"ไม่เคยท้าอยู่แล้วครับ ยังไงพรุ่งนี้มีนก็เข้าร้านสายฉะนั้นคืนนี้มีนมีเวลาให้เฮียทั้งคืน" มีนฝากรอยจูบไว้ที่ซอกคอของโฮปอีกครั้ง
“เฮียจะตีให้ก้นลายเลยคอยดู” เพื่อที่จะได้สั่งสอนคนดื้อเสียทีว่าอย่าทำให้เขาหึงแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง
“ตีแรงๆ เลยนะครับ อยากร้องดังๆ” มีนไม่กลัวอยู่แล้ว
“ไม่กลัวเลยสินะ” เขาใช้ดวงตาสีน้ำข้าวกดมองอีกคน มุมปากมีรอยยิ้ม
“กลัวสิครับ มีนกลัวเฮียจนตัวสั่น” มีนแกล้งสั่นไหล่เบาๆ
“ดื้อนักเหรอ เพี้ยะ!!” ฝ่ามือแกร่งตีลงแก้มก้นคนที่นั่งอยู่บนตักอย่างแรง โฮปใบหูแดงเถือกสัมผัสนุ่มเด้งเหมือนกับก้นของคนวัยรุ่นทำเขาใจเต้นระส่ำแต่ต้องเก็บอาการไว้
“อื่อ~ เฮีย” มือหนาลูบปรอยๆ ตรงที่โดนตี พร้อมแสดงสีหน้าบูดบึ้ง ตีมาได้เจ็บนะเนี่ย
“ไหนบอกให้เฮียตีแรงๆ แค่นี้ก็ร้องแล้ว” แขนแกร่งกระชับเอวสอบเข้ามาแนบชิด กระซิบถามจนริมฝีปากจะแตะจมูกโด่งอยู่แล้ว
“ตีตอนเอากับตอนนี้ไม่เหมือนกัน” มีนพูดพร้อมย่นใบหน้า
“ไม่เหมือนยังไง หืม” โฮปลูบก้นกลมนั้น ผ่านเนื้อผ้าของกางเกงขายาวเขาอดกระตุกยิ้มเอ็นดูไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้างองุ้มนั้น
“เฮียก็ลองเอาแล้วตีดูสิครับจะได้รู้” กูนี่ก็พร้อมเสียตัวเหลือเกิน ที่ห้องทำงานของเฮียก็ไม่เว้น ถึงเขาจะชอบว่าอีกฝ่ายเป็นตาแก่หื่นกามอยู่บ่อยครั้ง แต่ความจริงเขาเองก็ไม่แพ้กัน ไม่งั้นจะยอมสนองทุกครั้งที่อีกฝ่ายอยากทำไมล่ะ
“จัดการตัวเองสิ” โฮปใช้สายตาไล่บนตัวของอีกฝ่ายตั้งแต่ช่วงบนไปยันช่วงล่าง
“เฮียแก้ให้หน่อย” มีนพอจะเดาออกว่าโฮปให้ตนถอดเสื้อผ้าของตัวเอง
“ไอ้แสบเอ๊ย กล้าใช้เฮียอีกนะ” ถึงปากจะบ่นแต่มือก็แกะกระดุมเสื้อของคนที่นั่งอยู่บนตักอย่างไว เพียงไม่กี่นาทีร่างกายของมีนก็เปลือยเปล่า โฮปก็จัดการรูปซิปถอดกางเกงตัวเก่งของตัวเองออกไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“จัดการมันสิครับเด็กดื้อของเฮีย” โฮปปรายตามองคนที่ยืนอยู่แล้วสายตาก็หลุบต่ำลงที่ท่อนเอ็นของตัวเองที่ตั้งผงาดชูชันอยู่พร้อมใช้งานเต็มที่ ร่างกายเขารู้สึกร้อนรุ่มจนเหงื่อไหลชุ่มเสื้อเชิ้ตแนบกับผิวกายของเขา โฮปใช้สายตามองไปที่ร่างกายของมีนอย่างหยาบโลน อีกฝ่ายไม่ขาวเท่าลูกครึ่งแบบเขาแต่สีผิวก็เรียกได้ว่าเนียนและได้รับการดูแลจากเจ้าของมาอย่างดี มีนตัวเล็ก เล็กน้อยถ้าเทียบกับฟาร์และโซนที่เป็นเพื่อนของเจ้าตัวส่วนสูงของอีกฝ่ายก็ไล่ๆกันกับเขา
