Home / รักโบราณ / นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง / บทที่ 4 วิธีหาเงินในตำนาน (ตอนต้น)

Share

บทที่ 4 วิธีหาเงินในตำนาน (ตอนต้น)

last update Last Updated: 2025-05-13 00:35:49

บทที่ 4 วิธีหาเงินในตำนาน

“แม่สัญญาว่าจะไม่แพร่งพรายความลับสำคัญนี้เด็ดขาด ลูกสบายใจได้"

“อันเอ๋อร์ก็สัญญาเจ้าค่ะ”

“ข้าก็เหมือนกันขอรับ พี่ใหญ่วางใจได้”

สีหน้าของมู่หนิงชิงกลับมาผ่อนคลายอีกครั้ง หลังจากได้ยินทุกคนรับปากเป็นมั่นเหมาะ มือผอมบางเตรียมฉวยชามบะหมี่ของมารดาและบิดาไปล้าง ทว่ากลับต้องชะงักเพราะเสียงอุทานของซูซื่อ

“โอ้ แม่เพิ่งเห็นว่าชามใส่บะหมี่ช่างงดงามเหลือเกิน เนื้อกระเบื้องก็ดีมาก นี่คือชามที่ใช้ในสวรรค์เช่นนั้นหรือ พวกเราควรล้างแล้วเก็บไว้บูชา หรือท่านเทพที่มอบอาหารให้จะนำกลับคืนไป ชิงเอ๋อร์ลูกพอรู้หรือไม่ว่าพวกเราควรทำอย่างไรกับชามเหล่านี้ดี”

“…” มู่หนิงชิง ‘เอ่อ ไม่ใช่ชามจากสวรรค์ แต่เป็นชามที่ข้าสั่งทำขึ้นพิเศษ สำหรับใช้ในภัตตาคารของข้าต่างหากเจ้าคะ ยังมีเหลืออีกเพียบในมิติแห่งความอิ่มหนำ’

“ลูกคิดว่าพวกเราควรล้างให้สะอาด แล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะในห้องของลูกก็ดีนะเจ้าคะ ท่านเทพจะได้นำชามทั้งห้าใบนี้กลับไป เผื่อได้ใช้ต่อคราวหน้า..” มู่หนิงชิงจำต้องหาข้ออ้างที่ฟังดูแล้วมีความเป็นไปได้ขึ้นมากล่าว

“ถ้าเช่นนั้นแม่ล้างเองดีกว่า ลูกๆไปนอนกันเถิด โดยเฉพาะชิงเอ๋อร์หากท่านเทพมาเข้าฝันลูกอีกครั้ง ช่วยขอบคุณท่านเทพแทนพ่อแม่และน้องๆด้วยนะลูก”

มู่หนิงชิงมุมปากกระตุกยิกๆ นางคงต้องขอบคุณตัวเองในฝันสินะ

“ได้เจ้าค่ะท่านแม่”

หญิงสาวและน้องๆต่างพากันกลับห้องของตน ปล่อยให้บิดามารดาช่วยกันล้างชามใส่บะหมี่จากสวรรค์!

ชีวิตประจำวันของมู่หนิงชิงยังคงเป็นปกติ ตื่นนอน กินข้าว ดื่มยา นอนพักต่อ พอตกดึกก็เข้าไปทำอาหารในมิติ

คืนนี้นางทำขาหมูตุ๋นน้ำแดงสองขาใหญ่ ทานกับหมั่นโถวแป้งขาวเนื้อนุ่มหอมกรุ่น มีผักคะน้าลวกและขิงดองกินเป็นเครื่องเคียงแก้เลี่ยน ตบท้ายด้วยชาสมุนไพรช่วยย่อย ส่วนอาหารที่เหลือ ถูกเก็บไว้เป็นอาหารเช้าของบิดาและน้องชายก่อนออกไปทำงาน หากเอาหมูตุ๋นไปทานที่ไร่ อาจถูกลุงใหญ่เพ่งเล็งเอาได้

คืนต่อมาๆ มู่หนิงชิงยังคงทำอาหารจำพวกเนื้อในปริมาณค่อนข้างมาก เพื่อที่จะได้เก็บส่วนที่เหลือไว้กินในวันถัดไป

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่นางต้องออกไปทำกิจกรรมยอดนิยมในนิยายทะลุมิติ ยามที่ตัวเอกเกิดใหม่ในครอบครัว ซึ่งอาศัยอยู่ตามชนบทใกล้กับภูเขา!

นั่นก็คือ การเข้าป่าไปหาโสมหรือเห็ดหลินจือ ไม่ทำถือว่ามาไม่ถึง!!

ด้วยความสามารถของเนตรปีศาจ รับรองว่าไม่มีพลาด ตราบใดที่มีสมุนไพรเหล่านี้อยู่จริงบนภูเขา นางต้องหาพบแน่นอน!

หญิงสาวตื่นแต่เช้า แต่งตัวรัดกุมเตรียมสะพายตะกร้าขึ้นหลัง ทว่าถูกมารดาร้องทักเสียก่อน

“ชิงเอ๋อร์ นั่นลูกกำลังจะไปไหน ลูกสมควรนอนพักหลังกินข้าวกินยามิใช่หรือลูก”

มู่หนิงชิงแอบทอดถอนใจ นางเข้าใจความหวังดีของซูซื่อ แต่ถ้าจะให้นางเอาแต่นอนพักทั้งวันก็คงไม่ไหว ร่างกายนี้บอบบางมาก ทั้งผอมแห้งไร้ซึ่งกล้ามเนื้อและพละกำลัง จึงต้องการเริ่มฝึกฝนร่างกายโดยด่วน จารชนมือฉกาจอย่างนางต้องแข็งแกร่งและปราดเปรียว!!

“ข้าจะขึ้นเขาไปหาผักหาสมุนไพรสักหน่อยเจ้าค่ะท่านแม่ ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว หากจะให้วันๆ เอาแต่นอนเฉยๆ แล้วเมื่อไหร่ร่างกายจะกลับมาแข็งแรงกันล่ะเจ้าคะ”

ท่าทางจริงจังแววตามุ่งมั่นของมู่หนิงชิงที่แสดงออกมา ทำให้มารดาต้องมองบุตรสาวของตนใหม่

“แต่ว่า…” ซูซื่อเอ่ยกับมู่หนิงชิงเสียงแผ่ว

ซูซื่อรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของบุตรสาวตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา ชิงเอ๋อร์ที่เคยหัวอ่อนและขี้อาย เปลี่ยนเป็นคนละคน กระทั่งไม่มีท่าทีอิดออดยามต้องดื่มยา ทั้งเลิกทำหน้าเศร้าประหนึ่งคนอมทุกข์ แต่กลับดูสุขุมรอบคอบ ดวงตาที่เคยหม่นหมองท้อแท้ก็ดูใสกระจ่าง ค่อนไปทางมั่นอกมั่นใจด้วยซ้ำ

แม้กระทั่งวันนี้…

หากเป็นแต่ก่อนเพียงนางเอ่ยปากทักท้วง บุตรสาวก็จะรับฟังไม่เคยคัดค้านแม้แต่คำเดียว จะเอ่ยเพียงแค่ “เจ้าค่ะท่านแม่” และไม่พูดอะไรอีก

ทว่าตอนนี้ทั้งแววตาและท่าทาง ช่างดูคล้ายคนผู้นั้นเหลือเกิน…ดูท่าว่ามู่หนิงชิงคงเติบโตขึ้นแล้ว หลังจากผ่านเคราะห์กรรมจนเกือบคร่าชีวิต หากเป็นเช่นนั้นจริงนางก็วางใจ

“ถ้าหากท่านแม่เป็นกังวล เช่นนั้นพวกเราก็ไปด้วยกันดีหรือไม่เจ้าคะ ในบ้านไม่มีของมีค่าอะไร ไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนมาขโมยของหรอกเจ้าค่ะ อันเอ๋อร์ก็คงอยากไปเดินเล่นกับพี่ใหญ่ใช่หรือไม่” มู่หนิงชิงหันไปหากองหนุน ที่ยืนทำตาแป๋วอย่างมีความหวังอยู่ข้างๆมารดา

ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือกอบ ดูกระตือรือร้นหลังได้ยินวาจาของพี่สาว

“ท่านแม่ อันเอ๋อร์ก็อยากไปช่วยพี่ใหญ่หาสมุนไพรเจ้าค่ะ พวกเราไปด้วยกันนะเจ้าคะ…นะเจ้าคะ” มือน้อยๆจับมือของมารดาแกว่งไปมา ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูจนซูซื่อใจอ่อนยวบ

ท้ายที่สุด ผู้เป็นมารดาก็พ่ายแพ้ให้กับความแน่วแน่ของบุตรสาวคนโต และการออดอ้อนของบุตรสาวคนเล็ก

“ก็ได้ๆ แต่ขอแม่ไปเตรียมตะกร้ากับน้ำดื่ม และเขียนบอกท่านพ่อไว้ก่อน เผื่อพวกเรากลับมาช้าหน่อย ท่านพ่อกับเฉิงเอ๋อร์จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ซูซื่อผละไปเตรียมของ นางใช้เศษถ่านเขียนลงบนแผ่นไม้วางไว้บนโต๊ะกินข้าว

พี่สาวและน้องสาวหันมาส่งยิ้มให้กัน มู่หนิงชิงยกนิ้วโป้งชื่นชมเจ้าตัวเล็ก ที่รู้จักเข็นเรือตามน้ำ ยามนางเอ่ยปากชวน

“เจ้าตัวน้อยนี่ฉลาดไม่เบา แบบนี้ต้องสั่งสอนให้ดีๆ โตขึ้นรับรองว่าเฉียบ! ฮี่ๆๆๆ” มู่หนิงชิงพึมพำเสียงเบา หันหลังปิดบังแววตาและเสียงหัวเราะชั่วร้าย

ซูซื่อกลับมาพร้อมตะกร้าใส่ของ ซึ่งมีกระบอกน้ำดื่มและซาลาเปาไส้เนื้อสามลูกห่ออยู่ในนั้น หมวกกันแดดสำหรับมู่หนิงอัน รวมถึงอุปกรณ์หาของป่าอย่างง่ายๆ

การเดินเข้าป่าเพื่อหาสมุนไพรของทั้งสามจึงเริ่มต้นขึ้น

มู่หนิงชิงตื่นเต้นกับการได้เข้าป่า หลังจากทะลุมิติมาเป็นครั้งแรกอย่างมาก อากาศแสนบริสุทธิ์เช่นนี้ หาไม่ได้แล้วในโลกอนาคต เสียงนกร้องตามธรรมชาติ เสียงจิ้งหรีดเรไร หรือแม้กระทั่งหยาดน้ำค้างบนยอดหญ้า ล้วนสวยงามจับใจในความรู้สึกของมู่หนิงชิง

หญิงสาวกวาดตามองซ้ายทีขวาที ท่าทางตื่นตาตื่นใจ ทั้งไม่ลืมเพ่งมองบนพื้นดิน จนกระทั่งพบหัวมันป่ากอใหญ่ นางพุ่งตรงเข้าไปหาทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนปลาย)

    บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนปลาย) หญิงสาวปรือตาฉ่ำน้ำตอบรับเขาอย่างลืมตัว "เจ้าเก่งเหลือเกิน อื้ออ ถูกใจข้ายิ่งนัก แรงอีกหน่อย อ๊าา ข้าเกือบถึงอีกแล้ว" เสียงครวญครางด้วยความสุขสมของหญิงสาว ดังเข้าหูชายหนุ่มอีกคนที่นั่งรออยู่ข้างห้อง มือแกร่งกำเข้ากันแน่นจนข้อนิ้วลั่น ถอนหายใจออกมาหนักหน่วง ก่อนยกจอกสุราขึ้นกระดกจนหมดในรวดเดียว ผู้ติดตามที่มาด้วยยืนก้มหลุบตาต่ำ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ผ่านไปแล้วสามเค่อ การเคลื่อนไหวในห้องข้างๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง อีกทั้งเสียงเนื้อกระทบกันเคล้าเสียงครวญครางด้วยความเมามันกลับดังขึ้นเรื่อยๆ ช่างเสียดแทงหูของผู้ได้ยินยิ่งนัก ปัง! "มันจะทำกันนานเกินไปแล้วนะ!" เขาตบโต๊ะด้วยความขุ่นเคือง เค้นเสียงเอ่ยลอดไรฟัน ใบหน้าหล่อเหลาดำทะมึนอย่างหงุดหงิด ผู้ติดตามยังคงเงียบงันไร้ซึ่งวาจา ทว่าต่างแอบคิดเหมือนกันไม่มีผิด 'ดูท่าเจ้าหนุ่มนั่นคงมีฝีไม้ลายมือเรื่องอย่างว่าน่าดู นางถึงได้ครางเสียงหลงขนาดนี้…' ราวสองเค่อต่อมาเสียงการเคลื่อนไหวก็เงียบลง ร่างกายเปลือยเปล่าขาวผ่องของหญิงสาว นอนทับอกแกร่งของชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มอิ่มเอม นางหอบหายใจจากความเหนื่อยอ่

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 78 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนต้น)

    บทที่ 79 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนต้น) "หัวหน้าหมอหลวงฟ่งปรุงยาถอนพิษได้หรือไม่" สุรเสียงของซวินเหิงเยว่เต็มไปด้วยความกังวลขณะรับสั่งถาม หวายกงกงส่ายหน้า “ท่านหมอฟ่งกำลังตรวจสอบหาที่มาของพิษอยู่พะย่ะค่ะ หากไม่ทราบว่าเป็นพิษชนิดใด ก็มิอาจปรุงยาถอนได้ ระหว่างนี้จึงได้ทำการฝังเข็มเพื่อชะลอการแพร่กระจายของพิษไว้ก่อน“ "กงกงโปรดรออยู่ที่นี่สักครู่" รับสั่งเสร็จก็เดินหายไปยังห้องนอน และกลับออกมาพร้อมกล่องใบเล็กในมือ ก้มลงกระซิบบางอย่างกับหวายกงกง วันรุ่งขึ้นข่าวเรื่องฮ่องเต้ประชวรได้ถูกแจ้งแก่ขุนนางที่มารอประชุมเช้า ราชกิจทั้งหลายถูกโอนไปให้องค์รัชทายาทรับผิดชอบแทนชั่วคราว ตำหนักหวงหยาง องค์ชายห้าซวินเหอเยี่ยนสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม หลังจากกลับออกมาจากวังหลวง ทั้งที่ปกติพระบิดาของเขามีพระวรกายแข็งแรงมาตลอด นานๆครั้งถึงจะเป็นหวัดเพราะต้องลมเย็นสักครา ทว่าจู่ๆกลับทรงประชวรหนักจนถึงขั้นมิอาจเข้าประชุมเช้า ครั้นจะขอเข้าเยี่ยมพระอาการ กลับถูกหวายกงกงห้ามไว้ โดยอ้างว่าที่ฝ่าบาทประชวร เป็นเพราะทรงเสียพระทัยเรื่องการสิ้นพระชนม์ของไทเฮา รวมทั้งเรื่องของฮองเฮาและตระกูลหลิน หัวหน้าหมอหลวงฟ่งกำชับให

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนปลาย)

    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนปลาย) "หรานซิง พวกเราไม่มีเวลาแล้ว หากเจ้าไม่ยอมร่วมมือกับข้า ตำแหน่งฮองเฮาที่เจ้าใฝ่ฝันคงกลายเป็นของผู้อื่น รีบตัดสินใจเสีย!" รับสั่งสุรเสียงเด็ดขาดจนคนฟังสะดุ้งเฮือก พระชายาหลินหรานซิงกำหมัดใต้แขนเสื้อแน่น สูดหายใจลึกหลุบดวงเนตรลงต่ำ พยักหน้ารับปากคำขอของสวามีอย่างจำใจ "ขอบใจเจ้ามากชายารัก ขอบใจจริงๆ" ซวินเทียนอวิ๋นดึงร่างระหงของชายาเอกมากอดแนบอก พร่ำบอกขอบใจนางซ้ำไปซ้ำมาด้วยความโล่งอก "แต่ว่า…จะไปหาคนผู้นั้นมาจากที่ไหนหรือเพคะ" หลินหรานซิงเอ่ยถามสวามีด้วยความกังวล แม้ภายในใจไม่ยินยอมแต่เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว นางก็ต้องให้ความร่วมมือ แม้ว่าหนทางนี้จะอันตราย "เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก็พอ" ช่วงสายของวันเดียวกันนั้น รถม้าไร้สัญลักษณ์จอดอยู่หน้าจวนเพื่อรอรับเอ้อร์หลิง ชายหนุ่มอยู่ในชุดสีขาวมีเสื้อคลุมกันหนาวสีดำคลุมทับ หันมาโบกมือร่ำลานายเหนือหัว และว่าที่นายหญิงด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนก้าวขึ้นรถม้าไป ราวหนึ่งครึ่งชั่วยามต่อมา รถม้าคันดังกล่าวได้จอดเทียบประตูทางเข้าด้านข้างหออ้ายเสิน หอโคมแดงชื่อดังของเมือ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนต้น)

    บทที่ 77 ดิ้นรน (ตอนต้น) จิตสังหารแผ่ออกรอบพระวรกายฮ่องเต้ กดข่มหลินฮองเฮาจนแทบหายใจไม่ออก ดวงเนตรนางหงส์สั่นระริกรูม่านตาหดเล็กจากความกลัวที่ผุดขึ้นจากจิตใต้สำนึก โอรสสวรรค์ละพระหัตถ์จากดวงหน้าของหลินเจาถิง ยืนฟังนางแก้ตัวด้วยรอยยิ้มเหยียดหยัน "ฝ่า ฝ่าบาททะ ทรงรับสั่งเรื่องอะไรเพคะ นักพรตอะไรกัน ทรงไปฟังใครที่ไหนมาเพคะ เรื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนอะไรกันหม่อมฉันไม่เข้าใจ" ท่าทางของนางลนลานเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง ตัวนักพรตหวู่หุนเองตายไปนานแล้ว ถึงครอบครัวอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ แต่จะเอาหลักฐานอะไรมาปรักปรำนาง หนำซ้ำตอนที่ครอบครัวของนักพรตหวู่หุนเดินทางออกจากเมืองหลวง นางสั่งให้คนของสำนักคุ้มภัยตระกูลหลิน ตรวจค้นข้าวของที่พวกเขานำติดตัวไปรวมถึงค้นตัวของทุกคน ไม่มีจดหมายหรือเอกสารใดๆ ซุกซ่อนอยู่ทั้งสิ้น ทว่าสิ่งที่หลินฮองเฮาไม่รู้ นั่นคือเรื่องที่นักพรตหวู่หุนได้แอบส่งภาพวาดสำคัญ ฝากพ่อค้าที่รู้จักกันกลับไปยังแดนเหนือเพื่อมอบให้หลานชาย ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะล้มป่วย "หลินเจ้าถิง ข้ามีคำสารภาพผิดของนักพรตหวู่หุนอยู่ในมือ ถึงเจ้ายืนกรานปฏิเสธก็หนีไม่พ้น ชีวิตคนบริสุทธิ์มากมายเจ้าต้องชดใช้ให

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนปลาย)

    บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนปลาย) ตำหนักเฟิ่งอัน ห้องบรรทมหลินฮองเฮา หน้าต่างห้องบรรทมถูกแง้มออก ร่างบางปีนเข้ามาด้านในโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ตามมาตรฐานจารชนมือฉกาจ แคปซูลยาสลบถูกจ่อใต้จมูกของฮองเฮา ราวห้าลมหายใจต่อมาเสียงฝ่ามือกระทบเนื้อก็ดังขึ้นต่อเนื่อง เพียะ! เพียะ! เพียะ!…เพียะ! เมื่อเห็นว่าใบหน้าของศัตรูบวมฉึ่งกลายเป็นหัวหมูเรียบร้อย กริชของเผ่าฮวาล่าที่ด้ามทำจากเขาสัตว์ฝังอัญมณี ซึ่งองค์หญิงลี่นาซามอบให้เป็นของขวัญ ถูกกรีดลงบนใบหน้าด้านขวาของหลินเจาถิง บริเวณเดียวกันกับใบหน้าของเฉินชิงเหอ ถือเป็นการเอาคืนเล็กน้อยให้บิดาของนาง ก่อนกลับมาจัดการให้สมน้ำสมเนื้ออีกทีที่หลัง จากนั้นจึงปีนขึ้นไปบนเตียง ดึงเอาร่างไร้ศีรษะของว่านไทเฮาออกมาจากมิติ วางลงข้างกายหลินเจาถิง จัดท่าให้ฮองเฮานอนกอดร่างไร้วิญญาณของคู่แค้นราวกับกำลังโอบกอดคนรัก…พรุ่งนี้ตื่นมาคงมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นในวังหลังอย่างไม่ต้องสงสัย ยามรุ่งอรุณของวันถัดมา ท้องฟ้าสีครามปราศจากเมฆหมอกบดบัง แสงแดดอบอุ่นยามเช้าสาดส่องโลมไล้หิมะสีขาว เกิดประกายระยิบระยับพร่างพรางราวอัญมณีล้อแสง พาให้จิตใจผ่องใสสดชื่นในเช

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนต้น)

    บทที่ 76 ปริศนาฆาตกรรมในวังหลัง (ตอนต้น) หลังจากถูกเซียวหนิงชิงเล่นงานปางตายในคืนนั้น ว่านไทเฮาก็ย้ายตำหนักมาอยู่อีกฝากฝั่งของวังหลัง นางไม่กล้าพำนักอยู่ ณ ตำหนักเดิมอีกต่อไป ด้วยเพราะกลัววิญญาณร้ายจะตามมาหลอกหลอน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ซู่หมัวมัวและนางกำนัลคนสนิทอีกสองนาง จึงถูกสั่งให้มานอนเฝ้าหน้าเตียงเป็นเพื่อนว่านไทเฮา เซียวหนิงชิงเพ่งเนตรปีศาจกวาดตามองไปทั่ววังหลัง เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆนางก็พบห้องบรรทมใหม่ของว่านซวงเถียน "ชิ คิดว่าหนีพ้นเงื้อมมือข้าไปได้อย่างนั้นรึยัยแก่ เตรียมตัวลงนรกไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวเสียเถอะ ซีซี พวกเราไปหายายแก่ว่านซวงเถียนกันเถอะนะ" เมี้ยวววว แมวทิพย์ตอบรับเสียงหวาน มันไม่เคยขัดใจนางทาสอยู่แล้ว ไปไหนไปกันซีซีพร้อมเสมอ หน้าต่างห้องบรรทมที่ลงกลอนจากภายใน ถูกแมวทิพย์ที่สามารถเดินทะลุผนังได้ปลดกลอนออก ผู้มาเยือนยามวิกาลย่องมาเข้าอย่างเงียบเชียบ จ่อแคปซูลยาสลบไปที่ใต้จมูกของซู่หมัวมัวและนางกำนัลอีกสองคน "เรียบร้อย จะได้ไม่มีใครมาขัดจังหวะช่วงเวลาเยี่ยมผู้ป่วยของคนสวย" ร่างบางก้าวข้ามตัวของหมัวมัวและปีนขึ้นไปบนเตียงของว่านไทเฮา ดวงตาเมล็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status