แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: หานซานรื่อ
องค์หญิงใหญ่จิ้งคังนั่งอยู่บนที่นั่งสูงสุดในห้องโถงใหญ่ บนใบหน้าที่งดงามอ่อนหวานของนางไม่ได้แสดงออกถึงความยินดีหรือยินร้าย

นางลูบท้องที่ตั้งครรภ์มาแล้วเก้าเดือน แล้วก้มหน้าลง

หลายปีมานี้ฉู่อี้หานลำบากมามาก นางเองก็หวังว่าจะมีสักคนที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเขา หากว่าซูเยียนหรันปฏิบัติต่อฉู่อี้หานด้วยความจริงใจ นางก็จะไม่ทำอะไร ด้วยเหตุนี้นางจึงมาด้วยตนเองในวันนี้ หวังว่าซูเยียนหรันจะไม่ทำให้นางต้องผิดหวัง

เหล่าสี่ผอ[footnoteRef:1]ห้อมล้อมฉู่อี้หานกับซูเยียนหรันอยู่ในห้องโถงใหญ่ ขันทีคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม [1: สี่ผอ คือ ผู้หญิงที่ติดตามดูแลช่วยเหลือเจ้าสาวในงานแต่ง]

"องค์จักรพรรดิมีพระราชดำรัส การรับพระชายารองเข้ามายังจวนอ๋องหลีถือเป็นการแสดงความภักดีต่อราชวงศ์ จึงได้ประทานมุกวิญญาณจากทะเลตงไห่หนึ่งเม็ด ปะการังไฟสิบชิ้น หยกหรูอี้สิบคู่ ทองคำสิบหกกล่อง และเงินสิบแปดกล่องพ่ะย่ะค่ะ"

"ท่านอ๋องหลี ยินดีด้วย ยินดีด้วย"

หลิวกงกงกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบคม แล้วโค้งคำนับเล็กน้อย ไม่ได้กล่าวประจบสอพลออ๋องหลีแต่อย่างใด เขาเป็นหัวหน้าขันทีที่อยู่ข้างกายองค์จักรพรรดิ เขาเป็นตัวแทนขององค์จักรพรรดิ การแสดงออกของเขาแทนประสงค์ขององค์จักรพรรดิ หัวใจของทุกคนราวกับเป็นกระจกสะท้อน รู้ว่าองค์จักรพรรดิกับอ๋องหลีทรงไม่ถูกกัน

"นอกจากนี้ องค์ไทเฮากับฮองเฮาก็สั่งให้คนส่งของกำนัลมาแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน"

"กระหม่อมขอขอบพระทัยฝ่าบาท องค์ไทเฮาและฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ" ฉู่อี้หานกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"มั่วอี พาหลิวกงกงเข้าไปนั่ง"

“พ่ะย่ะค่ะ" มั่วอีตอบรับด้วยความเคารพ

“หลิวกงกง เชิญทางนี้”

“อี้หาน ถึงฤกษ์มงคลแล้ว เริ่มพิธีเถิด" องค์หญิงใหญ่จิ้งคังกล่าวเตือน

"ถึงฤกษ์มงคลแล้ว ส่งมอบสินสอดได้" สี่ผอได้รับสัญญาณพลันตะโกนเสียงดังลั่น

เสียงของพวกนางดังลั่นและชัดเจน แม้แต่ลานที่อยู่ห่างไกลยังได้ยิน

ซูเยียนหรันยกมุมปากขึ้น มารดาของนางตั้งใจหาสี่ผอที่เสียงดังฟังชัดมา เพื่อให้ตะโกนเสียงดังให้ทุกคนรู้ว่าจวนอ๋องหลีให้ความสำคัญกับนาง

"ช้าก่อน!" เสียงคมชัดเสียงหนึ่งดังลอยมา

ทุกคนหันมองไปยังสตรีที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู รู้สึกประหลาดใจก่อน จากนั้นพลันแอบกระซิบกันเสียงเบา

"วันนี้ท่านอ๋องรับพระชายารองเข้าจวน จะขาดหม่อมฉันไปได้อย่างไรเพคะ" ซูเนี่ยนสวมใส่ชุดสีแดงสด ด้านบนปักลายดอกไห่ถัง[footnoteRef:2]ขนาดใหญ่ไว้ ขณะที่ซูเนี่ยนก้าวเดินไปเรื่อยๆ ดอกไห่ถังบนอาภรณ์ก็โบกไสวไปมาราวกับมีชีวิต ดูสูงส่งทรงเกียรติยิ่งนัก [2: ดอกไห่ถัง คือ ดอกสกุลบีโกเนีย]

ซูเนี่ยนเดินหลังตรงเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและสุขุม คอที่ขาวดั่งหิมะเชิดขึ้นเล็กน้อย และเดินไปยังห้องโถงใหญ่อย่างช้าๆ

ห๊ะ! นางคือซูเนี่ยน ซูเนี่ยนนั้นหรือ คือซูเนี่ยนที่เมื่อก่อนขี้กลัวขนาดหน้าไม่กล้าเงยหน้ามองคนน่ะหรือ ซูเนี่ยนกำลังรักษาอาการป่วยอยู่ไม่ใช่หรือ

อีกอย่าง เหตุใดถึงได้ดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเช่นนี้ล่ะ หากไม่ใช่เพราะใบหน้ายังคงเป็นซูเนี่ยนอยู่ พวกนางคงคิดว่าซูเนี่ยนถูกเปลี่ยนตัวเป็นคนอื่นไปแล้ว