“แข็งรอเลยเหรอ” มีนคุกเข่าลงตรงหน้าคนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เขามองแก่นกายนั้นอย่างตั้งใจน้ำลายที่เหนียวหนืดถูกกลืนลงคออึกใหญ่ กลิ่นของท่อนเนื้อทำเอาใจเขาเต้นแรงรู้สึกตื่นตัวกับขั้นตอนต่อไปที่จะเกิดขึ้น
“เอามันเข้าไปในปากมีนสิ” โฮปหลุมตาลงต่ำดวงตามีแต่ร่องรอยของความเว้าวอนและขอร้อง
“- “ปลายลิ้นสากไล่จากส่วนโคนขึ้นมาก่อนที่เขาจะเลียเฉพาะส่วนปลายอย่างพิถีพิถัน
“อื่อ อ๊อก” มือใหญ่สอดมือสัมผัสบั้นท้ายเปลือยเปล่าออกแรงรั้งเข้าหาพร้อมรับแก่นกายเข้าสู่โพรงปากอย่างไม่ลังเล
“อ๊า~ ใช้ปากเก่งขึ้นนะ” กล้ามเนื้อตรงบั้นท้ายของเขาเกร็งเขม็ง ชีพจรเต้นตุบๆ ระหว่างที่แก่นกายถูกครอบครองโดยคนตรงหน้า
“เล่นครอบลงจนสุดลำแบบนี้เฮียก็ตายดิ” นิ้วก้านยาวสอดเข้าไปในกลุ่มผมของคนที่มัวเมากับแท่งเนื้อระหว่างขาของเขาอยู่ ไล่ไปมาอย่างอดกลั้นกับความสยิวที่ได้รับ
“ปึก ปึก” สะโพกแกร่งขยับหน้าหลังเคลื่อนไหวไปโดยสัญชาตญาณตามการดูดกลืนของอีกฝ่าย ฝ่ามือแกร่งกดหัวคนที่คุกเข่าอยู่เอาไว้เพื่อการสวนกระแทกเต็มๆ แรงทุกจังหวะทุกท่วงท่า
“หื่อ เฮีย!!” เมื่อเป็นอิสระมีนก็ส่งสายตาคาดโทษให้กับคนที่กดเขาเกือบหายใจไม่ทัน แต่เจ้าตัวจะไม่รู้สึกผิดอะไรเพราะยังส่งยิ้มเจ้าเล่ห์กลับมาให้เขาอยู่
“ลุกขึ้นมาหาเฮีย” คนถูกสั่งก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย “ให้เบิกทางไหม”
“เบิกสิเฮียไม่งั้นเจ็บแน่” ปลายนิ้วลูบไล้ปากทางวนย้ำๆ ก่อนจะแทรกเข้าไปในรูจีบที่เปียกชื้น
“อื่อ ไม่มีเจลเหรอเฮีย” มีนเบ้หน้าเมื่อสัมผัสได้ถึงความฝืดเคือง
“ไม่ได้ซื้อไว้ คราวหน้าแล้วกันนะ” ปกติเอากันที่คอนโดของเขาหรือไม่ก็ที่บ้านของมีน น้อยครั้งจะเอาที่ผับเลยไม่ได้ซื้อไว้ ต่อไปคงมีติดไว้ซะแล้ว เหมือนแมวน้อยจะติดใจห้องทำงานที่ผับซะแล้ว ส่วนเขาเหรอต้องชอบอยู่แล้วสิ (ตื่นเต้นจะตายเปลี่ยนบรรยากาศ)
“ตอนนี้ละครับ”
“ใช้น้ำลายเฮียไปก่อนแล้วกัน ถุย!!” น้ำสีใสมีฟองเล็กถูกพ่นลงปลายนิ้วมือก่อนจะเข้าไปโพรงด้านในรูจีบอีกครั้ง
“อื่อ เฮียมันแน่น” นิ้วเปียกลื่นค่อยๆ ดันเข้ามาทีละน้อยขณะที่สะโพกกลมบิดเร้าราวกับจะหนีสัมผัสวาบหวิวนี้
“แฉะ แฉะ” ทันทีที่นิ้วสัมผัสช่องทางก็ตอดรัดตอบสนองราวกับรอคอยสิ่งนั้นอยู่แล้ว สะโพกบิดเกร็งทุกครั้งที่นิ้วเคลื่อนไหวเข้าออก โฮปและมีนหายใจรดกันบรรยากาศในห้องเริ่มที่จะร้อนขึ้นแม้แต่เครื่องปรับอากาศก็ไม่ได้ช่วยให้มันดีขึ้น
“อื่อเฮีย..กี่นิ้ว” ความคับแน่นเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น นิ้วที่สามซึ่งไม่น่าจะเข้ามาได้ตั้งแต่แรกกำลังขยับเข้าออกในตัวเขา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองมัน
“สามครับ เจ็บหรือเสียว” ก็เห็นครางนึกว่าชอบซะอีก แถมแอ่นสะโพกรับนิ้วเขาอีก ยังทำหน้าดุๆ ใส่กันทั้งที่ตัวเองก็ชอบ โฮปแอบบ่นอีกฝ่ายในใจแน่นอนที่เขาไม่ได้พูดเพราะเกรงใจเมียตัวเอง
“อ๊า..ทั้งสอง” เขายกสะโพกรับเมื่อนิ้วขยับเข้าออกรัวเร็วยิ่งกว่าเครื่องจักร ความเสียวที่แล่นริ้วเขามาทำให้ร่างกายเสียวซ่านเหมือนคนหมดแรงต่อต้าน นิ้วแกร่งขยี้จุดเสียวของเขาทำเอาต้นขาและก้นของมีนสั่นระริกและเม้มปากแน่น
“เม้นปากทำไม หืม ร้องออกมาเลยไม่มีใครขึ้นมาหรอก” โซนห้องทำงานของเขาถ้าไม่ได้เรียกลูกน้องหรือใครก็ไม่สามารถมาเดินเพ่นพ่านได้
“อ๊า เฮีย เบาหน่อย เสียว” หูและไหล่ของคนน้องแดงไปหมดจนแทบจะกลายเป็นผลเชอร์รี่ที่อีกฝ่ายชอบกิน
“บอกเบาแต่ขยับสะโพกใส่นิ้วเฮียนี่หมายความว่ายังไง”
“เฮียเอา k มานั่งหน่อย ไม่ไหว” มีนพูดกับโฮปอย่างทนไม่ได้เขาจับแก้มของชายหนุ่มขึ้น ดวงตาของมีนแทบจะกลายเป็นรูปหัวใจ
“สรุปใครลงโทษใครเนี่ย”
“เฮียพูดมาก”
“อยากได้ก็ทำเอาสิมันเป็นของมีนนิ” โฮปเอานิ้วออกจากร่องรักพร้อมกันเอนหลังอ้าขาให้อีกฝ่ายเห็นท่อนเนื้อที่ตั้งลำแข็งชัดๆ มัดกระตุกน้อยๆ ทั้งยังมีเส้นเลือดปูดขึ้น
“- “มีนไม่รอช้าเขายกสะโพกขึ้น มือจับแท่งเนื้อให้ตั้งตรงก่อนจะจ่อรูจีบแล้วค่อยๆ นั่งให้กลืนกินเข้าไปทั้งลำจนสุด
“อ๊า เสียว เฮียเสียวมันแน่นจังวะ” โฮปที่เกร็งไปทั้งตัวเมื่อช่องทางครอบครองแก่นกายเขาอย่างสมบูรณ์ เขาแหงนหน้าขึ้นครวญครางอย่างไม่ได้ศัพท์พักหนึ่ง
“เฮียอย่าครางเสียงดัง มีนชอบให้เฮียกลั้นเสียง” เหมือนมันเสียวจนทรมานเขาชอบแบบนี้เฮียรู้ดี แต่คงทนเสียวไม่ไหวจนเผลอร้องออกมาความจริงแบบนี้ก็ดี แต่เขาชอบเสียงที่บ่งบอกว่าอดทนอดกลั้นในลำคออีกฝ่ายมากกว่ามันเสริมสร้างความรู้สึกเขาดี
“มันเสียวนิใครจะไปทนไหว”
“ปัก! ปัก!”
