นางแหงนหน้ามองกำนันอัฐอย่างเร็ว พร้อมกับหันมองน้ามุก เมื่อเห็นน้ามุกพยักหน้าน้อยๆ ซึ่งก็แปลว่าน้ามุกคงเล่าเรื่องของหล่อนให้พ่อกำนันฟัง แค่นั้นน้ำตาก็วาวขึ้น
“อยากเอาจ้ะ”
“อืม... เดี๋ยวจะให้คนเอาไปให้”
“หนูขอบพระคุณพ่อกำนันมากจ้ะ”
“ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง ไม่ได้ลำบากอะไร ว่าแต่เอ็งพร้อมทำงานหรือยังล่ะ”
“พร้อมแล้วจ้ะ พร้อมแล้ว พ่อกำนันอยากให้หนูทำอะไร บอกมาเลยนะจ๊ะ หนูจะทำให้ทุกอย่าง”
“อืม... งั้นก็ตามมา”
กำนันอัฐลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินไปในทิศทางของเรือนนอนที่หล่อนจากมา นางลุกขึ้นจะเดินตาม แต่แล้วพ่อกำนันที่หยุดเดินก็ทำให้หล่อนชะงัก ดวงตาคมเข้มมองเลยไปยังน้ามุกที่ยืนอยู่ด้านหลังหล่อน
“จัดการเอาอาหารไปให้น้องๆ ของนางด้วย”
“จ้ะ พ่อกำนัน ประเดี๋ยวฉันจะติดผลไม้ไปด้วยจ้ะ ได้มาจากสวนเยอะ”
กำนันอัฐยิ้มบางๆ ให้หล่อนที่น้ำตารื้นพนมมือไหว้ ก่อนจะหันไปพนมมือไหว้น้ามุกอีกคน น้ามุกรับไหว้ทว่าสายตาที่สบมากลับคือความเห็นใจ
“มาเถอะ ตามมา”
ทว่าเสียงของกำนันก็ทำให้นางต้องเดินตามร่างสูงใหญ่ตรงไป หัวใจหล่อนเต้นตึกตักๆ แบบแปลกๆ กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราวจะโชยออกมาจากเรือนร่างด้านหน้า จนหล่อนเผลอสูดลมหายใจเข้าลึก
กำนันอัฐไม่ได้พาหล่อนไปที่ห้องนอนที่น้ามุกพาไป แต่เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่คงเป็นห้องนอนของกำนันอัฐเอง ด้านในนั้นตกแต่งไว้อย่างหรูหรา เหมือนห้องนอนของคนรวยในละครทีวีที่หล่อนเคยดู เมื่อจุดที่หล่อนยืนอยู่คือห้องรับแขก มีห้องทำงานอยู่อีกฟาก และอีกฟากคงเป็นห้องนอน เพราะหล่อนเห็นฉากบางๆ กั้นอยู่ และสิ่งที่ทำให้หล่อนตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือ หน้าต่างสูงที่เปิดโล่ง ด้านนอกนั้นมองเห็นท้องนาได้เป็นมุมกว้าง สีเขียวสดช่างสวยงามจนหล่อนมองเพลิน
“นั่งสิ”
เสียงทุ้มของกำนันทำให้หล่อนชะงัก รีบทรุดร่างลงนั่ง แต่กำนันกลับถลามารับตัวหล่อนไว้ จนหล่อนตัวแข็งทื่อ
“นั่งข้างบน”
“เอ่อ... ค่ะ” กำนันหมายถึงบนโซฟารับแขกตัวหรู ดีเหลือเกินที่หล่อนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อย เพราะหากเป็นเสื้อผ้าที่หล่อนใส่มา หล่อนคงไม่กล้าขึ้นนั่งแน่
กำนันอัฐนั่งเอกเขนกพาดมือกับพนักโซฟาข้างหนึ่ง อีกข้างพาดอยู่บนหมอนหรู ดวงตาคมเข้มจ้องมองมาที่หล่อนจนรับรู้ได้บางสิ่ง มันคือความคุกคาม ความน่าหวาดหวั่น และอันตราย แต่จะเป็นไปได้ยังไง พ่อแม่ไม่มีทางยอมให้หล่อน...
