8 ประมูลสาวงาม
หลี่เหว่ยไม่ยิ้มตอบเพียงปลายหางตาให้จนมู่เฉินยิ้มเจื่อนไป แม่ทัพใหญ่ตัวจริงเบือนหน้ากลับไปยังเวทีกลางหอเยว่โหลว เฝ้าดูกิริยาแม่นางน้อยแต่ละนางสีหน้าตื่นตกใจอุทาน ยกพัดโบกหน้าที่แดงซ่านระเรื่อ มีเพียงคนเดียวตรงกลางที่ดูว่าโกรธจัดจนต้องใช้บัดโบกความเห่อร้อนบนดวงหน้า
“สมน้ำสมเนื้อเช่นนั้นหรือ” ยี่หวาพึมพำสะบัดปิดหน้าแดงก่ำเพราะความฉุนเฉียว ก่อนหัวเราะก้องออกมากระพือพัดแรงเดินไปยังด้านหน้าเวทีเกือบถึงขอบพื้นยก ผายมือออกทั้งสองข้าง
“ข้าว่างานนี้ถึงประมูลหญิงงามท่านใดไป ไม่ว่าวัยกำดัด วัยขบเผาะ วัยออกเรือน หรือวัยอื่นใดคงไม่มีผลต่อท่านแม่ทัพดอกกระมัง” สีหน้าระรื่นผิดสังเกตจนหลี่เหว่ยเผลอชะโงกกายไม่รู้ตัว
“เพราะเหตุใดเจ้าจึงพูดเช่นนั้น” มู่เฉินมิรู้ความโพล่งออกไปแม้กระทั่งหลี่เหว่ยยังยั้งมือรั้งไว้ไม่ทัน
“ก็เพราะว่า....ท่านแม่ทัพ มิได้ชื่นชอบสตรีนะสิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ความเงียบสงัดปกคลุมทั่วโถงกลางของหอเยว่โหลวทันควัน แต่เพียงชั่วหยดน้ำสุรารินใส่จอกเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเสียงหัวร่อครึกครื้นพลันสนั่นดั่งคล้ายเสียงฝนกระหน่ำลงพื้นแผ่นดินฉางอาน
หลี่เหว่ยกำจอกสุราแน่นดวงตากร้าวจับจ้องสีหน้านางคณิการ่างบางแต่งกายบุรุษหมุนกายโค้งคำนับรับเสียงปรบมือ เสียงหัวร่อมิเกรงกลัวใด ๆ ทั้งสิ้น ผิดไปจากมู่เฉินที่ตอนนี้สีหน้าซีดเผือดเหลียวมองชายด้านข้างแม่ทัพตัวจริงใบหน้าเขียวคล้ำจนตัวเขามิรู้ว่าจักกล่าวอันใดได้เพื่อแก้สถานการณ์ ก่อนสะดุ้งตกใจจริงเกือบทะลึ่งตัวเมื่อท่านแม่ทัพหลี่เหว่ยหัวเราะก้องด้วยเช่นกัน ทั้งยังลุกขึ้นปรบมือเช่นเดียวกับคนในหอแห่งนี้
“ท่าน...ท่านแม่ทัพ” มู่เฉินเสียงสั่น
“จริงดั่งเช่นแม่นางยี่หวาเอ่ย ท่านแม่ทัพหลี่เหว่ยผู้นี้” ผายมือไปทางมู่เฉิน “ชื่นชอบบุรุษยิ่งนัก ค่ำนี้เป็นการประมูลของทางการ ข้าคิดว่าไม่ต้องประมูลให้เสียเวลาหรอกกระมัง มิสู้ให้ข้าพาท่านแม่ทัพไปหอซีหยางโหลวเลยจะดีกว่า”
“ไม่ได้!!” ยี่หวาพูดโพล่ง สะบัดพัดพับลงฟาดกลางฝ่ามือ - - ข้าจะไม่ยอมปล่อยปลาตัวนี้หลุดมือเด็ดขาด
“ไม่ได้ ... เหตุใดกันแม่นางยี่หวา หรือว่า ท่าน ... มีแผนอันใด” หลี่เหว่ยเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงดุดัน ทำเอาคนในหอเงียบกริบรอฟังคำตอบเช่นกัน
