Share

46

last update Last Updated: 2025-08-10 01:49:23

46

องค์รัชทายาทหมิงหยางเต๋ออยู่ตรงศาลาไม้สองชั้นข้างตำหนัก ทอดพระเตรมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสี ดวงตะวันค่อยๆ ลดลงจนถูกกลืนไปกับเส้นขอบฟ้า ก่อนที่ความมืดจะโรยตัวเข้ามาแทนที่ ใบหน้าพระองค์มีรอยยิ้มบางๆ ขณะมองดูผืนฟ้าผัดเวลา

ช่วงจังหวะที่ลดสายตาจากเบื้องบนมายังลานสระบัว เขาเกิดหน้ามืดขึ้นมากะทันหันจนร่างเอนไปมาเล็กน้อย แล้วยังรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนอยากจะอาเจียน อาการดังกล่าวเกิดขึ้นกับเขาหลายครั้งในวันนี้ และทุกครั้งก็เก็บอาการไว้ได้เป็นเพราะอยู่ต่อหน้าเหล่าขุนนาง เขาจะแสดงอาการที่ส่งผลไม่ดีต่อร่างกายไม่ได้ ทว่าเวลานี้ เขาอยู่กับหลิวกงกง บุคคลที่เขาไว้ใจมากคนหนึ่ง ส่วนขันทีรออยู่ด้านล่างศาลา

องค์รัชทายาทนำมือมาจับตรงขมับ หมายจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ แต่มีบางอย่างกำลังพุ่งออกมาจากปาก เขาเปลี่ยนทิศทางไปยังริมศาลา โก่งคออาเจียนเสียงดัง หลิวกงกงเห็นแล้วตกใจ รีบวิ่งมาดูพระอาการ

“องค์รัชทายาทเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ” หลิวกงกงถามไป มือลูบหลังเจ้าชีวิตไป สีหน้าเขาบอกว่า เป็นห่วงองค์รัชทายาทมาก

“อ้วก” คนถูกถามไม่มีคำตอบ นอกจากเสียงอาเจียน และเมื่ออาเจียนจนพอใจ เข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย   50

    50ณ ท้องพระโรง เหล่าขุนนางพากันเดินเข้ามาในท้องพระโรงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยเฉพาะอำมาตย์ซ้ายที่เพิ่งหายป่วยสีหน้าสดใสเป็นพิเศษ เพราะวันนี้หลายเรื่องที่เขาจะกราบทูลล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์กับตนและพวกพ้องทั้งสิ้น ขณะที่กำลังเดินไปด้านใน “วันนี้สีหน้าท่านดีขึ้นมากเลยนะ หายป่วยแล้วหรือท่าน” คนทักคือ อำมาตย์คัง ผู้ดำรงตำแหน่งอำมาตย์ขวา ผู้มีนิสัยตรงกับข้ามกับอำมาตย์ซ้าย “ข้าหายป่วยแล้ว ข้าไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย แค่เป็นไข้ธรรมดา ขอบใจท่านมากที่ถามไถ่ข้า” “คนรู้จักกัน ห่วงใยกันเป็นเรื่องธรรมดา”อำมาตย์ขวายิ้มบางส่งให้อีกฝ่ายที่ยิ้มรับ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ ประจวบเหมาะกับขันทีประกาศว่า องค์รัชทายาทเสด็จแล้ว เหล่าขุนนางยศใหญ่น้อยจึงนั่งประจำที่“ถวายบังคมองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ” ขุนนางทุกคนต่างพร้อมใจถวายบังคม“มีอะไรว่ามา”“กระหม่อมจะกราบทูลเรื่อง วันขึ้นครองราชย์สมบัติของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ” อำมาตย์ขวารายงาน “ฤกษ์ที่ได้คือวันที่ 12 เดือน 5 พ่ะย่ะค่ะ พิธีจะจัดขึ้นลานราชพิธีใหญ่พ่ะย่ะค่ะ”หลังสิ้นคำรายงาน องค์รัชทายาทพยักหน้าเชิงรับรู้ อำมาตย์ซ้ายจึงลุกขึ้น

  • นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย   49

    49องค์รัชทายาทพูดหลังจากเล่าเรื่องราวจบ ชายต่างวัยทั้งสี่ตกใจกับประโยคที่ได้ยิน ทว่าก็คงค้านในเรื่องที่องค์รัชทายาทตั้งใจทำไม่ได้ ใครบ้างจะกล้าขัด “ไม่ได้นะ ท่านจะทำอย่างนั้นไม่ได้”เจ้าของเสียงใจกล้าคือเหมยเหมยที่ตื่นมาได้ยินคำพูดประโยคนี้ขององค์รัชทายาทพอดี หมิงหยางเต๋อรีบเข้าไปประคองร่างสตรีอันเป็นที่รักที่ยันตัวลุกขึ้นนั่ง เธอมองหน้าอีกสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังชายสูงศักดิ์ “พวกเขารู้เรื่องข้าหรือไม่” “พวกเขารู้เรื่องเจ้าหมดแล้ว” องค์รัชทายาทตอบ “เจ้าจะลุกมาทำไม นอนต่อเถอะ ข้าอยากให้เจ้ากับลูกพักผ่อนเยอะ”ธิดาดอยตกใจมากกว่าดีใจ คนกำลังมีลูกได้รับข่าวดีสมควรดีใจมิใช่หรือ แต่คงไม่ใช่สำหรับธิดาดอย เธอมีความมึนงงเข้ามาร่วมด้วยกับคำตรัสของเขา มองหน้าองค์รัชทายาทนิ่ง หัวใจเต้นแรง “ลูก” ธิดาดอยทวนคำ “ใช่ เจ้ากำลังตั้งท้อง ลูกของเราไง ลูกของเรา” องค์รัชทายาทย้ำบอกให้ธิดาดอยรับรู้ ใบหน้าคนพูดเปื้อนรอยยิ้ม แต่คนฟังยังนิ่งอึ้ง เหมือนสมองชาไปชั่วขณะหนึ่ง “ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นพระชายา” “ไม่ได้นะท่าน ท่านจะแต่งตั้งข้าเป็นพระชายาไม่ได้” ธิดาดอยรีบค

  • นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย   48

    48อีกเหตุผลหนึ่งที่องค์รัชทายาทใช้ห้องบรรทมในการพูดคุย เพราะหากนกเหมยเหมยกลับมาและอยู่ในห้องบรรทม นกน้อยก็จะได้ยินเรื่องที่เขากับกุนซือคุยกัน จะได้ไม่ต้องเล่าเรื่องให้ธิดาดอยรู้ทอดหนึ่ง รู้พร้อมกันเลยดีที่สุด“พ่ะย่ะค่ะ” คราวหน้าองค์รัชทายาทหมุนตัวเดินเข้าตำหนักโดยไม่มีคำพูดหรือสิ่งใดรั้งไว้ เขาเดินนำกุนซือเล่าจือ หลิวกงกง เซียวเหยาและติงเหว่ยไปยังห้องบรรทม ส่วนขันทีและเหล่านางกำนัลรออยู่ด้านนอกความที่เข้าใจว่า ธิดาดอยสลับเวลาเปลี่ยนร่าง องค์รัชทายาทไม่มีความคิดอื่นในหัว ความลับที่เขากับธิดาดอยพยายามปกปิดไว้ มันกำลังถูกเปิดเผยด้วยความไม่รู้ของเจ้าของตำหนัก และเพราะโชคชะตาที่กำลังเล่นตลกกับเขาอย่างหนัก “โห เรากินเยอะขนาดนี้เลยหรือนี่” ธิดาดอยพูดกับตัวเองเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะแต่ละจานพร่องไปเยอะ บางจานหมดเกลี้ยง โดยเฉพาะไก่ดำตุ๋นยาจีน อาการที่เธอไม่ชอบ ทว่าวันนี้กลับกินมันหมด แทะไก่จนเหลือแต่กระดูก เห็ดหอมก็ไม่เหลือ น้ำซุปก็หมดไม่เหลือสักหยด ส่วนอาหารจานโปรดเธอกลับไม่แตะต้อง ธิดาดอยอดแปลกใจไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดหาคำตอบ นั่งทานอย่างเอร็ดอร่อยต่อไป หยิบน่องไก่นึ่งขึ้นมาทาน

  • นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย   47

    47 หมิงหยางเต๋อกระวนกระวายใจที่จนป่านนี้ธิดาดอยหรือนกเหมยเหมยยังไม่กลับมาตำหนัก เขาเป็นห่วงเธอมากแม้จะรู้ว่า ตอนนี้เธอคงเปลี่ยนร่างเป็นนกตามคาดเดา ทว่าเขาก็ยังวางใจไม่เป็นห่วงเธอไม่ได้ นอกเสียจากเห็นเธออยู่ตรงหน้าอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นนกหรือคน องค์รัชทายาทให้ความห่วงใยเท่ากัน เมื่อนกน้อยยังไม่บินกลับรัง สมองของคนเป็นห่วงคิดไปต่างๆ นานา เขาไม่รู้ข่าวเธอเลยตลอดทั้งวัน ไม่รู้ว่า เธอจะออกจากวังอย่างปลอดภัยไม่ถูกจับได้หรือไม่ ตอนธิดาดอยเป็นนก เธอบินขึ้นฟ้าไม่มีใครสงสัย แต่นี่เป็นคน จะออกไปได้หรือไม่ก็ไม่รู้ จะรู้ก็ต่อเมื่อธิดาดอยกลับมา นี่ก็เลยเวลาพระอาทิตย์ตกดินมาร่วมสองชั่วยามแล้ว นกน้อยของเขาก็ยังไม่บินกลับมา “องค์รัชทายาทจะเสด็จไปไหนพ่ะย่ะค่ะ”เซียวเหยาที่รับหน้าที่เฝ้าดูหน้าห้องบรรทมของคนที่เดินออกมาจากห้องเอ่ยถาม “ข้าจะไปรอนกเหมยเหมยนอกตำหนัก” คำตอบเรียกความแปลกใจให้เซียวเหยาไม่น้อย “พ่ะย่ะค่ะ” แม้จะแปลกใจแต่ก็ไม่อาจเอ่ยออกมาเป็นคำถาม ได้แต่เดินตามองค์รัชทายาทออกไปยืนรอนกเหมยเหมยนอกตำหนัก ด้านธิดาดอยตอนนี้กำลังเดินกลับเข้

  • นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย   46

    46 องค์รัชทายาทหมิงหยางเต๋ออยู่ตรงศาลาไม้สองชั้นข้างตำหนัก ทอดพระเตรมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสี ดวงตะวันค่อยๆ ลดลงจนถูกกลืนไปกับเส้นขอบฟ้า ก่อนที่ความมืดจะโรยตัวเข้ามาแทนที่ ใบหน้าพระองค์มีรอยยิ้มบางๆ ขณะมองดูผืนฟ้าผัดเวลา ช่วงจังหวะที่ลดสายตาจากเบื้องบนมายังลานสระบัว เขาเกิดหน้ามืดขึ้นมากะทันหันจนร่างเอนไปมาเล็กน้อย แล้วยังรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนอยากจะอาเจียน อาการดังกล่าวเกิดขึ้นกับเขาหลายครั้งในวันนี้ และทุกครั้งก็เก็บอาการไว้ได้เป็นเพราะอยู่ต่อหน้าเหล่าขุนนาง เขาจะแสดงอาการที่ส่งผลไม่ดีต่อร่างกายไม่ได้ ทว่าเวลานี้ เขาอยู่กับหลิวกงกง บุคคลที่เขาไว้ใจมากคนหนึ่ง ส่วนขันทีรออยู่ด้านล่างศาลาองค์รัชทายาทนำมือมาจับตรงขมับ หมายจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ แต่มีบางอย่างกำลังพุ่งออกมาจากปาก เขาเปลี่ยนทิศทางไปยังริมศาลา โก่งคออาเจียนเสียงดัง หลิวกงกงเห็นแล้วตกใจ รีบวิ่งมาดูพระอาการ “องค์รัชทายาทเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ” หลิวกงกงถามไป มือลูบหลังเจ้าชีวิตไป สีหน้าเขาบอกว่า เป็นห่วงองค์รัชทายาทมาก “อ้วก” คนถูกถามไม่มีคำตอบ นอกจากเสียงอาเจียน และเมื่ออาเจียนจนพอใจ เข

  • นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย   45

    45 ณ ห้องทรงงาน วันนี้องค์รัชทายาทไม่ได้นั่งในท้องพระโรงเพื่อว่าราชการ เขาเข้าเรียนเรื่องการปกครองและเรียนพิชัยสงคราม สถานที่ที่เขานั่งศึกษาเล่าเรียนคือ ศาลาด้านหลังพระตำหนักติดกับสระบัว การเรียนในวันนี้เขาไม่มีสมาธิสักเท่าไหร่ ใจกระหวัดถึงธิดาดอย แม้นรู้ว่าเธอเอาตัวรอดได้ แต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ กลัวไปสารพัด หวาดวิตกนั่นโน่นนี่ คิ้วขมวดยุ่งราวกับมีเรื่องครุ่นคิดในใจ และนั่นทำให้เขาตกอยู่ในอาการเหม่อ เนื่องจากในสมองมีแต่ความห่วงใยธิดาดอย คำสอนของอาจารย์ฟู่จึงไม่ไหลเข้าไปในหู “พิชัยสงครามบทที่สองการทำศึกกรีธาทัพหนึ่งแสน ซึ่งมีรถศึกเทียมด้วยม้าสี่ตัวพันคัน รถหุ้มเกราะหนังพันคัน พลเกราะหนึ่งแสน และเสบียงสำหรับทางไกลพันลี้ ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายวันละพันตำลึงทอง ฉะนั้นการทำสงครามจึงควรเผด็จศึกโดยเร็วอย่าให้ยืดเยื้อ”อาจารย์ฟู่หยุดพูด หันมามองอาจารย์หวังเจ้าของมือที่สะกิดแขนตน ที่พยักพเยิดหน้าไปทางองค์รัชทายาท เขาจึงหันใบหน้าไปมองคนที่ตนกำลังสอน หลิวกงกงเห็นว่า อาจารย์ทั้งสองมององค์รัชทายาท ซึ่งเขาเองได้สังเกตเห็นอาการองค์รัชทายาทมาสักครู่หนึ่ง รีบเข้าไปสะกิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status