Home / รักโบราณ / นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน / บทที่ 4 บทที่ไม่มีนักเขียนคนไหนเขียนไว้

Share

บทที่ 4 บทที่ไม่มีนักเขียนคนไหนเขียนไว้

ในกระจกเงานั้น...คือภาพของหญิงสาววัยแรกแย้ม ผิวขาวอมชมพูราวกลีบดอกพีชที่เพิ่งแย้มบาน ผิวพรรณของเธอสะท้อนแสงเช้าแวววาวนวลเนียน ไม่มีรอยใดต้องซ่อน

เส้นผมยาวดำขลับ หยักศกเล็กน้อยจากไอน้ำ ปล่อยยาวระต้นคอจนถึงสะโพก ราวม่านราตรีที่คลุมความฝันไว้ทุกเส้นสายใบหน้าของเธอได้รูป พวงแก้มกลมละมุน ดวงตากลมโตซ่อนแววฝันและความอ่อนโยนขนตายาวพริ้มรับแสงธรรมชาติ จมูกโด่งรั้นน้อย ๆ เพิ่มความน่าเอ็นดูริมฝีปากอิ่มนุ่มแดงจางราวดอกทับทิมที่เพิ่งแตะน้ำค้างยามรุ่งสาง

เรือนร่างของไป๋หลิน...ช่างเป็นหุ่นซ้อนรูปที่บรรพชน ในบทกวีจะต้องเอ่ยชมทรวงอกได้รูปแน่นกระชับนุ่มนวลไม่ใหญ่เกินไป แต่สะกดตาให้ไม่อาจละเอวคอดกิ่ว จนคนมองต้องกลืนน้ำลาย กลมกลืนรับกับสะโพกผายได้สัดส่วนทุกเส้นสายช่าง ถูกวาดขึ้นจากปลายพู่กันเทพยดา

ในสายตาของใครคนหนึ่งเมื่อคืนนี้...เธออาจจะเป็น ภรรยาแต่ในกระจกเช้านี้เธอคือ หญิงสาวเต็มตัว ทั้งน่าทะนุถนอม ทั้งงดงามเกินคำใดจะพรรณนา และที่สำคัญที่สุด...ไป๋หลิน ในกระจก…คือหญิงสาวผู้กำลังจะเปลี่ยนชะตาชีวิตในนิยายที่เธอเคยรู้ตอนจบ "ฉันจะหนีตอนนี้ไม่ได้... เพราะในจวนมีทหารเฝ้าแน่นหนา และฉันเพิ่งโดนเขาเย- จนเดินแทบไม่ไหว"

เธอเหลือบมองขาเปลือยของตัวเองใต้ชุดหลวม

หัวนมยังขึ้นเป็นไตจากลมเช้า ผิวหนังตรงต้นขาแดงช้ำ จากแรงมือเขาเมื่อคืน แต่ฉันยังมีเวลาอีกสองคืน

คืนนี้.. เธอจะซักผ้าในห้องอาบน้ำ แล้วซ่อนชุดบ่าวรับใช้ไว้ใต้ถังไม้

คืนที่สอง.. เธอจะแอบขโมยตราประทับจากห้องหนังสือของเขา เพื่อผ่านประตูทางออกนอกเมือง

คืนที่สาม.. ช่วงที่บ่าวสาวเผลอ..เธอจะหลุดออกจาก

บทที่เขียนไว้ ไม่มีใคร…ไม่มีนักเขียนหน้าไหนจะ “กำกับ” เธอได้อีกแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้โง่พอจะหนีแบบไม่มีทางกลับ

สายลมค่ำพัดแรงขึ้นเมื่อดวงจันทร์ลอยเหนือเส้น ยอดไม้ เสียงม้า เสียงล้อเกวียน เสียงคนเมา เสียงน้ำรินลงชาจากกระบอกไผ่ปะปนกันในโรงเตี้ยมชายเมืองตะวันตกที่ห่าง จากเมืองหลวงหลายสิบลี้

