แม่ทัพวิศรุฒยังมองท่อนเอ็นของตัวเอง กำลังเลื่อนเข้าไปในร่องนั้นอย่างต่อเนื่องช้าๆ และสุดท้ายเข้าไปมิดด้ามสุดโคน
“เอ็งไม่เจ็บเหรอ”
“เจ็บสิ แต่เดียวก็หาย หรือว่าเอ็งอยากลองบ้าง”
“ไม่” แม่ทัพวิศรุฒพูดเสียงห้วนอย่างดัง
“ถ้างั้นก็ดีแล้ว เอ็งอยู่เฉยๆ เดี๋ยวข้าจะมอบความสุขนี้ให้เอ็ง รับรองจะจำข้าไปจนวันตายอย่างแน่นอน”
สายตาของแม่ทัพวิศรุฒมองสะโพกอันกลมตึงอวบอิ่ม กำลังโยกขึ้นลงอย่างช้าๆ จึงเห็นท่อนเอ็นผลุบๆ โผล่ๆ ทีแรกเขายังรู้สึกเฉยๆ พอนานๆ เข้ารู้สึกอุ่นๆ ยิ่งร่องนั้นคับแคบเล็กจึงทำให้เสียดสีกับรอยหยัก ยิ่งนานเข้าแม่ทัพวิศรุฒลืมความไม่เหมาะไปในทันที เพราะเสียวปานจะกลืนกิน ยิ่งยิวโยกขึ้นลงเร็วจนเสียงดัง
“ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ”
“ท่านแม่ทัพเป็นอะไรหรือเปล่า ให้ข้าเข้าไปหาไหม” ทหารยามส่งเสียงออกมา
“อ่า อือ ไม่ต้อง” แม่ทัพวิศรุฒตะโกนออกไป
“เอ็งเบาๆ หน่อยเสียงดังเกินไป และอีกอย่างข้ากลัวหัก”
“ถ้าเอ็งกลัวหักก็ทำเองสิ เสยขึ้นมาเลยข้าจะอยู่เฉยๆ”
เพียงยิวหยุดนิ่งแม่ทัพวิศรุฒกระดกก้นขึ้นอย่างช้าๆ และด้วยความเสียว จึงทำเร็วขึ้นเสียงดังไม่แพ้กัน
“เอ็งก็ทำแรงเสียงดังเหมือนกันนั่นแหละ” ยิวเอ่ยขึ้นมาทันที
แม่ทัพวิศรุฒกำลังสนุกรสชาติแห่งรักรูปแบบใหม่ เขาจึงไม่ใคร่สนใจเสียงจะดังหรือไม่ดังอีกต่อไป มีเพียงแต่ความใคร่กระหายในรสสวาท จึงกระดกก้นไม่หยุดไม่หย่อนซอยขึ้นบนเรื่อยๆ ด้วยความมันส์และเสียวส่วนปลายท่อนเอ็น
“พอก่อน”
“ฮึ” แม่ทัพวิศรุฒหยุดกระดกกันทันที
ยิวถอนร่างออกแล้วนอนลงข้างๆ พร้อมยกขาทั้งสองข้างขึ้น แล้วหันหน้ามามองแม่ทัพวิศรุฒอย่างขอร้อง
“หมายความว่าอย่างไร”
“ต้องให้บอกอีกเหรอท่านแม่ทัพ”
แม่ทัพวิศรุฒก็พอรู้บ้างว่าต้องทำท่าไหน เขาจึงลุกขึ้นขยับร่างเข้าไปหว่างขาของยิว และจับสองขาของยิวโน้มต่ำลง ส่วนเขานั่งคุกเข่าจับท่อนเอ็นจ่อช่องทางรัก แล้วดันเข้าไปจนสุดพร้อมกระแทกสุดแรง จนยิวสะดุ้งเพียงครั้งเดียวแต่แม่ทัพวิศรุฒไม่ได้สนใจ ในช่วงเวลานี้มีแต่เพียงความใคร่กระหายอยากทำให้จบสิ้น
“ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ” แม่ทัพวิศรุฒยังกระแทกท่อนเอ็นเข้าช่องทางรักอย่างต่อเนื่องและยาวนาน อย่างไม่ย่อท้อด้วยมีพละกำลังเหลือเฟือ จึงโหมกระแทกกระทั้งอย่างไม่ปราณี มีแรงเท่าไรใส่ไปจนหมด
“อ่า อ่า อ่า อูว์” ยิวพยายามกลั้นอารมณ์ความเสียวไว้ แต่ไม่สามารถทำได้เพราะท่อนเอ็นของแม่ทัพวิศรุฒนั้นใหญ่ยาวกระแทกแทงถึงต่อมสวาท ทุกครั้งเมื่อมีการโยกสะโพกกระแทกแทงท่อนเอ็นเข้าไปในช่องทางรัก
แม่ทัพวิศรุฒหยุดกระแทกท่อนเอ็น แล้วจับขาทั้งสองข้างโน้มต่ำ และใช้มือคู่เดิมยันพื้นไว้ข้างลำตัวของคู่นอนอย่างยิว ส่วนบั้นท้ายยังไม่ยอมหยุดทำงานกระดกขึ้นลงอย่างรัวๆ ซอยยิกๆ ไม่ยั้งใส่สุดๆ ลึกอย่างเต็มกำลัง
สีหน้าของแม่ทัพวิศรุฒบ่งบอกว่าเสียวสุดยอด ปากเผยอเล็กน้อยตาหรี่ลงมีเสียงซี๊ดปนหายใจเป็นระยๆ แต่บั้นท้ายยังสุดยอดเหมือนเดิมกระดกติดๆ รัวๆ จนเสียงดังสนั่นเพราะเนื้อกระทบเนื้อโดนกันถี่เกิน
“เป็นอะไรเหรือเปล่าท่านแม่ทัพ” ทหารคนเดินถามไถ่
“เอ๊ะ บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วนะ”
แม่ทัพวิศรุฒตะโกนออกไปด้วยความโมโห แต่ท่อนเอ็นไม่ได้โมโหตามเลยไม่อ่อนตัวลง ยังแข็งแกร่งดุจเหล็กพร้อมกับกระแทกท่อนเอ็นอย่างไม่ยั้งอยู่แหมือนเดิม
ความเสียวซ่านท่อนเอ็นนั้นเริ่มคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ จนแม่ทัพวิศรุฒใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง เขาจึงโยกบั้นท้ายซอยถี่ๆ กระดกก้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จนเกือบน้ำในกายจะพุ่งกระฉูดออกมา
“อ่า อ่า อ่า ซี๊ด” ยิวเสียวซ่านสุดหัวใจจนท่อนเอ็นเกิดความแข็งขึ้นมา
“ท่านแม่ทัพทำอะไรเสียงดังไปหมดแล้ว อย่าทำร้ายองค์ชายเมธีนะ ดูเสียงร้องโหยหวนทรมานอย่างนั้น ท่านแม่ทัพ สงสารองค์ชายด้วยอย่างไงก็เคยรู้จักกันมาก่อน” จอมซึ่งกำลังจะมาหาแม่ทัพวิศรุฒตะโกนขึ้น เมื่อได้ยินเสียงของยิวนั้นครางด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย ให้พวกนี้ขัดจังหวะจริงๆ เลย อ่า อืม โอ๊ย” แม่ทัพวิศรุฒพยายามครางเบาๆ เพื่อไม่ให้ใครได้ยิน
“เอ็งหุบปากด้วยอย่างครางออกมา” แม่ทัพวิศรุฒพูดขึ้น
“อืม” ยิวพยักหน้า
“ไม่เป็นอะไรหออก องค์ชายเจ็บบ้องหูอยู่ เอ็งกลับไปได้แล้วข้าจะนอน”
“ยังไม่กลับข้ากลัวท่านแม่ทัพทำร้ายองค์ชายเมธี หรือพี่โสภณเขาดีกับข้ามาก ข้าไม่อยากให้ท่านแม่ทัพทำร้ายองค์ชายเมธี” จอมยังไม่หยุดเพราะเขาไม่รู้ว่าเสียงที่ดังขึ้นนั้นเป็นเสียงแห่งความสุขสุดยอด
“เอ่อ ข้าไม่ทำอะไรมันหรอก” แม่ทัพวิศรุฒตะโกนออกไป
แม่ทัพวิศรุฒคิดในใจว่าขืนชักช้ากว่านี้จอมคงพังประตูเข้ามาแน่ เพราะเขารู้ดีว่าเด็กคนนี้รักโสภณหรือองค์ชายเมธีตัวปลอมมาก
“เอ็งก็ทำเร็วๆ สิ” ยิวพูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
“อืม”
เมื่อเจอคำพูดของยิวที่เร่ง แม่ทัพวิศรุฒจึงไม่รอช้า โหมกระหน่ำกระแทกท่อนเอ็นแทงช่องทางรักอย่างต่อเนื่อง กระดกบั้นท้ายรัวๆ ซอยยิกๆ และทำอย่างรวดเร็วไม่หยุดไม่ยั้งจนเหงื่อไหลท่วมตัวหยดลงโดนเรือนร่างของยิวเป็นระยะ
เสียงแรกกระแทกยังดังต่อเนื่อง ความเสียวซ่านของของแม่ทัพวิศรุฒใกล้เข้ามาในอีกไม่ช้า เขาจึงรวบรวมกำลังกระแทกท่อนเอ็นแทงช่องทางรักรัวๆ จนกระทั่งน้ำในกายพุ่งกระฉูดใส่เข้าไปในช่องทางรัก กว่าจะหมดน้ำในท่อนเอ็นบั้นท้ายอันแข็งแน่น ก็ยังโยกไม่มีท่าทีจะหยุดในเวลานี้
“โอ๊ย ซี๊ด อ่า” แม่ทัพวิศรุฒส่งเสียงครางออกมาอย่างดังและยาวนาน ด้วยความเสียวสุดๆ จนเกินห้ามได้
“ท่านแม่ทัพเป็นอะไรอีก”
“ไม่เป็นไร ขืนพูดมากจะสั่งตัดหัวให้ขาดเลย”
“ขอรับไม่พูดแล้ว”
เมื่อทุกอย่างเงียบสงบ แม่ทัพวิศรุฒจึงถอนท่อนเอ็นออกจากช่องทางรัก แล้วล้มตัวนอนลงข้างๆ ยิวที่นอนนิ่งและท่อนเอ็นของเขาก็ได้อ่อนตัวลง