“ข้า ข้า .. มิได้มีแผน เพียงแต่ว่าหากทำเช่นนั้นจะเป็นการลบหลู่เบื้องสูง ในเมื่อเป็นโองการลง เราเป็นเพียงราษฎรใต้ฝ่าธุลีย่อมต้องทำตามพระราชประสงค์จึงจะถูกต้อง” ยี่หวายกมือขวาประกบซ้ายขึ้นข้างใบหูซ้ายไปยังทิศทางพระราชวัง สีหน้าจริงจังขึงขัง
“ในเมื่อเป็นพระราชประสงค์ ท่านแม่ทัพคงมิอาจขัดพระราชหฤทัยได้ เอาเช่นนี้ การประมูลวันนี้ดูไปแล้วขาดสีสันยิ่ง ท่านแม่ทัพต้องการให้ประมูลหญิงงามสองนางในคราวเดียว” หลี่เหว่ยผายมือไปทางมู่เฉินที่นั่งอยู่กับที่พยายามรักสีหน้าให้เรียบเฉยทั้งที่ภายในใจชีพจรเต้นรัวดั่งกลองรบ
“สองนางงั้นหรือ” ยี่หวาพึมพำ
“ใช่ สองนาง นางหนึ่งคือหนึ่งในบรรดาสาวงามทั้งสิบที่ยืนเรียงรายอยู่บนเวที” หลี่เหว่ยยกสุราเทลงจอกเว้นจังหวะเล็กน้อยนิ่งให้แม่นางน้อยคณิกาฮุบเหยื่อ
“แล้วอีกหนึ่ง” ยี่หวาอดรนทนไม่ไหวเอ่ยถาม
“อีกหนึ่งคือเจ้า ไม่ว่าจะประมูลสาวงามใดได้ อีกหนึ่งที่จะเข้าจวนท่านแม่ทัพคือ..เจ้า” หลี่เหว่ยยกจอกสุรารสเลิศกระดกหมดแล้วกระแทกลงโต๊ะ “ตกลงหรือไม่แม่นางยี่หวา สองนาง ราคาย่อมสูง คิดให้ดี”
ยี่หวากำพัดแน่นแหงนดวงหน้าจ้องชายหนุ่ม ความสูงใหญ่ดูแล้วคงเป็นทหารหาญ ทั้งผิวคล้ำคงเพิ่งกลับจากการรบ และคงเป็นตำแหน่งสำคัญยิ่งเพราะดูท่านแม่ทัพหลี่เหว่ยเกรงใจหลายส่วน จึงยิ้มเย็นพูดเสียงอ่อนหวานขัดกับแววตาแข็งกระด้าง
“ถ้าเช่นนั้น ให้ท่านแม่ทัพเป็นผู้พูดเองเถิด ส่วนท่าน...” ยี่หวาผายพัดไปด้านหน้ารอคอยคำตอบ
“ข้าเป็นเพียงคนไร้ชาติกำเนิด ชื่อเสียงกระไรไม่สำคัญ แต่หากเจ้าอยากรู้ ข้า มู่เฉิน”
พรวด แค่ก ๆ ๆ
มู่เฉินถึงกับสำลักคำใหญ่ สุราไหลพรวดออกจมูกเมื่อได้ยินแม่ทัพผู้กล้าเอ่ยชื่อของเขาออกมา เบือนหน้าไปหาก่อนหลบตายามปะทะกับสายตาคมดุของแม่ทัพ
“ท่านมู่เฉิน ยามนี้ขอเพียงท่านแม่ทัพเอ่ย ข้าย่อมทำตาม”
“ข้ายินดี ทำตามที่มู่เฉินกล่าว” เสียงเร่งร้อนเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อนที่หญิงคณิกายี่หวาจะทันพูดจบ “เริ่มการประมูล”
ยี่หวาจึงทำได้เพียงกัดฟันกรอด ๆ ตวัดตามองอากุยที่วันนี้นางลงทุนซื้อชุดให้ใหม่แต่มองยังไงก็ไม่ใคร่เหมือนคุณชายตระกูลสูงส่ง - - แต่เอาเถิด ยังดีกว่าไม่มีคน
บัดซบ ... โดยแท้
