เหม่ยเอ๋อตกใจ แต่คิดว่าอาจเป็นเพราะคุณหนูสลบไปนานหลายชั่วยามจึงเป็นเช่นนี้ " ที่นี่ตำหนักชินอ๋องเจ้าค่ะ คุณหนูเป็นบุตรีท่านราชครูหยาง ตอนนี้แต่งงานเข้ามาเป็นพระชายาของชินอ๋องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วเจ้าค่ะ “
เดี๋ยวนะฉันคือพระชายาชินอ๋อง ทำไมเรื่องมันดูคุ้นๆเหมือนในซีรี่ย์ที่เคยดูเลย อย่าบอกว่า นี่คือนางร้ายที่ชื่อหยางซิ่วอิงใช่ไหม ” ข้าชื่อหยางซิ่วอิงใช่ไหม “ เหม่ยเอ๋อพยักหน้า จ้องมองดูคุณหนูเพื่อดูว่านางมีอาการผิดปกติอะไรนอกจากความจำเสื่อมหรือไม่
” คุณหนูเจ็บที่หัวหรือไม่เจ้าคะ “ พลอยใสอดีตดาราสาวที่ไม่ค่อยมีงานในวงการนานแล้ว เมื่อคืนหลับไปตื่นมาอีกทีอยู่ในร่างของนางร้ายในซีรี่ย์ที่ตัวเองเคยดู จึงพอใจเข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมาอยู่บ้าง ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงสวมรอยไปทันที
” ข้าไม่เจ็บแล้ว ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น เพียงแต่ความจำสูญหายไปบางส่วน จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เจ้าเชื่อเหม่ยเอ๋อใช่ไหม ลองเล่าเรื่องของข้าทุกเรื่องให้ข้าฟังหน่อย ข้าจะได้ทบทวนความจำบางอย่างเท่านั้น เผื่อจะอะไรได้บ้าง " เหม่ยเอ๋อพยักหน้า
" แต่ก่อนอื่นคุณหนูต้องทานซุปร้อนๆ ก่อนนะเจ้าคะ คุณหนูยังไม่ได้ทานอะไรเลยทานซุปเสียหน่อยจะได้มีแรง แล้วเหม่ยเอ๋อขอเช็ดตัวให้ก่อนจะได้สบายตัวนะเจ้าคะ "
เมื่อทำความเข้าใจเรื่องราวต่างๆแล้ว พลอยใสซึ่งเป็นอดีตดาราตกกระป๋องไม่ค่อยมีงานนั้น ได้หลับและไหลตายวิญญาณมาเข้าร่างนางร้ายคนนี้ซึ่งก็คือ หยางซิ่วอิงที่แต่งงานเข้ามาในจวนชินอ๋องที่เป็นพระเอกในซีรี่ย์นั้นเอง
ถ้าอย่างนั้นนางเอกก็คงเป็นหลิวอี้เฟย อย่างไม่ต้องสงสัย พลางนึกทำความเข้าใจเรื่องราวที่เคยผ่่านตามา ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็คงเป็นตอนที่นางร้ายแต่งเข้ามาเป็นพระชายาแล้ว แต่ชินอ๋องก็ยังรังเกียจเกียจฉันท์นางเช่นเดิม และสองคนนี้ได้เสียกันแล้วด้วย
อ๊าย !! ฉันพลาดช็อตนั้นไปได้ยังไงกัน แต่คิดอีกทีช่างมันเถอะ นั่นเป็นชีวิตของพระชายาหยางคนเก่า ปัจจุบันนี้คนที่มาอยู่ในร่างก็เป็นพลอยใสอดีตดาราสวยเซ็กเอ็กซ์หมวยอย่างฉัน เพราะฉะนั้นฉันจะมุ่งหาผู้ใหม่ที่ดีกว่าเดิม อย่าไปแคร์์คนท่ี่ไม่รักเราทำไมกัน จะมามัวเซ้าซี้คนที่ไม่มีใจให้เราไปทำไมให้เสียเวลา นางครุ่นคิดพลางก้มมองเรือนร่างขาวผ่องนี้ ผิวพรรณละเอียดยิ่งกว่าฉันเป็นไหนๆ ว่าแล้วก็อยากจะเห็นร่างกายนี้ให้ชัดๆเสียที
