"นายหัว!" ตอนนี้ประพาทุกข์ใจเหลือเกิน ตั้งแต่นารารู้ความจริงว่าเธอปิดบังเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวก็หายไป เธอออกตามหาแล้วทว่าไม่เจอลูกเลย ออกตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบตอนนี้ประไพไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
"เกิดอะไรขึ้น" อกด้านซ้ายสั่นไหวไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อของใครบางคนหัวใจก็ราวกับโดนกระชากออกมา
"นาคหายตัวไปค่ะ เธอรู้เรื่องหนี้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เอง แต่เป็นญาติที่สร้างไว้ แกรู้ แกเลยหายไป"
เกิดความเงียบขึ้นทั่วบริเวณ การเป็นหนี้ของครอบครัวนารา เขารู้ว่าไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ของเธอ แต่เกิดจากตาและยายและญาติคนอื่นๆ เขารู้เรื่องนี้หลังจากที่เธอทำงานได้ไม่นาน แต่ที่กักเก็บไว้ก็เพราะสาเหตุส่วนตัว
แต่วันนี้ นารารู้มันแล้ว คงเสียใจมาก ถึงได้หนีไป แต่จะหนีไปไหนเล่า
หรือว่าไม่ได้หนี แต่มีคนจับตัวไป
ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นตรงอก ทว่าความปวดหนึบนั้นไม่ได้น่าให้ความสนใจกับฝีเท้าที่รีบวิ่งออกไปสุดแรง ทว่าก่อนออกตามหาคนตัวเล็ก สิงหราชโทรไปหาใครคนหนึ่งและเพียงคนปลายสายรับ ไม่ลังเลกรอกเสียงลงไป
[นาคหายไป กูอยากให้มึงช่วยหาหน่อย] ตอนนี้ไกรพบอยู่ในสถานีตำรวจ กำลังสืบสวนคดีที่เข้ามาบ่ายนี้ ทว่าสิ่งที่ได้ยินสั่นไหวหัวใจผู้กำกับหนุ่มไม่น้อย มันเกิดอะไร ทำไมถึงมีเรื่องไม่ดีอีกแล้ว
[หายไปได้ยังไงวะ] ตอนนั้นเขายังเห็นเธออยู่เลย หรือว่า...
[กูคิดว่ามีคนจับตัวไป]
[เชี่ย] นายตำรวจหนุ่มสบถ รีบวิ่งออกจากสถานี ก่อนนั้นก็ไม่ลืมเอาลูกน้องมาด้วย คราวนี้เขาต้องจับพวกมันให้ได้ จะไม่พลาดอีกแล้ว
สิงหราชขับกระบะของตนมาตามทาง ทว่าเพียงไม่นาน โทรศัพท์มือถือดังขึ้น
[ว่าไงนายหัว] น้ำเสียงสะใจดังมา ร่างสูงขบกรามแน่น
[มึงเป็นใคร]
[พูดไม่เพราะเลย อยากรู้มั้ยว่าผมเป็นใคร ถามนังนี่ดูสิ]
[ปล่อย จะทำอะไร] เพียงได้ยินเสียงหวานอันคุ้นเคย พร้อมกับบอกรายละเอียดของอะไรบางอย่าง ความโกรธของนายหัวธรภูมิพุ่งทะลุถึงเพดาน เขาข่มใจเป็นอย่างมากที่จะไม่เหยียบคันเร่งสุดแรง ระบายความโกรธออกไปเหมือนสัตว์ป่าเถื่อน
นาราคล้ายกับอยู่ในความมืดขนาดใหญ่ รอบข้างเหน็บหนาวจนสั่นสะท้านไหวไปทั้งกาย มองไม่เห็นอะไรเพราะใบหน้าหญิงสาวถูกปิดด้วยผ้าไว้ อีกทั้งมือทั้งสองข้างยังถูกมัดรวบเข้าด้วยกันอีกด้วย
เหนื่อย
คือความรู้สึกแรกหลังจากที่โดนจับมา ก่อนที่ความกลัวจะแทรกซึมทั่วขั้วหัวใจ ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะของชายฉกรรจ์ดังเข้ามาด้านใน นารายิ่งรู้สึกหวาดระแวงราวกับจะเป็นบ้า