ยี่หวาเม้มริมฝีปากขณะโบกพัดเร็วถี่ งานประมูลที่มีขึ้นคืนนี้ แน่นอนนางทำให้แน่ใจว่าเยี่ยนฟางจะได้เป็นผู้ชนะ แต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดคือเจ้าหน้าบัดซบท่านแม่ทัพหาญกล้าจะร่วมลงประมูลด้วยตนเอง
“ร้อยตำลึงทอง” หลี่เหว่ยเอ่ยขึ้นราบเรียบแต่ดวงหน้าพราวระยับมองเบื้องล่าง นางคณิกาหน้าโกรธจัดกว่าเดิมโบกพัดเพื่อคลายอารมณ์ พวงแก้มแดงก่ำทั้งสองข้างชำเลืองมองไปยังเด็กหนุ่มคนหนึ่งตลอดเวลา
“ท่าน แม่ทัพ เอ้ย มู่เฉิน นั่นมันไม่มากไปสักหน่อยหรือ” มู่เฉินส่งเสียงเบาข้างหู แต่ดูเหมือนท่านแม่ทัพตัวจริงกำลังสนุก ไม่ชำเลืองมาทางทหารรู้ใจแม้แต่น้อย ซ้ำเอาแต่จดจ้องคณิกากลางโถงจิบสุราเพลิดเพลิน
“สะ สองร้อยตำลึงทอง” เด็กหนุ่มหน้าตาชาวบ้านหากแต่สวมชุดงดงามราคาแพงเนื้อผ้าใหม่เอี่ยมมิเคยได้ใช้งานเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่นดูราวไม่แน่ใจนัก
“เอา ๆ ล่ะ ตอนนี้สองร้อยตำลึงทองแล้ว ข้าว่าการประมูลน่าจะสิ้นสุดลงได้กระมังท่านแม่ทัพ งานนี้จัดเพื่อความสนุกสนานอย่างไรเสียท่านก็ได้สองสาวงามจากหอเยว่โหลวไปครอบครองอยู่แล้ว ไยท่านต้องลงประมูลให้เหล่าคุณชายขัดเคืองใจ” ยี่หวารีบเอ่ยรวบรัดสะบัดพัดพับแล้วชี้ไปทางเยี่ยนฟาง “ข้าขอประกาศว่าคุณชายท่านนี้ ...”
“พันตำลึงทอง” หลี่เหว่ยโพล่งขึ้นน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ จ้องดวงหน้างามที่ครานี้เจื่อนลงเห็นได้ชัด ดูท่ามิได้เตรียมตั๋วเงินไว้มากพอ จึงวางจอกเหล้าแล้วเอี้ยวหน้าไปทางมู่เฉินที่บัดนี้หน้าเหวอปากอ้าค้าง - - ไม่ได้เรื่อง
“ถ้าเช่นนั้นข้ามู่เฉินและท่านแม่ทัพคาดว่าการประมูลวันนี้คงจบที่ราคาเท่านี้ ส่งใบเก็บเงินไปยังจวนตระกูลหลี่ เชิญท่านแม่ทัพ” หลี่เหว่ยเอ่ยขึ้นพลางลุกยืนโค้งผายมือให้มู่เฉิน ทหารหนุ่มยังหน้าเหวอมองท่านแม่ทัพจำใจลุกเดินนำลงบันได
หลี่เหว่ยยกยิ้ม เพ่งมองสีหน้าตื่นตะลึงระคนโกรธจัดของแม่นางยี่หวาไว้จำขึ้นใจ - - งดงาม และคล้ายอาฆาต ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่จวน
“เอาล่ะ ๆ การประมูลสิ้นสุดลงแล้ว ข้าเป็นเจ้าของหอเยว่โหลวขอขอบคุณคุณชายทุกท่านที่มาร่วมสนุกในวันนี้ มา ๆ วันนี้ข้าเลี้ยงสุราดอกกุ้ยฮวาเอง เด็ก ๆ แจกสุรา”
ยี่หวาชำเลืองมองนายแม่ที่บัดนี้ดวงหน้างดงามของหญิงวัยต้นสามสิบเต็มไปด้วยรอยยิ้มและดวงตาแพรวพราว - - เรียกว่าหน้าเงินถึงจะถูก
