Share

ใจร้าย?

last update Last Updated: 2025-06-07 22:12:36

“พ่อแม่หลอกหนูอยู่เหรอคะ” นัยน์ตาของนาราเลื่อนลอย ความปวดหนึบบีบรัดช่วงอกจนเจ็บไปหมด ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ทุกความตั้งใจของเธอ หยาดเหงื่อแรงกายของเธอ กำลังถูกคนอื่นกัดกิน และดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย พวกเขาทำได้ยังไง รวมถึงพ่อกับแม่เธอด้วย!

            “แม่ทำแบบนี้ทำไม แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกอยู่มั้ย” เธอกำลังมีอนาคตที่ดี แต่ต้องกลับมาที่นี่ กลับมาเพื่อโดนคนนินทาว่าร้ายว่าเป็นนางบำเรอชั้นต่ำให้นายหัวปลดปล่อยความใคร่ไปวันๆ เธอโดนแบบนั้นแทบทุกวัน สายตาที่มองมาเหยียดหยามด้วยความสงสัย แม่และพ่อของเธอเคยรู้บ้างมั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน

            “นาค” ประพาเอ่ยเสียงเครือ รู้ดีว่าลูกของเธอรู้สึกยังไง แต่เธอไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้แบบไหนเหมือนกัน ประพาโดนขู่ โดนตราหน้าว่าไม่รักพ่อแม่ พ่อตายจากไปแล้วก็ยังไม่มาดูดำดูดี ด้วยบ่วงนั้นทำให้เธอไม่ไปไหน จมกับความรู้สึกผิด ดำดิ่งหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งแม่ของเธอบอกว่าจะยกโทษให้ถ้ายอมใช้หนี้ให้กัน ประพาจึงรีบคว้าโอกาสไว้ หวังเพียงว่านั่นจะเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทดแทนพระคุณมารดาได้ ทว่าเธอลืมนึกไปว่านาราก็มีหัวใจ เด็กคนหนึ่งโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย

            “แม่หลอกหนูทำอย่างนี้ได้ยังไง อึก” ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เธอยืนไม่ไหว นั่งยองๆลงไปร้องไห้ นารายกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง ปล่อยน้ำตาไหลรินจนเปียกฝ่ามือ ที่ผ่านมาเคยคิดว่าครอบครัวคือเซฟโซนของเธอเสมอ รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับบ้าน แต่วันนี้ วันที่รู้ว่าโดนหักหลังอย่างเลือดเย็นกลับรู้สึกเกลียด ขยะแขยงจนไม่อยากเข้าใกล้

            เคยดีใจมาก ดีใจว่าวันหนึ่งจะใช้หนี้ให้พ่อแม่หมด ทว่ามารู้ว่าต้องใช้หนี้ที่คนอื่นก่อ ก็ไม่รู้จะทำไปทำไม และใช่ ต่อไปนี้เธอคงไม่ทนอีกแล้ว

            นาราลุกขึ้น เช็ดน้ำตาตัวเอง มองบิดามารดาเหมือนเป็นศัตรูก็ไม่ปาน เคยรักพวกเขามาก รักมากจนยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองถูกตราหน้าว่าเมียเก็บของใครอีกคน แต่มันจะไม่มีอีกแล้ว

            “หนูคิดมาตลอดว่าแม่รักหนู แต่การที่แม่หลอกหนูอยู่ แม่ไม่เคยรักหนูเลยสักนิดเดียว ไม่เคยบอกหนูถึงความจริงที่มีอยู่ แม่รู้มั้ยป้าธัญญาดูถูกหนูยังไง เขาดูถูกหนูว่าไม่มีวันได้ดีหรอก พูดข่มสารพัด ซึ่งหนูก็ยอม ตอนนี้ที่หนูรู้ว่าคนที่ทำให้หนูมีชีวิตแบบนี้เป็นเพราะพวกเขา แม่รู้มั้ยหนูโกรธ โกรธมาก แต่สิ่งที่หนูเสียใจกว่าก็คือ อึก แม่สมรู้ร่วมคิดกับพวกเขาหลอกหนู มันเจ็บ เจ็บยิ่งกว่าโดนพวกนั้นว่าซะอีก”

            คนที่โดนคนใกล้ตัวทรยศหักหลัง มันราวกับตายทั้งเป็นจริงๆ

            “แต่ช่างเถอะ หนูจะไม่เสียใจอีกแล้ว หนูจะไปจากที่นี่ ส่วนหนี้ที่หนูไม่ได้ก่อ ใครจะใช้ก็ใช้ไป ต่อไปนี้ขออย่าให้แม่เรียกหนูว่าลูก เพราะหนูจะลืมที่หนูมีแม่เป็นแม่เหมือนกัน”

            มันจบแล้ว ทุกอย่างมันจบแล้ว

            และเธอจะไม่ยอมให้ใครกดขี่อีก ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นพ่อแม่ก็ตาม