“อึก อ๊ะ อ๊า ดีจัง เฮียครับ ดีมาก” มีนสวนสะโพกรับกับแรงกระแทกโฮปเขาพึมพำว่าดีซ้ำๆ ทำเอาโฮปมีแรงฮึดกัดฟันและสวนเข้าออกหนักขึ้น ทำเอาได้ยินเสียงจุกของอีกฝ่าย
“คนเก่งของเฮีย อึก สวนลงมาเน้นๆ อีกครับ” โฮปตบเข้าที่สะโพกทั้งสองข้างเพื่อให้อีกฝ่ายเร่งจังหวะ โฮปรู้สึกน้ำรักเริ่มปริ่มตรงหัวแล้วแต่เขาพยายามอดกลั้นอย่างขีดสุด
“อึก อ๊า เฮีย หัว k เฮียชนจุดเสียวผมถี่ๆ เลย อ๊ะ อ เอาอีก ร แรงอีก” มีนจิกหลังจนโฮปรู้สึกได้ว่าถ้ามีเสื้อกั้นไว้หลังเขาต้องเกิดรอยแน่ๆ เมื่อรู้สึกถึงจังหวะสุดท้ายที่ใกล้มาถึง โฮปยกตัวคนบนตักขึ้นเขากวาดเอกสารบนโต๊ะทำงานทั้งหมดลงพื้นก่อนจะวางคนรักลง และตามเข้าไปกระแทกต่อ
“อ๊ะ อ๊ะ จะ จะเสร็จ”
“เฮียก็เหมือนกัน อึก พร้อมกันนะ”
“อ๊า!!!/อ่า!!!”
3 เดือนต่อมา"อรุณสวัสดิ์ครับมีน"โฮปที่มารออยู่หน้าร้านที่เดิมเหมือนเป็นที่ประจำไปแล้ว"มาแต่เช้าอีกแล้วนะครับ"มีนส่ายหน้าให้กับความตื๊อในครั้งนี้กับอีกฝ่าย"อยากมาเจอมีน ว่าแต่วันนี้ไม่ไล่เฮียเหรอ"ปกติเห็นเขาประโยคแรกที่มักจะได้ยินประจำคือมาทำอะไร กลับไปได้แล้ว อย่ามาก่อกวน (แต่วันนี้มาแปลก) หรืออาจจะขี้เกียจไล่เขาแล้ว"เหนื่อยจะไล่แล้วครับ ถึงผมไล่คุณก็ไม่ยอมไปอยู่ดี""มีน"โฮปเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่วเบา"ครับ""มีนรู้ใช่ไหมว่าทำไมเฮียถึงทำแบบนี้"หวังว่ามีนจะให้โอกาสยอมให้เขาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง"ทำอะไรเหรอครับ แล้วผมจะไปรู้กับคุณได้ไง"มีนแสร้งไม่เข้าใจเขาอยากให้โฮปพูดออกมาตรงๆ ว่าต้องการอะไรกันแน่ตนจะได้ไม่เผลอคิดไปเองคนเดียว"ที่เฮียมาป้วนเปี้ยน แวะเวียนมาหามีนอยู่ทุกวันนี่ไง""คุณก็คงแค่ว่างไม่มีอะไรทำ ใช่ไหมครับ"มีนทำทีเป็นไม่รู้ไม่ชี้อะไรต่อ“คิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ"ไม่รู้อะไรเลยสินะ (ใจร้ายสุดๆ) ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าชัดเจนมากแล้วแท้ๆ ไหนไอ้คิงบอกว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดไง"คุณมีอะไรอีกหรือเปล่าครับผมจะไปทำงานแล้ว"มีนเอ่ยอย่างเร่งเร้า"มีนให้โอกาสเฮียได้ไหม เรากลับมาคบกันได้ไหมมีน"