ไป๋หลินดึงผ้าคลุมให้ปิดไหล่ ร่างเธอซ่อนอยู่ในมุมมืด ของห้องพักชั้นบนกลิ่นยา กลิ่นฝุ่น กลิ่นฟางบนเตียงแข็ง ๆ ที่ไม่อบอุ่นเท่าผ้าห่มในจวนขุนนางแต่ที่นี่…คือ “อิสระ”

เธอหนีออกมาได้สำเร็จเมื่อคืนผ่านเงาทหาร ผ่านประตูเมืองผ่านกับดักของพล็อตเดิมที่เขียนไว้ให้เธอตายด้วยยาพิษ ในสามวันแต่ตอนนี้ วันที่สามผ่านไปแล้วเธอยังไม่ตาย ไม่มีน้ำชา วางให้เธอไม่มีคำสั่งประหารไม่มีบท… เหลือ

เธอกำลัง “ลบ” พล็อตเดิม ทีละฉาก แต่…เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นใต้พื้นไม้ โรงเตี้ยมที่เคยเงียบงันในยามค่ำเหมือนจู่ ๆ ก็กลั้นหายใจ ประตูไม้ที่ขึ้นสนิมแง้มแผ่วเบา ก่อนเงาสูงใหญ่ ของใครบางคนจะทาบลงบนผนัง หัวใจของไป๋หลินกระตุกวูบ

เธอชะโงกหน้ามองลอดรอยแตกตรงไม้กั้นบานหน้าต่าง…

ชุดคลุมขุนนางสีเข้มแหวกสายลม เปื้อนฝุ่นทางไกลแต่ยัง ทรงอำนาจ ใต้ผ้าคลุมตัวนั้นคือร่างแกร่งสูงสง่า ไหล่กว้าง ขายาว เส้นผมรวบไว้หลวม ๆ แบบที่เธอเคยเห็นในเงาเทียนยามค่ำคืน

เขาไม่ควรอยู่ที่นี่ เขาไม่ควรตามเธอมาเพราะ…ในพล็อตเดิม หยางเซวียนไม่เคยสนใจตัวประกอบอย่างเธอแม้แต่นิดเดียว!

แต่แล้ว…เสียงของเขาก็ดังขึ้นกลางโรงเตี้ยมทุ้ม แผ่ว และชัดเจนราวกับจงใจให้เธอได้ยิน

หากเจ้าเห็นข้า…ก็ออกมา “ข้ามิคิดไล่ตามผู้ใดให้เหนื่อยเปล่า” แต่กับเจ้า…ข้าจะให้โอกาส...เพียงครานี้เท่านั้น

เสียงนั้นแทงเข้ากลางใจของไป๋หลินหญิงสาวกำชายเสื้อแน่น ริมฝีปากสั่นน้อย ๆ เธอไม่รู้ว่าในน้ำเสียงนั้นคือคำขู่ คำสั่ง หรือคำวอน แต่ที่แน่ ๆ มันไม่ใช่ประโยคที่เคยมีในนิยายต้นฉบับ

เธอกำลังเจอบทใหม่…

บทที่ไม่มีนักเขียนคนไหนเขียนไว้บทที่ ‘หยางเซวียน’ ตัดสินใจเองและบทที่ ‘ไป๋หลิน’ … ต้องเลือกว่าจะหนีต่อไป

หรือหันกลับไป “เขียนเรื่องนี้ร่วมกัน” กับเขา

เสียงรองเท้าหนังขัดมันก้าวเข้ามาใกล้ ลมหายใจ เธอสะดุด ใจเต้นแรงไม่แพ้ตอนเข้าหอคืนนั้น แต่นี่ไม่ใช่ความตื่นเต้นจากการถูก “ครอบครอง” มันคือความรู้สึกของใครบางคน ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็น “นางเอกตัวจริง” เธอกระซิบกับตัวเองเบา ๆ

“ถ้าเจ้าคือคนเขียนบทตอนนี้…

ก็อย่าเขียนจบแบบที่ข้าคาดเดาได้เลย…หยางเซวียน”

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 50 ราตรีแห่งพันธะคำสาปกับโลหิตแรก

