“ฮึ่มมมม” เสียงครางแผ่วบ่งบอกถึงความพอใจของเจ้านาย เป่ยเปียนขยับริมฝีปากให้เร็วขึ้นเพื่อเร่งอารมณ์เยว่ซือให้ได้ถึงฝั่งฝัน เร่งจังหวะสักพักน้ำรักสีขาวขุ่นก็ถูกปลดปล่อยออกมา เป่ยเปียนกลืนกินเข้าไปทั้งหมดลิ้นอุ่นตวัดเลียคราบน้ำที่เกาะไปทั่วแก่นกลางกาย จูบซับไปทั่วลำท่อน เขาข่มอารมณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่นานนักสติก็ขาดผึ่งเพราะเสียงครางหวานหูที่น่าฟัง เขากระชากกางเกงเจ้านายออกจับถอดทิ้งอย่างไม่ไยดี ด้วยความที่สูงกว่าและร่างกายใหญ่กว่ายกตัวเยว่ซือลอยหวือขึ้นบนบ่าเดินไปยังเตียงแล้วโยนเจ้านายที่รักลงบนที่นอนแสนนุ่มนิ่ม
“อ้ะ..ไอ้เหี้ยจะทำอะไร” “ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” ก้าวขาขึ้นไปบนเตียงคล่อมทับร่างคนที่ตัวเล็กกว่า กระซิบเสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกซาบซ่านไปทั่วร่างกาย แต่มีเหรอที่คนอย่างสวี เยว่ซือจะยอมให้อีกฝ่ายอยู่ข้างบน เขาใช้เรี่ยวแรงที่มีผลักคนร่างหนากว่าออก เป่ยเปียนรำคาญมือที่พยายามดันเขา ใช้ร่างกายที่ได้เปรียบกว่ากดทับขาของเยว่ซือเพื่อไม่ให้ใช้ขาถีบเขาออกได้ มือข้างหนึ่งรวบมือทั้งสองข้างของเยว่ซือชูขึ้นเหนือหัวกดข้อมืออีกฝ่ายไว้ไม่ให้ทำร้ายร่างกายเขา มืออีกข้างที่ว่างปลดเข็มขัดตัวเองแล้วนำขึ้นมามัดมือของเยว่ซือ “นายตายแน่เป่ยเปียน อย่ามาเหิมเกริมใส่ฉันนะ!” เยว่ซือตะคอกเสียงดัง แต่เป่ยเปียนไม่สนใจก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาว กลิ่นน้ำหอมหรูราคาแพงช่วยเร้าอารมณ์ให้จิตใจเตลิดมากขึ้น ผละออกจากซอกคอมีเป้าหมายใหม่คือริมฝีปากเรียวแดงเขาทาบทับไปด้วยริมฝีปากของตัวเองใช้ฟันขบกัดจนเยว่ซือรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วริมฝีปาก เป่ยเปียนเบียดปากลงไปใส่คนที่กำลังจะพยศเขา จะสะบัดหน้าหนีก็ไม่ได้ไอ้เวรนี่ล็อกคางเขาให้มารับจูบอันแสนป่าเถื่อน จะอ้าปากด่าคนตัวสูง ก็ถูกลิ้นร้อนชื้นแทรกแซงเข้ามาภายในปาก กวาดต้อนไปทั่วดูดดึงลิ้นของเขาอย่างชำนาญ เป่ยเปียนปล่อยปากเจ้านายให้เป็นอิสระน้ำสีใสไหลย้อยตามมุมปาก เขาก้มจูบซับเพื่อเช็ดออกให้ เยว่ซือออกแรงดิ้นมากว่าเดิมเมื่อมือหนาคว้าหมับเข้าที่แก่นกายรูดรั้งขึ้นลงตามจังหวะ ปากหยักกดจูบลงที่หูกระซิบบอกรักด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ลิ้นอุ่นชอนไชไปทั่วใบหูปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนขึ้นมา ขบเม้มที่ใบหูก่อนจะกัดลงไป “อื้อออ...