เวลานี้ต้นกล้ากำลังเจริญเติบโต นาราดีใจมากเธอเฝ้ารดน้ำใส่ปุ๋ยมันทุกวัน เธอลงกล้าใหม่เกือบห้าร้อยต้น ทั้งเงาะ ผักป่าหวาน มะยงชิด แน่นอนการกระทำทั้งหมดไม่เกี่ยวกับสิงหราสักคำ เธอยังไม่พูดกับเขา และทำตัวไม่อยากเข้าใกล้ ส่วนเรื่องรูปพวกนั้น เธอเก็บเป็นความลับ นำมันไปไว้ในที่ปลอดภัย
“คุณนาคเขาว่าวันนี้พายุจะมา คุณนาคได้ดูข่าวหรือเปล่าครับ” สาทรเดินมาหานาราที่กำลังก้มๆเงยๆตรวจต้นกล้า หญิงสาวหันไปมองทางชายกำยำ ใส่หมวกโม่งปิดหน้าปิดตา ร่างสวยที่อยู่ในชุดกางเกงยีนเสื้อเชิ้ตลุกขึ้น
“ดูค่ะ แต่นาคว่าน่าจะไม่หนักเท่าไหร่ แต่ก่อนที่ฝนตกนาคอยากให้พวกเรามาขุดคลองระบายน้ำ เพราะที่ดินแปลงนี้เป็นแปลงใหม่ หนำซ้ำยังอยู่ในที่ลุ่ม กลัวว่ามันจะหายไปกับน้ำหมด” เธอทำใจเรื่องนี้มาประมาณหนึ่งแล้ว ความจริงสวนทุเรียนกับพืชอื่นๆที่ทำไปได้ดีเลย นาราจึงอยากขยายพันธุ์ บุกรุกผืนดินใหม่เพื่อปลุกพืชอื่นๆบ้าง ทว่าไม่ง่ายแต่เธออยากลอง
“แต่ทางนี้เป็นทางน้ำป่าผ่านนะครับ เขาว่าห้าปีก่อนน้ำป่าไหล่ผ่านตรงนี้ เอาต้นกล้ากับต้นไม้ที่ปลูกไว้ไปหมดเลย เพราะแบบนั้นพ่อของนายหัวเลยไม่ปลูกอะไรไว้ที่นี่ ปล่อยเป็นที่รกร้าง” สาทรพยายามอธิบายเพราะกลัวหญิงสาวจะไม่เข้าใจและอาจคิดไปถึงผลลัพธ์ที่จะประสบความสำเร็จ เขายอมรับในตัวผู้หญิงคนนี้จริงๆ หญิงสาวไม่กลัวอะไรเลย ไม่ฟังคำทัดทาน ทว่าอยากลงมือเองก่อน พร้อมแก้ไขทุกเมื่อถ้ามาไม่ทุกทางนาราได้ยินมาบ้าง ทว่าถ้าเธอไม่ปลูกตรงนี้ ไม่มีที่ไหนปลูกได้เหมือนกัน อีกฟากหนึ่งของเขาก็ไกลจากแหล่งน้ำมาก เป็นดินลูกรัง สภาพเป็นกรด ทำให้นาราเลือกที่นี่เพราะดีที่สุด อีกอย่างน้ำป่าไม่ได้ทะลักทุกปีเสียหน่อย ปีก่อนเธอก็อยู่ ไม่เห็นได้ยินข่าวอะไรเลย
“ยังไงก็ต้องดูกันไปก่อนแล้วกัน ตรงนี้เป็นที่ที่เราบุกรุกใหม่ ต้องลองผิดลองถูกกันไปก่อน”
“ครับ”
“...”
“ผมจะช่วยคุณนาคเต็มที่” เขาและคนงานคนอื่นยินดีจะช่วย เพราะอยากให้หญิงสาวประสบความสำเร็จ
“ขอบคุณนะ” ราวกับหยาดน้ำค้างรดราดมายังกลางใจ ตอนแรกเธอคิดว่าคนงานจะไม่ให้ร่วมมือกันซะแล้ว ทว่าพอนานไปทุกคนกลับทำตามคำสั่งเป็นอย่างดี หนำซ้ำยังคอยให้คำแนะนำอีกด้วย นาราเป็นน้องใหม่ ประสบการณ์ยังอ่อนด้อยกว่าพวกเขา แม้จะมีอำนาจสั่งการได้ ทว่าเธอไม่สามารถรู้ในสิ่งที่นอกเหนือจากตำรา หรือบางอย่างแม้รู้ทว่าไม่สามารถเข้าใจแจ่มชัด จนกว่าจะเจอกับตัวเอง
ขอบคุณพวกเขาจริงๆ
เปรี้ยง!