5 วันต่อมาหลังจบทริปโฮปก็ตั้งใจเอาไว้ว่าเขาจะลองเดินหน้าง้อขอคืนดีกับมีนดูอีกสักครั้ง เพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว อย่างน้อยมีนเองก็โสดและเขาก็ยังเชื่อว่าลึกๆ มีนก็คงมีความรู้สึกดีๆ หลงเหลือให้เขาอยู่บ้าง (หรือเขาคิดไปเอง) ขอเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนแล้วกันเพื่อเรียกความมั่นใจ"ร้านนี้มีเมนูแนะนำไหมครับ"โฮปเอ่ยขึ้นมาลอยเมื่อเจ้าของร้านเดินก้มหน้าก้มตาดูออเดอร์ในมือและกำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไป"คุณ.."มีนเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อได้ยินเสียงลูกค้า แต่เจ้าของเสียงนั้นเป็นคนที่เขารู้จักดี"สั่งอาหารหน่อยครับ"โฮปพูดพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม"ได้ครับเดี๋ยวผมให้เด็กเอาเมนูมาให้""ขอบคุณครับ มีนนั่งกินด้วยกันไหม"เขาเอ่ยชวนถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลายุ่งๆ แบบนี้อีกฝ่ายมักจะไม่ได้ทานทั้งข้าว ถึงทานก็ไม่ค่อยได้กินเป็นเวลา"ไม่เป็นไรครับ ผมทำงานอยู่ เชิญตามสบายเลย"พูดเสร็จมีนก็เดินหนีเข้ามาหลังร้าน"ช่วงนี้คุณโฮปเขามาบ่อยนะครับ"พนักงานรับกระดาษเมนูอาหารของลูกค้าจากมีนมาถือไว้"ถ้าไม่ได้มาสร้างความวุ่นวายอะไรก็ปล่อยเขาไป เหมือนเป็นลูกค้า" มีนหันไปบอกพนักงาน"ครับ""ผมฝากด้วยแล้วกันนะ""ไม่มีปั
"ไงมึง คืบหน้าบ้างไหม" ปราบกับคิง ถือเครื่องดื่มออกมาจากด้านในแล้วจัดวางจนเต็มโต๊ะ"นี่กะเมากันแต่หัววันเลยหรือไง ไหนมึงบอกกูทริปทำบุญ"โฮปไม่ได้สนใจประโยคคำถามจากพวกมัน แต่แซะเพื่อนทั้งสองกลับแทน บอกจะมาทำบุญเขาก็คิดว่าจะเพลาๆ เรื่องแบบนี้ที่ไหนได้มาทำบุญแต่ยังคงสันดานเดิม"ทำบุญก็ส่วนทำบุญ ทำจบแล้วก็เป็นเรื่องของการพักผ่อนแล้วไหมวะ"ปราบเหลือบตามองเพื่อนพร้อมหยักไหล่ให้ไปทีหนึ่ง"กูว่าจุดประสงค์หลักของมึงสองคนไม่ได้กะจะมาวัดแน่ๆ"โฮปเบ้ปากส่ายหน้า"ใครบอกมึงว่ากูสองคนอยากมาไหว้พระ""นั่นดิ นู้นเรื่องไหว้พระความคิดฟาร์มัน"คิงบุ้ยปากไปหาแฟนตัวเองที่นั่งอยู่กลับกลุ่มเพื่อน อยู่ๆ แฟนเขาก็ชวนมาทำบุญ"ใช่พวกกูก็แค่มาเป็นเพื่อน แล้วก็มาเปลี่ยนบรรยากาศหาที่กินเหล้าแค่นั้นเอง เบื่อจะไปผับมึงแล้ว เสียงดัง หูจะแตก""กูกะไว้แล้วแหละว่าหน้าอย่างพวกมึงเนี่ยนะจะคิดเข้าวัดทำบุญ โลกแตกพอดี""ว่าแต่พวกกู ที่มึงตกลงมาเที่ยวรอบนี้ก็ไม่ได้อยากจะไหว้พระเหมือนกันนั่นแหละ" ปราบบอกอย่างรู้ทัน แต่ก็เอาเถอะปล่อยให้มันจัดการชีวิตมันเองที่ผ่านเขาก็เห็นมันโทษตัวเองมาตลอดและไม่ยอมมีใครเลยตั้งแต่เลิกกับมีนไป (คงรู้สึ
3 วันต่อมาโฮปเข้ามาดูแลผับเหมือนปกติแต่ที่ไม่ปกติคิดจิตใจของเขานี่แหละที่พอได้ยินเรื่องราวของมีนกับผู้ชายคนนั้น อยากไปหาอยากไปดูว่าเป็นยังไงบ้างแต่ต้องข่มใจไว้เพราะไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของทั้งสอง ตอนนี้เขาก็กลายเป็นคนอื่นสำหรับมีนไปแล้ว แต่สำหรับเขามีนก็ยังเป็นคนที่เขารักเสมอมาครืน!!!“ไอ้โฮปมึงสะดวกคุยไหม” คิงเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง“อืม ว่ามา”"ฟาร์กับโซนจะชวนไปทำบุญเสาร์ อาทิตย์นี้ค้างคืนหนึ่งเหมารถตู้ไป""พวกมึงไปกันเลย ช่วงนี้งานกูเยอะ ไหนจะผับ ไหนจะร้านชาบูอีก ไม่ว่างไปวะ""แต่มีนไปด้วยนะ" เมื่อได้ยินว่าใครคนนั้นไปด้วย โฮปถึงกับตาเบิกกว้างใจมันเต้นแรงจนเหมือนจะกระเด็นออกมา มีเหรอว่าเขาจะพลาดทริปนี้.."กูนึกขึ้นได้ว่าเคลียร์งานเสร็จแล้ว ไปวันไหน กี่โมง"โฮปตอบอย่างร้อนรน ไม่ว่างก็ต้องว่างแล้วแหละ เดี๋ยวกลับมาเคลียร์ทีหลัง"ว่างทันทีเลยนะ"เสียงหัวเราะเล็ดลอดเข้ามาในสาย"แค่คิดว่าไปทำบุญบ้างน่าจะดี"แก้ตัวน้ำขุ่นๆ นี่แหละกู ถึงจะพูดยังไงมันก็รู้ทันอยู่แล้ว"ไม่เนียนค้าบบเพื่อน""เออน่า เอาเป็นว่ากูไปด้วย วันเสาร์นี้ใช่ไหม""ใช่ แต่กูบอกมึงไว้ก่อนนะ ถึงมีนจะเลิกกับแฟนแล้ว แต่
"พี่ไทเลอร์ รอนานไหมครับ"มีนที่มาถึงร้านเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน เขากังวลมาหลายวันเป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่าย"ไม่นานครับ นั่งก่อนสิ เหงื่อเต็มเลย"ไทเลอร์มองหน้าคนอายุน้อยกว่าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อไหล่ซึมเต็มกรอบหน้า"มีนรีบมา กลัวพี่จะรอ"มีนเดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้น มีนอยากกินอะไรไหม สั่งได้เลยนะ แต่พี่สั่งให้ไปบางอย่างแล้ว อาหารที่มีนชอบ"ไทเลอร์มีท่าทีปกติสบายๆ แตกต่างจากอีกคนที่ดูร้อนรนและกังวลเอามากๆ"พี่ไทเลอร์ครับ..