ไอ้สัสหยุดเดี๋ยวนี้” “คุณอยากจะให้ผมหยุดจริงๆ เหรอ” มือข้างหนึ่งยังกดข้อมืออีกฝ่ายไว้เหนือหัว มืออีกข้างละจากกลางกายปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเยว่ซือจนเห็นร่างกายทั้งหมด แผ่นอกราบเรียบปรากฏแก่สายตา ยอดอกสีสวยชูชันขึ้นตามแรงอารมณ์ที่มากขึ้น มือร้อนลูบไล้ไปทั่วบนแผ่นอกเรียบเนียนลามไปถึงหน้าท้องที่มีซิกแพคเรียงสวยอยู่ ร่างกายของเยว่ซือร้อนจนแทบระเบิดเมื่อปากร้อนดูดเข้าที่ยอดอกสลับขบเม้มจนเกิดเสียงที่น่าอายขึ้นมาให้ได้ยิน ยอดอกอีกข้างถูกมือหนาร้อนลูบเบาๆ เคล้นคลึงเล่นพยายามฉุดรั้งเยว่ซือให้เข้าไปอยู่ในห้วงอารมณ์จนห้ามไว้ไม่อยู่ ลอยคว้างไปกับอารมณ์วาบหวามที่เป่ยเปียนมอบให้ แผ่นอกแบนแอ่นโค้งขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ใบหน้าหวานสะบัดแรงๆ เพื่อห้ามอารมณ์พลุ่งพล่าน ปล่อยมือจากยอดอกส่งมือไปรูดรั้งท่อนเนื้ออีกครั้งมันขยายสู้มือเขา น้ำสีขาวขุ่นปริ่มออกมาจากส่วนปลายเร่งจังหวะให้เยว่ซือปลดปล่อยออกมาในรอบที่สองของวัน เป่ยเปียนใช้ของเหลวจากตัวเขาเองปาดป้ายไปที่ช่องทางปิดสนิท สายตาแข็งกร้าวจ้องเขม็งคนที่กำลังรังแกเขาด้วยร่างกาย ปลายนิ้วหนึ่งผลุบหายเข้ามา ความคับแน่นส่งผลให้เป่ยเปียนขยับนิ้วไม่ได้ “อย่าเกร็งนะครับ” “นายหยุดสิ่งที่กำลังจะทำเดี๋ยวนี้เลยเป่ย” เป่ยเปียนไม่ตอบอะไรแต่ฝืนดันนิ้วขึ้นมาจนสุด เยว่ซือสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด เป่ยเปียนหมุนควงนิ้วให้ร่างกายของเยว่ซือได้ปรับสภาพ ดึงนิ้วออกมาก่อนจะดันกลับเข้าไปใหม่ ทำอยู่อย่างนี้จนช่องทางเริ่มขยับขยายจึงเพิ่มนิ้วเป็นสองขยับเข้าออก เยว่ซือกัดปากแน่นจนเลือดซิบหยาดน้ำตาไหลออกมาที่หางตา อีกฝ่ายมองเขานิ่งๆ ก่อนจะจูบซับน้ำตาให้ เบียดปากลงมาที่ริมฝีปาก ดูดดึงจนบวมเจ่อพวงแก้มขาวของเยว่ซือบัดนี้ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพู มอบจูบแสนหวานให้ร่างเล็กกว่าได้เคลิบเคลิ้มไปในห้วงอารมณ์ ก่อนจะเพิ่มนิ้วเข้าเป็นสาม “อ๊ะ..” เสียงครางหวานหูดังขึ้นเบาๆ เนื่องจากนิ้วเรียวยาวกระทุ้งโดนจุดกระสัน เยว่ซือเหงื่อไหลชุ่มทั่วตัวเรี่ยวแรงหายไปหมด หมดแรงที่จะต่อต้าน เป่ยเปียนปลอบประโลมบดคลึงริมฝีปากให้คนใต้ร่างนั้นผ่อนคลาย กลางกายของเขาปวดหนึบไปหมดจนแทบจะทนไม่ไหว ดึงกางเกงตัวเองออกพร้อมชั้นในสีขาวโยนทิ้งไปไว้ข้างเตียง “ผมขอนะครับ” เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู เยว่ซือส่ายหน้าแต่เขาทนไม่ไหวแล้วเขาอยากครอบครองร่างตรงหน้าให้เป็นของตนเอง ถอนนิ้วออกมาก่อนบางสิ่งบางอย่างที่ใหญ่โตกว่าจะสอดแทรกเข้ามา เพียงแค่ส่วนหัวร่างกายก็เจ็บแปลบขึ้นมาเหมือนถูกฉีกกระชากออกเป็นเสี่ยงๆ แม้จะถูกขยับขยายช่องทางแล้วแต่ครั้งแรกของเยว่ซือมันก็ย่อมจะเจ็บเป็นธรรมดา ร่างกายของเยว่ซือหดเกร็งจนตัวตนเป่ยเปียนเข้าไปไม่ได้ เป่ยเปียนจูบเข้าที่ขมับเพื่อปลอบประโลมร่างที่สั่นเทา ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาที่ร่วงผล็อย จมูกกดลงที่แก้มนิ่มสูดดมกลิ่นหอมหวานให้เต็มปอด