    เปลวเทียนล้อมร่างนางทั้งสี่ทิศ กลิ่นกำยานดำล่องลอย คล้ายกระชากสติให้หลุดจากโลกความจริงฝ่ามือของโม่อวี้วางบนหน้าผากนางแต่เขาไม่ใช่คนที่จะเริ่มพิธีนี้ตรงกลางเรือน กลางเสื่อปูรองศักดิ์สิทธิ์ที่โรยด้วยกลีบบัวสีชาด เขากำลังถอดเสื้อคลุมเผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง รอยแผลเก่าเป็นทางยาวไม่ใช่จากศึก แต่จากอดีตที่เขาตัดออกจากตัวเองไม่ได้ไป๋หลินนอนนิ่ง เรือนผมหล่นกระจายบนหมอนดอกไม้แห้งใบหน้าซีด แต่ผิวเริ่มอุ่นขึ้นเพราะปราณที่หล่อเลี้ยงจากมือของ บุรุษผู้หนึ่ง “ฮั่นซู” เขานั่งข้างนาง นิ่ง ราวกับไม่มีสิ่งใดในโลกนอกจากชีพจรของนางแล้วค่อย ๆ หยิบมีดเล่มเล็ก ปลายคมสะท้อนแสงเทียน เขากรีดปลายนิ้วของตนเองอย่างเรียบ เงียบ ไม่หวั่นไหว หยดเลือดแรก แดง สด ไหลออกช้า ๆ เขยิบเข้ามา ประคองใบหน้านางด้วยมือเดียวจรดนิ้วนั้นที่ริมฝีปากนางเบา ๆ เสียงเขาต่ำ… เกือบกลืนกับลมหายใจของพิธี“เจ้าหลับอยู่…แต่ข้ารู้ว่าเจ้าจะได้ยิน…” “…นี่คือเลือดของข้า คืนแรก…ของเจ็ดคืนแห่งพันธะ” เขาแตะนิ้วนั้นที่ริมฝ

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 49 สามราตรีสุดท้าย ก่อนโลกจะลืมชื่อเธอ

    ค่ำคืนหลังการเฉลิมฉลอง ทั่วทั้งวังหลวงถูกห่มด้วยแสงตะเกียงและเสียงหัวเราะเหล่าขุนนางชูจอกสุรา เสียงดนตรีดังก้อง แคว้นเว้ยเพิ่งเปลี่ยนบัลลังก์ แต่ผู้คนเชื่อว่าชัยชนะนั้นมั่นคงไม่มีใครรู้เลยว่า เธอ หญิงที่เปลี่ยนชะตานิยายทั้งเรื่องกำลังจะตายกลางสวนหลังตำหนัก ใต้เงาจันทร์จาง ร่างของไป๋หลินเอนพิงต้นหลิว มือข้างหนึ่งกำแน่นกับอก ริมฝีปากขาวซีด ลมหายใจสั้นเหมือนเทียนที่ใกล้ดับพิษภายในกายกำลังกัดกินเส้นลมปราณ คำสาปที่ไม่เคยหาย กลับมาครั้งสุดท้าย เพื่อทำหน้าที่ของมัน“พิษ ยังไม่จบ” เธอกระซิบแทบไร้เสียง “พวกเขา ไม่ควรเห็นฉันตาย” และก่อนที่สติจะหลุดร่างหนึ่งในชุดนักพรตสีเงาหมอกก็ปรากฏตรงหน้าเธอเงียบ เร็ว เหมือนรู้มาก่อนโม่อวี้ ผู้ที่ไม่อยู่ในงานเลี้ยง ผู้ที่ไม่เคยต้องถามใคร ผู้ที่รู้ด้วย “ญาณ” ว่าหญิงที่เขาเฝ้ามองในทุกภพชาติ กำลังจะตายตรงนี้เขาคุกเข่าลงข้างเธอ วางฝ่ามือกลางหลังนาง กระแสจิตแทรกเข้าสำรวจ และเมื่อเจอเส้นพิษ ดวงตาเขาปิดลงช้า ๆ “เหลือเวลาสามราตรี”ไม่มีเสียงหวีดร้อง ไม่

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 48 เพียงห่วงฝันตื่นหนึ่ง…พร้อมหัวใจที่แตกสลาย

    คนผู้นั้นไม่กล้าเดินผ่าน เขาเห็นร่างของนางในท่ากึ่งเปลือย สะโพกขาวโค้งรอรับลิ้น เห็นใบหน้าของหยางเซวียน แนบแน่นกับหว่างขา จับต้นขาเธอไว้แน่นจนร่องรักปลิ้นขึ้นทุกที ที่เขาดุนลิ้นเข้าไป“เสร็จให้ข้าอีกครั้ง... ครั้งนี้ต่อหน้าข้า” เขากระซิบ ทั้งที่ลิ้นยังวนไม่หยุด เสียงครางแผ่วของเธอหลุดจากปาก กลั้นไม่ได้ มือจิกหิน เล็บเกร็งแน่น สะโพกเธอกระตุกพรืดแล้วกระตุกอีกซู่… เสียงน้ำตกกลบแทบไม่ทันเสียงครางในลำคอเธอแตกตรงนั้น แตกบนปลายลิ้นของเขา น้ำเธอไหลซึมเข้าปากเขาเต็ม ๆ พร้อมเสียงหอบพร่าอีกฟากของม่านน้ำตก เงาร่างที่หลบมองถึงกับเบือนหน้าไปหัวใจเต้นแรงเหมือนจะระเบิด…แต่ขาเขายังไม่กล้าขยับ เพราะภาพนั้น… ยังฝังอยู่ในหัวเธอกำลังเสร็จ ไม่ใช่คนธรรมดาที่พาเธอถึง แต่คือ หยางเซวียน ผู้ที่เลียกลีบของเธอด้วยความรัก... และสายตาที่เธอไม่ยอมให้ใครนอกจากเขาม่านน้ำตกยังซัดกระแทกผนังหินไม่หยุด แต่เสียงมันเบากว่าเสียงหอบถี่ของเธอในตอนนี้ ร่างเธอเปลือยครึ่งท่อน ขาทั้งสองถูกจับแยกออก มือยังสั่นระริกแม้จะไร้เชือก

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 47 นางยืนอยู่ที่นี่ ข้างบัลลังก์อันสูงส่ง ทว่าไม่ใช่ในฐานะจักรพรรดินี

    ข้างม่านไหมบางสีงาช้าง หญิงสาวในชุดผ้าไหมสีอ่อนยืนอยู่เงียบงันอาภรณ์ของนางพลิ้วไหวเมื่อสายลมพัดผ่าน เป็นชุดกระโปรงยาวลากพื้น สีชมพูอ่อนเจือกลีบบัว ปักลายบุปผางามด้วยดิ้นทองละเอียดประณีตดอกโบตั๋นบานสะพรั่งกระจายไปตามสาบเสื้อและชายกระโปรง ดุจสวนดอกไม้ที่เบ่งบานใต้แสงจันทร์แขนเสื้อกว้างแบบหรูหรา ปักลายเถาไม้เลื้อยทอดตัวอ่อนช้อยจนสุดชายผ้าเอวคอดถูกรัดด้วยสายรัดผ้าไหมปักดิ้นเงิน แทรกด้วยลูกปัดหยกเล็กละเอียด เส้นผมถูกรวบครึ่งศีรษะด้วยปิ่นหยกขาวรูปกลีบดอกไม้ ทิ้งปลายผมดำขลับยาวสลวยลงมาแม้จะไม่ประดับมากนัก ทว่าทุกอย่างบนเรือนร่างล้วนบรรจงประดับด้วยความละเมียดละไม งามอย่างมีสง่า... ราวภาพในฝันนางกำลังยืนเงียบอยู่ในกลุ่มข้าหลวงนางใน ไร้ตำแหน่ง ไร้ฐานะ แต่ในสายพระเนตรขององค์จักรพรรดิกลับมองนาง… ราวกับอัญมณีเพียงหนึ่งเดียวที่ทั้งโลกมิอาจหาใดเทียบเคียงนางยืนอยู่ที่นี่ ข้างบัลลังก์อันสูงส่ง ทว่าไม่ใช่ในฐานะจักรพรรดินี นางเพียงมายืน ณ ที่แห่งนี้…เพราะคำขอสุดท้ายจากเขาคำขอที่เปลี่ยนฉากสุดท้ายของเรื่องราว ให้ไม่ใช่เพียงการจากลาแต่เป็นบทส่งท้าย...ของหัวใจสอ