เรื่องรูป""เดี๋ยวค่อยคุยกัน กินข้าวก่อนครับ""ครับ"มีนจำใจต้องหยุดเรื่องนั้นไปก่อน เหมือนไทเลอร์ยังไม่ต้องการที่จะพูดถึงตอนนี้ทั้งสองคนนั่งรับประทานอาหารกันไปเงียบๆ โดยที่ไม่ได้มีการชวนพูดคุยเหมือนเมื่อก่อน จนกระทั่งพนักงานในร้านมาเก็บจานอาหารบนโต๊ะออกไปพร้อมกับนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ"พี่ไทเลอร์ครับ..เรื่องรูปถ่ายขอโทษจริงๆ นะครับ มีนไม่ได้ตั้งใจที่จะเก็บมันเอาไว้""แต่มีนก็ไม่ได้อยากทำลายมันใช่ไหมครับ"เขาถามกลับพร้อมมองตาคนตรงหน้า คิดแล้วก็แปลกพอเขาตัดสินใจที่จะยอมแพ้ ใจเขากับโล่งสบายๆ กว่าที่เขาคิด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นพยายามยื้อความสั
"อารมณ์แบบนี้มึงยังชวนพวกกูมานั่งกินชาบูได้อีกเหรอวะไอ้มีน"ฟาร์ที่คีบหมูเข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ยทั้งเอ่ยถามเพื่อนไปด้วย"กูเครียดไม่รู้จะทำไง ชาบูมันเยียวยาได้นิหว่า""ข้ออ้างสุดๆ แล้วเป็นไงติดต่อพี่เขาได้หรือยัง" โซนเอ่ยถาม"ยังเลย ที่กูมานั่งเครียดไม่ใช่แค่เรื่องพี่ไทเลอร์อย่างเดียวหรอกนะ"มีนที่เริ่มเผยออกมาทีละนิด"มึงเครียดเรื่องอะไรอีก"แค่เรื่องเดียวยังเคลียร์ไม่ได้ มีเรื่องอื่นมาแทรกอีกเหรอวะ กูซักจะปวดหัวแทนมึงแล้วไอ้มีน"วันนี้กูไปเจอเฮียโฮปมา""ไอ้มีน!!ไอ้เวร!!มึงพึ่งทะเลาะกับพี่ไทเลอร์เรื่องรูปเฮียโฮปไป วันนี้มึงยังมีน่าไปนัดเจอเขาอีกเหรอ ไหนว่าไม่ได้ติดต่อกันแล้วไง" โซนโวยวายขึ้นมาทันที"มึงใจเย็นๆ ก่อนไอ้โซนกูไม่ได้ไปนัดเจอ เราแค่บังเอิญเจอกันเฉยๆ" คนหันมามองกันหมดแล้วเนี่ย (จะพูดเสียงดังเพื่อ)"บังเอิญ? กูจะเชื่อดีไหม""จริงๆ ไม่ได้โกหก กูไปหาพี่ไทเลอร์ปกตินั่นแหละไม่รู้จะไปตามหาเขาที่ไหนเลยแวะไปนั่งพักริมแม่น้ำใต้สะพานแล้วเขาก็อยู่ที่นั่นพอดี""ยังไงต่อ"ฟาร์กอดอกถาม"ก็ไม่ยังไง เราแค่คุยกันนิดหน่อย""ถ้าแค่คุยกันนิดหน่อยทำไมมึงถึงต้องเครียด"ฟาร์ถามต่อ ไม่กงไม่กินมันแล้วชาบู