"พระชายาอย่าได้ลืมเรื่องที่พูดไว้เมื่อวาน" สีหน้าของฉู่อี้หานเย็นชา พลันส่งสายตาเตือน

เฟิ่งเอ๋อร์ที่ยืนอยู่หลังซูเนี่ยนตกใจกลัวจนตัวสั่น พลันเหลือบมองซูเนี่ยนที่ดูไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย จึงสงบจิตสงบใจลงได้

"คำสั่งของท่านอ๋อง หม่อมฉันจะลืมได้อย่างไรเล่าเพคะ หม่อมฉันกำลังทำตามคำสั่งของท่านอ๋องอยู่มิใช่หรือ" ซูเนี่ยนเดินไปยังที่นั่งสูง จากนั้นก็ย่อตัวคำนับจิ้งคัง "องค์หญิงใหญ่”

"หึ เจ้ามาทำอะไร" ดวงตาขององค์หญิงใหญ่จิ้งคังเต็มไปด้วยความรังเกียจ เห็นซูเนี่ยนก็เหมือนกับเห็นหนูอย่างไรอย่างนั้น

ซูเนี่ยนเห็นความรังเกียจในดวงตาของจิ้งคัง แต่ก็ไม่ได้สนใจนาง พลันมองไปข้างหน้า จิ้งคังเห็นท่าทีของนางเช่นนี้ก็ชะงักไป สีหน้ายิ่งดูไม่ดีกว่าเดิม

ซูเนี่ยนหัวเราะเยาะ นางไม่ใช่เงินสักหน่อย จะทำให้ทุกๆ คนชอบนางได้อย่างไร เจ้าของร่างเดิมเอาใจนางตั้งขนาดนั้น จิ้งคังก็ไม่แม้แต่จะดีกับนางเลยสักนิด

"ท่านอ๋อง เหม่ออะไรอยู่เพคะ อย่าให้ฤกษ์มงคลต้องล่าช้าสิเพคะ" ซูเนี่ยนทำเหมือนไม่เห็นคำเตือนในดวงตาของฉู่อี้หาน แล้วนั่งบนที่นั่งสูงพร้อมทักทายสี่ผอที่กำลังตกตะลึงอยู่ด้วยท่าทีราวกับเป็นนายหญิงในจวน

ทุกคนต่างสับสน ว่ากันว่าพระชายาหลีชื่นชอบอ๋องหลีจะเป็นจะตายเลยไม่ใช่หรือ แต่ดูไม่เหมือนเลยนี่ มิหนำซ้ำยังสนับสนุนให้สามีของตนมอบสินสอดอีก

"พี่หญิง ข้าไม่ดีเอง ข้ารู้ว่าท่านพี่เกลียดข้า แต่ข้ากับท่านอ๋องเรารักกันด้วยใจจริง หวังว่าท่านพี่จะทำให้ข้าสมหวัง"

ซูเยียนหรันเปิดผ้าคลุมศีรษะออก ใบหน้าเล็กๆ เปื้อนไปด้วยน้ำตา แล้วมองไปที่ซูเนี่ยนด้วยสีหน้าที่เศร้าโศกและเกรงกลัว

ไม่ใช่ว่านังผู้หญิงชั้นต่ำซูเนี่ยนนี่ถูกกักบริเวณเอาไว้หรอกหรือ เหตุใดถึงโผล่หัวที่นี่ได้ล่ะ

แต่ในเมื่อนางกล้าโผล่หัวมาที่นี่วันนี้ นางก็จะไม่มีทางให้นางอยู่อย่างเป็นสุขแน่นอน ซูเยียนหรันก้มหน้า นัยน์ตาฉายแววมีแผนการร้าย

ให้ตายสิ? ซูเนี่ยนมองบน เป็นดอกบัวขาว[footnoteRef:3]ที่ใหญ่มากจริงๆ นี่มันต้องเป็นที่สุดของดอกบัวขาวแน่ๆ ท่าทางตัดไม้ข่มนามนี่ช่างเป็นทักษะในระดับที่สุดยอดจริงๆ [3: ดอกบัวขาว คือ คำแสลงจีนที่หมายถึงคนตอแหลเงียบๆ]

เป็นอย่างที่คาดไว้ หลังจากที่ซูเยียนหรันกล่าวจบ สายตาของเหล่าสตรีสูงศักดิ์พลันฉายแววดูถูกเหยียดหยามออกมาทันที เคยได้ยินมาตั้งนานแล้วว่า ซูเนี่ยนมักจะรังแกซูเยียนหรัน ฉกคนรักของผู้อื่นไปไม่พอ ยังรังแกผู้อื่นอีก ช่างไร้ยางอายเสียจริง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านแม่เซียนหมอ: วันนี้เสด็จพ่อสำนึกผิดหรือยัง   บทที่ 210

    ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู

  • ท่านแม่เซียนหมอ: วันนี้เสด็จพ่อสำนึกผิดหรือยัง   บทที่ 209

    "หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม

  • ท่านแม่เซียนหมอ: วันนี้เสด็จพ่อสำนึกผิดหรือยัง   บทที่ 208

    มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก

  • ท่านแม่เซียนหมอ: วันนี้เสด็จพ่อสำนึกผิดหรือยัง   บทที่ 207

    ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ

  • ท่านแม่เซียนหมอ: วันนี้เสด็จพ่อสำนึกผิดหรือยัง   บทที่ 206

    เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ

  • ท่านแม่เซียนหมอ: วันนี้เสด็จพ่อสำนึกผิดหรือยัง   บทที่ 205

    ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status