นางมองไปทางเยี่ยนฟางสีหน้าสดชื่นสดใส แน่ล่ะในเมื่อนางได้เข้าไปเป็นข้ารับใช้อในห้อง สมัยนี้เรียกว่าอะไรนะ สาวข้างเตียงใช่หรือไม่
แล้วข้าล่ะ นี่ ... ข้าหาเรื่องใส่ตนเองใช่หรือไม่
30 บทส่งท้ายใบกระจับล้อคลื่นในบัวลู่ลมเรือน้อยชมจงกลกลางนทีพบชายนางก้มยิ้มกลั้นวจีนารีทำปิ่นหยกตกลงน้ำ[1]หลี่เหว่ยยกมือป้องแดดยามบ่ายคล้อยกลางฤดูร้อนที่ยังแผดเผา อีกมือค้ำถ่อเรือลำน้อยลอยละล่องเหนือบึงบัวดอกหลากสี คลี่ยิ้มยามเห็นฮูหยิน ภรรยายอดดวงใจเอนกายพิงกาบเรือแกว่งมือกวักน้ำ บ้างแตะหยอกดอกบัวเอียงดวงหน้างดงามส่งรอยยิ้มอ่อนหวาน“เจ้าร้อนหรือไม่”ยี่หวาส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วค่อยคลานเข่าไปยังแม่ทัพใหญ่หยิบเซาปิ่งแบ่งชิ้นส่งเข้าปากหนาก่อนปัดเศษขนมปังข้างแก้มให้“ปีนี้ร้อนยิ่ง ทว่าข้ามาบึงบัวแห่งนี้คราไร กลับรู้สึกเย็น”ยี่หวาขยับร่างกลับไปที่เดิม ลูบปอยผมออกจากดวงหน้ายามลมโชยพัดจนปลิวไสว เท้าข้อศอกบนกาบเรือเกยคางบนหลังมือ“ข้ามีเรื่องยังไม่ได้บอกเจ้ายี่หวา”น้ำเสียงจริงจังทั้งหลบสายตาทำให้ยี่หวาคิ้วขมวดนิ่ง“อีกไม่กี่วันข้าอาจต้องไปลั่วหยาง”ร่างอ้อนแอ้นที่เอนกายอยู่พลันเหยียดตึงนั่ง
29 NC “ทะ ท่าแม่ทัพ นั่น อะ อะไรน่ะ”ยี่หวากอบผ้าขึ้นปิดทรวงอกกระเถิบถอยหนีเมื่อเห็นท่านแม่ทัพใหญ่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากเตียงขณะโรมรันกอดรัดฟัดเหวี่ยงกำลังได้ที่ใกล้สอดใส่ เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าสีแดงเส้นเล็กพันมือทั้งสองข้างแล้วกระตุกขึงจนตึงมือพรึบ ๆ ..“เชือกผ้าไหม”“ทะ ท่านเอาสิ่งนี้มาทำอะไร” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเหลือบมองเชือกแล้วตวัดสายตาขึ้นมองสีหน้าท่านแม่ทัพดูคล้ายพึงพอใจสุดขีดด้วยรอยยิ้มมารร้าย“ตำราปกขาวเขียนไว้ว่า หากต้องการมัดใจภรรยาให้อยู่หมัด ไม่ให้ปั่นใจหนีหายไปที่อื่น จงมัด...” พึมพำในลำคอไม่เต็มเสียง กลัวภรรยารักถอยหนี แต่ยี่หวายังได้ยินอยู่ดี“มัด!!!”ตึก ... คุกเข่าลงเตียง“ตามตำราบอกว่าสตรีทุกนางล้วนชื่นชอบยิ่งนัก ซ้ำร้องครางลั่นราวขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า”“...”ยี่หวาอ้าปากเหวอ ‘ตำรา’ นี่ท่านแม่ทัพของนางถึงขั้นอ่านตำรากามสูตรเพื่อมาทำสิ่งนี้กับนาง“ข้า ข้า ไร้ซึ่งคำพูด ท่านแม่ทัพ”“เจ้าไม่ต้อง