            หญิงสาวเดินออกมาจากบ้าน พร้อมกับขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจออกไป เธอร้องไห้ไปตลอดทาง ก่อนที่จะจอดรถตรงศาลา ใช่ เธอต้องกลับกรุงเทพ ตอนนี้เนื้อตัวของเธอมีเงินติดตัวประมาณห้าหมื่นบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะพาเธอไปที่เมืองกรุงได้ ทว่าถ้าไปตอนนี้หมู่บ้านของเธอไม่มีรถประจำทางแน่ เพราะแบบนั้นนาราจึงต้องเข้าในเมือง เพื่อไปขึ้นรถอีกต่อหนึ่ง

            นาราขับมอเตอร์ไซค์ไปตามทาง ด้วยความที่ท้องฟ้าใกล้มืดเต็มที รถที่สวนมาเลยไม่มากเท่าไหร่

            ในเวลานี้เธอเสียใจมาก ยอมรับว่าผิดหวัง และสูญเสียความไว้ใจไปจนหมดสิ้น สุดท้ายคนที่ไว้ใจร้ายที่สุด เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าคำคำนี้จะเจอกับตัวเอง

            ขับรถมาเรื่อยๆในตอนพลบค่ำ ถนนเส้นนี้เปลี่ยวและเต็มไปด้วยอันตราย ทว่าเมื่อจิตใจไม่เหลืออะไรแล้ว ความกลัวเหล่านั้นกลับไม่มีเลย มีเพียงความคิดเดียว เธออยากรีบไปจากที่นี่

            ในความมืดปกคลุมหญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาหลายคู่กำลังจดจ่อกับการมาของเธอขนาดไหน และเพียงเป้าหมายมาถึง พวกมันก็ออกมาจากมุมมืด

            นาราเบิกตากว้าง จอดรถกะทันหันเมื่อเห็นชายชุดดำประมาณห้าคนยืนอยู่ตรงหน้า เกิดความกลัวไปทั่วไขสันหลัง ยิ่งในตอนที่หนึ่งในนั้นเอ่ยกับเธอ ความหวาดระแวงพลุ่งพล่านไปทั่วสรรพางค์

            "ลงมา" มันกล่าวเสียงเข้ม เวลานี้ชายชุดดำปิดพลางใบหน้าล้อมเธอไว้หมดแล้ว

            พวกมันราวกับควันมืดดำที่ครอบทับกายเธอ และเพียงชั่วอึดใจ มันกระชากเธอลงมาจากรถ

            นารากรีดร้องด้วยความหวาดกลัว และไม่ทันได้เอ่ยอะไร ผ้าขาวบางก็ประกบเข้าที่ใบหน้าซะแล้ว หญิงสาวดีดดิ้นและเพียงไม่กี่นาที สติที่ยังครบถ้วนก็เลือนหายไปในพริบตา

            "สิง" ดารายิ้มหวานตอนที่เห็นร่างสูงยืนอยู่ตรงระเบียง กำลังมองภูเขาเขียวชอุ่มตรงหน้า เนื่องจากชายคนเคยรักหันหลังให้ ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าเขาทำสีหน้ายังไง ทว่าตอนนั้นนั่นเองที่เธอทำใจกล้า กอดหลังชายหนุ่มไว้

            รับรู้ได้ถึงลำแขนเล็กที่โอบจากด้านหลัง พลันทำให้นายหัวหนุ่มหลุบตามอง  ร่างสูงไม่พูดอะไร ทว่าเพียงไม่กี่วินาทีเขาเบี่ยงตัวออก

            ราวกับรู้สึกว่าใบหน้าปริแตกออกจากกัน อกด้านซ้ายเริ่มไหวหวั่น ทว่าบนใบหน้าสวยยังประดับด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มหวานที่เขาเคยหลงเมื่อหลายปีก่อน

            เธอและเขาเคยเป็นเพื่อนกันมาสมัยมัธยม จากนั้นเกิดความรู้สึกดีๆจึงเปลี่ยนเป็นความรักขึ้น เราสองคนคบกัน เรียนเมืองนอกด้วยกัน ก่อนความรู้สึกเปลี่ยนไปเมื่อเธอไม่อยากกลับไทย ตอนนั้นความสัมพันธ์สั่นคลอนขึ้นอีกครั้ง เธอและเขาทะเลาะกันรุนแรง จากแก้วที่สมบูรณ์ไร้รอยแตกหัก ทว่าตอนนั้นกลับรวดร้าวจนซ่อมไม่ได้ 

            ไม่ได้โทษเขา เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มต้องการกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว แต่ตอนนั้นเธอคิดว่าเขามีพี่น้องหลายคนก็น่าจะทำส่วนนั้นแทนได้บ้าง

            เธออยากให้เขาอยู่กับเธอ อยู่ด้วยกัน แต่งงานกันที่นั่น ทว่าเขากลับเลือกกลับมา

            เราตัดสินใจเลิกกันเด็ดขาด เธอมีแฟนใหม่ เปลี่ยนไปไม่ซ้ำ ทว่าเมื่อคบกับใคร ดารารู้ว่าไม่สามารถลืมสิงหราชได้เลย เขาติดตรึงในใจเธอเสมอ ไม่ไปไหน วันนี้ได้โอกาสกลับมาเจอเขาอีกครั้งจึงอยากขอโอกาส

            "ให้ดากลับมารักสิงได้มั้ย" อยากอยู่กับเขาชดเชยสิ่งที่เสียไปทั้งหมด รู้ว่าตอนนั้นเธอเด็กมาก ไม่ได้รอบคอบ ทั้งยังอยากเอาชนะ แต่ตอนนี้เธอไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว เธออยากขอแก้ตัว ขอโอกาสที่จะได้ดูแลเขา

            "ทำไมถึงอยากกลับมาล่ะ" เสียงทุ้มราบนิ่งเอ่ยพร้อมกับดวงตาดุคมที่ตวัดมองเธอ ดาราสูดลมหายใจลึก จ้องตาเขากลับ ใครๆก็ต่างกลัวสายตาคู่นี้ แต่สำหรับเธอเขาเคยจ้องกันด้วยความหวานซึ้งในอดีต เธออยากได้มันกลับมา อยากครอบครองเป็นของตน

            "ดายังรักสิงอยู่" พูดความจริง เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

            "ได้ยินว่าสิงโดนอะไรอยู่ดาก็รีบบินมาเลย ดารู้ว่าที่ดาเคยทำมันทำร้ายสิงมาก แต่ดาก็เจ็บปวดเหมือนกัน ตอนนี้ดารู้แล้วว่าอยากมีสิงอยู่ในชีวิต ดาไม่เคยลืมสิงเลย ดาอยากขอโอกาสให้ดาได้กลับมาดูแลสิงได้มั้ย"

            จะทอดทิ้งที่ที่เคยสบายกาย อยู่กับเขาที่นี่ ไม่หวั่นกลัว หวั่นไหวอะไรทั้งนั้น เธอพร้อมสู้ไปกับเขา

            "แปลกอยู่เหมือนกันที่มาได้ยินเอาตอนนี้" ชายหนุ่มยังคงสีหน้าราบเรียบ เขาเคยอยากให้เธอพูดมันตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่ยังรู้สึกอยู่...

            "ดารักสิงนะ ถ้าสิง"

            "มันสายไปแล้วดา" เวลาหมุนผ่าน ตัวเขาก็เหมือนกัน ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

            "หมายความว่ายังไง” ดาราราวกับโดนสายฟ้าฟาดเข้าที่หัว เธอไม่คิดเลยว่าสิงหราชจะปฏิเสธกัน

            ดวงตาเรียวคมสบมองเธอ เวลานี้เองถึงได้เห็นว่าดวงตาคู่นั้นเย็นชากว่าครั้งไหน และเขาไม่เคยมองเธอแบบนั้นเลย

            "หมายความว่า ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่มีสิงหราชคนนั้นอีก รวมถึงความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้น ถ้าอยากเป็นเพื่อนต่อกัน เป็นได้ แต่ถ้าอยากเป็นอย่างอื่น ไม่ให้เป็น"

            เปลี่ยนไปแล้วสิงหราชคนนี้เปลี่ยนไปแล้ว คนที่เคยรักเธอห่วงใยเธอ ตอนนี้หายไปไหน ทำไมมีแต่ผู้ชายคนนี้ คนที่เมินเฉยกันอย่างไม่ไยดี

            "จะกลับตอนไหน บอกด้วยนะ เดี๋ยวจะให้คนไปส่ง"

            คนที่ไม่เคยเอ่ยปากไล่เธอเลยสักครั้ง ทว่าวันนี้กลับเอ่ยมันได้อย่างเลือดเย็น

            หลังจากได้พูดสิ่งที่ต้องการ ร่างสูงใหญ่นั่งลงที่เดิม ส่วนอีกคนเดินออกไปทั้งที่บอกว่าเขาใจร้าย ใจร้ายเหรอ ถ้าเขาหลอกเธอว่ายังรักอยู่ นั่นไม่เรียกว่าใจร้ายกว่ารึไง

            "นายหัว" เป็นนงรักที่มาทำลายความเงียบของคนตัวใหญ่ ใบหน้าของหญิงสูงวัยแสดงเค้าเครียดไม่น้อย อาจเป็นเพราะคนที่มาหาเธอมีสีหน้าไม่สู้ดีนักเลย นงรักจึงกังวลไปด้วย

            "มีคนมาหาค่ะ"

            ใคร" บอกตามตรงว่าเขาไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น เพราะถ้าคุยระเบิดคงได้ลงไร่ธรภูมิ

            ทว่านายหัวหนุ่มกลับต้องตกใจเมื่อนงรักเอ่ย

            "พ่อกับแม่คุณนาคค่ะ นายหัวลงไปดูหน่อยนะคะ"

            เพียงได้ยินชื่อของนารา สิงหราชก็ไม่ลังเลลงไปหน้าบ้านอย่างทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตอนจบ

    นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   รัก

    “แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   เอาคืน

    รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ทวงหนี้

    “ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ยอม

    “น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   อยู่ด้วยกัน

    “นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status