เดียร์ Talk
แกร้ก~ ฉันใช้คีย์การ์ดแตะเข้าคอนโดตามปกติที่เคยทำ แต่หางตาเหลือบไปมองเห็นใครบางคนกำลังยืนหันหลังสูบบุหรี่อยู่ตรงบันไดหนีไฟ ท่าทางของผู้ชายคนนั้นดูมีพิรุธมากเลย และชั้นบนนี้มีแค่ไม่กี่ห้องและเท่าที่จำได้ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย หลายวันมานี้ฉันรู้สึกแปลกๆ กับตัวเองมาก เหมือนมีใครคอยมองฉันอยู่ตลอดเวลาเลย แต่พอมองไปรอบๆ ตัวมันก็ปกติดีไม่เห็นมีอะไรน่าสงสัยเลย แต่ความรู้สึกของฉันมันไม่ได้บอกแบบนั้น ขวับ! ผู้ชายคนนั้นเหลียงหลังมามองฉันแปลกๆ ฉันเลยรีบเข้าไปในห้องแล้วล็อคกลอนไว้อย่างแน่นหนา แต่ก็ยังไม่ได้เดินเข้าไปฉันมองอยู่ที่ตาแมวจะดูว่าผู้ชายคนนั้นเดินออกไปหรือยัง ไม่นานผู้ชายคนนั้นก็เดินผ่านห้องฉันไปช้าๆ เขาใส่หมวกแก๊ปเดินก้มหน้าต่ำฉันเลยมองไม่ออกว่าเป็นใคร แต่คนท่าทางแบบนี้ฉันไม่เคยเห็นที่นี่มาก่อนเลยนะ ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ฉันหยิบโทรศัพท์โทรลงไปที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง อย่างน้อยๆ แจ้งพนักงานให้รู้ให้เขาส่งรปภ.ขึ้นมาตรวจดูอีกครั้ง จะได้อุ่นใจกันทั้งชั้นด้วย เจอแบบนี้ฉันก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ฉันเองก็ตัวคนเดียวอยู่คอนโดแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย ( ได้เลยค่ะคุณเดียร์ เดี๋ยวทางเราจะให้รปภ.ขึ้นไปตรวจให้นะคะ ถ้าเจอผู้ชายตามที่คุณเดียร์บอกเราจะรีบจัดการให้เขาออกไปจากตึกเลยค่ะ ) “ค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ” ( ยินดีค่ะ ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่ปล่อยให้คนนอกเข้าไปด้านในได้ ) คอนโดนี้เป็นคอนโดปิด ใครที่จะเข้าออกต้องเป็นเจ้าของห้องหรือมีการซื้อห้องคอนโดอยู่ที่นี่ แต่ถ้าจะมาหาเพื่อนต้องมีเพื่อนที่คอนโดลงมารับก่อนถึงจะอนุญาตให้ขึ้นไปได้ และการที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาในคอนโดแบบนี้มันก็น่าสงสัยเหมือนกันแหละ ว่าผู้ชายคนนั้นจะมาทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยฉันก็แจ้งพนักงานไปเรียบร้อยแล้ว ห้องก็ล็อคกลอนด้านในอย่างแน่นหนาแล้วด้วย ซ่า~ น้ำจากฝักบัวไหลรินรดตั้งแต่หัวฉันลงมาทันทีที่ฉันเปิดน้ำ มือเล็กยื่นไปกดสบู่เหลวมาถูไถตามร่างกายของตัวเอง กลิ่นหอมของมันทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นทุกครั้ง ฉันชอบกลิ่นหอมจากพวกดอกไม้มาก ในห้องของฉันมักจะมีดอกไม้ใส่แจกันวางไว้ตลอดโดยเฉพาะดอกกุหลาบ สีแดง สีขาว สีชมพู ฉันชอบมาก ปึก! ฉันหยุดชะงักก่อนจะเลื่อนมือไปปิดน้ำฝักบัว ฉันได้ยินเสียงเหมือนมีของอะไรหล่นจากด้านนอก ก่อนจะเข้ามาอาบน้ำฉันก็ไม่ได้วางอะไรไว้ตรงที่มันจะหล่นลงมาได้เลยนี่นา อีกอย่างที่นี่ไม่มีลมแน่นอนเพราะฉันไม่ได้เปิดระเบียง มีคนข้ามาเหรอ? หรือของมันหล่นเอง แต่ห้องนี้ฉันอยู่คนเดียวนะไม่ได้เลี้ยงสัตว์เลยสักตัว “เอาวะ” ฉันหันไปหยิบผ้าขนหนูก่อนจะคว้าไม้เบสบอลที่ตั้งวางอยู่ข้างประตูห้องน้ำ พลางก้าวเดินไปอย่างช้าๆ ด้วยความกลัว ห้องนี้ก็เป็นห้องของฉันเองนะแต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกกลัวได้ขนาดนี้ ตั้งแต่เห็นผู้ชายคนนั้นที่ตรงบันไดหนีไฟก่อนเข้าห้องมาแล้ว พอออกมาฉันก็ไม่เจอใครเหมือนเดิม มีแต่นาฬิกาข้อมือของฉันที่หล่นอยู่บนพื้น แต่ฉันจำได้ว่าฉันเอาวางไว้บนโต๊ะอย่างดีนี่นาแล้วมันตกมาอยู่ที่พื้นได้ยังไง “บ้าจริง สงสัยจะต้องติดกล้องวงจรปิดซะแล้วล่ะ” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง หรือจะขายห้องนี้ทิ้งแล้วไปอยู่ห้องอื่นแทน แต่ห้องนี้ก็มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดีเลยนะ ถ้ามีคนเข้ามาโดยที่ไม่ได้ใช้คีย์การ์ดมันจะมีเสียงกริ่งเตือนเป็นสัญญาณว่ามีผู้บุกรุกเข้ามา แต่ฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ คงไม่มีอะไรหรอกหรือฉันวางไว้ไม่ดีเองก็ไม่รู้ “เฮ้อ…” ฉันถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน จากนั้นก็ไปนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง คลิ๊ก~ ( เสียงข้อความจากแชท ) คุณก้อง : นอนหรือยังครับคุณเดียร์ ฉัน : กำลังจะนอนแล้วค่ะ คุณก้องมีอะไรหรือเปล่าคะ คุณก้อง : พรุ่งนี้ผมว่าจะชวนคุณเดียร์ไปทานอาหารกลางวันด้วยกันน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณเดียร์พอจะมีเวลาว่างหรือเปล่า ฉัน : ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าเดียร์มีประชุมงานพรุ่งนี้ยาวเลย คงไปไม่ได้ คุรก้อง : ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรครับ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน ฉัน : ( ฉันส่งสติกเกอร์รูปยิ้มไป ) คุณก้อง : ฝันดีนะครับ ฉัน : ค่ะ ฉันพิมพ์ข้อความสุดท้ายตอบกลับไปก่อนจะวางโทรศัพท์ลงที่หัวเตียงแล้วล้มตัวลงนอน ขนาดนี้แล้วเขายังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าฉันไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายแบบนี้ ไม่ว่าจะชวนไปไหนฉันก็จะปฏิเสธทุกครั้ง ไม่ใช่เพราะว่าฉันติดงานหรือไม่ว่างแต่ฉันไม่อยากไปเลย เขามันเป็นเพลย์บอยผู้ชายเจ้าชู้ฉันไม่ชอบผู้ชายแบบนี้ และตอนนี้ฉันก็ยังไม่คิดที่จะมีใครด้วยถึงฉันจะมีอายุแล้วก็ตาม แต่การอยู่คนเดียวมันก็ไม่ได้ทำให้ตายนี่นา ฉันอยู่คนเดียวได้โดยที่ไม่มีใครเลย ฉันมีงานทำฉันมีเงิน ไม่เห็นจะต้องดึงใครเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเลยนี่นา ผู้ชายแต่ละคนที่เข้าหาฉันก็มีแต่พวกหิวเงิน บางคนมองว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เลี้ยงต้อยเด็กนักศึกษาหนุ่มๆ หล่อๆ เพราะบริษัทของฉันเปิดรับนักศึกษาฝึกงานใหม่เยอะ แต่ฉันก็มีวุฒิภาวะมากพอที่จะแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ และอีกอย่างสเปคของฉันก็ไม่ใช่คนที่เด็กกว่าด้วย ฉันชอบคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวมีความคิดมีความรับผิดชอบเป็นที่หนึ่ง