28 ดื่มเหล้ามงคล“เจ้าคิดสิ่งใดยี่หวา ต้องไม่ใช่เรื่องดี” หลี่เหว่ยใช้นิ้วดีดเบากลางหน้าผากเอ่ยเสียงนุ่มอ่อนโยนก่อนนั่งลงบนเตียงด้านหลัง ชะโงกหน้าผ่านซอกไหล่ก้มมองบุตรชายนอนนิ่งไม่ส่งเสียงร้องดั่งเด็กทั่วไป“ท่านขยับออกห่างหน่อยไม่ได้หรือไร ข้าร้อน แล้วไยไม่ไปทำงาน”“ข้าลางานแล้ว”“ลางาน?”“ข้าต้องอยู่เดือน”“...”ยี่หวาคิ้วกระตุก อยู่เดือนมิใช่หน้าที่ของสามี แต่นี่มันคือข้ออ้างชัด ๆ“ท่านแม่ทัพเพียงต้องการเป่าประกาศว่าเป็นชายมีน้ำยาใช่หรือไม่” แค่นลมเมื่อพูดจบจนอกแกร่งด้านหลังกระเพื่อม“รู้ดีเยี่ยงนี้ต้องรีบยกน้ำชา”“ข้าไม่ได้รับปาก ท่านอย่าซี้ซั้วพูดเองฝ่ายเดียว ข้ายอมมาอยู่จวนท่านเพราะเห็นแต่เจ้าก้อนแป้งต่างหาก”หลี่เหว่ยไม่นำพาปล่อยให้ยี่หวาพูดไปเรื่อยส่วนมือเริ่มเลื้อยอ้อมมาด้านหน้ารัดเอวนางไว้ผ่าง...ไม่ทันได้ลวนลามมากไปกว่านั้นประตูเปิดกว้างออกอย่างแรงพร้อมใบหน้าของหญิงวัยกลางคนพรวดพราดเดินเข้ามา“หลานข้า หลี่จง” น้ำเสียงโหยหวนสักเล็กน้อย
28 คลอดแล้วจ้า“อุแว้ แง ........ แง......”ยี่หวาทิ้งตัวอ่อนแรงทันใดยามลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย มือห้อยลงขอบเตียงหอบหายใจ ได้ยินเสียงยินดี เสียงท่านหมอ เสียงหมอตำแยวุ่นวายผสมปนเปจนมั่วเละเทะ“ยินดีด้วย ยินดีด้วยท่านแม่ทัพ บุตรชายเจ้าค่ะ”แว่วเสียงหมอตำแยร้องบอกยินดี ยี่หวาหลับตาถอนหายใจ ในที่สุดบุรุษหน้าหนาก็มาเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้ทหารมาเฝ้านางเสียหลายเดือนบัดนี้นางผู้คลอดลูกนอนหมดแรงไม่ทันได้เห็นหน้าบุตรชาย กลายเป็นชายหน้าด้านได้โอบอุ้มเห็นหน้าก่อนข้าเสียอีก - - ข้าต้องโกรธให้นานเสียหน่อยยี่หวาพลิกตัวตะแคงหันหนีทันที ไม่ต้องการเห็นหน้าคนหลอกลวง“ฮูหยินเจ้าคะ บุตรชายเจ้าค่ะ”ในที่สุดคงถึงคราวข้าได้ยลโฉมบุตรชายตนเองเสียที เอียงหน้ากลับไปพลันพบสบสายตาที่ยืนนิ่งข้างเตียง ในอ้อมแขนใหญ่โอบอุ้มบุตรชายตัวน้อยที่ยังร้องจ้า“หลี่จงต้องการดื่มนม”คิ้วเรียวสวยกระตุกยามได้ยินชื่อบุตรชาย ‘หลี่จง’ เจ้าหน้าตายบังอาจตั้งชื่อลูกข้า“เออ..เจ้าลุกไหวห