“ เหม่ยเอ๋อเอากระจกบานใหญ่ ไม่สิคงไม่มี เอาคันฉ่องมาให้ข้า ” เหม่ยเอ๋อรีบลุกไปหยิบคันฉ่องมาให้คุุณหนู ซิ่วอิงคนใหม่รีบเอาคันฉ่องสองดูหน้าตัวเอง คนอะไรจะสวยขาวใสปานนี้ ใบหน้านี้งามประมาณดาราดังในยุุคนี้เลยด้วยซ้ำ สวยยิ่งกว่าฉันเสียอีก ถ้าฉันสวยเท่านี้นะป่านนี้ก็ได้เป็นนางเอกดังไปแล้ว หรือไม่ก็เป็นนางร้ายเบอร์ต้นๆ ของวงการบันเทิงไทย ยิ่งไม่ต้องไปแคร์ผู้ชายแค่คนเดียว แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ ฉันก็มาใช้ร่างเธอแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ ต่อไปนี้หยางซิ่วอิงคนใหม่จะเลิกโง่งมงายรักผู้ชายคนเดียวที่ไม่ได้สนใจตัวเองอีกต่อไปแล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงให้เหม่ยเอ๋อไปเตรียมน้ำอุ่นมาแช่ตัวเพื่อให้เลือดลมไหลเวียน ซิ่วอิงคนใหม่ลงไปแช่ตัวในน้ำอุ่นอย่างสบายใจ นางนอนเอนกายในถังที่มีควันลอยกรุ่นหอมกลิ่นสมุนไพรที่เหม่ยเอ๋อเอาแช่ไว้ ชีวิตเช่นนี้สบายดีจะตาย มีชีวิตเป็นคุณหนูบุตรสาวคนเดียวของท่านราชครู ฐานะก็คงจะร่ำรวยอยู่ไม่น้อย หาทางหย่ากับตาอ๋องนี้ก็เป็นอิสระแล้ว
ใช้ชีวิตสบายๆ เงินก็มีใช้ งานก็ไม่ต้องได้ทำอะไร ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย หนี้สินก็ไม่มีอีกด้วย นี่เป็นขีวิตที่พลอยใสใฝ่ฝันมานานแล้ว ฮูเร่ !!
หลังจากอาบน้ำแช่ตัวอย่างสบายใจแล้วก็ลุกขึ้นแต่งตัวออกไปนั่งเล่นที่หน้าเรือนพลางจิบน้ำชา นั่งมองดูบรรยากาศรอบๆ อย่างอกสบายใจ ชีวิตสโลไลฟ์จะตาย นั่งกินขนมผิงจิบน้ำชากลิ่นหอมๆ แล้วก็นอนเอนกายดูสวนสวยๆ
ฟังเสียงกิ่งไผ่ลูลม สายลมเย็นๆพัดเข้ามา ขณะที่เราก็นอนผึ่งพุงเล่น สบายจะตายไป เมื่อเหม่ยเอ๋อเดินตรงมาหาจึงชวนเหม่ยเอ๋อขึ้นว่า “ พรุ่งนี้เราไปเดินตลาดกันดีกว่า ข้าจะหาซื้อเครื่องประดับใหม่ๆ เครื่องแต่งกายใหม่ ว่ามีอะไรสวยๆงามๆให้ซื้อหาบ้าง แล้วก็หาของกินเล่นกันดีกว่า ข้าอยากจะเห็นตลาดโบราณแล้วว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ”
เหม่ยเอ๋อมองคุณหนูตาค้าง ตั้งแต่คุณหนูฟื้นขึ้นมานางดูสดใสไม่อมทุกข์เหมือนเดิม ดูร่าเริงจนผิดตาไปมาก แถมยังไม่ถามถึงท่านอ๋องซักคำ เรื่องราวแรกที่เอ่ยถึงคือไปเที่ยวเล่น น่าแปลกยิ่งนัก แต่จะว่าไปก็ดีแล้ว เหม่ยเอ๋ออยากให้คุณหนูมีความสุขแบบนี้มาตั้งนานแล้ว สาวใช้ตัวเล็กจ้องมองคุณหนูแล้วลอบถอนหายใจอย่างโล่งใจ
สายๆวันต่อมาหลิวอี้เฟยทำขนมมาให้ชินอ๋องลองชิมอีก ทั้งสองพากันไปนั่งที่ศาลากลางบึงบัว เมื่อนั่งลงบ่าวรับใช้เอาน้ำชามาวางให้แล้วกลับออกไป ท่านอ๋องเอ่ยถามบ่าวนั้นขึ้นว่า " พระชายาอยู่ที่เรือนเล็กหรือไม่" บ่าวชายนั้นตอบว่า " พระชายาเดินเล่นที่หน้าเรือนเล็กขอรับ " ท่านอ๋องพยักหน้าให้เป็นเชิงว่าให้บ่าวไปได้ เขายิ้มกริ่มในใจอีกสักพักนางจะต้องเดินมาทางนี้แน่นอนแล้วจะเห็นว่าเขากำลังนั่งอยู่กับหลิวอี้เฟยจะดูสิว่าคราวนี้นางจะทำอย่างไร เวลาผ่านไปสักพักใหญ่นางเดินลัดเลาะมากับเหม่ยเอ๋อสาวใช้ของนางเขาเห็นนางตั้งแต่เดินลัดเลาะมาจากทางเรือนเล็กแล้ว แต่เมื่อมาถึงเส้นทางที่ผ่านหน้าศาลากลางสระนางกลับไม่หันมามองสักนิด แม้เขาจะแกล้งหัวเราะเสียงดังเพื่อเรียกความสนใจของนาง แต่นางกลับเดินผ่านไปเหมือนไม่เห็นเขากับหลิวอี้เฟยเช่นนั้นแล้วนางก็เดินออกประตูจวนไป โดยที่เขาไม่รู้ว่านางไปไหนกับใคร เขาเพิ่งจะนึกออกว่าเขาเป็นสวามีทำไมไม่รู้เวลานางไปไหนมาไหนทำไมไม่เคยบอกเขาเลยสักครั้ง อย่างนี้เวลานางออกไปพบบุรุษอื่นเขาจะทำอย่างไร ยิ่งมานึกถึงเจ้าแม่ทัพนั่นก็ดูแววตาน่าจะชอบพอนางอยู่ด้วยเขาไม่คิดว่าสองคนนั้นจะเป็น
บ่ายวันต่อมา ซิ่วอิงรู้สึกเบื่อๆเล็กน้อยและอากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนนางจึงเข้าครัวให้เหม่ยเอ๋อนำมะม่วงไปล้างปอกเปลือกให้เรียบร้อยแล้วสอนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนางก็ลงมือทำน้ำปลาหวาน โดยใช้ปลาตากแห้งเมื่อวานมาทุบและตำให้ละเอียดนำไปเคี่ยวใส่เกลือและน้ำตาลลงไปเล็กน้อยทุบพริกที่ซื้อมาเมื่อวานลงไป ชิมรสดูพอกินได้ แก้ขัดเพราะสมัยนี้ไม่มีน้ำปลา วันหลังจะลองทำปลาร้าหมักดูเห็นมีไหที่ใช้ดองผักอยู่ที่ครัวหลักหลายใบ จะขอมาสักสองใบเอามาใช้หมักปลาร้า กลิ่นคงแรงน่าดูขณะนี้คิดก็หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว เหม่ยเอ๋อหันมามองพระชายาดูแจ่มใสอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก นางก็พลอยยิ้มมีความสุขไปด้วยเมื่อมะม่วงและน้ำปลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ออกไปนั่งหน้าชานเรือนเล็ก นั่งลงกินมะม่วงน้ำปลาหวานกัน ขณะนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดสีขาวรูปร่างผึ่งผายใบหน้าก็หล่อเหลาปรากฏที่ตรงหน้าซิ่วอิงนางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเขายิ้มให้นางจึงยิ้มตอบไป " พระชายาทำอะไรกันน่าสนุกนะ ข้ามาเยี่ยมเสด็จพี่จึงเดินเลยชมสวนในตำหนักนี้เห็นสวนสวยงาม จึงเดินเลยมาถึงเรือนนี้ " ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นยิ้มว่า " หม่อมฉันกับเหม่ยเอ๋อกำลังจะกินมะม่
บ่ายวันต่อมา ซิ่วอิงรู้สึกเบื่อๆเล็กน้อยและอากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนนางจึงเข้าครัวให้เหม่ยเอ๋อนำมะม่วงไปล้างปอกเปลือกให้เรียบร้อยแล้วสอนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนางก็ลงมือทำน้ำปลาหวาน โดยใช้ปลาตากแห้งเมื่อวานมาทุบและตำให้ละเอียดนำไปเคี่ยวใส่เกลือและน้ำตาลลงไปเล็กน้อย ทุบพริกที่ซื้อมาเมื่อวานลงไป ชิมรสดูพอกินได้ แก้ขัดเพราะสมัยนี้ไม่มีน้ำปลาวันหลังจะลองทำปลาร้าหมักดูเห็นมีไหที่ใช้ดองผักอยู่ที่ครัวหลักหลายใบ จะขอมาสักสองใบเอามาใช้หมักปลาร้า กลิ่นคงแรงน่าดู ขณะนี้คิดก็หัวเราะคิกคักคนเดียว เหม่ยเอ๋อหันมามองพระชายาดูแจ่มใสอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากนางก็พลอยยิ้มมีความสุขไปด้วยเมื่อมะม่วงและน้ำปลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ออกไปนั่งหน้าชานเรือนเล็ก นั่งลงกินมะม่วงน้ำปลาหวานกัน ขณะนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดสีขาวรูปร่างผึ่งผายใบหน้าก็หล่อเหลาปรากฏที่ตรงหน้าซิ่วอิง นางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเขายิ้มให้นางจึงยิ้มตอบไป" พระชายาทำอะไรกันน่าสนุกนะ ข้ามาเยี่ยมเสด็จพี่จึงเดินเลยชมสวนในตำหนักนี้เห็นสวนสวยงาม จึงเดินเลยมาถึงเรือนนี้ " ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นยิ้มว่า " หม่อมฉันกับเหม่ยเอ๋อกำลังจะกินมะม่วงน้ำป
ซิ่วอิงคนใหม่ ยิ้มให้เขาพลางพิศดูใบหน้าหนุ่มหล่อล่ำตรงหน้า เขามีใบหน้าคมคาย ผิวคร้ามแดด หุ่นล่ำสันท่าทางองอาจ คาดว่าทรงนี้กล้ามต้องแน่นแน่นอน ซิคแพ็คหกลูกแน่ๆ เปกเลย แต่นางก็เก็บอาการกระดี้กระด้าไว้ " ไม่ได้พบกันเสียนานข้าจำแทบไม่ได้นะ " นางกล่าวยิ้มๆ จากนั้นรองแม่ทัพถังก็ชวนนางไปทานอาหารที่ภัตตาคารที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ นางจึงเดินตามเขาไปพร้อมเหม่ยเอ๋อ เมื่อเดินไปถึงหน้าภัตตาคารทั้งสามขึ้นไปบนชั้นสองและเดินผ่านโต๊ะหลายโต๊ะไปจนถึงโต๊ะริมระเบียงติดถนนที่ผ่านตลาด ซิ่วอิงบอกว่านางอยากชมบรรยากาศในตลาดไปด้วยระหว่างทานอาหารกันทั้งสามนั่งลงเลือกอาหารที่ขึ้นชื่อมาหลายอย่าง รองแม่ทัพถังชี้ชวนนางให้เลือกอาหารที่นางชอบ เมื่อเสี่ยวเอ้อเอาอาหารที่สั่งไปมาวางบนโต๊ะ ซิ่วอิงคีบอาหารในจานมากินทีละอย่างชมเปาะว่าอร่อยอย่างที่รองแม่ทัพถังบอกเล่า ระหว่างที่ทั้งสามทานอาหารและคุยกันไปนั้นมีสายตาคมกริบคู่หนึ่งจ้องมามองไม่วางตา ชินอ๋องนั่นเอง เขานั่งสนทนากับสหายและองครักษ์ประจำกายของเขา เขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านกับบุรุษผู้หนึ่งท่าทางสนิทสนม เดินเลยผ่านโต๊ะที่เขานั่งไปไม่ทักทายเขาสักคำเหมือนนางไม
