Home / วาย / นิยายรักสองภาพ / ความเจ็บปวด ความทรมาน

Share

ความเจ็บปวด ความทรมาน

last update Last Updated: 2024-12-07 10:50:25

ความโกรธความแค้นเคืองสุมอกจนอึดอัดยากเอาออกไป แม่ทัพวิศรุฒกลุ้มใจความเครียดถาโถม เนื่องจากตัวต้นเหตุนอกจากยิวที่เขาเข้าใจว่าเป็นองค์ชายเมธีจริงๆ ซึ่งเป็นลูกของราชาเมฆา ส่วนตัวเขาที่มีแหวนของราชาเมษา ถ้าเกิดความคิดของแม่ทัพวิศรุฒเป็นจริง นั่นเท่ากับว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน

ถึงแม้เขาจะโกรธแค้นยิวปานใด แต่ด้วยความผูกพันครั้งอดีตและเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน แม่ทัพวิศรุฒไม่รู้ว่าจะทำเช่นใด เขาจึงหยิบแหวนที่สลักชื่อเมษามาดู ยิ่งเพ่งพินิจดูชื่อยิ่งปวดใจอย่างร้าวราน

“ท่านแม่ทัพคิดอะไรอยู่เหรอขอรับ” จอมเข้ามาเงียบๆ เห็นแม่ทัพวิศรุฒยืนนิ่งๆ

“เปล่า เอ็งเข้ามาทำไม” แม่ทัพวิศรุฒกำแหวนไว้แน่น

“คือข้า” จอมอ้ำอึ่ง

“เอ็งสงสารไอ้โสภณ ไม่ใช่สิ องค์ชายเมธีหรือ”

“ขอรับ”

“จะมาขอร้องข้าให้ปล่อยตัว หรือ ไม่ให้ใช้งานเยี่ยงทาสใช่ไหม” สายตาอันแข็งกร้าวจ้องมองจอมชายหนุ่มรุ่นน้อง

“ขอแค่ไม่ให้ใช้งานหนักก็พอขอรับ”

“เมื่อเอ็งขอร้อง ข้าก็จะให้ตามที่เอ็งต้องการ แต่มันยังต้องทำงานอยู่เหมือนเดิม” เสียงดุดันดังก้องกังวานเข้าเต็มประสาทของจอม

“จะให้องค์ชายเมธีทำอะไรเหรอขอรับ”

“ไม่ต้องเรียกมันว่าองค์ชาย เรียกว่าโสภณ”

“ขอรับ” จอมก้มหน้ารับคำ

“ข้าจะให้ไอ้โสภณไปเก็บกวาดขี้ม้าในคอก เอ็งเห็นเป็นเช่นไรมันยังดีกว่าไปทำงานหนักๆ ไม่ใช่รึ” แม่ทัพวิศรุฒยิ้มที่มุมปาก

“ขอบคุณขอรับ ถ้างั้นข้าไปก่อนนะขอรับ”

แม่ทัพวิศรุฒไม่พูดอะไรต่อจากนี้อีก ได้แต่พยกหน้าให้จอมและมองดูเด็กหนุ่มคนนี้วิ่งออกไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนตัวเขานั้นอารมณ์ตรงข้ามกับเด็กหนุ่มนั่นอย่างสิ้นเชิง เพราะยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจอย่างยวดยิ่ง เขาจึงเดินตามจอมออกไปอย่างช้าๆ เพื่อดูหน้ายิวให้สาแก่ใจ

เมื่อแม่ทัพวิศรุฒไปถึงคอกม้าเขาก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสอนงานอยู่พัก หลังจากชายหนุ่มผู้นั้นได้ออกไปจากคอกม้า เขาจึงเดินเข้าไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งถึงที่หมาย ซึ่งสิ่งที่แม่ทัพวิศรุฒเห็น คือยิวกำลังตักขี้ม้าใส่ตะกร้าเพื่อนำไปทิ้ง

“จากองค์ชายสู่คนเก็บขึ้ม้า ชีวิตช่างพลิกผันสิ้นดี” แม่ทัพวิศรุฒกอดอกมองยิวอย่างหยามเหยียด

“ไม่รักกันแล้วไม่ต้องมาพูดให้เจ็บซ้ำน้ำใจ” ยิวมองค้อนอย่างสุดเหวี่ยง

“ใครรักมึง กูไม่เคยรักมึง ที่กูบอกว่าอยากได้มึงเป็นเมีย ก็แค่อยากลองเฉยๆ ไม่ต้องการมึงจริงๆ ไอ้โสภณ”

“แล้วแต่นายจะพูดหรือทำอะไรเอาเต็มที่เลย จะได้ไม่ต้องมีเวรต่อกันอีก” ต้อมยังตักขึ้ม้าไม่หยุด

“ปากดีนะมึง ถ้าไอ้จอมไม่ไปขอร้อง ป่านนี้มึงไปอยู่กลางป่าตัดไม้หรือไม่ก็ตักน้ำให้พวกกูกิน ส่วนกลางคืนอาจจะให้มึงเป็นนายบำเรอทหารของกู”