27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง“นางใกล้คลอดหรือยัง”มู่เฉินยืนนิ่งด้านข้างเก้าอี้ในห้องทำงาน เบื้องหน้าคือหมอหลวงที่ท่านแม่ทัพให้แฝงตัวเข้าไปดูแลครรภ์แม่นางยี่หวาในหอซีหยางโหลว ทั้งส่งคนเฝ้าห่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา“ใกล้แล้วท่านแม่ทัพ คงอีกไม่กี่วัน”“ถึงวันให้ส่งคนมาแจ้ง ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”กล่าวจบหลี่เหว่ยยกมือโบกไล่แล้วกลับไปอ่านเอกสารราชการตรงหน้าต่อ มือยังถือพู่กัน ดวงหน้านิ่งเฉย มู่เฉินรินน้ำชาเพิ่มช่วยลดความตึงเครียด“น้ำชาท่านแม่ทัพ”“กำชับคนให้ดูแลหอซีหยางโหลวอย่างดี อย่าแสดงตัวให้นางเห็น แล้วเมียเจ้า เยี่ยนฟางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ใกล้คลอดเช่นกันท่านแม่ทัพ คงไล่เลี่ยห่างกันไม่กี่วัน”“ดี”มู่เฉินนิ่งเงียบเมื่อท่านแม่ทัพหมดคำถาม“อากาศเริ่มร้อนแล้ว เจ้าส่งน้ำแข็ง ไม่สิ ไม่ได้ ไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้าให้คนนำพัดอันใหม่ไปให้นางหรือยัง”“ขอรับท่านแม่ทัพ ฝากฮุ่ยซิ่งไปเช่นเดิม แม่นางยี่หวาไม่มีทางรู้ว่าส่งมาจากท่านขอรับ”“อืม...กว่าจะเคี
26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์ตึก ตึก ตึกเสียงวิ่งบนพื้นหิมะทำให้ทั้งสองหันตัวกลับไปมองต้นเสียง เห็นจินเยว่วิ่งหน้าตั้งสีหน้าเบิกบานยิ้มกว้างจนถึงใบหู หน้าแดงฝ่าลมหนาวเหน็บแล้วหยุดหอบหายใจตรงบันไดขึ้นเรือนเล็ก“อันใดกันจินเยว่ วิ่งราวกับวิ่งหนีใครมา”“แฮก ๆ ข้า เดี๋ยวก่อน ขอพัก”จินเยว่ยังหอบหายใจมือกุมท้องขณะก้าวขึ้นเรือนแล้วนั่งลงข้างยี่หวา“สงสัยเรื่องดี ดูจินเยว่สิ ยิ้มกว้างขนาดนี้” ยี่หวาเอ่ยเย้าขณะส่งมือดึงแก้มแม่นางน้อย“อุ๊ย..เจ็บพี่ยี่หวา มีม้าเร็วมา แจ้งว่าท่านแม่ทัพกำลังเข้าเขตเมืองฉางอานแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงจวน”สิ้นเสียงจินเยว่ ดวงหน้าของยี่หวาพลันสดชื่นขึ้นทันตา นางเผยรอยยิ้มสดใสเป็นครั้งแรกไม่แสแสร้งในรอบหลายเดือน รวมไปถึงแววตาพราวเปล่งประกาย“เพิ่งพูดถึงก็มาเสียแล้วกองทัพเสือดำ” ฮุ่ยซิ่งพูดเย้ายี่หวาที่บัดนี้พวงแก้มแดงระเรื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เจ้าจะรอก่อนไหมฮุ่ยซิ่ง”“ไม่ ข้าตั้งใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ”“รออะไร พี่ฮุ่ยซิ่งจะไปไหน”“ข้าต้องจากจวนห