"แม่ง วันนี้เหนื่อยว่ะ ถ้างานเสร็จแล้ว ขอนายกินเลี้ยงดีกว่า" เสียงแหบทุ้มกล่าวอย่างอารมณ์ดี ตามปกติแล้วหลังงานสำคัญเสร็จเขาต้องขอเจ้านายหรือผู้ว่าจ้างเฉลิมฉลอง ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
"อืม อยากกินเหล้าเหมือนกัน อยากตีกะหรี่ด้วย จะเอาให้สบายตัวเลย"
"มึงก็ กูเอาด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า" พวกมันหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
นาราพยายามบิดแกะข้อมือออกจากเชือก ทว่าด้วยปมที่มัดอยู่ยากแก่การคลาย เพราะแบบนั้นหญิงสาวเลยพยายามขยิบตาให้เทปที่ปิดบนดวงตาคลายออก ดีที่พวกมันไม่รัดไปรอบหัว เธอชันหัวเข่าขึ้นมา ก่อนจะก้มใบหน้าถูไปมากับหัวเข่าเบาๆ เพื่อให้เทปกาวหลุด
ความเจ็บแสบเวลาสิ่งเหนียวหนึบถูกแกะออกเล่นงานผิวบอบบางจนแสบยิบ แต่นั่นเท่ากับบอกว่าสิ่งที่พันธนาการดวงตาได้หลุดหายไปแล้ว
นารากะพริบตาสองสามที แสงสว่างสาดเข้ามาในดวงตางาม เพียงวินาทีความปวดตุบๆบนกระหม่อมเล่นงานเธอ
ทว่าหญิงสาวต้องเก็บอารมณ์ไว้ เพื่อหาทางออกให้เร็วที่สุด คาดคะเนดูแล้วว่าตอนนี้นาราน่าจะอยู่ในกระท่อมกลางป่าเธอได้ยินเสียงน้ำไหล เสียงแมลง เสียงนก แล้วทันใดนั้นเองดวงตาก็ต้องเบิกตากว้างเพราะชายข้างนอกเปิดประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน
มันทำหน้าไม่ชอบใจเมื่อเห็นเทปกาวหลุดจากใบหน้าเธอ
"แกะยังไง" ชายชุดดำยกมือจะตบเธอด้วยโทสะ นาราเบี่ยงหน้าหลบทันควัน จังหวะนั้นเป็นจังหวะกับที่ชายอีกคนเดินเข้ามาพอดี ทำให้มือคนที่กำลังจะทำร้ายเธออีกครั้งชะงักค้างกลางอากาศ
"อะไรพี่" โจรรุ่นน้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะเห็นว่าสิ่งที่ใช้ปิดบังใบหน้าของหญิงสาวผู้เป็นเหยื่อได้หลุดไปแล้ว พอมองจากตรงนี้พบว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก สวยจนเขามองด้วยความตะลึง ได้ยินมาว่าเธอเป็นเมียเก็บของสิงหราช ไม่รู้เท็จจริงประการใด
"มันแกะที่ปิดตาออกน่ะสิ ดีนะ ไม่แกะเชือกออกด้วย" โจรรุ่นใหญ่เอ่ยเสียงเฉียว เพราะถ้ามันหนีไปได้ ได้บรรลัยกัลป์ทั้งหมดนี่แน่
"แต่ก็ดี กูจะได้เริ่มงานเลย มึงเอาโทรศัพท์มา" ใช่ โจรอย่างเขาวางแผนทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้ว จะเริ่มขั้นแรกเลยแล้วกัน
"โทรไปหามัน" เพียงสิ้นสุดคำสั่งโจรรุ่นน้องก็กดโทรศัพท์ตามที่บอกทันที รอสายได้ไม่นานก็มีคนกดรับ
[ใคร] เสียงทุ้มต่ำตามมา โจรร้ายแสยะยิ้ม
[ว่าไงนายหัว]
[มึงเป็นใคร]
[พูดไม่เพราะเลย อยากรู้มั้ยว่าผมเป็นใคร ถามนังนี่ดูสิ] โทรศัพท์เครื่องบางถูกยื่นมาทางนารา เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูเขาจึงกระตุกกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวที่ใส่อยู่จนมันกระเด็นออกมา นาราสะบัดตัวหนีทว่าโจรร้ายก็ยังตรึงหญิงสาวให้หันไปทางกล้อง
[ปล่อย จะทำอะไร!] การแตะเนื้อต้องตัวจากคนที่ไม่อยากให้แตะ มือหยาบกร้านที่บีบตรงหัวไหล่เธอ น่ารังเกียจจนนาราตัวสั่นไปหมด กระทั่งมันบอกกับนายหัวของไร่ธรภูมิว่าเธออยู่ที่ไหนเพื่อบอกให้เขามาหาเธอ