มือของเยว่ซือที่ถูกมัดพยายามดันมืออีกฝ่ายที่กดข้อมือเขาไว้กับเตียง นิ้วเรียวยาวใช้เล็บจิกลงบนฝ่ามือตัวเองเพื่อระบายความเจ็บที่มาจากช่องทางด้านหลัง ถ้าเขาหลุดไปได้ลู่ เป่ยเปียนจะต้องชดใช้สิ่งที่ทำลงไป เป่ยเปียนขบกรามระงับอารมณ์ที่คลุกกรุ่น เพราะเจ้านายเขาไม่เคยเขาจึงต้องพยายามอ่อนโยนให้ได้มากที่สุด ฝืนดันแก่นกายเข้าไปเบาๆ จนสุดทาง แช่ค้างไว้ให้อีกฝ่ายได้ปรับตัว เมื่อดูท่าว่าเยว่ซือจะปรับสภาพได้แล้วจึงเริ่มต้นขยับ เยว่ซือโมโหตัวเองที่ร่างกายไม่มีแรงเลยสักนิดเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียแท้ๆ แต่พออยู่ใต้ร่างลู่ เป่ยเปียนเขากลับทำอะไรไม่ได้ “คุณสวยไปหมด” คนพูดน้อยเอ่ยปากชม แรงอารมณ์เพิ่มขึ้นสูงขึ้นจนลืมไปว่าต้องการถนอมร่างกายคนตรงหน้าเมื่อความต้องการครอบงำจิตใต้สำนึกสั่งให้เขากระทำคนตรงหน้าแรงๆ กระแทกสะโพกเข้าออกถี่ยิบ จนเยว่ซือหวีดร้องเสียงดัง “ฉันจะฆ่านายไอ้เวร” กัดฟันพูดด้วยโทสะ ส่งสายตาเย็นยะเยือกไปให้แต่เป่ยเปียนไม่ได้กลัวเลยสักนิด เอาแล้วเจ้าแมวน้อยของเขาเริ่มขู่แล้ว ถ้าเขาปล่อยมือที่ถูกมัดคงจะถูกข่วนจนเลือดซิบ ดูนี่สิตอนนี้ก็พองขนกางเล็บขู่เขาให้กลัว แต่มันดันน่ารักในสายตาเขา เป่ยเปียนใช้มือข้างที่ว่างยกขาเยว่ซือขึ้นพาดบ่า ขยับเข้าออกอย่างรุนแรง คิ้วเรียวสวยขมวดขึ้นทันที เป่ยเปียนขยับสะโพกแรงๆ ไปโดนจุดกระสันในร่างกายของเยว่ซือ ร้องครางด้วยปากสั่นๆ น้ำลายไหลย้อยมาที่มุมปากเป็นภาพที่ชวนให้มองแล้วรู้สึกถึงความอิโรติก “อืมมม คุณรัดผมแน่นมากเลยคุณเยว่” “ซี๊ดดด...อ๊ะ หุบปาก นายเดี๋ยวนี้ อื้ออ” เสียววาบไปทั่วร่างกายผสมปนเปไปกับความเจ็บปวด เยว่ซือกระตุกตัวตอนที่ถูกกระแทกเข้ามาอย่างรุนแรง กลางกายปวดหนึบจนอยากจะส่งมือตัวเองไปช่วยรูดรั้ง “ผมขอปล่อยข้างในนะ” “อย่าไม่เอา” ร่างกายโยกคลอนไปตามแรงกระแทก มือที่ถูกเข็มขัดมัดเป็นแผลถลอดจากการเสียดสี แรงตอดรัดบีบกระชับจนเป่ยเปียนแทบจะไปถึงฝั่งฝัน จังหวะที่หยาบโลนให้ความรู้สึกถึงความดิบเถื่อนในตัวของเป่ยเปียน สะโพกแกร่งซอยเข้าออกไม่สนใจคนที่ร้องครางจะเป็นจะตาย เป่ยเปียนหยัดตัวเข้าไปซ้ำๆ จนฉีดน้ำรักเข้าฝังลึกในโพรงร้อน “อึ่กก ฉันฆ่านายแน่ไอ้สัส” “ก่อนคุณจะฆ่าผม ผมขออีกรอบแล้วกัน” “ไม่ไอ้สัส ออกไป!” แสงแดดสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอน เยว่ซือเปิดเปลือกตาขึ้น กระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับแสงมองไปยังพื้นที่ข้างตัวไม่มีใครอยู่ ร่างกายเขาถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ขยับตัวนิดหน่อยความเจ็บปวดก็แล่นไปทั่วร่าง นึกโกรธคนที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นแบบนี้ ลำคอแห้งผาก จมูกก็แสบไปหมด รู้สึกตัวรุมๆ เหมือนมีไข้ไอ้ตัวต้นเหตุก็คงหนีเขาไปทำงานที่ได้รับมอบหมายแล้ว คิดแล้วก็โมโหเขาสั่งให้ใช้ปากให้ไม่ได้สั่งให้มาพรากเอกราชเขาไปสักหน่อย ไอ้ตัวดีกลับมาโดนดีแน่“ฮึ่มมมม” เสียงครางแผ่วบ่งบอกถึงความพอใจของเจ้านาย เป่ยเปียนขยับริมฝีปากให้เร็วขึ้นเพื่อเร่งอารมณ์เยว่ซือให้ได้ถึงฝั่งฝัน เร่งจังหวะสักพักน้ำรักสีขาวขุ่นก็ถูกปลดปล่อยออกมา เป่ยเปียนกลืนกินเข้าไปทั้งหมดลิ้นอุ่นตวัดเลียคราบน้ำที่เกาะไปทั่วแก่นกลางกาย จูบซับไปทั่วลำท่อน เขาข่มอารมณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่นานนักสติก็ขาดผึ่งเพราะเสียงครางหวานหูที่น่าฟัง เขากระชากกางเกงเจ้านายออกจับถอดทิ้งอย่างไม่ไยดี ด้วยความที่สูงกว่าและร่างกายใหญ่กว่ายกตัวเยว่ซือลอยหวือขึ้นบนบ่าเดินไปยังเตียงแล้วโยนเจ้านายที่รักลงบนที่นอนแสนนุ่มนิ่ม “อ้ะ..ไอ้เหี้ยจะทำอะไร” “ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” ก้าวขาขึ้นไปบนเตียงคล่อมทับร่างคนที่ตัวเล็กกว่า กระซิบเสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกซาบซ่านไปทั่วร่างกาย แต่มีเหรอที่คนอย่างสวี เยว่ซือจะยอมให้อีกฝ่ายอยู่ข้างบน เขาใช้เรี่ยวแรงที่มีผลักคนร่างหนากว่าออก เป่ยเปียนรำคาญมือที่พยายามดันเขา ใช้ร่างกายที่ได้เปรียบกว่ากดทับขาของเยว่ซือเพื่อไม่ให้ใช้ขาถีบเขาออกได้ มือข้างหนึ่งรวบมือทั้งสองข้างของเยว่ซือชูขึ้นเหนือหัวกดข้อมืออีกฝ่ายไว้ไม่ให้ทำร้ายร่างกายเขา มืออีกข้างที่
ผ่านมาสองเดือนเยว่ซือได้เจรจากับฝ่ายรัฐบาลเรียบร้อย เขาจ่ายค่าเสียหายห้าร้อยล้านให้ทางรัฐบาลจากการเอาตัวนักฆ่ามือฉมังอย่างลู่ เป่ยเปียนมา อาการของเป่ยเปียนดีขึ้นทุกวันแขนที่หักก็รักษาจนหายซึ่งไม่แปลกสำหรับร่างกายที่แข็งแรง หลังจากวันนั้นเยว่ซือก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับเป่ยเปียนอีก เยว่ซือให้คนรับใช้และพยาบาลดูแลเป่ยเปียนอย่างดี เขารอเวลาที่ลู่ เป่ยเปียนจะหายดีเป็นปกติ ถึงตอนนั้นเขาคงจะใช้งานเป่ยเปียนอย่างหนักให้สมกับห้าร้อยล้านที่เสียไป“นายท่านวันนี้อาวุธจากคลังเขตเหนือมาส่งที่คลังอาวุธหลักของเรา นายท่านจะไปดูด้วยตัวเองไหมครับ”“อืม”“กี่โมงดีครับ”“บ่ายโมง” ละสายตาจากเอกสารตรงหน้า เยว่ซือขยับแว่นเล็กน้อยเอนหลังพิงเก้าอี้ทำงาน เขาอ่านเอกสารเกี่ยวกับอาวุธที่ส่งออกไปอิตาลีตั้งแต่เช้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีตรงไหนที่ผิดพลาดหรือแปลกไป หยิบกาแฟขึ้นมาจิบสักหน่อยร่างกายเขาคงต้องการคาเฟอีนมาช่วยให้ร่างกายปราศจากความง่วงหลังจากที่พักผ่อนไม่เพียงพอมาเป็นเวลาหลายวัน เขาไปดูบ่อนคาสิโนเมื่อหลายวันก่อนทำให้เวลาพักผ่อนของเขาลดลง ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องติดตามว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ส่งคนมาเป็น