สายตาเศร้าของพ่อ อ้อมกอดของพ่อ หยาดน้ำตาและเสียงร้องห้ามของแม่
“รู้ไหมว่ามาที่นี่ทำไม”
นางสะดุ้ง เหลือบตาขึ้นมองใบหน้าคมเข้ม ตอบอย่างที่พ่อบอก “พ่อบอกให้หนูมาช่วยงานพ่อกำนันจ้ะ” ทั้งที่ใจหล่อนคิดไกลไปกว่านั้นแล้ว
“บอกมั้ยว่าต้องทำให้ข้าพอใจ”
“บอกจ้ะ”
“แล้วรู้มั้ย ทำยังไงข้าถึงจะพอใจ”
“เอ่อ... หนูไม่รู้จ้ะ แต่แค่พ่อกำนันบอก หนูก็พร้อมจะทำให้ ถ้าหนูทำได้”
อะไรไม่รู้ดลใจให้หล่อนพูดออกไปแบบนั้น ทั้งที่สายตาของกำนันอัฐสื่อความหมายออกมาจนหมด นางสั่นไปทั้งร่าง หัวใจเต้นรัวเร็ว ตั้งแต่เกิดมาหล่อนไม่เคยมีความรักแบบหนุ่มสาว เพราะเจียมตัวว่าจน และเพราะต้องช่วยแม่เลี้ยงน้อง ตั้งแต่เรียนจบ ม.3 หล่อนก็เหมือนจะใช้ชีวิตอยู่แค่ที่บ้านที่นาเท่านั้น แต่หล่อนก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าท่าทางคุกคามที่กำนันแสดงออกอยู่นี้คืออะไร
“เอ็งเคยเล่นผัวเมียกับใครมั้ย”
“ไม่เคยจ้ะ! ไม่เคย” นางตอบเสียงหลง ตกใจที่ได้ยินคำถามนี้ตรงๆ และเมื่อแหงนหน้าเห็นสายตาของกำนัน หล่อนก็ต้องหลุบสายตาลงอย่างเร็ว เลือดลมราวจะฉีดพล่าน ทั่วร่างกายสะบัดร้อนสะบัดหนาว จนหล่อนต้องเบียดตัวเองแนบชิดกับโซฟา
“เอ็งรู้มั้ยว่าพ่อเอ็งเป็นหนี้ข้าหลักล้าน”
คำถามตรงเป้าราวจะทำให้ความร้อนวูบวาบทั่วร่างจางหาย หล่อนกำลังรับรู้กับความจริง “รู้จ้ะ”
“เอ็งคิดว่าจะทำงานให้ข้าแบบไหนถึงจะใช้หนี้ได้พอ”
“พ่อบอกว่าให้หนูมาทำงานขัดดอก ได้ข้าวปีหน้าพ่อจะมาจ่ายดอกเบี้ยพ่อกำนัน จากนั้นก็รับหนูกลับจ้ะ”
“แล้วเอ็งว่า ข้าวปีหน้าจะดีมั้ยล่ะ”
นางมองตามสายตาของพ่อกำนันที่มองออกไปด้านนอก ทุ่งนาเขียวขจีของกำนันอัฐ ทุ่งแห้งไร้น้ำที่นาหล่อนเทียบไม่ได้เลย ข้าวจะดีได้อย่างไร เมื่อน้ำไม่เคยไปถึงปลายทาง
“ถ้าข้าวเอ็งไม่ดี เอ็งต้องอยู่ที่นี่อีกกี่ปีกัน มีหวังพ่อเอ็งต้องพาน้องเอ็งมาอยู่อีกคน น้องเอ็งชื่ออะไรนะ คนรองจากเอ็งน่ะ”
“นิ่มจ้ะ”
“อืม... นังนิ่ม”
ดวงตาของกำนันอัฐเป็นประกายบางอย่างที่ทำให้หล่อนเสียวสันหลังวาบ
“หนูต้องทำยังไงจ๊ะ หนี้ของพ่อถึงจะลดลง ทำยังไงน้ำถึงจะมีไปถึงที่นาหนูบ้าง”
นางเสียงสั่นแต่หล่อนต้องพูด แม้หล่อนไม่เคยมือชายมาก่อน แต่แววตาของผู้ชายตรงหน้าที่โลมเลียไปตามเนื้อตัว หล่อนก็แน่ใจว่าคิดไม่ผิดแน่ ดวงตากลมโตช้อนขึ้นสบสายตากำนันอัฐ
“หากพ่อกำนันต้องการให้หนู... รับใช้ หนูก็ยินดีจ้ะ หนูขอเพียง... เมตตาหนูเท่านั้น”