เป็นอย่างที่พยากรณ์อากาศว่าไว้ว่าคืนนี้ฝกตกหนัก พายุเข้า
นารามองท้องฟ้าอันปั่นป่วนที่มีสายฟ้าแตกแขนงส่องแสงแวววับสว่างไปทั่วพื้นดิน แวบเดียวกลับมามืดครึ้มใหม่ เสียงฝนและลมพัดกระชากสาดกระทบพื้นและหลังคาจนเกิดเสียงสนั่นไปทั่ว ลมกระโชกรุนแรงพัดปะทะเข้ากับต้นไม้ ไหวโยกไปกับแรงลม
อะไรกันนี่
“คุณนาคเอายังไงดีครับ!” สาทรวิ่งหน้าตื่นเข้ามา เนื่องจากนาราสั่งไว้ เขาจึงคอยดูสถานการณ์โดยตลอด ตอนนี้มันไม่ดีเอาเสียเลย
“น้องนาค พี่ว่าแบบนี้ต้นกล้าได้ปลิวไปกับแรงลมแน่” ไม่เพียงแต่คนงานที่มายังมีวิกรด้วย ชายหนุ่มติดตามการปลูกกล้าของนารามาโดยตลอด และเขาเป็นที่ปรึกษาคนเดียวที่เธอมี ชายหนุ่มอดห่วงนาราไม่ได้ คนตัวเล็กตั้งใจทำมา พิถีพิถันทุกขั้นตอน ดูตอนนี้ใจเขายิ่งบีบรัดเมื่อเห็นคนตัวเล็กตาแดงก่ำ ทำท่าจะร้องไห้ออกมา
ทว่าความโชคร้ายยังไม่หมดเพียงเท่านั้น
“คุณนาคครับ! คุณนาค คนดอยส่งข่าวมาว่าน้ำป่ากำลังจะมาครับ เขาว่าอีกไม่นานคงถึงไร่เราแน่ เอายังไงดีครับคุณนาค” หมอกวิ่งหน้าตั้งเข้ามา เขาได้รับข่าวจากที่ดอยว่าตอนนี้น้ำป่าไหลมาอย่างแรง และแน่นอนอีกไม่กี่นาที ต้องมาถึงไร่เราแน่ และใช่ มันจะพัดตรงส่วนที่นาราปลุกไปหมดเลย
“จริงเหรอคะ” นาราแทบร้องไห้ หญิงสาวตัวสั่นไปหมด หายใจกระชั้นชิด ข้างขมับปวดหนึบคิดไม่ออกว่าจะเอายังไง
ทำมาขนาดนี้แล้วจะปล่อยให้มันพังต่อหน้าต่อตาเหรอ จะปล่อยให้มันหายไปเหรอ
“หนูจะไปดูเองค่ะ” ทุกสิ่งนารามักทำเต็มที่ รวมถึงครั้งนี้ เธอจะไปดูให้เห็นกลับตา จะไม่ยอมให้ต้นกล้าที่ฟูมฟักมาเสียหายเด็ดขาด ต้นเดียว ช่วยมันได้ เพียงต้นเดียวก็ยังดี
“น้องนาค ไม่ได้ ฝนตกแรงอย่างนี้จะไปได้ยังไง!” วิกรห้ามหญิงสาวไว้ การเข้าไปทั้งพายุฝนแบบนี้ไม่ต่างจากการเอาชีวิตไปทิ้งเลย ทว่านาราตอนนี้คล้ายคนสติหลุดไปแล้ว
“แต่พี่กรถ้านาคไม่ทำอะไรเลย กล้าของนาคตายแน่ๆ พี่กรให้นาคไปดูเถอะนะคะ เผื่อนาคจะทำอะไรได้บ้าง”
“อย่าดีกว่านะครับคุณนาค ลมแรงขนาดนี้ มันไม่ดีนะครับ ไม่ใช่แค่น้ำ ฟ้าด้วย น่ากลัวมากครับ” สาทรร้องห้ามอีกแรง เข้าไปตอนนี้ยังไงก็ไม่ดีแน่ๆ
“แต่นาคจะไป นาค...”