“เป็นไงบ้างดีไหม” ยิวหันมาถามและมองใบหน้าของแม่ทัพวิศรุฒที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
“ก็ดี แต่ที่บ้านเมืองเอ็งเขาช่างหาเรื่องทำกันไปได้ แต่ข้าก็ว่าใช้ได้ดีทีเดียวไอ้ตรงนั้นของเอ็ง ข้าไม่นึกไม่ฝันว่าจะทำแบบนี้ได้ รู้แบบนี้ข้าไม่ปล่อยให้ตัวเองอดอยากปากแห้งอย่างนี้หรอก” แม่ทัพวิศรุฒใช้มือปาดเหงื่อที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
“แล้วไม่คิดจะแต่งงานเหรอ เห็นอยากเมียใจจะขาดนิ”
“มีแล้วเมียก็นอนอยู่ตรงนี้ไง ส่วนเมียผู้หญิงข้าก็ต้องมีอีกด้วยสินะ แต่ตอนนี้ข้าไม่อยากมีแล้ว กลับไปข้าจะทำอย่างไงดี” แม่ทัพวิศรุฒรู้สีกสับสนกับตัวเอง เพราะตอนนี้ถึงจะรู้ว่ารัก แต่ก็เป็นรักที่คนอื่นไม่อาจยอมรับได้
“อืม ข้าจะรอดู” ยิวยิ้มนิดๆ และนิ่งคิดบางเรื่องอีกครั้ง
“เอ็งคิดอะไร” แม่ทัพวิศรุฒสังเกตเห็นสีหน้าของยิวที่เปลื่ยนไป
“คิดว่า ถ้ากลับไปยังเมืองศิลา ข้ากับเอ็งคงไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกัน”
“มีสิ ข้าเป็นใคร ขืนไม่ให้ข้าเจอเอ็ง ข้าจะยกทัพก่อกบฏให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย”
“เฮ้ย” ยิวพูดออกมา
“ทำไมแปลกใจอะไร ก็ดันมาขัดขวางเรื่องความรักของข้า” แม่ทัพวิศรุฒเผลอพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะพูดออกมาจากความรู้สึกข้างใน ที่มีมานานแต่ยังไม่เคยได้เปล่งวาจาออกมาให้ยิวได้ยิน
“เอ็งรักข้าเหรอ” ยิวอ้าปากค้างด้วยความสับสนมึนงงในสิ่งที่เกิดขึ้นและได้ยินเมื่อครู่
“เอ่อ คงงั้นมั้ง ถ้าไม่รักเองข้าจะให้อภัยเอ็งทำไม สิ่งที่เอ็งทำกับข้าไม่น่าให้อภัยเลยนะ แล้วเอ็งรักข้าด้วยไหม ข้าอยากได้ยินคำตอบจากปากเอ็งเดี๋ยวนี้”
“อืม ก็รักสิ ถ้าไม่รักจะยอมเหรอ ไอ้นั่นของนายอย่างใหญ่ ส่วนตรงนั้นของข้าหรือของใครๆ ไม่ได้หลวมซะหน่อย ถ้าไม่รักไม่ยอมหรอกนะ”
ยิวไม่รู้เหมือนกันว่าได้เผลอใจไปรักแม่ทัพวิศรุฒไปตั้งแต่เมื่อไร เหตุการ์เมื่อครู่เขาแค่อยากสนุกแต่เมื่อได้ทำจริงๆ จึงได้รู้ใจตัวเองอย่างกะทันหันไม่ได้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว
กัสนั่งอ่านนิยายของเขาที่เดินเรื่องด้วยตัวมันเอง เขาพยายามจะลบทิ้งแต่ไม่สามารถทำได้ แค่นั้นยังไม่พอโพสต์ลงเองอีกต่างหาก กัสจึงพยายามหาทางแก้ไขและจะเปลื่ยนเนื้อเรื่องไปตามทางที่วางไว้ เพราะตอนนี้เขารู้สึกนิยายเรื่องนี้ออกทะเลไปไกลมาก
แต่ก็มีสิ่งที่แปลกดันมีคนมาอ่านกันเยอะถล่มทลาย นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กัสลังเลจนไม่กล้าจะแตะนิยายเรื่องนี้
ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี
ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่
กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา
เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ
กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง
ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว