“ทำไมคุณถึงเมินปราณได้ขนาดนี้ ปราณรักคุณนะคะ ปราณรักคุณมานานแล้ว” ใช่ เธอรักเขามานานแล้ว ทำไมเขาไม่มองกันเลย! หรือเขาชอบผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงไม่มีอะไรดี ขลุกตัวอยู่แต่ในไร่ ไม่มีอะไรเทียบเท่าเธอ!
“ปล่อย” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเย็นชา พร้อมกับแกะแขนเรียวออก ทว่าปราณนารีไม่ยอม เธอกอดเขาแน่น ซบหน้าลงกับแผ่นหลัง
“ไม่เอา ไม่เอา ปราณรักคุณ ปราณอยากอยู่กับคุณ!”
“ฉันบอกให้ปล่อย”
“ไม่เอา ปราณ...”
“ไม่งั้นฉันฆ่าเธอแน่”
“สิง...” นี่เขา ร่างเล็กค่อยๆผละออกจากคนตัวสูง ลำตัวเธอสั่นระริก ภายในรวดร้าวอย่างไม่เคยเป็น ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นี่เขาเกลียดเธอถึงขนาดจะฆ่าแกงกันเลยเหรอ
สิงหราชหันมา มองคนตัวเล็กกว่าด้วยดวงตาเย็นชา เขาใจดีกับเธอมามากพอแล้ว
“ฉันไม่ได้รักเธอ จำเอาไว้” ชายหนุ่มบอกความจริง แม้รู้ว่าจะทำให้ปราณนารีใจสลาย แต่เขาไม่สน เพราะเธอก็ทำร้ายเขาเหมือนกัน
ปราณนารีทรุดตัวลงกับพื้น มองแผ่นหลังกว้างเดินออกไป เธอร้องไห้ราวกับจะขาดใจ เธอโดนคนที่รักปฏิเสธ ปฏิเสธอย่างใจร้ายที่สุด สิงหราชใจร้าย ทำไมเขาถึงใจร้ายกับเธอจัง
“นายสวัสดีครับ” มิง ชายหนุ่มอายุสามสิบห้าดีใจจนใจเต้นเมื่อเห็นนายหัวเก่าของตน เขาเคยทำงานที่ธรภูมิ ก่อนลาออกมาขนกล้าในเมือง วันนี้เขามากับเจ้านาย ไม่นึกว่าจะเจอนายหัวเก่าแบบนี้ โดยส่วนตัวมิงนับถือสิงหราชมาก เป็นคนที่น่าเคารพคนหนึ่ง
สิงหราชเดินเข้ามา แม้จะปวดตรงกลางกายราวกับเลือดคลั่งตรงนั้น แต่เขาต้องข่มใจไว้ รู้ดีว่าตอนนี้ไม่สามารถขับรถกลับได้ และโชคดีที่เขาได้เจอคนงานเก่า ร่างสูงเดินอาดๆเข้าไปหา ยื่นกุญแจรถให้ชายผิดคล้ำร่างบาง
“กูจ้างมึงพันหนึ่ง ขับรถไปส่งกูที่ไร่ที”
ไม่อยากคิดแต่มันอดคิดไม่ได้ว่าสิงหราชรังเกียจถึงไม่ชวนไปงาน เพราะอายที่ทุกคนจะรู้ เธอรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ไปงานแบบนี้กับเขา แต่ในใจก็ยังคิดลึกๆว่า ถ้ามีโอกาสเขาคงไม่ชวนกันหรอกเพราะอายที่ต้องไปกับผู้หญิงไม่มีอะไรอย่างเธอ อาจจะอ่อนไหวมากที่คิดแบบนั้น เพียงแค่นึกน้ำตาก็ไหลออกมา เธอไม่อยากจะน้อยใจ แต่รู้ว่าความรู้สึกฝังลึกในหัวใจแล้ว สุดท้ายหญิงสาวก็นอนหลับไปทั้งคราบน้ำตา
“อื้อ” หลับเคลิ้มไปทว่ากลับต้องลืมตาขึ้นมาเมื่อรับรู้ได้สึกความหนักอึ้งที่ทาบทับ หนำซ้ำยังรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่กำลังรุกรานเธออย่างหนัก นาราเบิกตากว้าง ก่อนจะค่อยๆผลักร่างสูงออกไป เพราะเธอได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงจนฉุนจมูก
น้ำหอมใคร
ความรู้สึกขุ่นมัวค่อยๆปะทุขึ้นมาในอกด้วยความรวดเร็ว จากความงัวเงียเปลี่ยนเป็นความกรุ่นโกรธ เธอผลักสิงหราชออกไปอย่างแรง
“ปล่อย”
“อยาก...” เขากลับไม่มอง นายหัวสิงเอ่ยเสียงพร่า ซุกไซ้ลงบนซอกคอขาว แทนที่นาราจะต้องการ เธอกลับโกรธเป็นร้อยเท่า
อยากเหรอ มีกลิ่นน้ำหอมของคนอื่นแล้วยังกล้าพูดกับเธอว่าอยากงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าเขาไปเอากับคนนั้นมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่เสร็จจนอยากมาเอากับคนที่นอนโง่ๆที่บ้านแบบเธอ
“ฉันบอกให้ปล่อยไง” หญิงสาวฉุนจัด เธอผละร่างสูงออกไปอย่างรุนแรง ก่อนจะตบที่หน้าเขาจนหน้าหัน
“นี่เธอ” สิงหราชหยุดชะงัก ยกมือแตะมุมปากตัวเอง ความแสบยิบจากการปริแตกของเนื้อเกิดขึ้นมา และแน่นอนเลยว่าตอนนี้ในปากเขามีเลือดออกด้วย
“ฉันรังเกียจคุณ อย่ามาใกล้ฉัน!” นาราตะคอก เธอมองเขาด้วยสายตาไร้ความอ่อนโยน ตรงกันข้ามกลับแข็งกระด้างราวกับเกลียดกันมาแรมปี
“เป็นบ้าอะไรของเธอ” สิงหราชไม่เข้าใจ เขาจะเดินเข้าไปใกล้เพื่อคุยกับคนตัวเล็กให้รู้เรื่อง พยายามข่มใจเป็นอย่างมากที่จะไม่ทำให้เมียตัวเองโกรธ ทว่าไม่สามารถทำได้ เพราะร่างเล็กปาหมอนใส่หน้ากัน สิงหราชขบกรามแน่น สบถในใจ
แม่ง ไอ้ยานี้ฤทธิ์มันจะเยอะไปถึงไหน ออกมาจากงานความใหญ่โตของลูกเขายังไม่ลดลงเลย
แล้วเมื่อไหร่นาราจะเข้าใจกันสักที หรือว่าวันนี้เมนส์มา ถึงได้อารมณ์สวิงไม่หยุด
“บอกว่าอย่ามาใกล้ไง!” หมอนใบใหญ่ถูกฟาดเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงอีกครั้ง ชายหนุ่มหลับตาลง ระบายความหงุดหงิดออกมา ยิ่งได้ยินคนตัวเล็กพูดอะไรบ้าๆเขายิ่งหงุดหงิด
“ฉันต้องถามคุณมากกว่าว่าเป็นบ้าอะไร อยากนักก็ไปนอนกันคนอื่นสิ มายุ่งกับฉันทำไม!”
“นาค” จะหมดความอดทนแล้วนะ
“จะไปไหนก็ไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
สิงหราชถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย มองคนตัวเล็กที่นอนหันหลังให้ เขารู้ถ้าเขาไปกอดตอนนี้นาราไม่หายหงุดหงิดหรอก และเขาเองอาจจะทำเธอขมขื่นเพราะฤทธิ์ยาที่ยังเหลือ สุดท้ายสิงหราชก็ได้แต่เดินคอตกออกไป พร้อมกับนึกรันทดตัวเอง
อยากนอนกับเมีย แต่เมียไม่ให้นอนด้วย ทำไมกูมันน่าสงสารจังว่ะ
ก็ได้ วันนี้เขาคงปลดปล่อยมันกับมือตัวเองนี่แหละ
นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย
“แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต
รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน
“ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”
“น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป
“นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง