LOGIN"นี่คุณ..ตื่น!..จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน นี่มันสายมากแล้วนะ ลุกขึ้นมาหุงหาอาหารบ้างสิคุณ ตื่น!..หนูยิ้ม"
หิรัญปลุกแล้วปลุกอีกคนตัวเล็กก็ไม่ยอมตื่น ก็เมื่อคืนหล่อนอาการดีขึ้นแล้วนี่นา เขาตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปวิ่งออกกำลังกาย กลับมาก็สายแต่ทำไมเธอยังนอนอยู่อีกล่ะ เขาคิดในใจ เลยลองใช้หลังมืออังหน้าผากเธอดู มันอุ่นๆ ไม่ถึงกับร้อน หรือเธอยังอ่อนเพลียจากการถูกเขากินไปหลายรอบก่อนออกเดินทาง แถมตอนขามายังเมาเรือจนมีไข้อีกต่างหากเลยอยากนอนพักผ่อน วันนี้เขาจะอนุโลมให้เธอก่อนหนึ่งวัน เห็นว่าไม่ค่อยสบายหรอกนะ สรุปนายหัวหิรัญต้องเป็นคนหุงหาอาหารมาให้ยุวดา แทนที่ศรีภรรยาจะเป็นคนทำให้เขากิน "นี่คุณหินกำลังทำอะไรเหรอคะ ให้ป้าช่วยไหมคะ" "ไม่ต้องหรอกครับ ป้ามีอะไรทำก็ไปทำเถอะ ตรงนี้ผมจัดการได้" "วันนี้ป้าทำผัดกระเพราเอาไว้ให้คุณหินไม่อยากทานเหรอคะ ถึงได้ทำข้าวต้มกุ้งทาน" หิรัญยิ้มหวานส่งให้แม่บ้านคนสวย "เปล่าหรอกครับ นี่ไม่ใช่อาหารของผม" "แล้วของใครเหรอคะ" ป้าแก้วทำหน้างงเสียเต็มประดา ร้อยวันพันปีนายหัวหิรัญเคยเข้าครัวเสียที่ไหนล่ะ นางอยู่ที่นี่มาสามสิบกว่าปีก็ไม่เคยเห็นสักครั้ง ว่านายหัวหิรัญจะเข้าครัวมาทำอาหาร เขาจะทำงานอยู่นอกบ้านดูแลกุ้งและหอยมุกในกระชังไม่เคยเข้ามายุ่มย่ามในครัว เพราะมีแม่ครัวเตรียมอาหารออกไปให้ทานทุกวันอยู่แล้ว วันนี้มาแปลกนางก็เลยสงสัย หิรัญอมยิ้มก่อนจะตอบคำถามให้คลายสงสัย "ผมทำข้าวต้มไปให้ภรรยาน่ะครับ เธอไม่ค่อยสบายได้ทานอะไรร้อนๆ น่าจะดี" "นายพานายหญิงมาที่นี่เหรอคะ ทำไมไม่บอกป้าล่ะคะ ป้าจะได้ทำอาหารเพิ่ม" "ป้าไม่ต้องทำเพิ่มหรอกครับ เพราะผมกับเธอจะทำอาหารกินกันบนแพ" "ที่แพ!" ป้าแก้วอุทานตกใจ "ทำไมคุณหินไม่พาเธอมาพักที่บ้านล่ะคะ สะดวกสบายกว่ากันตั้งเยอะ" "แถวนี้คนเยอะเกินไปครับป้า ไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ ผมเลยพาเธอไปพักบนแพ ป้าแก้ว..ผมขอยาพาราเพิ่มด้วยนะครับ" "ได้ค่ะคุณหิน" หญิงชราเดินไปหยิบยาพาราบนหิ้งส่งให้เจ้านาย "นี่ค่ะยาพารา ให้ป้ายกข้าวต้มไปให้ไหมคะ " "ไม่ต้องหรอกครับ ผมยกไปเองได้" หิรัญตักข้าวต้มกุ้งใส่ถ้วยด้วยท่าทางทะมัดทะแมง เดินอาดๆ มุ่งหน้ากลับแพ ระหว่างทางเจอเข้ากับทับพอดี "สวัสดีครับนายหัว แล้วนี่นายหัวจะยกข้าวต้มกุ้งไปไหนให้ผมยกไปให้ไหมครับ" "ไม่ต้องหรอกทับ ฉันทำเองได้ แล้วนี่ไอ้ทีไปไหน" "ทีมันไปคุมคนงานให้อาหารกุ้งน่ะครับ นายหัวมีอะไรจะใช้มันเหรอครับ" "เปล่าหรอกทับ แค่ถามดูเฉยๆ เออนี่..สองสามอาทิตย์นี้ห้ามใครเข้าไปยุ่มย่ามที่แพหลังเกาะนะ ฉันพาเมียมาพักที่นั่น" ทับตาโตเหมือนไข่ห่านก่อนจะอุทานออกมา "นายหัวพาเมียมาเหรอครับ! แล้วพามาเมื่อไหร่ครับ" "เมื่อคืนอะ อย่าลืมกำชับคนงานในฟาร์มด้วยนะว่าอย่ามายุ่มย่ามที่แพหลังเกาะ ฉันกับเมียต้องการพักผ่อน" "ได้ครับนาย" "แต่ถ้าแกกับไอ้ทีมีอะไรด่วนก็มาหาฉันได้ตลอดเวลา" "ครับ" "ฉันไปก่อนนะ" "ครับนาย" นายหัวหิรัญรีบเดินกลับไปที่แพทันที เจอยุวดานั่งหน้าตูมอยู่บนที่นอน นี่หล่อนงอนอะไรเขาอีกล่ะ เขายังไม่ได้รังแกอะไรหล่อนเลยนะ "เอากินซะ ผมไปทำข้าวต้มกุ้งมาให้ กินเสร็จก็ทานยาเสียด้วยอาการไข้จะได้ดีขึ้น" เขายื่นถาดข้าวต้มกุ้งให้เธอแต่โดนปัดทิ้งจนข้าวในถ้วยกระจัดกระจาย "ฉันไม่กิน" "นี่หนูยิ้ม! อย่ามาออกฤทธิ์กับผมนะ ผมอุตส่าห์ทำมาให้คุณทาน แล้วคุณมาทำอย่างนี้ได้ยังไง" หล่อนไม่ตอบอะไรยังคงนั่งนิ่งๆ อยู่บนที่นอน แถมยังกระตุกยิ้มตรงมุมปากมองหิรัญตาขวาง หิรัญฉุนจัดเดินมากระชากร่างบางจนเซถลาไปหาเขาทั้งตัว ยุวดาอุทานตกใจ "นี่คุณจะทำอะไร" "ออกฤทธิ์ได้แสดงว่าหายไข้แล้วสินะ งั้นก็มาทำหน้าที่ของคุณซะ เริ่มจากหน้าที่บนเตียงก่อนเลย..ยุวดา!" หิรัญคำรามออกมาอย่างน่ากลัว เขาโกรธจนตัวสั่น เด็กดื้ออย่างเธอต้องโดนดัดสันดาน เขาจะจัดให้หนักเลยคอยดู ถ้าครั้งนี้หล่อนไม่คลานสี่ขา อย่าเรียกเขาว่าหิรัญ เขาคำรามลั่น ก่อนจะจัดการกับแม่ตัวดีที่ตอนนี้ยืนหน้าซีดเหมือนไก่ต้ม เขาผลักเธอล้มลงบนที่นอนก่อนจะตามเธอไปติดๆ "นี่คุณหิน คุณอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ" เธอห้ามปากคอสั่นผลักหน้าอกเขาเต็มแรง "มีแรงแค่นี้เองเหรอคุณ แรงอย่างกะมด" เขากดทับเธอไว้ทั้งตัวตรึงแขนไว้เหนือศีรษะ ขาสองข้างถูกกดทับแล้วตรึงไว้ด้วยหัวเข่า เรี่ยวแรงของเขาช่างมากมายมหาศาล เธอจะต้านทานเขาได้อย่างไร ผู้ชายตัวโตกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหล่อน ไม่มีทางเทียบได้ หล่อนไม่มีทางสู้หิรัญได้อยู่แล้ว มีเพียงทางเดียวที่เธอจะรอดคืออ้อนวอนให้เขาสงสาร "คุณหินอย่าทำอะไรฉันเลยนะ" เธอขอร้องเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เรียกว่าขอร้อง แทบจะอ้อนวอนด้วยซ้ำ "ไม่มีทาง!" หิรัญคำราม ก่อนจะจัดการปิดริมฝีปากของเธอทันที ยุวดาพยายามดิ้นหนีการรุกรานของหิรัญ หล่อนร้องอู้อี้ในลำคอ "อึ..อื้อ!..อื้อ!" เสียงร้องของหล่อนถูกกลืนหายไปในลำคออีกครั้งเมื่อเขาครอบครองมันทั้งหมด ริมฝีปากหวานหยดถูกบดจนห้อเลือด ฝ่ามือร้อนก็ขยำก้อนเนื้อที่อัดแน่นในร่มผ้า หญิงสาวดิ้นรนไปมาหลบฝ่ามือหนาของหิรัญ "อย่าดิ้นหนีซะให้ยาก คุณไม่มีทางหนีผมพ้น" เขาจุ๊บแก้มที่หอมละมุนของเธอไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะซุกซบใบหน้าคมคร้ามที่เต็มไปด้วยหนวดเครารกรุงรังลงไปยังแก้มเนียนขาวลออ สูดดมความหอมอ่อนๆ ด้วยปลายจมูกของเขาหลายๆ ครั้ง ก่อนจะไต่ระดับไปยังซอกคอหอมกรุ่น ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดแถวๆ ใบหูจนหล่อนขนอ่อนลุกซู่ไปหมด หิรัญระดมจูบเวียนวนแถวแก้มหอมกรุ่นอยู่สักระยะ ก่อนจะเม้มติ่งหูเธอเล่น หล่อนขนลุกไปหมดแล้ว ร่างกายกำลังแหลกเหลวอยู่ใต้ร่างหนา นายหัวหิรัญหลอกล่อหล่อนด้วยรสจูบแสนหวานที่ทำให้ใจสั่น มันดุดันในคราแรก แต่ตอนนี้มันนุ่มนวล เรียวลิ้นอุ่นๆ สอดแทรกเข้าไปในโพรงปาก กอดกระหวัดรัดรึงเนิ่นนานสลับขบเม้มริมฝีปากบางอย่างช่ำชอง ยุวดาหายใจหายคอแทบไม่ทัน เมื่อนายหัวหิรัญจูบหล่อนอีกครั้ง เขาป้อนจูบแสนหวานก่อนจะเพิ่มความเร่าร้อนจนหล่อนแทบขาดอากาศหายใจ หากเขาถอนริมฝีปากออกได้ทันเวลา เขาซุกซบใบหน้าลงไปอีกครั้งยังซอกคอขาวเนียน ปลายจมูกวนเวียนอยู่แถวติ่งหู ฝ่ามือหนาเคล้นคลึงดอกบัวคู่งามจนตอนนี้ปลายยอดถันเริ่มแข็งขึ้นเป็นไต เขาซุกไซ้สองเต้าด้วยริมฝีปากที่เต็มไปด้วยหนวดเคราสากระคาย ทำให้เธอต้องห่อไหล่ด้วยความจั๊กกะจี๋ "นี่!" "นี่อะไร..อย่าหยุดใช่มั้ย" "ไม่ใช่นะ" "แล้วอะไรล่ะ" หิรัญไม่ฟังคำตอบ เขาจูบหล่อนอีกครั้งไล้ริมฝีปากเลียริมฝีปากบางรูปกระจับ ไต่ระดับไปตามซอกคองามระหง นิ้วทั้งห้าบรรจงเคล้นคลึงสองเต้า เขาใช้หัวเข่าแยกขาเธอออกทั้งสองข้าง "คุณหิรัญ" "ครับ" เขาพูดแค่นั้นเลื่อนใบหน้าลงต่ำปิดริมฝีปากของเธอทันที ผู้หญิงปากดีต้องเจอจูบแบบมาราธอน หิรัญบดริมฝีปากจูบหล่อนอย่างเร่าร้อนและดุดัน แทรกปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กเนิ่นนาน ดูดดึงชิวหาอุ่นซ่านจนหล่อนเผลอส่งเสียงครางในลำคอ เขาหลอกล่อจนหล่อนต้องโอนอ่อนผ่อนตาม ราชสีห์ร้ายหลอกล่อจนหนูตัวเล็กอย่างหล่อนคล้อยตามไปกับความวาบหวามที่เขามอบให้ หญิงสาวยินยอมพร้อมใจในที่สุด หิรัญถอดชุดของเธอออกด้วยความรีบร้อน ก่อนจะถอดของตัวเองออกอย่างเร่งร้อนไม่แพ้กัน ความช่ำชองและชำนาญของนายหัวหิรัญทำให้เสื้อผ้าของทั้งสองถูกปลดออกอย่างง่ายดาย เขาสอดใส่อาวุธร้ายเข้าไปทันทียัดมันจนสุดโคน "โอ๊ะ!" เขาไม่สนว่าเธอจะเจ็บขนาดไหน ที่ต้องรองรับท่อนเอ็นขนาดใหญ่เกือบครึ่งไม้บรรทัด เขากระแทกลงมาหนักๆ ฝ่ามือหนาเคลื่อนตัวลงมาทายทักสองเต้าอวบอัดค่อนข้างใหญ่ ปลายลิ้นสากระคายปัดป่ายไปตามยอดปทุมถัน ก่อนจะครอบครองความหวานเข้าไปเต็มปากเต็มคำ หิรัญขบเม้มปลายยอดปทุมของเธอ เขาดูดดึงมันแรงๆ ทั้งสองข้าง ในขณะที่ช่วงล่างยังกระแทกกระทั้นไม่มีหยุด "โอ๊ะ!" เธอหลุดเสียงร้องออกมา เมื่อหิรัญกระแทกเธอทางด้านหน้า เขาเสยขึ้นจนเข้าลึกเต็มลำ หิรัญพลิกคว่ำพลิกหงายตามแต่ใจเขาต้องการ เหงื่อกาฬทั้งคู่แตกพลั่กเพราะบทรักสุดเร่าร้อน ยุวดาจุกแถวๆ หน้าท้องจนแทบทนไม่ไหว คนอะไรอึด ถึก ทน อย่างกับควาย นี่เขาไม่คิดจะพักบ้างหรือไง เธอเจ็บจนระบมไปหมดแล้ว ร่องรักเธอร้อนไปหมดแล้ว..คนบ้า! เหงื่อเม็ดเล็กๆ เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าของยุวดาอีกครั้ง เมื่อเขาขยับสะโพกเข้าหาอีกครั้งหลังจากปลดปล่อยน้ำรักไปครั้งหนึ่งแล้ว "คุณหิรัญพอแล้ว" "ยังไม่พอ เรามาต่อกันเถอะนะ ฉันยังไม่หายอยาก" หิรัญลากเธอมาสำเร็จโทษอีกครั้ง ครั้งนี้เนิ่นนานกว่าเดิม คนตัวโตเพิ่มดีกรีความหนักหน่วงขึ้นเป็นเท่าตัว จนยุวดาหัวสั่นหัวคลอนยามเขาโยกขย่มอยู่บนตัวหล่อน คนตัวเล็กกรีดร้องพยายามดิ้นหนีเขาพัลวัน แต่ไม่มีทางซะล่ะ บอกแล้วไงวันนี้เขาจะจัดการหล่อนให้เข็ดหลาบไม่กล้าหือกับเขาอีก ดูซิ..คราวนี้จะกล้าแผลงฤทธิ์ใส่เขาอีกไหม โดนจัดหนักไปหลายดอกอย่างนี้ ลุกขึ้นเดินไม่ได้เลยยิ่งดี..เด็กบ้า! หิรัญคำรามออกมาอย่างหนักในจังหวะกระแทกกระทั้นครั้งสุดท้าย คนตัวโตสูดลมหายใจเมื่อมดลูกด้านในตอดตุบ ตุบ ที่ปลายหัวหยัก น้ำรักหลั่งล้นทะลักออกมาจากช่องทางรักที่คับแน่นของหล่อน คนตัวเล็กหมดแรง ไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะอ้าปากด่าหิรัญ เขาลุกพรวดพราดเดินเข้าห้องน้ำก่อนจะเข้ามานอนลงข้างๆ คนตัวเล็ก หนุ่มใหญ่กอดเธอไว้จากทางด้านหลัง "สมใจคุณแล้วสินะ" เธอพูดออกมาทั้งน้ำตา "สมใจเรื่องอะไรล่ะ?" เขาถามในขณะที่ฝ่ามือหนาลูบไล้หัวไหล่เธอไปด้วย "นี่คนสวยเรามาคุยกันดีๆ ดีกว่านะ" "ไม่มีทาง..ฉันไม่มีทางพูดดีๆ กับคุณ ฉันเกลียดคุณ..คุณหิรัญ ฉันอยากให้คุณตายๆ ไปซะ" "ชู้ววว..อย่าพูดกับผัวแบบนั้นสิคะ ไม่น่ารักเลยนะคะหนูยิ้ม" เขาใช้ปลายนิ้วจิ้มไปบนริมฝีปากจิ้มลิ้มของหญิงสาว ก่อนจะบีบแก้มหล่อนแรงๆ จนคนที่นอนตะแคงนิ่วหน้า "ถ้าไม่นอนก็ลุกขึ้นไปล้างถ้วยแล้วเก็บกวาดเศษข้าวต้มที่คุณปัดมันตกลงพื้นซะ!" อ๊าย!!!!! "อย่านะ!" เขากระชากเธอมาทั้งที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น "นี่คุณหินปล่อยฉันนะ" "กวาดซะ แล้วก็ล้างถ้วยให้สะอาด ถ้าคุณไม่ทำผมจะจับคุณฟัดอีกรอบ""หนูยิ้มกินยาแก้เมาเรือให้เรียบร้อยก่อนนะคะ เพราะวันนี้เราจะเดินทางกลับฝั่ง"หิรัญยื่นยาเม็ดเล็กสีขาวพร้อมด้วยน้ำสะอาดส่งให้ภรรยาตัวน้อยก่อนจะขนสัมภาระออกไปวางที่หน้าแพ หล่อนส่งยิ้มให้คนแก่กว่า กรอกเม็ดยากลืนลงท้องอย่างว่าง่าย"ให้ยิ้มช่วยยกไหมคะ""ไม่ต้องหรอกจ้ะ กระเป๋ามันหนักยิ้มเดินเฉยๆ จะสบายกว่า ส่วนของพวกนี้พี่ยกคนเดียวได้"สามีของเธอน่ารักจังเลย ยุวดาแอบคิดในใจ"พี่ว่าจะไปทานกาแฟกับไอ้ทับไอ้ทีสักหน่อย ยิ้มจะไปทานด้วยกันไหมคะ""เป็นกาแฟแบบไหนเหรอคะ กาแฟสดคั่วบดหรือเปล่า""เปล่าหรอกจ้ะ แค่กาแฟซองทรีอินวันธรรมดา นี่มันเกาะกลางทะเลไม่มีของดีๆ แบบที่หนูยิ้มอยากกินหรอกค่ะ"นายหัวหนุ่มโยกศีรษะของเธอไปมาด้วยความรักและเอ็นดูจับใจ ไม่ได้คิดว่าเรื่องมากวุ่นวายเหมือนก่อนหน้า อะไรธรรมดากระแดะกินไม่ได้อยากกินแต่ของหรูๆ แพงๆ ตอนนี้เขาเข้าใจเธอมากขึ้น อยากปรับตัวเข้าหาเธอมากขึ้น และให้เวลาเธอปรับตัวเข้าหาเขามากขึ้นเช่นกัน"ยิ้มอยากทานเอสเปรสโซหอมๆ ที่ชงในน้ำร้อน 90 องศา ยิ้มไม่ได้ทานมาหลายวันแล้วนะคะ"เ
"ฮั่นแหน่.วันนี้มีอะไรดีๆ เหรอครับ เห็นยิ้มทั้งวัน ปากแทบจะฉีกถึงรูหูแล้วนั่นน่ะ"ทับเอ่ยแซวเจ้านายที่ยืนคุมคนงานไป ปากก็ฉีกยิ้มไป แถมแววตาก็หวานเชื่อมเป็นประกายแปลกตา แต่แทนที่หิรัญจะโกรธกลับฉีกยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม ทับคิดว่าเจ้านายเขาเริ่มจะอาการหนักเข้าทุกวัน"พี่ทับ..ทำไมพี่ไปแซวนายหัวอย่างนั้นล่ะ เดี๋ยวก็โดนเตะผ่าหมากหรอกพี่ ไม่กลัวหรือไง"ทับส่ายหน้าแล้วหันไปยิ้มกับน้องชาย "จะกลัวทำไม มึงเชื่อกูดิไอ้ที วันนี้ต้องมีอะไรดีๆ แน่ๆ ต่อให้กูแซวหนักกว่านี้ก็ไม่โดนเตะหรอก"น้องชายไม่อยากจะเชื่อคำพี่ชายหรอก แต่เห็นหิรัญนิ่งเขาก็แอบดีใจ วันนี้เขาก็จับสังเกตได้ว่าเจ้านายอารมณ์ดีแหมไอ้นี่ทำมาเป็นรู้ดี หิรัญแอบคิดในใจ สักพักคนที่ยืนเกาะอกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็หันมาด้วยประกายตาบางอย่าง ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ ทับกับทีทำท่าจะถอย"นั่นพวกมึงจะถอยไปไหนเข้ามาใกล้ๆ กูนี่!"สองพี่น้องรีบเดินเข้ามาใกล้ๆ เจ้านายทันทีอย่างกล้าๆ กลัวๆ"ทีเมื่อกี้มึงยังไม่เห็นกลัวกูเลย" หิรัญเอ่ยแซว"แต่ตอนนี้กลัวแล้วครับเจ้านา