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 46 เจ้าคือดวงใจที่กลับมา…หรือเป็นภาพลวงตาในความฝัน

    เสียงใบไผ่เสียดสีกันในสายลมเย็นยาวราวเสียงกระซิบจากอดีต... หยาดน้ำค้างเกาะบนผิวโลกเหมือนน้ำตาที่ไม่มีใครยอมปล่อยให้ไหลอวี้หลัน หรือ ไป๋หลิน นางเหม่อมองแสงจันทร์ที่สาดผ่านช่องไม้ผุพาดลงมาบนฝ่ามือตนเอง สีผิวซีดขาวเหมือนไข่มุกเย็น แขนเรียวไร้แรงเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ถูกพรากเลือดมาครึ่งร่างแล้วนางเงียบอยู่นาน ก่อนจะกระซิบกับตัวเอง“ใช่... ข้าลืมไปได้ยังไง…”อีกไม่กี่วัน…ก็จะครบวันที่ข้าจะได้พักแล้วซินะ…พิษในร่างจะไม่ใช่แค่ระอุเงียบ ๆ ใต้ผิวหนังอีกต่อไป มันจะลุกขึ้น กลืนกินเส้นเลือด กล้ามเนื้อ ทุกความทรงจำ และท้ายที่สุด—ชีวิตแต่นางกลับนั่งอยู่นี่… รอดูพระจันทร์แทนที่จะเร่งหลบหนี เพราะสิ่งหนึ่งเดียวที่นางไม่มีวันหนีพ้นคือคำขอสุดท้ายของเขา“เจ้าจะอยู่กับข้า...ในวันขึ้นครองบัลลังก์ ใช่หรือไม่?”คำขอของอวี้เหวินเจี๋ย สั่นไหวในหัวใจนางยิ่งกว่าเสียงกลองสงคราม ไม่ใช่เพราะความหวาน หรือเพราะสายตาที่เขามองมาเหมือนนางคือทั้งโลกของเขา แต่เพราะนางรู้… ว่านี่คือคำขอครั

  • นิยายเรื่องนี้ข้ามีสามีถึง 7 คน   บทที่ 45 เจ้าทำสิ่งใดกับนาง?

    เขาอุ้มนางขึ้นแนบอก ก้าวออกจากเรือไม้ไปสู่ท่าน้ำที่อยู่ไม่ไกล ลำเรือไม้ลายพยัคเทียบท่าอย่างเงียบงัน คบเพลิงสว่างเพียงพอให้มองเห็น…โม่อวี้ ผู้ได้รู้..นางถูกลักพาตัวออกจากจวน มาด้วยความรีบร้อน แต่เมื่อเขามองเห็นอวี้เหวินเจี๋ยก้าวลงมาจากรถม้าพร้อมหญิงสาวในอ้อมแขน สิ่งหนึ่งบีบรัดในอกแน่นอวี้หลันในอ้อมแขนเขา…ดูราวกับสตรีที่เพิ่งถูกรักจนสลบ“เจ้าทำสิ่งใดกับนาง?” เสียงโม่อวี้เรียบ แต่อากาศรอบตัวกลับตึงเครียดเหมือนจะฟาดฟันอวี้เหวินเจี๋ยมองเขานิ่ง… ก่อนก้มลงกระซิบข้างหูนางที่ยังหลับสนิท “ข้าจะรอ…จนกว่าเจ้าจะตื่น แล้วตัดสินข้าด้วยปากของเจ้าเอง”แล้วจึงส่งตัวนางให้โม่เหยี่ยนโดยไม่กล่าวคำใดต่อ ราวกับยอมยกดาบทิ่มอกให้ชายตรงหน้า—ด้วยยิ้มอ่อนที่อาบเลือดไว้ภายในโม่เหยี่ยนรับร่างนางไว้แนบอก ความเปียกชื้นใต้ชายผ้าทำให้เขาชะงักเพียงชั่วลมหายใจ แต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา พลางสั่งให้สาวใช้ใกล้ชิดช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าและดูแลเรื่องราวระหว่างเขากับนาง...ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ไม่มีแม้แต่เงาข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status