ชอบคนที่มีการวางแผนชีวิตล่วงหน้าว่าอายุเท่านั้นเท่านี้เราจะทำอะไรกันดี เอาเป็นว่าฉันยังไม่เจอใครที่ถูกตาถูกใจเลย จะแก่จะแต่งงานอายุ30-40ก็ไม่แปลกเลย ฉันใช้เวลาช่วงวัยรุ่นเหลวไหลมาเยอะมากพอแล้ว ฉันเที่ยวเก่ง งานไม่ยอมทำกว่าจะมาเริ่มสร้างหลักปักฐานเป็นชิ้นเป็นอันได้ ก็อายุ20ปลายแล้ว สมัยเรียนมหาวิทยาลัยฉันเป็นคนที่ติดเที่ยวติดดื่มมาก ต้องได้ไปเที่ยวผับเที่ยวคลับทุกวัน ผิดกับพิงค์ที่วางแผนชีวิตตัวเองไว้ว่างหน้า แต่ตอนนี้มันก็อยู่ดีมีสุขแล้วล่ะไม่ต้องหนีไปไหนอีกแล้ว สมใจพ่อกับแม่มันแล้วล่ะอยากให้แต่งงานกับคนมีเงิน แต่ฉันก็ดีใจนะที่มีคนรักและเข้าใจพิงค์มันได้ นอกจากฉันที่เป็นเพื่อนสนิทก็ไม่รู้ว่ามีใครอีกหรือเปล่า ที่เข้าใจความรู้สึกของพิงค์กับการถูกบังคับมาตลอด พิงค์คือเพื่อนสนิทของฉัน และมันก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป3 ปีต่อมา“คุณลุงขา…” เสียงเด็กน้อยดังมาแต่ไกลทันทีที่ลงมาจากรถ ก่อนที่ร่างอ้วนกลมจะวิ่งเข้าใส่ลุงครามจนเกือบหงายหลังไป “คิดถึงคุณลุงจังเลยค่ะ”“เหรอครับ ลุงก็คิดถึงเด็กอ้วนของลุงเหมือนกันครับ” มือหนาบีบแก้มยุ้ยเบาๆ อย่างมันเขี้ยว“น้องดารินครับ เข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ เล่นมาทั้งวันมีแต่เหงื่อทั้งนั้นเลย” คิงส์พูดขึ้นจากทางด้านหลังลูกสาว“ค่ะคุณพ่อ”แกตอบรับคำพูดของผู้เป็นพ่อแต่โดยดี ก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปด้านใน“แล้วมึงล่ะ มีอะไรหรือเปล่าถึงได้แวะมา” ถึงแม้จะเป็นครอบครัวที่สนิทและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันบ่อยนัก เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเอง จะมาเจอกันสักครั้งก็ต่อเมื่อมีงานหรือปาร์ตี้เล็กๆ ระหว่างครอบครัว“กูเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลียน่ะ ก็เลยซื้อของมาฝากหลานสาวกับหลานชาย ไม่ได้แวะเอามาให้สักทีวันนี้ผ่านมาพอดีก็เลยแวะเอามาให้” ครามบอก“อ๋อ ขอบใจมากนะ”“อือ..กูกลับละ”“อืม…ขับรถกลับดีๆ นะมึง อย่าไปไถลเล่นกับฟุตบาทล่ะ”“เออ!”เป็นคำพูดที่ห่วงใยแต่ก็ยังไม่วายสอดแทรกเรื่องกวนบาทาใส่กัน ไม่รู้เลยว่าใครจอมยั่วใครจอมโมโหกันแน่ เพราะทั้งสอง
บ้านพักริมทะเล“อ่า…สดชื่นจัง…” คิงส์กางแขนออกกว้างแอ่นอกรับลมบริสุทธิ์จากผืนทะเล แต่จู่ๆ ก็มีมือปริศนามาผลักเขาออกไป“ยืนกีดขวางฉิบหายมึงเนี่ย!” ครามพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด แต่ดูเหมือนจะแกล้งคนข้างๆ มากกว่า“ก็ทางเดินมีตั้งมากมายมึงไม่เดิน มาเดินเอาตรงที่กูยืนอยู่เนี่ยนะ!?” คิงส์หันไปต่อว่า ตรงที่เขายืนเป็นหน้าบ้านก็จริงแต่บ้านก็กว้างพอที่จะไปเดินทางอื่นได้“นี่มันบ้านกู กูจะเดินไปตรงไหนก็ได้ไม่ผิด” ครามทำหน้าเฉยชาใส่คิงส์ ราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรกับการกระทำของตัวเองเลย“มันไม่ผิดหรอก มันอยู่ที่มารยาทต่างหากไอ้เวร! กูรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของมึง แต่กูมายืนอยู่ตรงนี้ก่อนมึง” คิงส์หันไปเท้าเอวด่าอยู่ด้วยกันสองคนไม่ได้เลยจริงๆ สองคนนี้ มีอันเป็นต้องหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอด ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ ที่ด่ากัน“แล้วไง? กูไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักหน่อย”“มึงนี่มันกวนตีนไม่เปลี่ยนเลยนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนกูกับมึงก็คงจะวางมวยกันไปแล้ว”“มาดิ ตอนนี้ยังวางได้นะ”“เดี๋ยวกูจะฟ้องเมียมึง” คิงส์พูดขู่“ฟ้องเรื่องอะไร๊ กูไม่ได้มีเรื่องปิดบังอย่างเช่นเรื่องแต่งรถเหมือนมึงสักหน่อย”“ให้กูพูดจริงๆ เ
“กูขออุ้มหลานหน่อย” ครามยื้อแขนที่รอรับเด็กสาวตัวน้อย แต่กลับถูกคิงส์พาเดินหนีออกไป “ไอ้คิงส์! กูบอกขออุ้มหลานหน่อย”“กูไม่ให้อุ้ม” คิงส์หันมาตอบกลับเสียงแข็งกร้าว“แต่นี่หลานกู”“หลานมึง แต่ลูกกู”ทั้งสองยืนเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะไม่มีใครยอมใครเลย อีกคนก็อยากอุ้มหลาน อีกคนก็หวงลูกราวกับจงอางหวงไข่ ไม่ยอมให้ใครได้แตะต้องลูกสาวเลยโดยเฉพาะคราม“เฮ้ย! มึงจะหวงทำไมวะ กูแค่ขออุ้มหลานหน่อยแค่นี้เอง ไม่ได้พาไปไหนสักหน่อย” ครามพูดแย้งออกไป“กูไม่ให้อุ้ม เดี๋ยวมึงเอาลูกกูไป” คิงส์หวงลูกสาวมาก เพราะแกทั้งน่ารักขี้อ้อน ตัวอ้วนกลมแถมแก้มซาลาเปาหน้าหยิกเล่น ใครเห็นก็ต้องเป็นหลง โดยเฉพาะครามที่ชอบเด็กผู้หญิงตัวอ้วนๆ กลมๆ มาก“กูขออุ้มนิดเดียว มึงก็ยืนโด่อยู่ตรงนี้ กูจะเอาลูกมึงไปไหนได้”“มึงอยากได้ลูกผู้หญิงอีก ทำไมมึงถึงไม่ทำเอาเองล่ะ เหอะ! หรือว่าหมดน้ำยาแล้ว?” คิงส์หัวเราะเย้ยหยันคนตรงหน้า“น้ำยากูยังไม่หมดหรอก แต่เมียกูไม่ยอมมีลูกให้อีกนี่หว่า บอกว่ามีแค่สองคนก็พอแล้ว” ครามถอนหายใจเฮือกใหญ่“มึงมันไม่มีน้ำยาเองนี่หว่า”“แล้วมึงล่ะ ทำไมไม่มีอีก”“กูทำหมันแล้วจะมีได้ไงวะ คนอย่างกูอะมันน้
6 เดือนต่อมาบ้านแสนอบอุ่น“แอ้ แอ้” เสียงของน้องดารินดังอ้าวออกมาถึงข้างนอก ฉันชะโงกหน้าเข้าไปมองก็เห็นว่าแกกำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่ชายอยู่ ส่วนคิงส์ก็คอยนั่งดูแลอยู่ข้างๆ ตอนนี้พากันหลงเด็กน้อยคนนี้ทั้งพี่ชายทั้งพ่อเลย“ดูท่าคุณหนูไทเกอร์กับคุณคิงส์จะพากันหลงคุณหนูดารินจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วนะคะเนี่ย” ป้าอิ่มพูดขึ้น“ใช่ค่ะป้าอิ่ม” สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือกลัวว่าพี่น้องจะไม่รักกัน กลัวว่าจะมีคนมาพูดทำพี่น้องทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วน้องไทเกอร์มีวุฒิภาวะของความเป็นพี่มาก คอยดูแลน้องอยู่ตลอด ทุกวันหลังเลิกเรียนก็จะมาเล่นอยู่กับน้อง อายุห่างกันมากไม่ใช่ปัญหาเลย ดีซะอีกที่จะมีพี่ชายคนโตคอยดูแลน้องสาวคนเล็กคนนี้น้องไทเกอร์แกเข้าใจดีว่าทำไมฉันถึงต้องดูแลเอาใจใส่น้องมากเป็นพิเศษ แต่ฉันก็ไม่เคยละเลยแกเลยสักครั้ง ฉันทำให้แกได้เห็นว่าต่อให้จะมีน้องอีกซักกี่คนความรักที่ฉันมีให้แกก็ยังเหมือนเดิม“แล้วคุณเดียร์ ไม่คิดจะมีคุณหนูอีกซักคนเหรอคะ”“ไม่ล่ะค่ะป้า เดียร์ผ่าคลอดน่ะค่ะคุณหมอบอกว่าถ้าท้องอีกอาจจะเสี่ยงแท้งต้องยุติการตั้งครรภ์ค่ะ เดียร์แพ้ยามากค่ะ โดยเฉพาะยาชากับยาสลบ”“ตายจร