“เอาเลยสนุกดีชอบด้วย ดีกว่าตักขึ้ม้าอีก เราจะทำให้ถึงใจทหารพวกนั้นเลย ส่วนนายก็ให้อดอยากปากแห้ง มองลูกน้องมีความสุข”

“ไร้ยางอายสิ้นดี” แม่ทัพวิศรุฒรู้สึกไม่พอใจคำพูดนี้อย่างมาก ถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด

“มันก็ยังดีกว่าตักขึ้ม้าเหม็นๆ เหมือนหน้านายนั่นแหละ”

“ไอ้โสภณ” แม่ทัพวิศรุฒเดินเข้าไปใกล้ๆ

แม่ทัพวิศรุฒเข้าไปจับข้อมือของยิวและบีบอย่างแรง ด้วยความโมโหในความปากดีและรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของยิว เพราะถ้ายิวทำเช่นนั้นจริงเขาคงจะทำใจไม่ได้อย่างแน่นอน

“ถ้ามึงกล้าทำมึงโดนตีนกูแน่”

“ทำไม หวงเหรอ”

“น้ำหน้าอย่างมึง แค่เห็นก็จะอ๊วกแล้ว อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย” แม่ทัพวิศรุฒแสยะยิ้ม

“คอยดูคืนนี้แหละ เราจะมีอะไรกับทหารสักคนหนึ่ง ช่วงนี้กำลังคันอยากได้ผู้ชาย” ยิวยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แม่ทัพวิศรุฒ

“หน้าด้าน พูดมาได้ไม่กระดากปากบ้างเลย”

“ไม่ ของมันชอบ”

แม่ทัพวิศรุฒทนคำพูดของยิวไม่ไหว เขาจึงปล่อยมือยิวแล้วพยายามสูดหายใจลึกๆ เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่หงุดหงิดให้ออกไปจากสมอง

“กูนับถือมึงจริงๆ ยอมทำได้ทุกอย่าง แม้จะลดศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อความอยู่รอด ยอมเป็นไส้ศึก ยอมปลอมเป็นผู้หญิง ยอมมีอะไรกับทหาร แต่ก็อีกนั่นแหละกูไม่เข้าใจมึงจริงๆ มึงทำไปเพื่ออะไร ทั้งที่แม่ทัพวิหค รองแม่ทัพวิจารณ์ หรือกระทั่งไอ้เสือเข้ม ฝีมือฉกาจฉกรรจ์ทั้งนั้น อ่อเข้าใจแล้ว นิสัยเหมือนราชามเมฆานี่เอง ยอมทำทุกอย่างเพื่อบัลลังก์ แม้กระทั่งฆ่าพี่น้องและหลานของตัวเอง” เมื่อแม่ทัพวิศรุฒคิดถึงเรื่องนี้เขาถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ

“เหรอ” ยิวยิ้มหยัน เพราะเขารู้ทุกอย่างว่าใครเป็นลูกใครจากนิยายที่อ่าน

“มึงยิ้มอะไรไอ้โสภณ” แม่ทัพวิศรุฒมองตาขวาง

“ยิ้มความโง่ของนายไง เรารู้ทุกอย่างแต่เราจะไม่บอกนายอย่างเด็ดขาด” ยิวเผลอพูดออกไปไม่ทันได้คิดด้วยความโมโห

“มึงรู้อะไรบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะไอ้โสภณ”

“เราไม่บอก เพราะเราบอกนายไปแล้วว่าเราไม่ใช่องค์ชายเมธี ถึงบอกอะไรนายไปอีกนายคงไม่เชื่อหรอก”

“มันอยู่ที่กูจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่ใช่ที่มึงบอกมึงรู้เรื่องอะไร ถ้าไม่บอก กูจะตบบ้องหูมึงให้หันทีเดียว”

“ไม่บอก ปล่อยให้โง่อยู่อย่างนั้นแหละ” ยิวหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ

“กูบอกมึงอีกครั้งว่าจะบอกไหม ถ้าไม่บอกอย่าหาว่ากูไม่เตือน”

“ไม่บอก ไม่บอก ไม่บอก” ยิวพูดย้ำๆ ซ้ำด้วยความสะใจอย่างยิ่ง

“ไม่บอกเหรอ ผลัวะ” มือหนาๆ ตบไปที่บ้องหู

เพียงมือหนาๆ สัมผัสบ้องหูอย่างหนัก จนทำให้ยิวรู้สึกชาและหมดสติกำลังจะล้มลงฟุบกับพื้น แม่ทัพวิศรุฒเห็นเช่นนั้นเขารู้สึกตกใจอย่างมาก จึงรีบไปพยุงร่างของยิวไว้ในอ้อมแขน