นาราไม่เชื่อว่าสิงหราชจะมา เพราะเขาไม่ได้รักเธอ เห็นเป็นเพียงนางบำเรอไว้แก้เหงาเท่านั้น
ทว่าโจรร้ายด้านหน้ากลับดูมั่นใจเหลือเกินพวกมันแสยะยิ้มราวกับได้ดั่งใจทุกอย่าง ก่อนจะปรายตามองเธอแล้วเดินออกไป
นารารู้ว่าแม้ตอนนี้พวกนั้นไม่ได้ปิดปากเธอ แต่ถ้าร้องออกมา ผู้หญิงตัวคนเดียวที่อยู่ในกระท่อมกลางป่ามีสิทธิ์โดนทำร้ายแน่ๆ จึงต้องคิดหาวิธีใหม่เพื่อให้เอาตัวรอดออกจากที่นี่
สมองประมวลผลอย่างหนัก คิดว่าวิธีทางออกที่จะออกไปโดยไม่ต้องปะทะ อย่างน้อยต้องหาอาวุธเพื่อต่อสู้กับคนร้าย ทว่าวิธีแรกที่เธอคิดได้คือหนีออกไปโดยการแอบ ด้วยแรงของเธอการจะสู้กับผู้ชายสองคนนั้นไม่ง่ายเลย เพราะแบบนั้นนาราจะใช้อีกวิธีหนึ่ง
แสงสีไฟเผาไหม้ในตานายหัวสิงหราชผู้แข็งแรงไม่เคยกลัวสิ่งใด ทว่าตอนนี้เขาวิ่งพล่านไปทั่วเพื่อหาใครสักคนทั้งตะโกน เรียกหา ไม่กลัวว่าตนจะถูกเผาไหม้เลยสักนิด ได้ยินเสียงเรียกตัวเอง นาราหยุดขาที่กำลังวิ่งอยู่ไว้ ใช่ เธอเห็นว่าไฟไหม้อย่างน่ากลัว แผดเผาทุกสิ่งทำให้เธอและโจรหนุ่มที่มาด้วยวิ่งลงมายังลาดเขา ในตอนแรกยอมรับว่าเสียงปืนที่กำลังได้ยินทำให้อยากขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ที่สำคัญจะมีสิงหราชอยู่ที่นั่นมั้ย เธออยากไปช่วย ทว่าถ้าทำแบบนั้นโจรหนุ่มจะต้องสงสัยเธออย่างแน่นอน และถ้าเขาโกรธขึ้นมามันอาจฆ่าเธอทิ้ง คราวนี้คงไม่มีโอกาสเจอกับสิงหราชของจริง นาราจึงต้องจำใจเดินตามมันมา ก่อนจะหยุดเมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง มันเป็นเสียงของสิงหราช เขามาช่วยเธอ เพียงวินาทีนั้นความอุ่นซ่านจากที่ไหนไม่รู้แผ่เข้ามาที่หัวใจอย่างมากมายมหาศาล เธอคิดว่าตอนนี้เขาจะอยู่กับแฟนเก่าซะอีก เขากลับมาหาเธอทั้งที่จะปล่อยให้ตายก็ได้ “นิ่งทำไมน้องนาค ไฟไหม้อยู่นะ” ใบหน้าของชนตรีแสดงความเครียดขรึม ยิ่งเห็นหญิงสาวทำหน้ากังวลเขายิ่งใจไม่ดี อย่าบอกนะว่าได้ยินเสียงคนเรียกแล้วจะใจอ่อ
“มันเรียกคนมาอีกแน่” ไกรพบที่อาการเจ็บยังไม่หายขาดจากการถูกยิงในครั้งนั้น กำกระบอกปืนแน่น หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อมาจากสิงหราช ชายหนุ่มก็รีบมาทันที ตอนนี้รู้แล้วว่าสิงหราชกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แล้วมันจะไม่หายไปนอกเสียจากว่าจะมีใครตายกันไปข้างหนึ่ง “อืม” เสียงทุ้มครางรับ เห็นหน้าที่เงียบขรึมของนายหัวหนุ่มแล้ว นายตำรวจหนุ่มก็รู้สึกไม่ดี เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนกับหญิงสาวอีกคนนั้นไม่ราบรื่นเลย อีกทั้งช่วงหลังมานี้ยังมีแฟนเก่าอย่างดาราเข้ามาพัวพัน เส้นสัมพันธ์ยุ่งเหยิงจนแก้ไม่ได้ แต่ที่เขายังแปลกใจคือทำไมเพื่อนไม่หาทางแก้สักที มันไม่เคยมีใคร ไม่เคยให้ใครเข้ามาเป็นนายหญิงในไร่ สามปีมานี้คนที่มีความสัมพันธ์ด้วยจริงๆคือนาราคนเดียว ถ้าจะมีคนอื่นบ้างทว่านั้นไม่ใช่ความจริงลือกันไปทั้งนั้น เขาเป็นเพื่อนมันทำไมจะไม่รู้ แต่ที่ไม่รู้คือทำไมไม่เปิดตัวนารา รักขนาดนั้นแต่งเป็นเมียได้แล้วมั้ง จะรออะไรอยู่อีก เห็นมั้ยรอก็มีแต่เรื่องแย่ๆลง จนตอนนี้เมียมันโดนจับตัวไปแล้ว สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า ทว่าพอเห็นหน้าคิดมากจนเครียดของเพื่อนแล้ว เขาสงสารม
"หิวน้ำ" เธอตัดสินใจเรียกออกไป และดูเหมือนว่าเพียงได้ยินเสียงเธอ พวกด้านนอกหยุดการสนทนากัน ต่อเนื่องด้วยมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เป็นคนที่เธอคิดไว้ "อะไร" เสียงของร่างกำยำดูแข็งกระด้าง ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายผิวคล้ำ แห้งกร้าน บอกว่าผ่านการผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างหนัก ทว่าด้วยความที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ทำให้ไม่แก่เกินไปนัก เพียงชายคนนี้เข้ามานาราร้องไห้เงียบๆ ก้มหน้าลงกับเข่าตัวเอง เสื้อเชิ้ตอันเป็นผลจากกระดุมถูกแหวกก่อนหน้าเผยให้เห็นเนินอกขาวผ่อง และลาดไหล่เรียวสวย ภาพตรงหน้าถ้าผู้ชายที่ชอบของสวยๆงามๆย่อมคิดว่าน่ารังแกเหลือเกิน ในความคิดของชายชาตรีนั้นในตอนที่สตรีเปลือยเปล่าให้เห็นถึงเนื้อหนัง และอยู่ในช่วงอ่อนแออย่างหนักช่างน่าปลอบประโลมเกินทน น่านำมากอดให้คลายความเหน็บหนาว ใช่ ชนตรีคิดแบบนั้น ถึงเขาจะเป็นโจรและผ่านสมรภูมิเรื่องเลวร้ายมามากมาย ทว่าสำหรับผู้ชายอย่างเขา ผู้หญิงยังมีอิทธิพลอยู่มากโข แค่เห็นพวกเธอสวย ตรงนั้นก็แข็งแล้ว อย่างเช่นผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้ที่ทำให้เขาแข็งและสงสารในเวลาเดียวกัน โธ่ แม่คุณ คงช้
"นายหัว!" ตอนนี้ประพาทุกข์ใจเหลือเกิน ตั้งแต่นารารู้ความจริงว่าเธอปิดบังเรื่องหนี้สิน เจ้าตัวก็หายไป เธอออกตามหาแล้วทว่าไม่เจอลูกเลย ออกตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบตอนนี้ประไพไม่รู้จะทำยังไงแล้ว "เกิดอะไรขึ้น" อกด้านซ้ายสั่นไหวไม่น้อย เพียงได้ยินชื่อของใครบางคนหัวใจก็ราวกับโดนกระชากออกมา "นาคหายตัวไปค่ะ เธอรู้เรื่องหนี้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นคนก่อหนี้เอง แต่เป็นญาติที่สร้างไว้ แกรู้ แกเลยหายไป" เกิดความเงียบขึ้นทั่วบริเวณ การเป็นหนี้ของครอบครัวนารา เขารู้ว่าไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ของเธอ แต่เกิดจากตาและยายและญาติคนอื่นๆ เขารู้เรื่องนี้หลังจากที่เธอทำงานได้ไม่นาน แต่ที่กักเก็บไว้ก็เพราะสาเหตุส่วนตัว แต่วันนี้ นารารู้มันแล้ว คงเสียใจมาก ถึงได้หนีไป แต่จะหนีไปไหนเล่า หรือว่าไม่ได้หนี แต่มีคนจับตัวไป ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นตรงอก ทว่าความปวดหนึบนั้นไม่ได้น่าให้ความสนใจกับฝีเท้าที่รีบวิ่งออกไปสุดแรง ทว่าก่อนออกตามหาคนตัวเล็ก สิงหราชโทรไปหาใครคนหนึ่งและเพียงคนปลายสายรับ ไม่ลังเลกรอกเสียงลงไป [นาคหายไป กูอยากให
“พ่อแม่หลอกหนูอยู่เหรอคะ” นัยน์ตาของนาราเลื่อนลอย ความปวดหนึบบีบรัดช่วงอกจนเจ็บไปหมด ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ทุกความตั้งใจของเธอ หยาดเหงื่อแรงกายของเธอ กำลังถูกคนอื่นกัดกิน และดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย พวกเขาทำได้ยังไง รวมถึงพ่อกับแม่เธอด้วย! “แม่ทำแบบนี้ทำไม แม่ยังเห็นหนูเป็นลูกอยู่มั้ย” เธอกำลังมีอนาคตที่ดี แต่ต้องกลับมาที่นี่ กลับมาเพื่อโดนคนนินทาว่าร้ายว่าเป็นนางบำเรอชั้นต่ำให้นายหัวปลดปล่อยความใคร่ไปวันๆ เธอโดนแบบนั้นแทบทุกวัน สายตาที่มองมาเหยียดหยามด้วยความสงสัย แม่และพ่อของเธอเคยรู้บ้างมั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน “นาค” ประพาเอ่ยเสียงเครือ รู้ดีว่าลูกของเธอรู้สึกยังไง แต่เธอไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้แบบไหนเหมือนกัน ประพาโดนขู่ โดนตราหน้าว่าไม่รักพ่อแม่ พ่อตายจากไปแล้วก็ยังไม่มาดูดำดูดี ด้วยบ่วงนั้นทำให้เธอไม่ไปไหน จมกับความรู้สึกผิด ดำดิ่งหาทางออกไม่เจอ จนกระทั่งแม่ของเธอบอกว่าจะยกโทษให้ถ้ายอมใช้หนี้ให้กัน ประพาจึงรีบคว้าโอกาสไว้ หวังเพียงว่านั่นจะเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทดแทนพระคุณมารดาได้ ทว่าเธอลืมนึกไปว่านาราก็มีหัวใจ เด็กคนหนึ่งโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโ
นารากลืนก้อนเหนียวหนืดขนาดใหญ่ลงในคอ มองลึกเข้าไปในดวงตาดุดันของเขา ดวงตานี้เพียงใช้ปราดมองใครสักคน ทุกคนเป็นอันต้องหลบสายตา บ้างก็หลงใหลมัน เธอมองมันมาหลายครั้ง ทว่าไม่เคยมีครั้งไหนเจ็บปวดใจเท่าครั้งนี้ “ฉันอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ และมันไม่ใช่ที่นี่ ฉันอยากไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ไม่อยากอยู่กับป่ากับเขา” เกลียดเหลือเกินที่ตัวเองยิ้มทั้งๆที่กำลังโกหกออกมา “น่าเบื่อใช่มั้ยล่ะคะ ฉันก็เบื่อมันมากเหมือนกัน นับวันรอ รอจะได้ไป ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่” ใครบอกเธอชอบที่นี่มากต่างหาก “ถ้าได้ไปคงมีความสุข ทีนี้นายหัวพอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าฉันต้องการอะไร” นาราลุกขึ้น เพราะรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวจนกลัวมันไหลออกมา ใช่ แล้วเธอจะร้องไห้ทำไม ในเมื่ออยากไปจากเขาเอง “หวังว่าคุณจะอ่านสัญญานี้ให้ถี่ถ้วน แล้วเซ็นมันให้ฉันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” สองเท้าเดินออกมาด้วยความรวดเร็ว มันเร็วเสียจนหญิงสาวจะล้ม คงเกลียดที่นี่มากสินะ ทว่าร่างบางไม่รู้เลยว่าหลังจากเธอไปแล้ว คนที่โดนพูดอะไรก็ไม่รู้ใส่นั้นนิ่งไปราวกั