอาจปิดหูขโมยกระดิ่งได้อีกต่อไป'

    ค่ำคืนมีเพียงเมฆดำบดบังแสงเรืองทองของจันทราจนหมดสิ้น เป็นค่ำคืนอันเปล่าเปลี่ยวอย่างน่าหวาดหวั่น แม้มองไปในทิศทางใดก็มีแต่ความเงียบสงัด หลงเหลือไว้เพียงแสงสว่างอันริบหรี่ของเปลวเพลิงเพื่อส่องทาง เพราะเส้นทางที่นางกำนัลผู้นั้นว่าไว้ มิได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงไม่กี่เวลาร่างบางหยุดนิ่งตรงประตูบานหนึ่งที่ทำด้วยแผ่นไม้หนา ดูเก่าแก่ตั้งสง่าเป็นจุดศูนย์กลางของกำแพง ด้านในมันช่างน่าค้นหาเสียจริงแอ๊ดดดด!...แกร็บ บานประตูเปิดเองอย่างง่ายดาย เหมือนเชื้อเชิญนาง เสี่ยวเหยาไม่เพียงแต่ไม่สงสัยใดๆ อีกทั้งยังไร้ความหวาดกลัว ถึงไม่รู้ว่าทางข้างหน้านี้มีสิ่งใดซ่อนอยู่ และต้องเจอกับอะไรก็ตามก็ไม่มีอะไรที่น่าหวาดกลัวไปกว่าความทรงจำของเหมยหลินที่พรั่งพรูเข้ามา ดวงตาคู่สวยถูกสะกดด้วยสวนดอกโบตั๋นสีขาวสลับแดงบานสะพรั่งไปทั่ว แม้จะถูกความมืดบดบัง ทว่าก็มิอาจบดบังความงามไว้ได้เลย" เอ๊ะ! เหมือนเคยเห็นดอกไม้เช่นนี้ ที่ไหนมาก่อน" นางเพ่งมองอย่างพินิจทบทวนความจำของตน คลับคล้ายว่าเจอดอกไม้ที่ใดกัน กลับต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงคุ้นเคยของใครผู้หนึ่ง"เจ้ามาทำอันใดที่นี่!!""ท่านกูกู!!""ข้าเอง เจ้าคิดว่าเ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 24 "ข้าต้องการรู้เรื่องราวของท่านกูกู"

    ทางด้านเสี่ยวเหยา ที่ยืนสง่าด้วยความหวาดหวั่น ท่ามกลางหมอกหนาบดบังดวงตา สัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าในห้วงอันมืดมิด ไร้สิ่งอื่นใด ที่แห่งนี้คงเป็นห้วงความฝันที่นางมโนขึ้น หรือลางบอกเหตุอันใดกันแน่"เสี่ยวเหยา" น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกแต่กลับคุ้นเคย แว่วดังมาแต่ไกล แต่มิอาจจับทิศทางของที่มาได้เลย นางมิอาจรู้ได้ว่าเหตุใดถึงฝันถึงผู้ที่มิเคยให้คำตอบใดๆ กับนาง"ฉันรู้ว่าเป็นเธอ เหมยหลินออกมาคุยกันดีๆ ได้ไหม ทำไมถึงต้องเป็นฉันเท่านั้นที่เป็นฝ่ายดิ้นรนต่อสู้เพียงเพื่อหาคำตอบ ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดสักหน่อยแต่กลับต้องมารับเคราะห์กรรมเช่นนี้ ช่างไม่ยุติธรรม ทะลุมิติแบบใดกัน? ต้องมาหาคำตอบ ยากกว่าการทำข้อสอบในมหาลัยเสียอีก เฮ่อ...กรรมของฉันจริงๆ""....."แม้แต่ในห้วงความฝัน นางมิอาจหยุดพร่ำบ่น หรือคาดเดาสิ่งใดได้เลย ทุกอย่างมืดสนิทไปทุกด้าน มีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือถามออกไปตรงๆ แม้จะเป็นเพียงความฝันก็ตาม'แน่ะ! ยังเงียบภาษาสมัยใหม่คงไม่รู้เรื่องสิน่ะ! ' นางคิดในใจ"ท่านพี่ใช่ไหม ท่านต้องการให้ข้าทำเช่นไร พูดมาได้เลย ข้ายินดีช่วยเหลือท่านทุกอย่าง" นางเอ่ยขึ้น เพราะมีสติพอจะรู้ได้ว่าไม่ใช่ความฝันธรรมดา และ

  • ท่านแม่ทัพข้าจะเอาตัวรอดจากท่านให้ได้   บทที่ 23 มีท่านอยู่ข้าจะกลัวอะไร?

    ดวงตาคมเพ่งมองไปรอบบริเวณสำนัก เสียงกระบี่ที่เคยดังกังวานไปทั่วป่าไผ่ บัดนี้กลับมีเพียงเสียงจิ้งหรีดร่ำร้อง เมื่อครั้นลมหนาวมาเยือน กลิ่นหอมอ่อนๆ อบอวลไปทั่วบริเวณสำนักที่รายล้อมไปด้วยภาพอันงดงามมิเคยลืมเลือนจากห้วงความทรงจำของเขาได้เลย ร่างสูงย่างก้าวอย่างสุขุม มือหนาผลักบานประตูจวนที่ปิดตายเปิดออกอย่างง่ายดาย ทุกสิ่งยังคงเดิม แม้กระทั่งกลิ่นดอกโบตั๋นยังคงหอมตลบอบอวลไปทั่วห้องไม่เคยเปลี่ยนแปลงราวกับว่ายังมีผู้คนอาศัย สร้างความประหลาดใจให้เขา เหตุใดทุกอย่างยังเหมือนเดิม สิ่งของเครื่องใช้ยังคงจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย "ห้องนอนผู้ใดกัน หรือว่ามีคนอาศัยอยู่ที่นี่" เสียงใสเอ่ยขึ้น เจิ้งเจี๋ยครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ"เจ้ารู้ไหมว่าที่แห่งนี้ มันอันตรายเพียงใด?""มีท่านอยู่ ข้าจะกลัวอะไร ปลอดภัยหายห่วงอยู่แล้ว!""อึก... เจ้านี่มันช่างดื้อด้านเสียจริง!"'นั้นไงยิงธนูหมัดใจแล้วหนึ่ง กล้าพูดได้ไงเสี่ยวเหยาเอ่ย ดูแก้มเขาซิ! แดงระเรื่อราวกับลูกท้อเชียว' ทว่าตรงกันข้ามกับเจิ้งเจี๋ยคิดว่านางเป็นสตรีที่ไร้เดียงสา แต่กับเจ้าเล่ห์ใช่น้อย ถึงกระนั้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status