“ไอ้โสภณ โสภณ โสภี” แม่ทัพเขย่าร่างยิวเป็นการใหญ่แต่ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมา

ด้วยความเป็นห่วงยิวยิ่งนัก แม่ทัพวิศรุฒจึงรีบยกร่างของยิวไว้ในอ้อมแขน และรีบวิ่งไปยังห้องชั่วคร่าวของตัวเอง พร้อมกับตะโกนสั่งทหารให้ตามหมอทหารเข้าไปยังห้องของเขา เมื่อแม่ทัพวิศรุฒมาถึงห้อง จึงรีบว่างร่างของยิวไว้บนเตียงทันที พร้อมเดินไปเดินมาด้วยความกังวล จนกระทั้งหมอทหารเข้ามาพร้อมกับทันและจอม

“ดูอาการองค์ชายเมธีหน่อยสิ เผื่อเป็นอะไรไปมันยังมีความสำคัญอยู่ เพราะเป็นเชลยศึกเอาไว้เป็นตัวประกันได้”

“ขอรับ ว่าแต่องค์ชายไปโดนอะไรมานี่ แก้ม บ้องหูแดงไปหมด”

“ไม่ต้องถามให้มากความ มีหน้าที่รักษาก็รักษาไป”

“ขอรับ”

หมอทหารได้ตรวจชีพจรและรอยแดงตรงบ้องหูสักพัก ส่วนแม่ทัพวิศรุฒนั้นแท่บจะตะบันหน้าหมอทหารอีกคน เพราะช้าเหลือเกินด้วยความอยากรู้ใจจะขาด แต่ก็อดกลั้นอารมณ์ความรู้สึกไว้ไม่ให้ใครได้เห็น แต่ก็ไม่สามารถปิดบังทันกับจอมได้ เพราะสองคนนี้รู้ใจแม่ทัพวิศรุฒเป็นอย่างดี

“ว่าไงหมอ” รองแม่ทัพทันถามแทน เพราะรู้ว่าแม่ทัพวิศรุฒปากแข็ง

“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่บอบซ้ำนิดหน่อย เดี๋ยวข้าไปจัดสมุนไพรมาประคบ และบางส่วนต้มไว้ดื่มกิน”

“ไม่เป็นไร ทำไมยังตื่นล่ะ” จอมถาม

“คงจะเจ็บและมึนนั่นแหละ ไม่เกินคืนนี้หรอกเดี๋ยวก็ฟื้น”

“ขอบคุณหมอมาก ถ้างั้นรีบไปจัดยาเถอะ” รองแม่ทัพวิศรุฒพูดขึ้นอีกครั้ง และมองหน้าจอมพร้อมอมยิ้มนิดๆ

ความรู้สึกของแม่ทัพวิศรุฒตอนนี้โล่งอกเป็นอย่างมาก แต่เก็บอาการนิ่งเฉยไว้บนสีหน้าที่ราบเรียบ

“ถ้าอย่างนั้นผมจะพาพี่โสภณไว้ที่ห้องขอผมนะขอรับ” จอมเอ่ยขึ้นและเดินเข้าไปหายิว

“ไม่ต้อง เอาไว้ที่นี่แหละ เผื่อมันตื่นขึ้นมาข้ายังมีเรื่องที่จะสอบถามมันอีกเยอะ” แม่ทัพวิศรุฒเสียงเข้มขึ้นมาทันที

“ให้พี่โสภณนอนนี่แล้วแม่ทัพจะนอนไหนล่ะครับ”

“เดี๋ยวข้าจะอุ้มมันนอนกับพื้น ส่วนข้าก็นอนบนเตียงนั่นแหละ”

“ข้าก็นึกว่าท่านแม่ทัพจะนอนบนเตียงกับโสภณซะอีก” ทันยิ้มนิดๆ

“เตียงเล็กขนาดนี้จะไปนอนได้อย่างไรกัน พูดไปเรื่อยไม่คิดก่อนพูด”

“ขอโทษขอรับ” ทันก้มหน้าอมยิ้มนิดๆ

“ไม่มีอะไรแล้วพวกเอ็งออกไปได้แล้ว” แม่ทัพวิศรุฒมองหน้าทั้งสองหนุ่มอย่างดุดัน

เมื่อสองหนุ่มเดินลับหายไปจากห้อง แม่ทัพวิศรุฒเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ ยิว พร้อมกับใช้มือหนาๆ ลูบที่บ้องหูของยิวด้วยความเป็นห่วง เขาไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกันทำไมต้องห่วงยิวขนาดนี้

กัสรู้สึกสะใจกับตอนนี้มาก หลังจากที่ห่างหายจากงานเขียนไปนาน และถึงแม้ยังสงสัยว่าใครเป็นคนเขียนนิยาย แต่ค่อนแน่ใจว่าเป็นยิวนั่นแหละที่เขียน ทั้งที่ความจริงกัสเป็นเขียนแต่เขียนด้วยการเข้าไปอยู่ในนิยายด้วยตัวเอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status