นางกัดฟันพูด ริมฝีปากสั่น ดวงตาร้อนผ่าว และอกอวบก็สะท้านขึ้นลงจากแรงสะอื้นด้านใน
“เอ็งเต็มหรือเปล่า ข้าไม่เคยต้องขืนใจใคร”
ทว่าพี่ทุยกลับไม่ได้ดูดเลียนม สิ่งที่พี่ทุยกำลังดูดเลียซุกไซ้และแยงลิ้นเข้าไปนั้นคือ... “อื้อ... พี่ทุยจ๋า ไหนว่าจะกินนม” “ก็ใครบอกว่าพี่จะกินนม พี่บอกว่าพี่หิว ขอกินบ้าง” “พี่ทุยอ่ะ เจ้าเล่ห์ ซี้ด...” นวลบิดตัวครางกระเส่าแต่แยกต้นขาให้กว้างขึ้นอีก พร้อมทั้งยกขาเล็กน้อยให้เต่านาปากแดงทักทายปลายลิ้นของพี่ทุยได้ถนัดถนี่ “ไม่เจ้าเล่ห์จะได้เมียเหรอ แถมเมียก็น่าเลียที่สุด ขอพี่เลียจนแตกนะนวล” นวลพยักหน้าอายๆ ก่อนจะแหงนหน้าครางกระเส่าเมื่อผัวรักเล่นลิ้นระรัวเร็ว จนหล่อนน้ำแตกนำหน้าไปก่อน จากนั้นพี่ทุยจึงนั่งลงบนเก้าอี้ มีหล่อนนั่งอยู่ระหว่างกลาง ดูด เลีย ดุ้นยาวใหญ่อย่างเมามัน และก่อนที่พี่ทุยจะแตก หล่อนก็รีบขึ้นคร่อมตามคำเร่าร้อง “เมียจ๋า... เมียจ๋า... โอว... เมียจ๋า... โอว...” ทุยครางกระเส่า ก้มหน้าฟัดนมอวบอัดของเมียให้คลายเสียว แต่นวลไม่ปรานีเขาเลย ร่องของเมียตอดรัดหนุบหนับ ควบขี่ โยกคลอน จนเขาทนไม่ไหว เขากำลังจะแตก “โอว... นวลจ๋า... เมียจ๋า... โอว...” ความร้อนรุ่มฉีดอัดเต็มที่ ด
ทุยเคลื่อนฝ่ามือขึ้นไปลูบไล้ที่ข้างแก้ม “นวลเป็นของพี่แล้วนะ เป็นเมียพี่ พี่จะดูแลนวล จะรักแต่นวล จะซื่อสัตย์กับเมีย พี่ให้สัญญา” “นวลรักพี่ทุยจ้ะ นวลสัญญาว่าจะซื่อสัตย์กับพี่ทุย จะเป็นเมียจะเป็นแม่ที่ดี นวลมีความสุขมากๆ จ้ะ” นวลพูดยิ้มๆ แต่น้ำตากลับรื้นออกมาไม่หยุด ทุยปาดน้ำตาที่ข้างแก้มก่อนจะพลิกร่างหันมองนาฬิกาติดฝาผนัง “ยังพอมีเวลามั้ยนวล ลูกจะตื่นหรือยัง” นวลขยับขึ้นมองนาฬิกา คำนวณเวลาว่องไวก่อนจะรีบลุกขึ้นนั่ง แต่เมื่อทุยจะลุกขึ้นตาม นวลกลับกดให้นอนลง “พี่จะไปรับลูกเป็นเพื่อนนะ” “เดี๋ยวค่อยไปก็ได้จ้ะ ขอนวลกินพี่ทุยก่อน ยังพอมีเวลา” หล่อนตอบก่อนจะเอื้อมมือมากอบกุมดุ้นยาวใหญ่ที่สงบตัวลง แต่แค่ฝ่ามือสัมผัส มันก็ขยายตัวเต้นระริกอยู่ในอุ้งมือ นวลเหลือบตามอง ‘ผัวรัก’ ที่หล่อนรับเขาเข้ามาได้เต็มหัวใจ หล่อนจะทำทุกอย่างให้พี่ทุยมีความสุขให้สมกับที่พี่ทุยทำให้หล่อนกับลูกมีความสุขเช่นกัน ฝ่ามือกำรูดเอาหนังย่นยู่ให้เปิดออก เผยให้เห็นหัวทุยทู่มีน้ำฉ่ำหล่อเลี้ยง นวลไม่รอช้าตวัดปลายลิ้นเลียเอาหยาดน้ำนั้นท
นวลกรีดร้องเสียงหลง ร่องฉ่ำตอดรัดปลายลิ้นที่จ้วงแทงเร็วรี่ แต่ทุยก็ยังไม่พอ เขาส่ายหน้าเข้าไปคลุกเคล้าปากจมูกและจ้วงลิ้นกวาดต้อนตวัดเอาหยาดน้ำท่วมท้นออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเขาอร่อยเหลือเกิน อร่อยปากอร่อยลิ้นจนอยากจ่อปากดูดเลียอยู่แบบนี้ทั้งวันทั้งคืน แต่ดุ้นที่แข็งปั๋งร่ำร้องอยากตะลุยเข้าไปแทนลิ้นก็เต้นตุบๆ ประท้วงร้องให้เขาพอ ทุยเคลื่อนใบหน้าออกจากร่องฉ่ำเยิ้ม ขยับขึ้นมาจูบดูดดื่มกับนวลอีกครั้ง และนวลที่แลกลิ้นพัลวัน ทั้งกอดรัดเนื้อตัวเขา ลูบไล้ฝ่ามือน้อยๆ สร้างความซ่านเสียวให้กับเขาก็ทำให้ทุยสุขใจเหลือเกิน “นวลจ๋า... พี่รักนวลนะ” “นวลก็รักพี่ทุยจ้ะ นวลพร้อมแล้ว” ความหมายจากคำพูดคือหล่อนพร้อมที่จะให้เขาสอดใส่ ทุยลุกไปยืนข้างเตียง ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวจนหมด จนเนื้อตัวเปล่าเปลือย และดุ้นยาวใหญ่ในกำมือก็ทำให้นวลตาลุกวาว เพราะขนาดนั้นใหญ่กว่าที่เคยได้รับ หล่อนอ้าปากค้าง กระเถิบตัวลุกขึ้นนั่ง ทุยคลานขึ้นเตียง ความใหญ่โตที่ไม่คิดจะปิดบังชี้ตรงมายังนวลที่ยังคงอึ้ง “นวล...” “จ้ะพี่” “พร้
“พี่ทุย...” ทุยเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อใน นวลให้ความร่วมมือถอดออกแต่โดยดี และนั่นก็ทำให้หน้าอกขนาดมหึมาจากการกักเก็บน้ำนม ปรากฏออกมาชี้หน้าของทุย ทุยโอบประคองสองเต้าขนาดใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองนวล “แต่วันนี้ พี่ขอแย่งลูกกินหน่อยนะ หิวจังเลย ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้กินอะไรเลย” “พี่ทุย... ซี้ด...” นวลแอ่นอกซี้ดปากเพราะเมื่อทุยพูดจบริมฝีปากเขาก็อ้าออกครอบครองเอาหัวนมข้างหนึ่งเข้าไปทันที ทุยดูดดื่มกลืนกินความมันปนหวานอ่อนอย่างเอร็ดอร่อย และก็ไม่ปล่อยให้อีกข้างที่ล้นทะลักน้อยใจ เมื่อเขาสลับข้างดูดดื่มจนนวลได้แต่แอ่นอกครางซี้ด “อื้อ... พี่ทุย... ซี้ด... เสียว... อื้อ... นวลเสียว...” เสียงหวานครางกระเส่าเร้าใจทุยที่สุด เขาเฝ้าฝันถึงวันเวลานี้ และเขาก็ได้ในสิ่งที่ใฝ่ฝันหา สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง นั่นคือการมี ‘เมียที่ดี’ นวลเป็นของขวัญที่ความขยันหมั่นเพียรและความซื่อสัตย์มอบให้ และค่ำคืนนี้เขาจะทำให้นวลมีความสุขที่สุด “พี่ทุย... ซี้ด... พี่ทุย... อื้อ...” นวลแหงนหน้าซี้ดปากด้วยความเสียวเพร
สีหน้าประหลาดใจของทุยยิ่งทำให้นวลยิ้มทั้งน้ำตา“เพราะนวลเชื่อว่า ผู้ชายคนนี้จะให้ความรักกับนวลและลูกได้ เชื่ออย่างหมดหัวใจ” นวลขยับเข้าไปซุกหน้ากับอกของทุย “จะมีผู้ชายสักกี่คนบนโลกใบนี้ ที่รักมั่นกับผู้หญิงคนเดียว รักผู้หญิงท้องแก่ที่ทั้งอ้วนทั้งจน แถมต้องมาทำคลอดตัดสายสะดือให้ลูกคนอื่นอีก ทั้งยังรับเป็นพ่อ รับเป็นเมีย ดูแลไม่ให้ขาดตก โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าใครจะมองว่าเป็นควายสมชื่อ” นวลยิ่งพูดก็ยิ่งสะอื้น เพราะนั่นคือคำนินทาที่น้องชายมาเล่าให้ฟัง ทั้งหล่อนยังเคยได้ยินกับหู ยามมีคนเดินผ่านหน้าบ้าน ต่างพูดคุยว่า ‘ทุย’ เป็นไอ้ทุยสมชื่อ รับเดนต่อจากพี่ธง และหล่อนก็เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้คงเข้าหูทุยเหมือนกัน แต่เขาก็ยังปฏิบัติกับหล่อนเสมอต้นเสมอปลาย ทำราวกับหล่อนเป็นเมียและจันทร์เจ้าเป็นลูกของเขาจริงๆ เพราะเมื่อครบกำหนดที่หล่อนต้องไปตรวจหลังคลอด หรือคุณหมอนัดตรวจจันทร์เจ้า คนที่กระตือรือร้นดูตารางนัดและเตือนไม่ให้หล่อนลืมก็คือเขา และเรื่องที่หล่อนรู้จากแม่ก็คือ ในวันที่หล่อนจะออกจากโรงพยาบาล พี่ธงไปเยี่ยมหล่อน แต่เจอกับพี่ทุยก่อน ผู้ชายสอ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทุยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเป็นสามีเป็นพ่อของลูก ลูกสาวมีชื่อว่า ‘ด.ญ.จันทร์เจ้า’ และยังไม่ทันรุ่งสางแม่และน้องของนวลที่ได้ข่าวจากคนมาเที่ยวงานลอยกระทงว่านวลเจ็บท้องก็รีบตามมา ทุยขอเป็นคนไปดำเนินการเรื่องใบเกิดของลูกเอง และไม่ลืมที่จะบอกกับแม่ของนวลว่าเขาตั้งใจรับจันทร์เจ้าเป็นลูก ด.ญ.จันทร์เจ้า แข็งแรงดี แต่เนื่องจากนวลคลอดลูกในรถกระบะทำให้คุณหมอขอให้นวลนอนโรงพยาบาลต่ออีกหลายวันเพื่อดูอาการอย่างละเอียด เมื่อถึงวันที่นวลออกจากโรงพยาบาล ทุยก็พานวลกับลูกมาไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองประจำจังหวัด เพื่อฝากฝังเด็กน้อยไว้ให้เป็นลูกเจ้าพ่อ “พี่ทุยจะไปไหนต่อจ๊ะ” นวลถามเพราะทุยไม่ได้เลี้ยวรถกลับไปยังทิศทางของบ้าน แต่กลับเลี้ยวเข้าไปในส่วนงานราชการประจำจังหวัด “ไปทำธุระต่อ” ทุยตอบพร้อมกับเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าที่ว่าการอำเภอ “ลงมาสินวล แม่รออยู่ทางโน้น” นวลมองตามแล้วก็เห็นแม่กับน้องยืนรออยู่ด้านบนที่ว่าการอำเภอจริงๆ “พี่ทุย” “ลงมาเถอะ พี่เป็นพ่อของจันทร์เจ้าแล้วนะ แล้วตอนนี้พี่ก็จะเป็นสามีของนวล”