เช้าวันต่อมาเยว่ซือมาดูอาการของเป่ยเปียนเขานั่งอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง ในมือถือวรรณกรรมจีนเปิดอ่านไปด้วยภายในห้องเงียบสงัดมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและเสียงพลิกหน้ากระดาษของเยว่ซือเท่านั้น“ตื่นแล้วจะแกล้งหลับทำไมลู่เป่ยเปียน” สิ้นเสียงเยว่ซือเปลือกตาของเป่ยเปียนก็เปิดขึ้น คนเจ็บไม่หันมามองหน้าเขาสักนิดนอนมองเพียงแต่เพดานสีขาว เยว่ซือคิดว่าเป่ยเปียนคงเจ็บอยู่ถึงไม่หันหรือขยับตัวมากเยว่ซือจัดการรินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้ เป่ยเปียนเริ่มหันมามองเขาแต่ไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา พยุงตัวขึ้นด้วยแขนซ้ายที่ไม่หักรับแก้วน้ำมาแล้วดื่ม ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้นความหงุดหงิดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเยว่ซือ ปกติคนอย่างลู่ เป่ยเปียนต้องพูดอะไรเยอะแยะแล้วสินี่มันไม่ปกติชัดๆ“นายไม่คิดจะขอบคุณฉันที่เก็บนายมาจากกองขยะหรือยังไงเป่ยเปียน”“อืม”“แค่อืม?” เยว่ซือเป่าลมออกจากปากเพื่อระบายอารมณ์ กรอกตาไปมาทำไมคนที่มักจะพูดมากเสมอกลับกลายเป็นคนพูดนับคำได้กัน มันไม่เหมือนเป่ยเปียนที่เขารู้จักสักนิด หรือไม่ใช่เป่ยเปียนจริงๆ ...ข้อนั้นปัดตกไปได้เลยเพราะมองยังไงคนตรงหน้าก็คือลู่เป่ยเปียน“แล้วจะให้พูดอะไร”“คำว่าขอบคุ
ปัง ปัง ปัง!เสียงของปืนดังขึ้น กลิ่นเขม่าดินปืนลอยมาแตะจมูก เยว่ซือในวัยสิบหกปีชักมือกลับจากการเล็งปืนไปที่เป้าหลังจากเจ้าตัวนั้นยิงเข้าเป้าตรงกลางสามนัด พ่นลมหายใจออกมาทางปากเบา ๆ ก่อนที่ปากเรียวสวยจะยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก เป็นอย่างที่คาดมันต้องออกมาเพอร์เฟค เรื่องปืนนี่เขาถนัดนัก เพราะเนื่องจากเขาถูกเลี้ยงท่ามกลางแก๊งมาเฟียที่มีชื่อเสียงในจีน และแน่นอนเขาถูกเลี้ยงเพื่อขึ้นมาเป็นผู้นำมาเฟียในภายภาคหน้า ที่น่าเห็นใจคือ เยว่ซือไม่ค่อยมีช่วงเวลาวัยเด็กมากนัก เวลาในการใช้ชีวิตของเขาส่วนมากมักจะถูกทุ่มเทไปกับการฝึกที่แสนจะยากลำบาก การมีลมหายใจแต่ละวันไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากชีวิตที่เสี่ยงอันตราย“นายน้อยสวี ทำได้ดีอีกแล้วนะครับ”“อืม ลองทำได้ห่วยแตกสิคงไม่ใช่ฉัน แล้วนี่เป่ยไปไหน”“คุณเป่ยเปียนรอนายน้อยอยู่ที่สวนครับ”เยว่ซือไม่ตอบอะไรกลับ กรอกตาไปมา ทำไมเพื่อนสนิทเขาอย่าง ลู่เป่ยเปียน ถึงโปรดปรานสวนดอกไม้หลังบ้านเขานักหนา เข้าใจว่าถูกสร้างขึ้นมาอย่างส่วนตัวและกว้างขวาง แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้พวกดอกไม้ที่สีสันสดใสมันจะทำให้เป่ยคอยจ้องมองมันเสมอ ว่าแล้วก็ส่งปืนพกให้ลูกน้องข้างตัว เข