เช้าวันถัดมา.....นายหัวหิรัญลุกขึ้นมาตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปวิ่งออกกำลังกายเหมือนทุกวัน เขาจะทำแบบนี้เป็นประจำเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเพราะเขาไม่อยากเป็นตาแก่ที่อ้วนลงพุง ก่อนมาก็ไม่ลืมหุงข้าวเอาไว้ด้วย วันนี้ไม่รู้ว่าภรรยาคนสวยจะอยากกินอะไร เมื่อวานตอนไปเดินห้างเขาซื้อปลาแซลมอนติดไม้ติดมือกลับมาเผื่อว่าเธอจะอยากทาน หิรัญเดินมายังบ้านพักที่ริมหาดเพื่อมาหาป้าแก้ว"ป้าแก้วครับบอกสูตรน้ำยำรสเด็ดให้หน่อยสิครับ""นายหัวจะยำอะไรเหรอคะ เดี๋ยวป้าทำให้ก็ได้ นายหัวจะได้ไม่ต้องเหนื่อย""ไม่เหนื่อยหรอกครับป้า ผมจะทำยำแซลมอนให้ยุวดาน่ะ""น่าอิจฉานายหญิงจังค่ะ นายหัวตามใจขนาดนี้ เดี๋ยวป้าจดสูตรให้นะคะ รับรองอร่อยแน่นอนค่ะ""ขอบคุณครับ"นายหัวหิรัญเดินกำกระดาษแผ่นนั้นกลับมายังแพ จัดการแล่เนื้อปลากะขนาดให้พอดีคำ ปรุงน้ำยำรสเด็ดตามสูตรของแม่ครัวหัวป่า ทำเสร็จก็เดินไปปลุกภรรยาที่นอนอุตุอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา"หนูยิ้มตื่นได้แล้วค่ะ ลุกขึ้นมาทานข้าวทานยาได้แล้ว"เขาก้มลงจูบหอมแก้มเธอไปฟอดใหญ่ๆ เพราะ หนวดเคราสากระคา
หิรัญพายุวดามาเดินห้างที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หล่อนตาพร่า เพราะของในห้างละลานตาไปหมดไม่ต่างจากห้างดังในกรุงเทพมหานครสักเท่าไหร่ เกือบหนึ่งอาทิตย์ที่หล่อนไม่ได้ช้อปปิ้งและสั่งของออนไลน์ตอนนี้หล่อนแทบจะลงแดงตายอยู่แล้ว วันนี้หล่อนจะปลดปล่อยให้เต็มที่ หญิงสาวเริ่มเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางค์ โดยมีหิรัญคอยเดินตามอยู่ห่างๆ เหมือนหมาหงอยเดินตามตูดเมียต้อยๆ มีหน้าที่คอยจ่ายตังค์ค่าสินค้าที่เธอต้องการยุวดาเริ่มหยิบลิปสติกสีชมพูหวานขนาดทดลองมาลองแต้มบนริมฝีปาก"สวยมาก!"หล่อนแทบจะกรี๊ดกร๊าดออกมา เมื่อเจอสินค้าที่ตัวเองถูกใจ เธอเลือกลิปสติกสีสวยออกมาอีกสามสี่แท่งแล้วลองแต้มบนริมฝีปากบาง สรุปทุกสีมันสวยมากเมื่อทาลงบนริมฝีปากของเธอ ยุวดาเลือกลิปสติกอยู่สักพักพนักงานจึงเดินเข้ามา"สีนี้ก็สวยนะคะคุณลูกค้า จะรับกี่สีดีคะ"พนักงานประจำเคาน์เตอร์เครื่องสำอางค์ออกมาต้อนรับลูกค้าสุภาพสตรีที่มาคู่กับนายหัวหิรัญ"นายหัวสวัสดีค่ะ"พนักงานหญิงคนนั้นยกมือขึ้นไหว้นายหัวหิรัญคนดังของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทันที ภายในจ
นายหัวหิรัญมองดูยุวดาเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่ละสายตาเลยสักนิด ยุวดาหงุดหงิด นี่เขาจะมองอะไรกันนักกันหนา ตาแทบถลนออกมาแล้วนะ"มองอะไร!"หล่อนแหวใส่..หิรัญไม่สนใจทำเพียงไหวไหล่น้อยๆ เท่านั้น แต่ตายังคงจ้องมองเธอไม่ลดละ"ทำไม..ผมมองเมียตัวเองไม่ได้หรือไง ผิดตรงไหนไม่ทราบ""คุณหิรัญ!" หล่อนตาขวางเขาจ้องมองเธอตั้งแต่บนลงล่าง ล่างขึ้นบนอยู่อย่างนั้น "แต่งตัวเสร็จก็ไปล้างจานซะ อย่าให้ผมต้องผลักคุณลงน้ำอีกครั้งยุวดา"ยุวดาได้ยินอย่างนั้นหล่อนทำหน้างอง้ำ เบะปากสะบัดบ๊อบใส่นายหัวหิรัญเดินกระแทกเท้าตึงตังอย่างคนเอาแต่ใจ หญิงสาวเดินไปหยิบจานแล้วเดินลงไปข้างล่างแพ นี่เป็นการล้างจานครั้งแรกในชีวิตของเธอ เกิดมาเธอไม่เคยต้องทำอะไร หล่อนเกิดมาสุขสบายมีเงินใช้ มีสาวใช้ไว้คอยปรนนิบัติพัดวี หล่อนมีหน้าที่แค่สั่งเท่านั้น บรรดาสาวใช้ก็พร้อมจะทำตามคำสั่งของเธอทุกอย่าง หล่อนไม่เคยหุงข้าวล้างจาน พวกงานบ้านหล่อนไม่เคยหยิบจับอะไร แถมถูกเลี้ยงอย่างตามใจ ไม่ว่าหล่อนต้องการอะไรครอบครัวก็ประเคนให้ทุกอย่าง หล่อนไม่เคยต้องลำบาก หญิงสาวล้างจานในกะละมังจนส
หิรัญนอนมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่สะท้อนขึ้นลงเบาๆ ตามแรงหายใจ เขาเอื้อมฝ่ามือไปจับบนหัวไหล่ลูบไล้ขึ้นลงช้าๆ รั้งร่างแน่งน้อยเข้ามาโอบกอดเอาไว้แนบอกอีกครั้ง"หนูหิวหรือยัง"เขาถามในขณะที่ฝ่ามือหนาข้างนั้นยังคงลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์กาย ขยำตรงนั้นนิด บีบตรงนี้หน่อยก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นมาลูบไล้ตรงไหล่มนนั่นอีกครั้ง เขาจูบไปตรงแผ่นหลังบอบบางจนเจ้าตัวห่อไหล่สาวน้อยไม่ตอบอะไร หล่อนยังคงนอนนิ่งๆ ทำตัวเหมือนท่อนไม้ต่อไปแถมยังหันหลังให้คนตัวโต นี่หล่อนคงโมโหเขาสินะ ที่กระทำกับเธอเยี่ยงนั้น ก็หล่อนอยากยั่วโมโหเขาก่อนทำไมกัน เขาไม่จัดให้คลานก็บุญเท่าไหร่แล้ว แค่นี้เขาเรียกว่าสั่งสอน หิรัญตระกองกอดร่างแน่งน้อยเอาไว้ สักพักเสียงท้องร้องของหล่อนก็ดังโครกครากขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ เจ้าตัวได้ยินเสียงท้องของตัวเองร้องพลันทำให้ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาเพราะความอาย คนตัวโตไม่กล่าวอะไรเขาก้มหน้าลงฝังจมูกโด่งลงไปบนเนื้อแก้มขาวเนียน ก่อนจะลุกขึ้นเดินโทงโทงทั้งอย่างนั้นหิรัญลุกขึ้นมาหุงหาอาหารให้ภรรยาตัวน้อย ยุวดาค่อยๆ ชำเลืองมองแผ่นหลังหนาที่ก้าวออกไปนอกชาน นุ่งผ้าขนหนูปกปิดแค่ท