โรงพยาบาล“ทำไมต้องวางยาสลบเธอด้วยล่ะครับหมอ ปกติแค่ผ่าคลอดให้แค่ยาชาก็ได้นี่นา” คนตัวสูงเอ่ยถามคุณหมอขณะที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ภายในห้อง“คนไข้แจ้งมาล่วงหน้าแล้วนะครับว่าแพ้ยาชา และการวางยาสลบแบบนี้มันจะปลอดภัยดีกว่านะครับ ถ้าคนไข้มีอาการแทรกซ้อนขณะที่กำลังผ่าคลอด อาจจะทำให้เป็นอันตรายทั้งแม่และเด็กได้ครับ”“เธอกับลูกจะปลอดภัยใช่ไหมครับหมอ มีกับลูกของผมจะปลอดภัยใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงสั่นคลอน กลัวว่าลูกและภรรยาจะเป็นอะไรไป ถึงจะรู้มาบ้างว่าเธอแพ้ยา แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะแพ้หนักขนาดนี้ และคำพูดของเดียร์พี่เคยพูดเอาไว้ก็ลอยเข้ามาในหัวของเขาทันที ( ตอนที่ฉันผ่าคลอดน้องไทเกอร์ ฉันแพ้ยาชาหนักมากจนหัวใจของฉันหยุดเต้นไปหลายครั้ง แต่ฉันก็กลับมาได้ในที่สุด )“ครับผม หมอรับรองครับว่าภรรยาและลูกของคุณจะต้องปลอดภัย”“…” ถึงคุณหมอจะยืนยันและรับรองแบบนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เขาสบายใจอยู่ดีคิงส์ยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ รอคุณหมอออกมาบอกข่าวดีกับเขาเวลาต่อมาแกร่ก~ประตูสีขาวบานใหญ่ถูกเปิดออกตามด้วยร่างสูงที่ใส่ชุดกาวน์ปิดหน้าปิดตาเดินออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคิงส์“เมียกับลูกของผมเป็น
หลายวันต่อมา“อืม…”“เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหมแบบนี้” คิงส์เอ่ยถามภรรยาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พลางไล่บีบนวดตามขาให้เธอบรรเทาอาการปวด“ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ เฮ้อ..”“เมื่อไหร่จะคลอดครับลูกสาวพ่อหืม…พ่อตั้งหน้าตั้งตารอแล้วนะ รีบๆ ออกมานะครับ” ว่าแล้วก็พลางลูบที่ท้องใหญ่ไปมา“โอ๊ะ!?” เดียร์ร้องอุทานเพราะตกใจที่ลูกในท้องถีบอย่างแรงเมื่อคิงส์พูดจบ ราวกับว่ารับรู้ได้และอยากออกมาเต็มทนแล้ว เพียงแต่ยังไม่ครบกำหนดที่จะออกมาเท่านั้น“เป็นไร! จะคลอดเหรอ?” คิงส์เอ่ยถามด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงร้องของภรรยา“เปล่า ลูกดิ้นอะ ดิ้นแรงเลย” เดียร์บอก“เหรอ ขอจับหน่อยนะ” คิงส์เลื่อนมือไปสัมผัสกับหน้าท้องของเธออีกครั้ง เพราะอยากจะรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายในนั้น “ดิ้นจริงด้วย ดูสิถีบมือฉันใหญ่เลยอะ”เขาเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตในท้องใหญ่ของเธอ ดวงตาคมแดงก่ำราวกับคนกำลังจะร้องไห้ มือหนาก็ยังเลื่อนสัมผัสไปมาอยู่แบบนั้น“สงสัยแกจะได้ยินสิ่งที่คุณพูดนะ ดิ้นใหญ่เลย”“เหรอ…รีบๆ ออกมานะครับ พ่ออยากอุ้มอยากหอมแก้มหนูจะแย่แล้ว”ก๊อก ๆ ๆ ๆ“คุณพ่อคุณแม่ครับ นอนหรือยังครับ” เสียงเล็กๆ ด้านนอกตะโก