ช่วงสายๆ วันต่อมาซิ่วอิงชวนเหม่ยเอ๋อไปเที่ยวตลาดกัน จากนั้นจึงเรียกบ่าวชายที่ผ่านไปมาบริเวณนั้นให้ไปแจ้งพ่อบ้านให้เตรียมรถม้าให้นางจะไปตลาด สักพักก็พากันเดินออกไปขึ้นรถม้าหน้าตำหนักขณะที่ซิ่วอิงเดินลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆ ผ่านสวนสวยงามภายในจวนจนกระทั่งผ่านหน้าเรือนของชินอ๋อง ซิ่วอิงเหลือบเห็นเจ้าตัวเขากำลังยืนคุยกับพ่อบ้านเหมือนกำลังเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก แต่นางแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา เดินผ่านเลยไปกับเหม่ยเอ๋อ เมื่อเหม่ยเอ๋อเห็นพระชายาไม่ทักทายหรือทำความเคารพท่านอ๋องนั้นนางก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นไปด้วย พากันเดินออกไปหน้าประตูตำหนักเพื่อขึ้นรถม้าไปตลาด ชินอ๋องนั้นเห็นนางตั้งแต่เดินลัดเลาะออกมาจากเรือนเล็กของนางนั้น เขาจึงแกล้งทำเป็นยืนอยู่ตรงหน้าเรือนเพื่อนางผ่านมาจะได้เห็นเขาชัดๆ แต่นางกลับมองไม่เห็นเขาผ่านเลยไปเหมือนไม่มีใครยืนอยู่บริเวณนั้นชินอ๋องเลยหันไปมองทั้งซ้ายและขวาก็เห็นว่าข้างตัวเขาไม่มีต้นไม้หรืออะไรบังตัวเขาทำให้นางไม่เห็น แต่ทำไมนางเดินเลยผ่านไปเช่นนั้นเล่า เขางุนงุงยิ่งนักด้านซิ่วอิงกับเหม่ยเอ๋อเมื่อรถม้าถึงหน้าตลาดก็บอกให้คนขับไปหาที่จอดรอ หากนางเสร็จธุระแล้วจะมาร
เหม่ยเอ๋อตกใจ แต่คิดว่าอาจเป็นเพราะคุณหนูสลบไปนานหลายชั่วยามจึงเป็นเช่นนี้ " ที่นี่ตำหนักชินอ๋องเจ้าค่ะ คุณหนูเป็นบุตรีท่านราชครูหยาง ตอนนี้แต่งงานเข้ามาเป็นพระชายาของชินอ๋องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วเจ้าค่ะ “ เดี๋ยวนะฉันคือพระชายาชินอ๋อง ทำไมเรื่องมันดูคุ้นๆเหมือนในซีรี่ย์ที่เคยดูเลย อย่าบอกว่า นี่คือนางร้ายที่ชื่อหยางซิ่วอิงใช่ไหม ” ข้าชื่อหยางซิ่วอิงใช่ไหม “ เหม่ยเอ๋อพยักหน้า จ้องมองดูคุณหนูเพื่อดูว่านางมีอาการผิดปกติอะไรนอกจากความจำเสื่อมหรือไม่ ” คุณหนูเจ็บที่หัวหรือไม่เจ้าคะ “ พลอยใสอดีตดาราสาวที่ไม่ค่อยมีงานในวงการนานแล้ว เมื่อคืนหลับไปตื่นมาอีกทีอยู่ในร่างของนางร้ายในซีรี่ย์ที่ตัวเองเคยดู จึงพอใจเข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมาอยู่บ้าง ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงสวมรอยไปทันที” ข้าไม่เจ็บแล้ว ตอนนี้รู้สึกดีขึ้น เพียงแต่ความจำสูญหายไปบางส่วน จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เจ้าเชื่อเหม่ยเอ๋อใช่ไหม ลองเล่าเรื่องของข้าทุกเรื่องให้ข้าฟังหน่อย ข้าจะได้ทบทวนความจำบางอย่างเท่านั้น เผื่อจะอะไรได้บ้าง " เหม่ยเอ๋อพยักหน้า " แต่ก่อนอื่นคุณหนูต้องทานซุปร้อนๆ ก่อนนะเจ้าคะ คุณหนูยังไม่ได้ทานอะไรเลยทานซุปเ