“จะไปไหน” เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้น พลันทำให้ทุกอย่างนิ่งไปถนัดตา นาราหันไปมองคนมาใหม่ที่เดินหน้าขรึมเข้ามา พร้อมกับดึงแขนเธอ
“ฉันถามว่าจะไปไหน!”
ความโกรธแล่นขึ้นสู่หัวใจอย่างรุนแรง นาราหลุบตามองมือใหญ่ที่เธอนึกรังเกียจ และอยากฉีกกระชากมันนัก ทว่าเธอคงไม่เสียเวลามาพูดกับใครทั้งนั้น
หญิงสาวยังเมินหนี แกะมือใหญ่ออก ท่าทางเหมือนจะไปจากเขาให้ได้เขย่าหัวใจสิงหราช
“ฉันถามว่าจะไปไหนไง!” ชายหนุ่มตะคอก ใบหน้าสวยของนาราเงยมามองด้วยดวงตาแดงก่ำ ยังคงเหมือนเดิมเธอจะไปให้ได้
“ได้ อยากไปนักใช่มั้ย” ความโกรธของนายหัวหนุ่มอยู่ในระดับเดียวกัน ทว่าไม่ใช่ความโกรธดังเช่นนาราไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ แต่เป็นความโกรธที่เธอพยายามจะไปตายทั้งที่ไม่รู้อะไรเลย ใช่ น้ำเชี่ยวกรากขนาดนั้น เข้าไปก็เท่ากับฆ่าตัวตาย และถ้าเธออยากตาย เขาจะสงเคราะห์ให้
“ปล่อย! นี่คุณจะทำอะไร” สิงหราชลากร่างบางออกไปกลางสายฝน เดินไปทางแปลงต้นกล้าใหม่ของเธอ ท่ามกลางความมืด มีแสงของฟ้าผ่าลงมา
นารากรีดร้องเล็กๆ ทว่าเธอพยายามไม่ส่งเสียงเล็ดลอด จะให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเธอกลัว
เวลานี้สิงหราชลากหญิงสาวมาตามทาง ไม่ยอมปล่อยร่างบางแม้แต่นิดเดียว ส่วนคนตัวเล็กพยายามขัดขืนตลอดเวลาทั้งยังด่าคนตัวใหญ่ไปด้วย
“ไอ้เลว ปล่อย ปล่อยฉัน!”
แสงสีไฟเผาไหม้ในตานายหัวสิงหราชผู้แข็งแรงไม่เคยกลัวสิ่งใด ทว่าตอนนี้เขาวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อหาใครสักคนทั้งตะโกน เรียกหา ไม่กลัวว่าตนจะถูกเผาไหม้เลยสักนิด ได้ยินเสียงเรียกตัวเอง นาราหยุดขาที่กำลังวิ่งอยู่ไว้ ใช่ เธอเห็นว่าไฟไหม้อย่างน่ากลัว แผดเผาทุกสิ่งทำให้เธอและโจรหนุ่มที่มาด้วยวิ่งลงมายังลาดเขา ในตอนแรกยอมรับว่าเสียงปืนที่กำลังได้ยินทำให้อยากขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ที่สำคัญจะมีสิงหราชอยู่ที่นั่นมั้ย เธออยากไปช่วย ทว่าถ้าทำแบบนั้นโจรหนุ่มจะต้องสงสัยเธออย่างแน่นอน และถ้าเขาโกรธขึ้นมามันอาจฆ่าเธอทิ้ง คราวนี้คงไม่มีโอกาสเจอกับสิงหราชของจริง นาราจึงต้องจำใจเดินตามมันมา ก่อนจะหยุดเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง มันเป็นเสียงของสิงหราช เขามาช่วยเธอ เพียงวินาทีนั้นความอุ่นซ่านจากที่ไหนไม่รู้แผ่เข้ามาที่หัวใจอย่างมากมายมหาศาล เธอคิดว่าตอนนี้เขาจะอยู่กับแฟนเก่าซะอีก เขากลับมาหาเธอทั้งที่จะปล่อยให้ตายก็ได้ “นิ่งทำไมน้องนาค ไฟไหม้อยู่นะ” ใบหน้าของชนตรีแสดงความเครียดขรึม ยิ่งเห็นหญิงสาวทำหน้ากังวลเขายิ่งใจไม่ดี อย่าบอกนะว่าได้ยินเสียงคนเรียกแล้วจะใจอ่อ
“มันเรียกคนมาอีกแน่” ไกรพบที่อาการเจ็บยังไม่หายขาดจากการถูกยิงในครั้งนั้น กำกระบอกปืนแน่น หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อมาจากสิงหราช ชายหนุ่มก็รีบมาทันที ตอนนี้รู้แล้วว่าสิงหราชกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แล้วมันจะไม่หายไปนอกเสียจากว่าจะมีใครตายกันไปข้างหนึ่ง “อืม” เสียงทุ้มครางรับ เห็นหน้าที่เงียบขรึมของนายหัวหนุ่มแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกไม่ดี เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนกับหญิงสาวอีกคนนั้นไม่ราบรื่นเลย อีกทั้งช่วงหลังมานี้ยังมีแฟนเก่าอย่างดาราเข้ามาพัวพัน เส้นสัมพันธ์ยุ่งเหยิงจนแก้ไม่ได้ แต่ที่เขายังแปลกใจคือทำไมเพื่อนไม่หาทางแก้สักที มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยให้ใครเข้ามาเป็นนายหญิงในไร่ สามปีมานี้คนที่มีความสัมพันธ์ด้วยจริงๆคือนาราคนเดียว ถ้าจะมีคนอื่นบ้างทว่านั้นไม่ใช่ความจริงลือกันไปทั้งนั้น เขาเป็นเพื่อนมันทำไมจะไม่รู้ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมไม่เปิดตัวนารา รักขนาดนั้นแต่งเป็นเมียได้แล้วมั้ง จะรออะไรอยู่อีก เห็นมั้ยรอก็มีแต่เรื่องแย่ๆลง จนตอนนี้เมียมันโดนจับตัวไปแล้ว สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า ทว่าพอเห็นหน้าคิดมากจนเครียดของเพื่อนแล้ว เขาสงสารม
"หิวน้ำ" เธอตัดสินใจเรียกออกไป และดูเหมือนว่าเพียงได้ยินเสียงเธอ พวกด้านนอกหยุดการสนทนากัน ต่อเนื่องด้วยมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เป็นคนที่เธอคิดไว้ "อะไร" เสียงของร่างกำยำดูแข็งกระด้าง ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายผิวคล้ำ แห้งกร้าน บอกว่าผ่านการผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างหนัก ทว่าด้วยความที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ทำให้ไม่แก่เกินไปนัก เพียงชายคนนี้เข้ามานาราร้องไห้เงียบๆ ก้มหน้าลงกับเข่าตัวเอง เสื้อเชิ้ตอันเป็นผลจากกระดุมถูกแหวกก่อนหน้าเผยให้เห็นเนินอกขาวผ่อง และลาดไหล่เรียวสวย ภาพตรงหน้าถ้าผู้ชายที่ชอบของสวยๆงามๆย่อมคิดว่าน่ารังแกเหลือเกิน ในความคิดของชายชาตรีนั้นในตอนที่สตรีเปลือยเปล่าให้เห็นถึงเนื้อหนัง และอยู่ในช่วงอ่อนแออย่างหนักช่างน่าปลอบประโลมเกินทน น่านำมากอดให้คลายความเหน็บหนาว ใช่ ชนตรีคิดแบบนั้น ถึงเขาจะเป็นโจรและผ่านสมรภูมิเรื่องเลวร้ายมามากมาย ทว่าสำหรับผู้ชายอย่างเขา ผู้หญิงยังมีอิทธิพลอยู่มากโข แค่เห็นพวกเธอสวย ตรงนั้นก็แข็งแล้ว อย่างเช่นผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้ที่ทำให้เขาแข็งและสงสารในเวลาเดียวกัน โธ่ แม่คุณ คงช้
"นายหัว!" ตอนนี้ประพาทุกข์ใจเหลือเกิน ตั้งแต่นารารู้ความจริงว่าเธอปิดบังเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวก็หายไป เธอออกตามหาแล้วทว่าไม่เจอลูกเลย ออกตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบตอนนี้ประไพไม่รู้จะทำยังไงแล้ว "เกิดอะไรขึ้น" อกด้านซ้ายสั่นไหวไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อของใครบางคนหัวใจก็ราวกับโดนกระชากออกมา "นาคหายตัวไปค่ะ เธอรู้เรื่องหนี้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เอง แต่เป็นญาติที่สร้างไว้ แกรู้ แกเลยหายไป" เกิดความเงียบขึ้นทั่วบริเวณ การเป็นหนี้ของครอบครัวนารา เขารู้ว่าไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ของเธอ แต่เกิดจากตาและยายและญาติคนอื่นๆ เขารู้เรื่องนี้หลังจากที่เธอทำงานได้ไม่นาน แต่ที่กักเก็บไว้ก็เพราะสาเหตุส่วนตัว แต่วันนี้ นารารู้มันแล้ว คงเสียใจมาก ถึงได้หนีไป แต่จะหนีไปไหนเล่า หรือว่าไม่ได้หนี แต่มีคนจับตัวไป ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นตรงอก ทว่าความปวดหนึบนั้นไม่ได้น่าให้ความสนใจกับฝีเท้าที่รีบวิ่งออกไปสุดแรง ทว่าก่อนออกตามหาคนตัวเล็ก สิงหราชโทรไปหาใครคนหนึ่งและเพียงคนปลายสายรับ ไม่ลังเลกรอกเสียงลงไป [นาคหายไป กูอยากให
“พ่อแม่หลอกหนูอยู่เหรอคะ” นัยน์ตาของนาราเลื่อนลอย ความปวดหนึบบีบรัดช่วงอกจนเจ็บไปหมด ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ทุกความตั้งใจของเธอ หยาดเหงื่อแรงกายของเธอ กำลังถูกคนอื่นกัดกิน และดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย พวกเขาทำได้ยังไง รวมถึงพ่อกับแม่เธอด้วย! “แม่ทำแบบนี้ทำไม แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกอยู่มั้ย” เธอกำลังมีอนาคตที่ดี แต่ต้องกลับมาที่นี่ กลับมาเพื่อโดนคนนินทาว่าร้ายว่าเป็นนางบำเรอชั้นต่ำให้นายหัวปลดปล่อยความใคร่ไปวันๆ เธอโดนแบบนั้นแทบทุกวัน สายตาที่มองมาเหยียดหยามด้วยความสงสัย แม่และพ่อของเธอเคยรู้บ้างมั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน “นาค” ประพาเอ่ยเสียงเครือ รู้ดีว่าลูกของเธอรู้สึกยังไง แต่เธอไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้แบบไหนเหมือนกัน ประพาโดนขู่ โดนตราหน้าว่าไม่รักพ่อแม่ พ่อตายจากไปแล้วก็ยังไม่มาดูดำดูดี ด้วยบ่วงนั้นทำให้เธอไม่ไปไหน จมกับความรู้สึกผิด ดำดิ่งหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งแม่ของเธอบอกว่าจะยกโทษให้ถ้ายอมใช้หนี้ให้กัน ประพาจึงรีบคว้าโอกาสไว้ หวังเพียงว่านั่นจะเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทดแทนพระคุณมารดาได้ ทว่าเธอลืมนึกไปว่านาราก็มีหัวใจ เด็กคนหนึ่งโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโ
นารากลืนก้อนเหนียวหนืดขนาดใหญ่ลงในคอ มองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของเขา ดวงตานี้เพียงใช้ปราดมองใครสักคน ทุกคนเป็นอันต้องหลบสายตา บ้างก็หลงใหลมัน เธอมองมันมาหลายครั้ง ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเจ็บปวดใจเท่าครั้งนี้ “ฉันอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ และมันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ไม่อยากอยู่กับป่ากับเขา” เกลียดเหลือเกินที่ตัวเองยิ้มทั้งๆที่กำลังโกหกออกมา “น่าเบื่อใช่มั้ยล่ะคะ ฉันก็เบื่อมันมากเหมือนกัน นับวันรอ รอจะได้ไป ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่” ใครบอกเธอชอบที่นี่มากต่างหาก “ถ้าได้ไปคงมีความสุข ทีนี้นายหัวพอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าฉันต้องการอะไร” นาราลุกขึ้น เพราะรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวจนกลัวมันไหลออกมา ใช่ แล้วเธอจะร้องไห้ทำไม ในเมื่ออยากไปจากเขาเอง “หวังว่าคุณจะอ่านสัญญานี้ให้ถี่ถ้วน แล้วเซ็นมันให้ฉันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” สองเท้าเดินออกมาด้วยความรวดเร็ว มันเร็วเสียจนหญิงสาวจะล้ม คงเกลียดที่นี่มากสินะ ทว่าร่างบางไม่รู้เลยว่าหลังจากเธอไปแล้ว คนที่โดนพูดอะไรก็ไม่รู้ใส่นั้นนิ่งไปราวกั